Villain System ปฏิบัติการวายร้าย....

บทที่ 20 : คุณหมอหน้าคุ้นจังนะ



บทที่ 20 : คุณหมอหน้าคุ้นจังนะ

“ลมเหนือ!”

เสียงร้องทั้งตกใจทั้งหวาดกลัวดังปะปนกัน แต่นั่นไม่ได้ ทําให้วายร้ายเสียสมาธิได้ เมื่อล้มกลิ้งไปก็ใช้อโอกาสนี้ ม้วนตัวไปทางโจรแล้วค่อยเสยปลายคางอีกฝ่ายสลบใน หมัดเดียว

โจรที่เห็นเหนี่ยวไกปืนโดยไม่ต้องคิด สายฟ้าถอด กระเป๋าที่บรรจุปืนบีบีกันเอาไว้เหวี่ยงออกไปกันกระสุน ทั้งหมดแล้วรีบกระโดดไปหลบหลังเคาน์เตอร์แล้วนอน ราบไปกับพื้น พวกโจรทั้งหมดสาดกระสุนใส่เคาน์เตอร์ เหล็กจนยับเยิน เมื่อยิงจนหมดแม็กซ์ก็ปลดแม็กซ์ออก แล้วเตรียมใส่อันใหม่เข้าไป

ในจังหวะนั้นพวกเลิฟก็หยิบปืนบีบีกันของตัวเองออก มาแล้วพุ่งเข้าชาร์ตโจรทั้งหลายแล้วยิงสกัดโจรอย่าง ชำนาญ กระสุนพลาสติกที่ยิงในระยะใกล้ขนาดนี้เกือบ ทะลุเนื้อผ้าเข้าไปฝังเนื้อแล้ว และส่วนไหนที่อยู่นอก ร่มผ้าก็ถูกเรียกเลือดออกมาอย่างไร้ความปราณี

สายฟ้ากระโดดออกมาจากหลังเคาน์เตอร์ก็มาช่วย เหลือในการสกัดกั้นเหล่าโจรด้วย มือเท้าล้วนๆ ของ สายฟ้าโดนเข้าไปแค่ทีเดียวก็เขียวช้ำแล้ว ถ้าโชคดีสลบ เร็วก็จะสบายหน่อย ถ้าโชคร้าย… ก็จะได้รับรอยเขียวๆ เพิ่มขึ้น
กว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ความสงบก็กินเวลาไปกว่าสิบ นาที เจ้าหน้าที่ธนาคารรีบแจ้งความพร้อมทั้งปลอบขวัญ เหล่าลูกค้าที่กำลังตกตะลึงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไป เมื่อครู่ สายตาของพวกเขาอดไม่ได้ที่จะหันมองกลุ่มเด็ก หนุ่มในชุดนักศึกษาผู้เก่งกาจเหล่านั้น เพ่งพินิจเข็มกลัดที่ เป็นตราของมหาวิทยาลัย

เป็นตราสี่เหลี่ยมรูปว่าวล้อมด้วยริบบิ้นที่เขียนชื่อ มหาวิทยาลัยเซนทัลรี่ ภายในสี่เหลี่ยมที่มีดาวอยู่ภายใน เจ็ดดวง แต่ละดวงมีสีที่แตกต่างกัน สัญลักษณ์นี้คนใน พื้นที่รู้จักกันดี พวกเขาแอบถอนหายใจแล้วยิ้มปลอด โปร่งไม่ได้

โจรดวงซวย มาปล้นในตอนที่มีนักศึกษาจากเซนทัลรี่ อยู่ด้วย ไม่รู้เสียแล้วว่ามหาวิทยาลัยนั่นไม่ได้ฝึกแค่ให้ นักศึกษาเรียนรู้วิชาเพื่อประกอบอาชีพอย่างเดียว แต่ยัง ฝึกให้เป็นนักรบด้วย

คนที่นี่เลยถือคติว่าจะหาเรื่องใครก็ได้แต่หาเรื่อง นักศึกษาเซนทัลรี่ไม่ได้!

