บทที่ 2 เตรียมสอบเข้าเรียนต่อ
ครั้งนี้เป็นคืนแรกที่ปีศาจหนุ่มค้างคืน ในแดนมนุษย์ ไม่น่าเชื่อ ว่าวันแรกที่เข้ามายืนใบสมัครเรียน เขาจะได้เพื่อนทีเดียวพร้อม กันถึงสามคน นั่นคือเมเทเลีย เอวิส และเลน่า สองสาวนอนใน ห้องเดียวกันส่วนเขาพักอยู่กับเอสซึ่งตอนนี้นอนคลุมโปงอยู่ เซ สที่นั่งอยู่บนเตียงข้าง ๆ ชำเลืองมองว่าอีกฝ่ายจะลุกขึ้นมาหรือ ไม่ เมื่อแน่ใจว่าหลับสนิทแล้ว เจ้าตัวจึงถอดแว่นตาออก ตาม ด้วยสะบัดหัวให้ทรงผมกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ส่งข่าวดีกว่า” เจ้าตัวเปิดกระเป๋าแล้วหยิบสมุดเล่มหนึ่งออก มาฉีกกระดาษ มือซ้ายหยิบปากกาออกมาเขียนข้อความหาใคร บางคนที่เขาอยากจะเล่าเรื่องราวให้ฟัง
ท่านพ่อ ตอนนี้ข้าอยู่ที่แดนมนุษย์นะ ช่วงนี้มีคนมาสมัครเรียน เยอะมาก อีกไม่นานก็คงถึงวันสอบ ข้าได้เพื่อนทีเดียวสามคน เลย คนแรกคือเมเทเลีย ข้าคงไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมนะว่านาง เป็นใคร ส่วนอีกสองคนเป็นเพื่อนสนิทของนางชื่อเอส คาเวอร์ ลอน กับ เลน่า คัลเลนด้า ตอนที่ข้าส่งข่าวบอกท่าน รับรองว่า ไม่มีใครรู้แน่ ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วง อีกอย่างอยู่ที่นี่ข้าใช้ชื่อว่า เซส โดโนเวน ข้ามั่นใจว่าตอนนี้ยังไงไม่มีใครสงสัยตัวจริงของข้า ท่านพ่อ สบายใจได้ แล้วข้าจะส่งข่าวไปใหม่นะครับ
เซเรียส เพนเดลร้อน
หลังจากเขียนข้อความเสร็จ เจ้าชายแห่งแดนมืดก็ม้วน กระดาษแล้วย่องออกไปที่ระเบียงหลังห้อง เขาดีดนิ้วเสกนกสีดำ ออกมาจากนั้นก็เสกเชือกมาผูกม้วนกระดาษไว้ที่ขาของมัน ก่อน จะส่งเจ้านกตัวนั้นบินขึ้นฟ้ามุ่งหน้ากลับไปยังบ้านเกิด
“นี่เหรอท้องฟ้าในแดนมนุษย์” เซเรียสแหงนหน้ามองม่านสี รัตติกาลที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวนับล้านดวง ความจริงแล้วมันก็ไม่ ต่างจากที่แดนมืดเลย นอกจากสภาพอากาศที่ไว้ใจไม่ได้ อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก คงเพราะนี่เป็นครั้ง แรกที่ออกจากบ้านมาอยู่ต่างแดน
เอาเป็นว่าเขาจะพยายามปรับตัวละกัน!
