ตอนที่ 10 นินัทธ์
ตอนที่ 10 นินัทธ์
เธอยื่นนิ้วมือออกมาผลักอกของเขาอย่างไม่ได้รีบร้อน “คุณ ต้องเข้าใจว่าคุณเป็นฝ่ายเข้ามาหาฉันก่อน ถือว่าซะว่ามันเป็น เกม แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดนะคะ มิฉะนั้น …คุณ ก็จะตกรอบ”
พูดจบเธอก็มอบรอยยิ้มที่สวยงามให้กับเขา “ฉันไม่อยากเรียก ยาม ทางที่ดีคุณควรปล่อยฉันตอนนี้
คิ้วของธนเทพค่อยๆ ขมวดจนชนกันแน่น ความดื้อรั้นจากตัว เขา ก่อให้เกิดเป็นมาตรที่ดูยิ่งใหญ่ขึ้นมา มีคนสำคัญกำลังจะ ครอบงำเข้าหาเธอ
เธอรู้ความร้ายกาจของเขามานานแล้ว แต่เศวยาก็ไม่หวาดกลัว เลยแม้แต่น้อย เธอหมุนตัวเพื่อสะบัดให้หลุดจากการรัดกุมของ เขา แล้วพูดอย่างเย็นชา “ขอโทษนะคะ คุณขวางทางฉันอยู่ น่ะ”
ธนเทพมองเธออยู่นาน ทันใดนั้นก็หัวเราะออกมา “ผมธนเทพ คนนี้พูดออกมาแล้ว ย่อมไม่เคยคืนคำ
เศวยายกข้อมือขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมืออย่างไม่สนใจคำพูดของเขา
เขาฉีกยิ้มมุมปาก จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าไปนั่งในรถ รถขับ แล่นออกไปด้วยเสียงเครื่องยน์ทีดังลั่น
พอเศวยามองเขาที่กําลังขับรถจากไป ความเย็นชาของเธอก็ บอบบางลง หัวใจของเธอเริ่มเจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้อีกครั้ง
เศวยานั่งอยู่บนรถแท็กซี่ด้วยอารมณ์ที่สับสน พอนึกถึงคนที่ เธอเฝ้ารอที่จะเจอ ความรู้สึกผิดและอยากตำหนิตัวเองก็ทะลัก ล่นพรั่งพรูออกมาจากก้นหัวใจของเธอ
ในสายตาของคนนอก เขาเป็นเหมือนคนบ้า แต่มีเพียงตอน ที่อยู่ต่อหน้าเธอเท่านั้นที่เขาจะแสดงพฤติกรรมที่เห็นถึงความ บริสุทธิ์และดูปลอดภัยแต่เธอกลับทำลายความเชื่อใจนี้ไปด้วยตัว เอง…
ความทรงจําทําให้เธอจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เธอ เคยทำไปในชาติก่อน
“คุณครับ ถึงแล้วครับ เอ่อ…คุณแน่ใจเหรอว่าให้จอดที่นี่ที่นี่ ไม่มีคนอยู่แล้วนะครับ!
คนขับแท๊กซี่เตือนเธออย่างหวังดี แต่กลับเป็นการรบกวนการ รื้นฟื้นความทรงจำที่สุดจะทนได้ของเธอ
ก่อนที่คนขับแท๊กซี่จะไป เขาก็ถามเธออีก “คุณ อยากให้ผม รอมั้ยครับ ตรงนี้อาจเรียกรถไม่ได้นะครับ”
เธอยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณค่ะ”
หลังจากที่คนขับแท๊กซี่มองเธอด้วยสายตาที่สงสัย ก็ขับรถจาก
ไป
เศวยายืนอยู่หน้าอาคารสามชั้นที่มีกำแพงสูง เธอเงยหน้ามอง ไปรอบๆ พบว่ามีไม้เลื้อยปกคลุมอยู่ทั่วกำแพงเหมือนกับครั้ง แรกในตอนที่เธอเคยมาที่นี่ไม่มีผิด ไม่มีเพื่อนบ้านในละแวกข้าง เคียงเลยสักหลังเดียว บ้านหลังนี้เป็นเพียงบ้านหลังเดียวที่อยู่ อย่างโดดเดี่ยวบนยอดเขา
พอนึกถึงคนที่ถูกขังอยู่ในบ้านหลังนี้ หัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บ
ปวดขึ้นมาทันที
เธอรวบรวมความกล้าเดินตรงไปหน้าประตูเหล็กสีขาว เธอยื่น มือออกไปกดกริ่งประตู
