ตอนที่ 4 นังผู้หญิงไร้ยางอาย
ตอนที่ 4 นังผู้หญิงไร้ยางอาย
ชวนีอยู่ที่นี่ฉันก็สบายใจ ดุสิดา นาฬิกาข้อมือ “เศวยา เดี๋ยว แม่จะต้องไปประชุมที่สมาคมสตรีน่ะ แม่อาจจะมาหาช้าหน่อย นะ”
เศวยาไม่ได้เอ่ยปากตอบอะไรกลับมา แม่เลี้ยงอย่างดุสิดาชิน กับการเย็นชาของลูกสาวคนนี้นานแล้ว จึงไม่ได้คิดอะไร ดุสิดา หยิกลูกชายที่อยู่ข้างเศวยาเหมือนหมาปั๊ก “ช่วงบ่ายไปเข้าเรียน ด้วยล่ะ!”
บริวุตเพิ่งจะอยู่ปีหนึ่ง เรียนอยู่ที่มหาลัยในเมืองนี้ เมื่อไหร่ที่มี เวลาว่างก็จะแอบหนีกลับบ้าน
“ผมอยากอยู่เป็นเพื่อนพี่…
“ถ้างั้นแม่จะฟ้องพ่อแกนะ…
บริวุตตกใจขึ้นมาทันที จากนั้นก็ออกไปพร้อมกับแม่อย่างเชื่อ
ฟัง
“ยา รู้สึกดีขึ้นรึยัง” ชวนก็ทำตัวแบบนั้นเหมือนปกติ เข้ามานั่ง ใกล้ๆ เศวยาอย่างใกล้ชิด
เศวยามีเพื่อนไม่มากนัก มีแค่เพื่อนคนเดียวที่เคยเป็นรูมเมทกัน ตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากที่ได้เจอกับธนเทพ โลก ของเธอก็ยิ่งเหลือเพียงแค่ผู้ชายคนนี้ แต่ชวนีที่อาศัยอยู่ในบ้าน ของตระกูลวัชรภัทรนั้น ก็กลายเป็นที่ปรึกษาเรื่องความรักของ เธอไปโดยปริยาย ชวนช่วยเธอคิดแผนการขึ้นมาอย่างเต็มที่ และสุดความสามารถ
ให้เธอไปรับสินบนของกิจการอสังหาริมทรัพย์สองสามล้าน แล้วค่อยเอาไปให้ธนเทพเพื่อให้เขาชอบใจ นี่คือไอเดียที่ชวน คิดขึ้นมา!
“ยา เป็นอะไรรึเปล่า” เมื่อเห็นเธอไม่พูดอะไร ชวนยื่นมือออก ไปสัมผัสที่หน้าผากของเธอ ไม่สบายรึเปล่า
เศวยา กตัวขึ้นมานั่งอย่างไม่ได้ระวังแผล และหลบตัวจากมือ ของชวนี
ชวนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จากนั้นก็ลุกไปเอาซุปมาให้เศวยา “กิน ปสักหน่อยเถอะ”
ไม่เป็นไร ฉันยังไม่อยากกินอะไร
เศวยาพลิกผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียงเดินไปเปิดหน้าต่าง เธอ ลับตาสูดหายใจอากาศบริสุทธิ์ ดูท่าทางแล้วมีความสุขเหลือ
เกิน
ชวนีอยู่ข้างหลังและคอยมองเธอ จากนั้นเอ่ยปากขึ้นมาถาม อย่างระมัดระวัง “ยา วันมะรืนฉันมีงานรวมศิษย์เก่า เธออยาก จะไปกับฉันมั้ย”
เศวยาใจสั่นขึ้นมา เธอกับธนเทพรู้จักกันในงานรวมศิษย์เก่า ของชวน ตอนนี้ดูเหมือนว่านั่นเป็นการบังเอิญที่ถูกกำหนดขึ้นมา
ไว้แล้ว
“ยา?”