วันที่สองของการมาอยู่ในแดนมนุษย์ เช้านี้มีท้องฟ้าแจ่มใส อากาศเย็นสบาย หลาย ๆ คนออกจากบ้านมาดำเนินชีวิตเหมือน ที่เคยทำเป็นประจำ แต่สำหรับชายหนุ่มนั้นแตกต่างออกไป วันนี้ เซสแต่งตัวสบาย ๆ แต่ก็ยังเป็นสีดำเหมือนเมื่อวาน ทรงผมเรียบ ตรงสวย สวมแว่นตาหนาเตอะ ที่สำคัญยังใช้เวทพรางใบหูให้ เหมือนมนุษย์ด้วย ร่างสูงเดินตามหลังเพื่อนใหม่ทั้งสามลงไปที่ห้องอาหารเพราะตอนจองห้องพัก พวก เขาได้คูปองรับประทานอาหารในโรงแรมด้วย
อาหารในแดนมนุษย์ก็ไม่ต่างจากแดนมีดเท่าไหร่แฮะ เช สมองอาหารในถาดที่จัดไว้ให้แขกตักใส่จานแล้วนำกลับไปทาน ที่โต๊ะ ระหว่างที่พวกเมเทเลียแยกย้ายกันไปตักของที่ชอบ ร่างสูง ก็เดินวนไปรอบ ๆ เพื่อตัดสินใจว่าจะเลือกกินอะไรดี
“เซส ไม่รู้ว่าจะกินอะไรเหรอ” เมเทเลียยกจานใส่ไข่ดาว ไส้กรอก ขนมปัง และน้ำผักผลไม้รวมเดินมาหา เจ้าตัวยืนยิ้ม พลางเกาหัวยิก ๆ บอกตามตรงว่าเขาไม่รู้จะกินอะไรดี
“คือว่าผมชินแต่กับอาหารจานเดียวอย่างข้าวราดแกงน่ะ ครับ” ความจริงแล้วเขาโกหก ตอนอยู่บ้านก็ได้กินอาหารแบบ ชนชั้นสูง แต่พออยู่ในสนามรบ อาหารที่กินก็เป็นแบบง่าย ๆ และพกพาสะดวก ทว่าข้าวราดแกง ใช่ว่าไม่เคยกินเพราะว่าง ๆ เขาก็จะออกไปนอกวัง จึงได้มีโอกาสลิ้มรสอาหารข้างทางอย่าง ข้าวราดแกงบ้าง
“งั้นลองกินดูสักครั้งนะ อยากชิมอะไรก็ตกเลย เดี๋ยวฉันกลับ ไปที่โต๊ะก่อน”
“ครับ” เซสปั้นหน้ายิ้ม ๆ ให้หญิงสาวก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสีหน้าเฉยเมยเมื่อเธอเดินจากไป เจ้าตัวเดินกลับ ไปดูอาหารในถาดอีกครั้ง พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นถาดใส่ แพนเค้กที่พนักงานเพิ่งนำออกมาวาง ยังไม่ทันจะมีใครไปต่อ แถว ชายหนุ่มก็พุ่งไปถึงก่อนเป็นคนแรก
ของโปรดมาแล้ว แพนเค้กต้องเป็นของเขา
“เซส นายกินไหวเหรอ” เอวิสหันมาถามหลังจากเห็นหนุ่มใส่ แว่นเดินมาพร้อมจานใหญ่ใส่แพนเค้กที่กองพูนขึ้นมา ถึงแม้ว่า จะมีแฮม ไข่ดาว สลัดผักในงานแต่ถ้าเทียบกับแพนเค้กมันก็น้อย ไปอยู่ดี
“เซสชอบกินแพนเค้กนี่คะ เมื่อวานก็บอกอยู่” เลน่าเตือน ความจําเพราะเมื่อวานช่วงมื้อเที่ยง อีกฝ่ายก็มาด้วย แถมยังสั่ง แพนเค้กกินไปหลายจาน ตอนนั้นคนทั้งร้านมองเป็นตาเดียวกัน เลย
“ได้ข่าวไหมเมื่อวานนี้
“ประเทศโรซานใช่ไหม”
“ใช่ ๆ วุ่นวายมากเลย”
“เขาคุยอะไรกันน่ะ” เมเทเลียชำเลืองมองหญิงสาวสองคนที่ เดินคุยกันผ่านโต๊ะที่พวกเธอนั่งอยู่ ท่าทางเธอคงยังไม่รู้ข่าว เอว สจึงอธิบายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
