Prince of Dark Land เจ้าชายแห่งแดนด

บทที่ 3 ในวันสอบเข้าเรียน



บทที่ 3 ในวันสอบเข้าเรียน

ในที่สุดวันสอบคัดเลือกก็มาถึง ประตูรั้วโรงเรียนเต็มไปด้วย หนุ่มสาวจากทั่วสารทิศที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้น รวมทั้งพวกเซสที่ตอนนี้กำลังหาทางหนีออกจากฝูงชนแออัดจน หายใจแทบไม่ออกด้วย สุดท้ายทั้งสองจึงต้องส่งตัวแทนเข้าไปดู บอร์ดประชาสัมพันธ์เพื่อหารายชื่อว่าตัวเองสอบห้องไหน

“พวกผู้หญิงอยู่นี่แหละ เดี๋ยวฉันเข้าไปเอง เซส นายมากับฉัน

“ครับ” คนสวมแว่นเดินตามหลังหนุ่มผมทองที่เดินไปก่อน หน้านี้ สิ่งหนึ่งที่เขาเรียนรู้คือในแดนมนุษย์ บางครั้งผู้ชายก็ต้อง ให้เกียรติผู้หญิง ที่แดนมืดใช่ว่าไม่มีเพียงแต่เขาไม่ค่อยเห็นก็ เท่านั้น

สองหนุ่มพากันเบียดเข้าไปในฝูงชนจนกระทั่งมาถึงหน้าบอร์ด ประชาสัมพันธ์ก่อนจะช่วยกันหารายชื่อของตัวเองและสาว ๆ ที่ นั่งรออยู่ด้านนอก เนื่องจากส่งใบสมัครในเวลาไล่เลี่ยกันทำให้ รายชื่อและเลขที่นั่งสอบต่อกันหมดทั้งสี่คน อาคารที่อยู่ไม่ไกล จากประตูโรงเรียนมากนักเมื่อดูจากแผนผัง เมื่อได้เรื่องแล้วเซสกับเอวิสจึงฝาฝูงชนกลับมาหาสอง สาวนั่งรออยู่

“ว่ายังไงบ้าง” เมเทเลียถามก่อนเป็นคนแรก

“เราสอบเลขที่นั่งต่อกัน เลน่าได้เลขที่สามสิบเจ็ด เธอได้เลขที่ สามสิบแปด ฉันได้เลขที่สามสิบเก้าส่วนเซสได้เลขที่สี่สิบ ส่วน ห้องสอบ…ห้องสอบ…” ชายหนุ่มเริ่มจำไม่ได้แล้วว่าห้องสอบอยู่ ที่ไหนและเป็นอาคารอะไรเพราะเมื่อกี้กำลังวุ่นวายกับการฝ่าฝูง ชนออกมา

“ห้องสอบอยู่ที่ตึกภาษาศาสตร์ครับ” เซสชี้ไปยังตึกสามชั้นซึ่ง อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ทั้งสี่ปักหลักอยู่ “ชั้นสอง ห้องสองศูนย์สอง สิ่ง ที่สามารถนำเข้าห้องสอบได้คือปากกาและน้ำยาลบคำผิด ห้าม นําอุปกรณ์เวทมนตร์สำหรับใช้ในการสื่อสารเข้าไปเด็ดขาด ถ้า ถูกตรวจพบก็จะถือว่าทุจริตครับ” ข้าง ๆ บอร์ดรายชื่อผู้เข้าสอบ มีประกาศระเบียบการเข้าห้องสอบด้วย หนุ่มสวมแว่นจึงอ่านมา แล้วบอกต่อ

“ว้าว! เซสนีความจำดีนะคะ”

“ขอบคุณที่ชมครับเลน่า” คนถูกชมเกาศีรษะแก้เขิน และนั่น ทําให้เอวิสออกอาการอึดอัดอย่างไม่พอใจเล็กน้อย เอวิสเป็น อะไรครับ ทําไมต้องมองหน้าผมด้วย”

“นั่นคู่หมั้นฉัน”

“อ้อ…มิน่าล่ะ” ทําไมเซสจะไม่รู้ ในเมื่อแดนมืดได้รับข่าวไว เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรื่องเล็ก ๆ อย่างลูกหลานราชาประเทศไหนมี คู่หมั้นคู่หมายเป็นใคร คนทั่วไปที่อยากรู้ก็ต้องไปสืบมาแล้วบอก ต่อ ๆ กันเป็นธรรมดา “ใกล้จะได้เวลาสอบแล้ว รีบไปกันเถอะ ครับ” หนุ่มสวมแว่นมองนาฬิกา เขาคิดว่าควรจะรีบไปรอที่หน้า ห้องสอบได้แล้ว

การสอบกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่นานนี้

กริ๊ง!