ไม่ทันไรก็มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมา เธอคนนั้นมองเศวยาผ่านประตูรั้วด้วยความหวาดระแวงมาแต่ไกล “คุณ คะ ไม่ทราบว่ามาหาใครเหรอคะ”
“น้าลิล…” เศวยาเกือบจะเรียกชื่อของผู้หญิงที่เดินตรงมาหาเธอ แล้ว แต่ก็รู้ตัวก่อนจึงรีบแก้คำพูดใหม่ “คุณป้าคะ ฉันมาหานิ นัทธ์ค่ะ”
สีหน้าท่าทางของผู้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าเธอเปลี่ยนไปเล็ก น้อย พร้อมกับจ้องมองเศวยาอย่างระแวดระวังและตื่นตัว “คุณ คะ คุณคงมาผิดที่แล้วล่ะค่ะ ที่นี่ไม่มีคนชื่อนี้ค่ะ” พูดจบเธอก็ หันหลังเดินจากไป
เศวยาก็รีบเรียกเพื่อหยุดเธอไว้ “คุณป้าคะ หนูไม่ได้ประสงค์ ร้ายนะคะ หนูเป็นเพื่อนของเขาค่ะ แค่อยากจะเจอเขาสักหน่อย ค่ะ”
ผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นหยุดเดิน แล้วหันมาพูดด้วยความเข้ม ขรึมจริงจัง “คุณคะ ป้าไม่รู้หรอกว่าคุณต้องการจะทำอะไร แต่ ว่า ป้าบอกไปแล้วว่าที่นี่เป็นที่พักส่วนตัว และไม่มีคนชื่อนั้น ด้วย!คุณช่วยออกไปจากที่นี่ซะเถอะค่ะ!
“คุณป้าคะ รอก่อนค่ะ…คุณป้า!”
หญิงวัยกลางคนคนนั้นไม่หันมาสนใจเศวยา เดินตรงกลับไป แล้วปิดประตูบ้านเสียงดังปัง
เศวยาไม่ยอมถอดใจ เธอกดกริ่งอีกครั้ง แต่กดอยู่นานก็ไม่มี ใครออกมาต้อนรับ เธอจึงตะโกนเสียงดังเข้าไปให้ผ่านทะลุ เข้าไปในประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิท “คุณป้าคะ หนูไม่ได้มีเจตนา ร้ายจริงๆ นะคะ หนูก็แค่อยากจะ…
“ถ้ายังไม่ไปอีก ฉันจะแจ้งความแล้วนะ! ทันใดนั้นก็มีค่าเตือน ครั้งสุดท้ายดังออกมาจากในบ้าน
เธอรู้ว่าน้าลิลลี่พูดจริงทำจริง แม้ว่าจะเอาสถานะของเธอที่เป็น ลูกสาวนายกเทศมนตรีมาแต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้มีปัญหาตามา ได้ เศวยาจึงหันหลังกลับไปอย่างหงุดหงิด เธอทำได้แค่รีบจาก ไปอย่างไวเท่านั้น
เมื่อสองปีก่อน ธนเทพเคยพาเธอมาที่นี่ ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคย กับเส้นทาง ตอนนั้นน้าลิลลี่ยังมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและ พร้อมยินดีต้อนรับเสมอที่มา
ความคิดของเศวยาหดหู บางทีตอนนี้อาจยังไม่ถึงเวลาที่จะได้ พบนินัทธ์ ต้องตามไทม์ไลน์ของเมื่อสองปีก่อนเท่านั้นงั้นเหรอ
แต่เธอก็ไม่ถอดใจง่ายๆ วันนี้ไม่ได้เจอ พรุ่งนี้ก็จะมาอีก
เป็นเพียงเพราะว่า เธอเป็นหนี้อยู่
ที่หน้าต่างชั้นสาม มีเงาคนคนหนึ่งยืนอยู่…
พอถึงบ้าน บริวิตก็เพิ่งวิ่งกลับมากจากมหาวิทยาลัยพอดี พอ เห็นเศวยา เขาก็กอดอก ทำทางเหมือนเป็นผู้ใหญ่ “คุณเศวยา ได้ยินมาว่าเมื่อคืนคุณไปดื่มเหล้ามา
เศวยาชอบท่าทางของน้องชายตัวเองในตอนนี้มาก เธอจึง หัวเราะจนหลับตา “ไปดวลเหล้ากับคนอื่นมาน่ะ
บริวุตพูดออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ “พี่คออ่อนขนาดนั้น ยังจะ กล้าไปดวลเหล้ากับคนอื่นอีก! พี่ไม่กลัวโดนแบล็คเมลรีไง!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