“เมื่อวานตอนเย็น เกิดพายุพัดถล่มเมืองหลวงของประเทศโร ซาน บ้านเรือนพังเสียหายหมด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพระราชวัง พัง ชนิดที่ต้องสร้างใหม่เลยล่ะ น่าแปลกที่ไม่มีใครตาย อย่างมาก แค่บาดเจ็บ โชคดีนะที่ราชาไม่อยู่ในเมืองหลวง มีหวังเป็นเรื่อง ใหญ่แน่”
“ท่าทางเป็นพายุลูกใหญ่นะคะ สิ่งก่อสร้างพังเสียหายขนาด นั้นเชียว” เลน่ารู้สึกสงสารประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวาน ข่าวคงกระจายไปมากในเช้าวันนี้
“ยังมีอีกเรื่อง เกี่ยวกับเจ้าหญิงแห่งโรซาน” ทันทีที่ประโยคนั้น ออกมาจากปากชายหนุ่มผมสีทอง เซสที่นั่งฟังอยู่ก็ชะงักก่อนจะ ใช้มีดหั่นแพนเค้กกับแฮมไข่ดาวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อ
“เจ้าหญิงแห่งโรซานทำไมเหรอ” เมเทเลียถามต่อด้วยความ
อยากรู้
“เห็นว่าหลังจากพายุสงบ เจ้าหญิงหายตัวไปน่ะ ไม่มีใครเจอ วี่แววเลย”
“ใช่เจ้าหญิงเซซาเนียที่เคยมีข่าวว่ารักกับปีศาจเมื่อยี่สิบปี ก่อนหรือเปล่าคะ” หญิงสาวผมทรงทวินเทลเคยได้ยินข่าวแว่ว ๆ มาก่อนจึงคิดว่าน่าจะเป็นคนนี้
ไซ่ ๆ คนนั้นแหละ ตอนนี้ทางโรซานกำลังตามหาตัวอยู่
“ไม่แน่นะ ถ้าเจ้าหญิงรักกับปีศาจจริง ๆ พายุนั่นอาจเป็นฝีมือ ของปีศาจก็ได้” เมเทเลียคาดเดาแต่นั่นทำให้เอสส่ายหน้า เขา ไม่คิดว่าปีศาจจะบุกไปที่นั่นได้
“ราชาออร์ดิอุสสั่งให้นักเวทสร้างเขตแดนรอบพระราชวังแคน เดียน คนในออกไม่ได้ คนนอกก็เข้าไม่ได้นอกจากจะได้รับ อนุญาต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปีศาจเลย พวกนี้ก็เข้าไม่ได้เหมือนกัน”
“นั่นก็เป็นเวทกำจัดปีศาจเหมือนกันนี่คะ ว่าแต่เซสคิดยังไงกับ เรื่องนี้เหรอคะ” เลน่าหันมาถามความเห็นกับคนที่เอาแต่นั่งเงียบ บ้าง หนุ่มสวมแว่นเลิกคิ้วข้างหนึ่งก่อนจะกลืนแพนเค้กลงคอ
“ผมไม่ขอออกความเห็นนะครับ”
“นี่ทุกคน กินข้าวเสร็จแล้วไปที่หอสมุดประจำเมืองไหม ใกล้ จะถึงวันสอบทั้งทีต้องไปท่องหนังสือกันหน่อย” เมเทเลียเอ่ยปาก ชวนซึ่งดูจากสีหน้าของทุกคนแล้วก็เห็นด้วยทั้งนั้น
“ก็ดีนะครับ” เซสตื่นเต้นนิด ๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ เข้าไปในหอสมุดของเมืองมนุษย์ ส่วนพวกตำราทั้งหลาย เขา อ่านจากที่บ้านหมดแล้วเรื่องท่องหนังสือจึงไม่ใช่ปัญหา
แต่อ่านทบทวนอีกสักครั้งก็ดีจะได้ไม่พลาด!