เสียงสัญญาณเตือนเริ่มการสอบดังลั่นทั่วโรงเรียนก่อนที่หนุ่ม สาวทุกคนซึ่งนั่งประจำที่เรียบร้อยจะเปิดข้อสอบตรงหน้าดูว่า ข้างในมีอะไรบ้าง เซสนั่งอยู่ติดหน้าต่างท้ายห้องเนื่องจากเป็น เลขที่สุดท้าย เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นโจทย์และกระดาษ รายงานอีกปีกใหญ่ ถ้าให้เดาน่าจะเป็นการเขียนอธิบาย

จงเลือกหัวข้อดังต่อไปนี้เพียงข้อเดียว จากนั้นอธิบายหัวข้อที่ เลือกมาให้ได้มากที่สุด

1.) แดนเทวา
2.) แดนมนุษย์

3.) แดนมืด

“จะให้อธิบายอะไรวะ ไม่ได้รู้เรื่องเยอะขนาดนั้นนะ เอาแค่เท เอียนละกัน” เสียงสบถของเอสดังแว่วมาจากข้างหน้าทำให้เซล เงยหน้ามอง หัวข้อทั้งสามกว้างมากเพราะในแต่ละดินแดนที่มี เรื่องราวมากมายไม่ใช่น้อย ๆ เลย

สําหรับเขาที่ตัวจริงคือเจ้าชายแห่งแดนมืด เรื่องเขียนอธิบาย ไม่ใช่ปัญหา ตอนอยู่บ้านก็ช่วยงานต่าง ๆ หลายครั้ง หนึ่งในนั้น รวมทั้งเขียนรายงานให้จ้าวปีศาจรับทราบด้วย เซสทําท่า ครุ่นคิด เรื่องเกี่ยวกับแดนเทวา ใช่ว่าเขาไม่รู้เช่นเดียวกันกับแดน มนุษย์ เมื่อแอบชาเลืองมองคนอื่น ส่วนใหญ่เลือกหัวข้อแดน มนุษย์ทั้งนั้น ใครเป็นชาวเทวาก็เลือกหัวข้อบ้านเกิดตัวเอง

บางทีเขาควรจะเลือกแดนมืด!

เวลาทำอะไรก็ระวังตัวด้วย

ข้อความที่พ่อตอบกลับมาจากแดนมืดทำให้ชายหนุ่มชะงัก เมื่อคิดดูให้ดีคนส่วนใหญ่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแดนมืดเลยนอกจาก คําร่ำลือในทางที่ไม่ดี และถ้าเขาเขียนเรื่องเกี่ยวกับแดนมืดลงไป จะต้องมีคนสงสัยแน่ว่าทำไมเขาถึงรู้เรื่องดีนักในเมื่อที่นั่นไม่ต้อนรับชาวมนุษย์กับชาวเทวา

“เอาบ้านยัยหัวหงอกละกัน” สุดท้ายชายหนุ่มก็เลือกหัวข้อ เป็นแดนเทวา ก่อนจะออกจากแดนมีด เขาศึกษาเรื่องสองดิน แดนนี้มาแล้ว อย่างน้อยก็รู้มากกว่าผู้เข้าสอบบางคน คิดได้ดัง นั้นเจ้าตัวจึงเขียนอธิบายเกี่ยวกับแดนเทวาลงไปตามที่เข้าใจ

กริ๊ง!

“ม่าย!!!”

“ยังเขียนไม่เสร็จเลย!!

“เฮ้! ขอยืมปากกาลบคำผิดหน่อย!