“วันมะรืนฉันจะไปหาเพื่อน” เศวยาหันไปตอบ เธอพูดอย่างไม่ ช้าและไม่เร็ว
ชวนยิ้ม “ไม่เป็นไรนา เธอไปหาเพื่อนก่อนแล้วค่อยไปก็ได้นะ
ฉันรอเธอได้”
เศวยายิ้มอยู่ในใจอย่างเย็นชา ชวนผลักผู้ชายที่ตัวเองรักไปให้ คนอื่นแบบนี้ คือมั่นใจในตัวเองมากเกินไป หรือว่าเห็นแก่เขา มากเกินไป
คนเราถ้าไม่ตายสักครั้ง ก็จะไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองผิดตรงไหน ถ้าทำผิดแล้วยังไม่ปรับปรุงตัว นั่นก็คือไม่ละอายใจ ในเมื่อ พระเจ้าให้โอกาสเธอเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เธอจะต้องลิขิตแก้ไข ชีวิตตัวเอง จะไม่ให้สองคนนี้มาจูงจมูกเธออีกเป็นอันขาด!
“ไม่ดีกว่า ฉันคงจะกลับดึก” เศวยาตอบอย่างเย็นชา และบิด ขี้เกียจไปที่หนึ่ง ไม่ให้โอกาสเธอได้เอ่ยปากคำชวนขึ้นมาอีก “เหมือนจะง่วงอีกรอบละ
ชวนตกใจไปพักหนึ่ง แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอ “งั้นเธอก็ พักผ่อนดูแลตัวเองดีดีล่ะ ฉันจะกลับไปก่อนดีกว่า อ้อ แล้วก็ อย่าลืมกินซุปด้วยล่ะ
เธอมองชวนีเดินจากไป เศวยาก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เหมือนไม่ สามารถรู้ได้เลยว่าเธอคิดอะไรอยู่….
ตกตอนเย็น ชิตวรก็รีบไปโรงพยาบาล
พ่อ! เศวยากระโดดโถมตัวมาในอ้อมอกของเขา เบ้าตาแฉะชั่ว ขณะ “พ่อ ฉันขอโทษ…
ชิตวรลูบหัวลูกสาวอย่างรักใคร่ หัวเราะแล้วต่อว่าเธอ “โต ขนาดนี้แล้ว ยังจะอ้อนพ่ออีก ไม่กลัวคนอื่นเค้าหัวเราะไงห้ะ”
ดุสิดาอยู่ข้างหลัง มองดูด้วยสายตาที่อิจฉาตาร้อน ใบหน้าที่ เข้มงวดของสามีเธอ มีเพียงแค่ตอนเห็นเศวยาเท่านั้น ถึงจะ ยอมแสดงรอยยิ้มออกมา! เธอก็เหมือนสิ่งที่ถูกจัดเตรียมไว้ใน บ้านหลังนี้ นอกจากดูสีหน้าของพ่อแม่สามี ดูสีหน้าของสามี และยังต้องดูสีหน้าของเศวยา
เธอรู้สึกไม่พอใจ เดินไปข้างหน้าหัวเราะแล้วพูดว่า “ยา รีบ เก็บเข้าของซะเถอะ เรามารับเธอกลับบ้านกัน
เศวยาไม่เงยหน้าขึ้นมา ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของพ่อ เหมือน กับเด็กที่ยังไม่โต “พ่อ ตอนนี้ฉันอยากกลับบ้าน
“โอเค ตอนนี้พ่อจะพาลูกสาวสุดที่รักของพ่อกลับบ้าน” ชิตวร หัวเราะ แล้วหยิกจมูกเล็กๆของลูกสาวเบาๆ แล้วพูดกับภรรยา ว่า “ดา ช่วยเก็บข้าวของแทนยาหน่อยสิ ผมกับยาจะไปรอคุณ ที่รถนะ”
…เฮอะๆ “จ๊ะ” ดุสิดาหัวเราะ ในใจนั้นด่าเศวยาไปไม่รู้กี่ร้อย
รอบแล้ว
ตอนที่รอดุสิดาเอาสัมภาระลงมานั้น รถก็ได้แล่นออกไปนาน แล้ว เธอรีบโทรหาสามี ชิตวรตอบในสายว่ายาปวดหัว อยาก กลับบ้านไปพักผ่อนเร็วๆ เขาบอกให้ดุสิดาเรียกแท็กซี่กลับบ้าน เอง
ดุสิดาโกรธจนเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือ แล้วสาปแช่งอย่างโหด เหี้ยม “นังผู้หญิงไร้ยางอาย!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