“มึงทำบ้าอะไรวะไอ้ลม พรวดพราดออกไปแบบนั้น อยากตายเร็วเหรอ ฉันตกใจหัวใจจะวายเลยนะเว้ย แม่ งเอ้ย! แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง บาดเจ็บไหม” เลิฟมองสำรวจ เพื่อนไปด้วยปากก็ด่าไปด้วยเพราะความเป็นห่วงกังวล
“ไม่ต้องห่วง ฉันเก่งอยู่แล้ว แค่นั้นสบายมาก” สายฟ้า เอ่ยกลบเกลื่อน โบกมือปัดเพื่อนที่กำลังจะจับตัวเธอหมุน เพื่อนสํารวจ ไฮเวย์พ่นลมหายใจนิ้วมือดังแว่วขึ้น ใบหน้า น่ารักนั่นเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธแต่ก็จนใจไม่กล้าด่า รุนแรงเหมือนเลิฟ

“แต่คุณก็ไม่ควรทะเล่อทะล่าออกไปแบบนั้นนะครับ ลมเหนือ มันอันตราย นี่ถ้าพวกเราไม่เตรียมตัวไว้ก่อน คงเข้าไปช่วยสนับสนุนคุณไม่ทันจะทำยังไง รักตัวเอง หน่อยครับ แต่ถ้าคุณไม่รักก็ให้ผมรักคุณแทนเถอะ”

“แค่กๆ ขอบใจ แต่ฉันก็รักตัวเองอยู่นะ ไม่ต้องลำบาก นายหรอกไฮเวย์” คำพูดโคตรเสี่ยว ทำเอาสายฟ้าขนลุก ทั้งตัว “แล้วฉันก็ไม่ได้ออกไปเอง ถูกผลักต่างหาก!”

“ถูกผลัก?” ชายหนุ่มทั้งหลายขมวดคิ้วทันที

“จะเป็นไปได้ยังไง ตอนนั้นคนที่อยู่ข้างหลังนาย คือ…” โฟว์หยุดพูดกลางคัน เหลือบมองหวังหนึ่งที่มัวแต่ ปลอบโยนคนอื่นอยู่ พอรู้สึกตัวว่าถูกมองก็ลุกขึ้นเดินมา หา

“เป็นยังไงบ้างคะ ปลอดภัยกันทุกคนใช่ไหมคะ” ท่าทาง ของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างปกติ ดูไม่เหมือนคน ที่ลงมืออะไรโหดเหี้ยมเลยสักนิด
“เธอผลัก…”

“ถูกยิงนิดหน่อยน่ะ” สายฟ้าชิงตอบก่อนที่เลิฟจะได้ถาม อีกฝ่ายในเรื่องที่สงสัย แต่เพราะคำตอบของเธอมันสร้าง ความตกใจให้มากเกินไป สมองของพวกเขาถูกล้างออก เหลือแต่คำว่า ‘ถูกยิง’ ในหัวเท่านั้น

“ถูกยิง? ถูกยิงตรงไหน!?”

“ไปหาหมอ รถ… โทรเรียกรถพยาบาล!”

“รถพยาบาลข้าไป นั่งแท็กซี่ไปเองดีกว่าครับ”

“พี่ลมคะ ทำใจดีๆ ไว้นะคะ!”

สามหนุ่มหนึ่งสาวตื่นตูมสุดขีดวิ่งลนลานไปทั่ว ส่วนคน เจ็บที่ถูกยิงไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเท่าไหร่ เพราะระบบตัด ประสาทในส่วนที่เจ็บปวดทิ้งไปแล้ว ตอนนี้เลยยิ้มสุภาพ ได้โดยไม่ขมวดคิ้วสักนิด

“ยังไม่ตายนะ ใจเย็นๆ ก็ได้” สายฟ้าด้วยน้ำเสียงอ่อน โยน

ส่วนที่โดนยิงก็ที่แขนและสีข้าง ไม่มีกระสุนฝังในร่าง อย่างมากก็แค่เสียเลือดกว่าปกติ หน้าซีดเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ให้วิตกกังวล ทว่าคนอื่นไม่รู้ เรื่องนี้ สีหน้าเป็นกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะเลิฟที่หน้า ซีดเซียวเหมือนตัวเองเป็นคนถูกยิงซะเอง เมื่อโบกแท็กซี่ ได้แล้วพวกเขาก็ไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในทันที

สายฟ้าถูกพาไปตรวจร่างกายว่ามีอะไรผิดปกติหรือ ไม่ หรือมีบาดแผลอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า สายฟ้าที่ ให้ความร่วมมือกับพยาบาลอย่างดีมาตลอดด้วยใบหน้า สุภาพชวนเคลิ้มฝัน พอมาเห็นใบหน้าของหมอที่กำลังจะ ตรวจเธอเท่านั้นแหละ ร่างสูงโปร่งยืนแข็งทื่อใบหน้าติด จะเอ๋อๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องเขม็งคุณหมอตรงหน้า

ไม่วางตา

คุณหมอหนุ่มตรงหน้ามีใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นตาที่สุด ดวงตาสีฟ้าใสที่เคยมองเธอด้วยความรักใคร่ยอมพลีกาย ตอนนี้ว่างเปล่าไร้อารมณ์ ผมสีดำสนิทซอยสั้นเป็นทรง หวีอย่างเรียบร้อย ผิวที่ขาวสะอาดสะอ้านน่าขบกัดอันคุ้น เคย ตัวตนที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นอีกกลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง ตรงหน้า เมื่อเหลือบมองป้ายชื่อของเขา สายฟ้าก็มุมปาก แน่น

‘นายแพทย์ชินเพ’ ขนาด อยังชื่อเดียวกัน

“ผู้ป่วย ยืนทำอะไรอยู่ รีบมานอนบนเตียงหมอจะตรวจ ร่างกายให้”
“ตรวจร่างกายอะไรต้องขึ้นเตียง หมอหิ่นเหรอ” ไวเท่า ความคิดปากขยับไปด้วยความเคยชิน ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อได้รับสายตาเย็นชากลับมา

“ถ้าหมอนั่นจริงไม่ต้องรอขึ้นเตียงหรอก ยืนทํา… หมอ สามารถ”

[หูย ตัวละครหน้าตาเหมือนสหายบั๊กคนนี้ไม่ธรรมดา เลย สามารถสวนกลับให้มาสเตอร์สายฟ้าหุบปากได้ สุด ยอดจริงๆ ครับ]

มันใช่เวลาชมไหมระบบ ไปหาข้อมูลเขามาเดี๋ยวนี้!

สายฟ้าอยากจะถลึงตาใส่แต่ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ ให้เขา เท่านั้น ส่วนพยาบาลสาวที่พาเธอมาตอนนี้เขินหน้าแดง ไปหมดแล้ว เอามือปิดจมูกทําท่าเหมือนเลือดกําเดาจะ ไหลอีกต่างหาก ไม่รู้ในหัวคิดอะไรอยู่กันแน่

“คุณออกไปก่อน ผู้ป่วยแบบนี้ผมคนเดียวก็พอ” หมอ หนุ่มไล่พยาบาลออกไป ต่อให้ไม่ยินตอมแต่พอถูก สายตาเย็นชานั่นขับไล่ พยาบาลสาวก็ได้แต่จำใจออกไป ข้างนอก

ในห้องเหลือเพียงสายฟ้าและคุณหมอสุดหล่อเท่านั้นคุณหมอหนุ่มเปิดแฟ้มคนไข้ขึ้นมาไล่สายตาอ่านแวบหนึ่ง แล้วมุมปากกระตุก

“ผู้ป่วย อลมเหนือ เพศหญิง… จริง ๆ ?”

คราวนี้เป็นลมเหนือมุมปากกระตุกบ้าง “จะลองล้วงเพื่อ ตรวจสอบไหมล่ะหมอ”

“ถ้าผู้ป่วยยินยอม หมอก็พร้อมล้วงนะ แต่มันคงไม่จบแค่ ล้วงแน่นอน ผู้ป่วยมั่นใจได้” ไม่ว่าเปล่า ยังเลื่อนสายตา มองสำรวจเหมือนจะอยากฉีกทิ้งเสื้อผ้าของเธอทิ้ง น่า กลัวมาก

“หมอเก็บอาการหน่อย ตื่นมาระวังเจอตื่นกลับแล้วจะลุก จากเตียงไม่ขึ้น… แล้วนี่หมอชินไม่จะตรวจร่างกายแล้วเห รอ” สายฟ้าเดินมานั่งตรงหน้าเขา “แต่ไม่ต้องตรวจก็ได้ แค่โดนยิงถากๆ สองแผล ทำแผลอย่างเดียวก็พอ”