ทันทีที่เสียงสัญญาณหมดเวลาดังขึ้น ทุกคนในห้องสอบก็กรีด ร้องแล้วความวุ่นวายก็บังเกิดเพราะบางคนเขียนได้ไม่กี่หน้า บางคนเขียนผิดแล้วไม่มีปากกาลบคำผิด จึงต้องหันไปยืมคน ข้าง ๆ อาจารย์หนุ่มผู้คุมสอบไม่สนว่าใครจะเป็นยังไง เขาเดิน เก็บข้อสอบและกระดาษคำตอบอย่างคล่องแคล่วจนกระทั่งมาถึง

สี่โต๊ะสุดท้าย

“อาจารย์คะ…”

“ส่งมาเถอะครับ” เขารับกระดาษข้อสอบและคำตอบรวมสอง แผ่นจากนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ โต๊ะของเมเทเลียที่กำลังลบ แล้วลบอีก เขียนแล้วเขียนอีกแต่อย่างมากก็ได้แค่หนึ่งแผ่นกว่า ๆ เท่านั้น

“ขอเขียนอีกนิดได้ไหมคะ”

“ไม่ได้ครับ” อาจารย์หนุ่มรับข้อสอบจากหญิงสาวที่ทำหน้า อยากตายเหลือเกิน ก่อนที่เขาจะก้าวไปหาชายหนุ่มผมสีทองที่ ยื่นกระดาษให้ห้าแผ่น

“เอาไปเลยครับ” เอวิสไม่ไหวแล้ว

“เสร็จแล้วครับ” เชสเลื่อนปีกกระดาษทั้งหมดบนโต๊ะมาให้ อาจารย์หนุ่ม คนมาเก็บข้อสอบมองมันสลับกับมองหน้าเจ้าคน สวมแว่นด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ ไม่ใช่แค่อาจารย์แต่รวม ทั้งคนที่อยู่โต๊ะอื่น ๆ ซึ่งกำลังจะลุกออกจากห้องสอบด้วย

“ผู้เข้าสอบชื่ออะไรครับ

“เซส โดโนเวน ครับ

“คุณโด โนเวน คุณเขียนหมดนี้เลยเหรอ” อาจารย์ผู้คุมสอบไม่ เคยเห็นใครเขียนอธิบายเยอะขนาดนี้ เพียงแค่อ่านผ่าน ๆ ก็รู้ แล้วว่าเนื้อหามีแต่เนื้อเน้น ๆ น้ำแทบไม่มีเลย

“ผมทำเต็มที่ครับ” เขาพูดตามความจริง ถึงแม้เรื่องที่เขียนจะ ไม่ได้เกี่ยวกับแดนมืด แต่ชายหนุ่มก็เค้นสมองนึกถึงความรู้ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์การเมือง และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ยังบ่อย ๆ บางครั้งมีงานเร่งด่วน ตามไปด้วยลายมือยัง

“นายเอาที่หนึ่งเหรอเซส” เอวิสถามขณะเดินออกจากห้อง สอบพร้อมกัน ตอนมีตัวอาคารหลังจึงเต็ม

“ผมบอกแล้วนะครับว่าเต็มที่

แต่เชสเขียนอธิบายเยอะเลยนะคะ เวลาแค่สองชั่วโมง กว่า ๆ เองเลน่าไม่เคยเห็นใครเขียนหนังสือเร็วคิดค่าได้เร็วขนาดนี้มาก่อน

“อย่างน้อยทุกคนเขียนความรอบตัวกว่า ๆ

โอ๋ เมย์ต้องร้องไห้นะคะ อย่างน้อยได้ศูนย์คะแนน หรอกค่ะเลน่าปลอบสาวกำลังสะอึกสะอื้นเหมือนจะ ร้องไห้ ถ้ารีบปลอบหวังหญิงสาวกลายเป็นสาธารณชนแน่

ยัยบ้าน! หัวหงอกแล้วยังแยอีกอนาคตมีผู้ชายๆ คนไปแต่งงานไหมเนี่ยเซสชาเลืองมองหญิงสาวพลางสบถในใจอย่างหงุดหงิด

“พวกเรา ท่าทางเขาจะมาติดประกาศเรื่องการสอบภาคบ่าย แล้วล่ะ รีบไปดูกันเถอะ” เอวิสหันไปเห็นคนนำกระดาษมาติดที่ บอร์ดประชาสัมพันธ์ ช่วงนี้ผู้เข้าสอบส่วนใหญ่ออกไปกินข้าวมื้อ เที่ยงนอกโรงเรียน ดังนั้นทางจึงสะดวก ทั้งสี่คนก็เลยเข้าไปอ่าน ประกาศได้โดยไม่ต้องฝ่าฝูงชนเหมือนตอนเช้า

“สอบเป็นคู่เหรอคะ” เลน่าเห็นกติกาการสอบที่มีการให้จับคู่ ก่อนเริ่มสอบ ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ เอวิสก็หันมาคว้าข้อมือเธอ ทันที “เอวิสมีอะไรเหรอคะ”

“เลน่าคู่กับฉันเถอะ”

“เอ่อ…”

“เลน่าโดนจองตัวแล้ว” ตอนแรกเมเทเลียตั้งใจว่าจะคู่กับ เพื่อนสาวสักหน่อยแต่ทำไงได้ในเมื่อคู่หมั้นไม่ยอมปล่อยเลย เธอจึงหันเป้าหมายมาที่หนุ่มสวมแว่นตาแทน “เซส จะรังเกียจ ไหม ถ้าฉันขอให้นายเป็นคู่ในการสอบ

“…ด้วยความยินดีครับ”

ขอแค่อย่ามาเป็นตัวถ่วงก็พอ” ต่อหน้าพูดอย่างสุภาพ แต่ใน ใจนั้นคนละเรื่องเลย เซสสบถทั้งที่ในใจรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องมาคู่ กับหญิงสาวท่าทางไม่ได้เรื่อง ทําอะไรก็ป้า ๆ เป๋อ ๆ แต่อีกใจหนึ่งเขาก็คิดว่าดีแล้ว ที่ได้คู่กับเธอ

มันเป็นเพราะอะไรกัน?

“ไม่ทราบว่าในเมืองซินเทลล่า ร้านขายอาวุธกับอุปกรณ์ที่ เกี่ยวกับเวทมนตร์อยู่ตรงไหนบ้างครับ” ชายหนุ่มถามเพราะ มั่นใจว่าตอนบ่ายต้องได้ใช้อาวุธแน่ ทว่าเขาจะเอาอาวุธที่แท้ จริงออกมาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นความแตกกันพอดี

“ก็มีนะ อยู่ทางตะวันออกของเมืองนะ ว่าแต่นายใช้อะไรเป็น อาวุธล่ะเซส ถ้าเป็นฉัน ฉันใช้ดาบนะ” เอวิสบอกการทักษะการ ต่อสู้ที่ตัวเองถนัด ในใจก็หวังว่าอีกฝ่ายจะใช้ดาบเช่นกัน

“ฉันใช้เวทค่ะ” แต่เลน่ายังไม่เรียกคทาออกมาตอนนี้

“ฉันก็ฟันดาบเหมือนกับเอวิสนะ แต่ไม่เก่งเท่าไหร่หรอก พอ เอาตัวรอดได้ ที่จริงฉันถนัดพวกทำอาหารกับเย็บปักถักร้อย มากกว่า” เมเทเลียหัวเราะฝืด ๆ เพราะนอกจากจะป่า ๆ เป๋อ ๆ แล้วยังมีความสามารถด้านการต่อสู้ไม่ค่อยดีนัก ยกเว้นเรื่องงาน บ้านงานเรือนที่เป็นของถนัด

ใครได้เป็นเจ้าสาวคงโชคดีมาก

“เซส ตกลงนายถนัดอะไร” เอวิสเห็นอีกฝ่ายเงียบอยู่นานจึงถามอีกครั้ง เจ้าคนสวมแว่น ใช้นิ้วดันแว่นตาพลางปั้น หน้ายิ้ม ๆ และตอบด้วยน้ำเสียงสดใสว่า

“ผมพอฟันดาบได้บ้างครับ

“ที่ถามเนี่ย เพราะอยากซื้ออาวุธล่ะสิ ถ้าอย่างนั้นไปกินข้าวกัน ก่อนแล้วค่อยไปซื้ออาวุธละกัน” หนุ่มผมทองตบบ่าอีกฝ่ายและ นั่นทำให้เขาเพิ่งสังเกตส่วนสูงของคู่สนทนา

“เอ๋? เซสตัวสูงกว่าเอวิสอีกเหรอคะ” ที่ผ่านมามัวแต่คุยเรื่อง สอบเข้าเรียนต่อกับเรื่องสัพเพเหระทั่วไป นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ทั้ง สามสังเกตขนาดตัวของเพื่อนใหม่

“จริงด้วย ท่าทางเซสเหมือนเด็กเรียน นึกว่าจะตัวเล็กกว่านี้นะ ที่ไหนได้ สูงกว่าเอวิสตั้งเยอะ” เมเทเลียตัวเล็กกว่าอีกฝ่ายมาก โขจึงไม่แปลก แต่ที่แปลกคือสูงกว่าเพื่อนชายเพียงคนเดียวใน กลุ่ม