พูดจบก็ถอดเสื้อของตัวเองออก เผยให้เห็นร่างกาย บอบบางที่มีเนื้อกระชับทุกสัดส่วน เธอใส่เสื้อกล้ามไว้เป็น เสื้อตัวในค่อนข้างหนา สายฟ้ายกเสื้อกล้ามขึ้นให้เขาดู แผล แต่สายตาของมองกลับมองหน้าท้องที่เกือบขึ้นรูป แบบซิกแพคนั่นแล้วแอบกลืนน้ำลาย

ขาวมาก หุ่นดีมาก น่าเสียดายที่มีบาดแผลบนผิวสวยๆ
ถึงในใจจะคิดอกุศลไปล้านแปดเมื่อเห็นเธอโชว์ร่างกาย แบบไม่หวงเนื้อหวงตัว แต่ชินเพก็ยังทำงานอย่างเป็น มืออาชีพ อุปกรณ์ทำแผลและยาพร้อมสรรพ ลงมือพัน แผลให้อย่างชำนาญ สายฟ้าไม่รู้สึกเจ็บอยู่แล้วเลย ไม่ต้องกังวลว่าอีกฝ่ายจะลงมือหนักขนาดไหน แต่ที่ ตะขิดตะขวงใจคือคุณหมอสุดหล่อร่างสูงตรงหน้าไม่ดู ใกล้ชิดเกินไปหน่อยเหรอ

แทบจะยกเธอนั่งบนตักเขาอยู่แล้ว

หมอ… อย่าบอกนะว่าหั่นจริงจัง?

แต่จากการสังเกตแล้วดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้มีข้อมูล เรื่องของแชนเนลอื่นเลย ดูเหมือนฐานข้อมูลของชิน เพคนนั้นกับชินเพคนนี้จะเป็นคนละฐานกัน ถึงจะหน้า เหมือนกันแต่นิสัยไม่ได้เหมือนกันสักเท่าไหร่…

อย่างน้อยสหายบั๊กก็เป็นมาโซคิสม์ ในขณะที่หมอชินดู จะเป็นสายซาดิสม์มากกว่า

“ตายด้านเหรอครับผู้ป่วย กดแผลขนาดนี้ไม่มีเปลี่ยน สีหน้าเลย” หมอชินเพขมวดคิ้วถาม มีหลายครั้งที่จงใจ กดที่แผลให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ ถึงขั้นกดจนแผลที่เลือดหยุด ไหลไปแล้วกลับมาไหลอีกครั้งแต่อีกฝ่ายกลับนั่งนิ่งเฉยเหมือนกับที่กดไปนั่นไม่ใช่แผล แต่เป็นก้อนเนื้อที่ ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกาย นี่มันประหลาดเกินไป

“มันชาจนไร้ความรู้สึกไปแล้ว” สายฟ้าตอบหน้าตาย ต่อหน้าคนที่เหมือนสหายบั๊กแล้วเธอก็ไม่คิดจะรักษา ภาพพจน์อะไรเท่าไหร่ แขนทั้งสองข้างยกขึ้นโอบรอบคอ ของคุณหมอแล้วเอียงคอมองอย่างยั่วเย้า “แต่ตอนนี้เริ่ม รู้สึกอยากจะเจ็บขึ้นมานิดๆ แล้วล่ะ คุณหมอว่าไง”

“ต้องดูว่าอยากจะเจ็บส่วนไหน” ชินเพพูดอย่างเย็นชา แต่ประกายตาแวววาวขึ้นอย่างประหลาด ใบหน้าหล่อ เหลานั้นขยับลงมาใกล้ทุกที

“เป็นหมอก็ต้องแนะนําไม่ใช่เหรอ?”

“ในฐานะหมอก็ต้องไม่อยากให้ผู้ป่วยเจ็บนะครับ นั่นเป็น จรรยาบรรณของหมอ… แต่กับผู้ป่วยตรงหน้า หมอจะเว้น ไว้เป็นกรณีพิเศษให้ก็ได้…

“เห~ จะทําอะไรกันนะ เริ่มตื่นเต้นซะแล้วสิ

“งั้นก็มาเริ่ม…”

“ลมเหนือทําแผลเสร็จ… เฮ้ย ทำอะไรกันวะ!” เลิฟที่ เปิดประตูเข้ามาอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียงเห็นภาพบาดตานั่น แล้วแทบจะกระอักเลือดออกมา หมอที่กำลังโอบเอวของลมเหนือที่ใส่แค่เสื้อกล้ามไว้ และตัวเธอเองก็ยกมือ ข็นโอบรอบคอของเขาอย่างสนิทชิดเชื้ออีก ใบหน้าหล่อๆ ห่างกันเพียงคืบ เห็นแล้วคิดดีไม่ได้เลยทีเดียว คนที่ตาม หลังพวกเขามาก็เบิกตากว้างไม่ต่างกัน

พวกเขาจะทําอะไรกัน! นี่มันกลางวันแสกๆ แถมยังอยู่ใน โรงพยาบาลอีกนะ หัดอายฟ้าดินกันบ้างน้อย!