“พอดีว่าตอนอยู่ที่บ้าน พ่อชอบบังคับให้ผมดื่มนมบ่อย ๆ แล้ว ก็ออกกำลังกายทุกวัน บางทีผมก็ไปโหนกิ่งไม้เล่นบ้างนะครับ สนุกดี” คนอธิบายหัวเราะกลบเกลื่อนทั้งที่ในใจรู้สึกหงุดหงิด เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สิ่งหนึ่งที่เขายังไม่ได้เล่าให้ทั้งสามฟังนั่นคือเมื่อ ก่อน เขาตัวเล็กมาก และพ่อก็ชอบบังคับให้ดื่มนมเสริมแคลเซียมทั้งที่เขาไม่ชอบเลย

“นี่ ๆ อย่ามัวแต่คุยกัน รีบไปหาข้าวกินกันเถอะ จะได้รีบพา เซสไปซื้อของ ซักช้าเดี๋ยวก็หมดเวลาพักพอดี” เมเทเลียมองไปที่ หอนาฬิกาซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจึงรีบเตือนเพื่อน ๆ ก่อนจะพากันเดิน ออกไปจากตรงนั้น

จิ๊บ จิ๊บ

เสียงนกร้องดังแว่วมาจากทางระเบียงทำให้ร่างสูงที่กำลัง สัปหงกระหว่างนั่งทำงานท่ามกลางกองเอกสารได้สติทันที เมื่อ เห็นว่านกส่งสาส์นจากแดนมนุษย์มาถึงแล้ว เจ้าตัวจึงลุกขึ้นมา ยืดเส้นยืดสายก่อนจะตรงเปิดประตูระเบียงตามด้วยแก้เชือกที่ มัดม้วนกระดาษไว้กับขาของมันแล้วเปิดอ่าน

ท่านพ่อ คราวก่อนขาได้รับข้อความจากท่าน แต่ต้องขออภัยที่ เพิ่งตอบในเที่ยงวันนี้ เพื่อความรวดเร็วข้าก็เลยใช้คริสตัลเวท ข้ามมิติส่งนกนำสาส์นมาที่แดนมืด ข้าจะเข้าเรื่องแล้วนะ วันนี้ เป็นวันสอบ ตอนเช้าสอบข้อเขียน เขาให้หัวข้อมาสามข้อคือ แดนเทวา แดนมนุษย์ และแดนมืด จากนั้นก็ให้เขียนอธิบาย ข้า ตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับแดนมืด แต่กลัวว่าจะมีคนสงสัย ข้า ก็เลยเขียนเรื่องของแดนเทวาไปแทน
ตอนเที่ยงหลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเมเทเลียจะพาข้าไปซื้อ อาวุธ ข้าคิดว่าถ้าข้าใช้ดาบของตัวเอง ข้าคงถูกจับได้แน่ ข้า ตั้งใจว่าจะใช้ดาบเป็นอาวุธนะ แต่ต้องดูก่อนว่าดาบเล่มไหน เหมาะมือ แล้วก็ต้องซื้อดาบให้ทันตอนบ่าย ข้าได้ยินว่าปีนี้เป็นปี แรกที่ให้สอบเป็นคู่ ท่านพ่อ ท่านช่วยอวยพรให้ข้าด้วยนะ

เซเรียส เพนเดลรอน

“เอาเถอะ ขอให้โชคดีมีชัยละกัน” วาเรียสกลับเข้าไปในห้อง แล้วเขียนตอบข้อความนั้นเหมือนที่เคยทำมาตลอด ก่อนที่เขาจะ ม้วนกระดาษแล้วมัดเชือกไว้กับขาของนก จากนั้นมันก็บินตรงไป ยังแดนมนุษย์เพื่อส่งข้อความให้เจ้าชายแห่งแดนมืด ส่วนร่างสูง ก็เดินกลับเข้ามาในห้อง

…และกองเอกสารมากมายก็ทำให้เขาแทบทรุด!

ข้าอยากลาตายเหลือเกิน วาเรียสแทบจะก้มลงไปกราบกอง เอกสารอย่างงาม ๆ แต่ก็ได้แค่คิด สุดท้ายขาสองข้างก็พาเขา เดินไปนั่งที่โต๊ะแล้วลงมือจัดการเอกสารต่อ

ร้านขายอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในเมืองคือสถานที่ที่ทุกคนพาเซ สมาเลือกซื้อดาบก่อนจะถึงเวลาเข้าสอบในตอนบ่าย ร้านนี้สร้าง ด้วยไม้และเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ภายในร้านก็ทำจากไม้ชั้นดีทั้งนั้น เนื่องจากด้านในมี พื้นที่กว้างอีกทั้งการจัดชั้นวางของเป็นระเบียบ จึงมีที่ว่างพอให้ ลูกค้าเดินดูของได้สะดวก

เมื่อทั้งสี่เข้ามาในร้าน ต่างคนต่างแยกไปคนละทาง เอวิส สนใจดาบเล่มใหม่ ๆ ที่วางเรียงอยู่ในตู้ชั้นวาง เลน่าเข้าไปดู คทาใหม่ ๆ ในมุมหนึ่งของร้าน มีแค่เมเทเลียคนเดียวที่เดินตาม มาดูเซสเลือกอาวุธซึ่งนั่นทำให้เจ้าคนสวมแว่นสงสัย

“เมย์ไม่ไปดูอาวุธบ้างเหรอครับ”

“ไม่ล่ะ ฉันไม่ถนัดเรื่อง อีกอย่างที่บ้านฉันก็ให้ดาบมาใช้แล้ว คงไม่ต้องซื้อใหม่หรอก” เธอตอบด้วยใบหน้ายิ้มแจ่มใส พลาง กวาดสายตามองดาบรูปแบบต่าง ๆ บนชั้นวาง “อันที่จริงฉันไม่ เก่งเรื่องต่อสู้เลย ตอนที่ทางบ้านจะให้ฝักดาบ ฉันก็พยายาม ปฏิเสธ แต่ท่านแม่อยากให้ฉันมีอะไรพอป้องกันตัวได้ ฉันก็เลย ต้องฝึกน่ะ”

“ที่จริงฝึกไว้ก็ดีนะครับ บางครั้งก็ไม่มีใครช่วยเราได้ถ้าเกิด อะไรขึ้น”

“นั่นสินะ ว่าแต่เซสเลือกดาบได้หรือยัง” เธอคิดว่าตัวเองชวน อีกฝ่ายคุยแล้วจะไม่มีเวลาเลือกอาวุธ หนุ่มสวมแว่นหันไปมอง ดาบบนชั้นวาง เขากวาดสายตามองอย่างสนใจ มีดาบหลายเล่มที่เขาลองนำออกมาดู พวกมัน กะพริบแสงเรียกให้เจ้าตัวเลือกแต่สุดท้ายเซสก็วางมันไว้ที่เดิม

“พ่อหนุ่ม ยังเลือกอาวุธไม่ได้อีกเหรอ” ชายสูงวัยผู้เป็น เจ้าของร้านเดินมาดูลูกค้าซึ่งมองดาบหลายเล่มแล้วแต่สุดท้ายก็ ไม่เอาเฉยเลย คนถูกถามถอนหายใจแล้วถามกลับ

“คุณตามีดาบเล่มไหนแนะนำบ้างไหมครับ

“ก็มีนะ ว่าแต่พ่อหนุ่มมีพลังเวทหรือเปล่าล่ะ”

“มีครับ” เซสตอบตามความเป็นจริง เพราะดาบที่ใช้จำเป็น ต้องพึ่งพาพลังเวทของเจ้าของด้วย แต่เป็นเวทสายมืดนะครับ” มนุษย์ที่ใช้พลังเวทสายมืดก็มีมากมาย ดังนั้นจึงไม่มีใครสงสัย ว่าเซสเป็นปีศาจ

“งั้นตามมาทางนี้” ว่าแล้วชายสูงวัยก็เดินเข้าไปด้านในสุด ของร้าน ทั้งสองเดินตามไปติด ๆ ก่อนที่เมเทเลียจะถามขึ้นด้วย ความสงสัย

“นายเป็นพวกใช้เวทสายมืดเหรอ”