“พี่ชิน ทำอะไรน่ะ!” ริกะที่เดินร่วมขบวนมาด้วยถลึงตา ใส่ลูกพี่ลูกน้องชายของตัวเอง นั่นคนเจ็บนะพี่ จะทำอะไร ก็เอาไว้รอหายดีก่อนไหมคะ!

“กำลังพันแผลอยู่ไม่เห็นเหรอ” ชินเพตอบนิ่งๆ มือก็ขยับ ไปด้วยเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้ทำอะไรบัดสีบัดเถลิงกันผู้ ป่วยเลยแม้แต่น้อย สายฟ้าก็เลิกคิ้วมองพวกเขาอย่างเส แสร้งประหลาดใจ

“ฉันโดนยิงทีสีข้าง หมอพันแผลให้โดยไม่โอบจะให้เขา เดินวนรอบตัวเหรอ ฮั่นแน่~ หรือว่าคิดอะไรทะลึ่งกันอยู่ ลามกกันจังเลยนะพวกนาย”

“ไม่ใช่ซะหน่อย!” พวกเขาพยายามปฏิเสธแต่ใบหน้าขึ้น สีชมพูจางๆ ด้วยความเก้อเขิน ใครจะไปยอมรับว่าคิด อะไรอนาจารไปมากแล้ว พวกเขากลัวคุณชายอย่างลม เหนือจะรับไม่ได้
หารู้ไม่ คุณชายลมเหนือนี่แหละตัวทะลึ่งเลย

“แล้วทําไมนายต้องไปโอบรอบคอหมอแบบนั้นวะไอ้ลม” เลิฟยังคงไม่หายสงสัย

“ก็พักแขน จะให้ฉันยกแขนที่โดนยิงค้างไว้หรือไงล่ะ”

“เอ่อ… มันก็…” นั่นสิ ถ้าไม่พาดบ่ายกค้างไว้นานๆ ก็ เมื่อยจริงๆ

ชินเพปรายตามองชายหนุ่มหญิงสาวที่ออกันอยู่หน้า ห้องอย่างรู้สึกเกะกะ เขากับผู้ป่วยกำลังเย้าแหย่กัน อย่างสนุกแท้ๆ ทำไมถึงมีตัวขัดขวางความบันเทิงโผล่มา ขัดจังหวะ แล้วยังมีจำนวนเยอะแยะขนาดนี้อีก

สายฟ้าไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่าความขบขัน แต่พอ สังเกตเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองกับมือที่พัน แผลเร็วขึ้นก็ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา

“ข่าอะไรครับผู้ป่วย” หมอชินเพตวัดสายตามามองอย่าง เยือกเย็น สายฟ้าเลิกคิ้วมองอย่างยั่วเย้า

“ก็เรื่อยเปื่อย ทำไมล่ะ ขำไม่ได้?”

“ได้ แต่อย่าขาเยอะนักล่ะ เดี๋ยวหมอจะอยากทําให้
“สายไปแล้วหมอ คนเยอะขนาดนี้คงทํายาก” สายฟ้า หัวเราะออกมาอีก รู้สึกมั่นเขี้ยวอยากจะกระชากอีกฝ่าย มาฟัดเสียเหลือเกินแต่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์คุณชาย เอาไว้หน่อย

ทว่าความจริงแล้วท่าทางของพวกเขาดูยังไงก็เหมือนกับ คู่รักหยอกเย้ามากกว่าจะเป็นความสุภาพห่างเหินระหว่าง คนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันวันนี้ พวกเขากระซิบคำพูด ที่ได้ยินกันเพียงสองคน แม้คนหนึ่งจะหน้าตายด้านไร้ อารมณ์อย่างที่สุด แต่ลมเหนือนั้นหัวเราะไม่หยุดเลยที เดียว ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนแปลกหน้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