“เมย์ใช้เวทแสงสว่างสินะครับ ถ้ามันส่งผลกระทบก็ต้อง ขอโทษด้วย” ชาวเทวาส่วนใหญ่ใช้พลังที่เกี่ยวกับแสงสว่างตรง ข้ามกับชาวแดนมืด ดังนั้นพลังของทั้งสองจึงเป็นเหมือนด้าน บวกและด้านลบที่คอยหักล้างกัน
“พลังเวทของฉันไม่ใช่เวทแสงซะทีเดียวหรอก” เจ้าของเรือน ผมสีขาวยิ้มพลางยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา พริบตานั้นไอเย็นก็แผ่ ออกมาจากฝ่ามือก่อนที่เกล็ดหิมะแสนสวยจะปรากฏ “ฉันใช้เวท น้ำแข็งน่ะ”

“งั้นเหรอครับ”

“พ่อหนุ่ม ดาบเล่มนี้เป็นยังไง” ชายสูงวัยนำดาบสีดำเล่มหนึ่ง มาให้ลูกค้าดู เซสรับของแล้วกวาดสายตามองอย่างสนใจ เมเท เลียก็ยืนมองด้วยความอยากรู้เช่นกัน “นี่เป็นดาบที่ได้มาจาก ตลาดมืด เห็นว่าถูกสร้างขึ้นในแดนมืดน่ะ อีกอย่างพ่อหนุ่มใช้ เวทสายมืด น่าจะเหมาะกับมันนะ”

“ขอโทษนะครับคุณตา” หลังจากตรวจสอบทุกซอกทุกมุมแล้ว เจ้าตัวก็เงยหน้าขึ้นทั้งที่ขมวดคิ้ว “นี่ไม่ใช่ดาบที่ถูกสร้างขึ้นใน แดนมืด แต่เป็นดาบที่มนุษย์สร้างขึ้นเองต่างหาก เพียงแต่ใช้ วัสดุที่มีสีคล้ายคลึงกับเหล็กที่แดนมีดผลิต” เรื่องแค่นี้ทำไมเขา จะไม่รู้ในเมื่อดาบคืออาวุธส่วนใหญ่ที่พวกทหารใช้

งานที่เจ้าชายแห่งแดนมืดรับผิดชอบส่วนใหญ่เกี่ยวกับ กองทัพ ดังนั้นเรื่องจัดหาอาวุธและข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุในการตี ดาบคืออะไรและเป็นแบบไหนทำไมเขาจะไม่เคยเห็นหรือเคย สัมผัส จึงไม่แปลกที่มองแล้วก็รู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่ดาบที่ถูกผลิต น ในแดนมิด

“ตัดสินอะไรล่ะ ดาบเล่มฉันลองคริสตัลเวทธาตุมืด กับมันแล้วไม่เห็นเป็นอะไรเจ้าของร้านพอใจอย่าง เห็นชัด ดูด้วย

“แค่คริสตัลธาตุมืดอะไรมันไม่หรอกครับ เอาเป็นว่าผม จะลองใช้เวทนิด ๆ หน่อย ๆ มันละ” เซสนิ้วข้างหนึ่ง เคาะบนตัวดาบเบา พร้อมกับส่งพลังเข้าไป พริบตานั้นเกิด รอยแตกร้าวก่อนที่ดาบเล่มนั้นจะครึ่งต่อหน้าตาชายสูง

“นะนี่มันหมายความว่ายังไง!

“อย่างเห็นครับ ถ้าเป็นของแดนแท้ พลังของผมไม่ ทำให้มันหักหรอกเจ้าคนแว่นตายืนดาบคืนด้วยสีหน้า เรียบเฉย “คุณถูกหลอกแล้วครับ แต่ว่าผมเป็นคนทำของเสีย หาย เอาเป็นว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้นะครับ

เสียกัดฟันกรอดข่มอารมณ์โกรธก่อนจะของคืนจากเซสแล้วหัน หลังเดินกลับเข้าไปในร้าน

เอวิสครับ เหลือเวลาเท่าไหร่ก่อนจะเริ่มสอบภาคบ่าย
“สามชั่วโมง ทําไมเหรอ” หนุ่มผมทองถามอย่างสงสัย ทาง ด้านคนสวมแว่นก็แน่ใจว่าที่นี่ไม่มีดาบเล่มไหนใช้กับเขาได้ นอกจากดาบที่ถูกสร้างขึ้นในบ้านเกิดเท่านั้น เซสยิ้มให้ทั้งสาม แล้วกล่าวว่า

“ผมขอตัวไปที่อื่นสักครู่นะครับ คิดว่าจะไปส่งจดหมายด่วน ให้พ่อส่งดาบที่บ้านมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