ภาพซากปรักหักพังที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้ชายสูงวัยที่เพิ่ง กลับมาจากธุระต่างเมืองถึงกับต้องกำหมัดสะกดอารมณ์เพื่อไม่ ให้มันระเบิดออกมา ข่าวที่ได้รับจากพวกนักเวท ในเมืองหลวง บอกว่าพายุที่พัดถล่มเมื่อวานไม่ใช่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่เป็นฝีมือของใครบางคน ที่สำคัญเจ้าหญิงแห่งโรซานที่ถูกขัง มายี่สิบปีก็หายไปด้วย
หรือจะมีใครบางคนมาช่วยเธอ
“ท่านราชาออร์ดิอุส” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนยาวประบ่า นัยน์ตาสีเดียวกันกับเส้นผม เขาสวมชุดเกราะเหมือนพวกทหาร แต่มีตำแหน่งสูงกว่า เจ้าตัวเดินมาค้อมศีรษะให้ชายสูงวัยผู้มีผม สีเขียวน้ำทะเลแซมสีขาว ออร์ดิอุสชำเลืองมองเล็กน้อยแล้วถาม กลับ
“เทเลอร์ ได้เรื่องว่ายังไง
“จากการตรวจสอบพบว่าเพดานคุกใต้ดินถล่มขอรับ เจ้าหญิง คงจะหนีออกมา
“แล้วตรวจสอบได้หรือยังว่าใครสร้างพายุ” ถ้าเขาจำไม่ผิด จากคําบอกเล่าของคนที่อยู่ในเหตุการณ์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ท้องฟ้า ในตอนนั้นเป็นสีแดงฉานราวกับเลือด พระอาทิตย์กลายเป็นสีดำ แล้วพายุหมุน โลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนก็ถล่มตามที่ต่าง ๆ ในเมืองหลวง
…และนั่นทำให้เขตแดนรอบพระราชวังถูกทำลาย
“ดูเหมือนว่าผู้สร้างจะลบร่องรอยของตัวเอง เราจึงตรวจสอบ ไม่ได้ขอรับ
“บ้าจริง!” ออร์ดิอุสสบถอย่างหงุดหงิด เมืองถูกถล่มไม่พอ ลูกสาวคนโตยังหายตัวไปอีก ทางด้านเทเลอร์ที่กำลังเงียบเพื่อ ใช้ความคิดก็มีผู้ต้องสงสัยปรากฏขึ้นมาในสมอง
“หรือจะเป็นเขาขอรับ”
“จ้าวปีศาจหรือ? หี! เขตแดนมีพลังถึงขนาดแม้แต่ตัวมันเอง ยังทำลายไม่ได้ แต่เอาเถอะ เพิ่มมันเป็นผู้ต้องสงสัยด้วยล่ะ ปีศาจชั่วร้ายอย่างมัน สักวันคงหาทางพาตัวเซซาเนียไปอยู่แล้ว” เมื่อกล่าวถึงผู้ปกครองแดนมืดซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ ใบหน้าของออร์ดิอุสก็บิดเบี้ยวสะท้อนความเกลียดชังออกมา
“อย่ากังวลไปเลยเทเลอร์ ปีศาจนั่นมันล่อลวงเซซาเนียไปแต่ เราก็ยังหาทางพานางกลับมาได้ คราวนี้ก็เหมือนกัน เจ้าเป็นคู่ หมั้นของนาง พยายามเอาชนะใจนางให้ได้ก็พอ”
“ขอรับ” แม่ทัพแห่งโรซานค้อมศีรษะให้ชายสูงวัยที่เดินจาก ไป นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองภาพซากปรักหักแล้วมองไปยังทิศที่ ตั้งของแดนมีดซึ่งเป็นสถานที่ที่จ้าวปีศาจพำนักอยู่
หวังว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้อยู่ที่นั่น
หอสมุดประจำเมืองซินเทลล่าเป็นสถานที่ที่ใหญ่มากสมแล้วที่ บรรจุหนังสือไว้มากมายตั้งแต่เก่าแก่สุดขีดเรื่อยมาจนกระทั่ง ใหม่เอี่ยมอ่อง ท่าทางพวกเมเทเลียก็เข้ามาที่นี่เป็นครั้งแรกจึงมี ท่าทางตื่นเต้นต่างจากเซสที่ไม่แสดงอาการอะไรนอกจากกวาด สายตามองไปรอบ ๆ
หอสมุดใหญ่…แต่ก็ไม่ใหญ่ไปกว่าหอสมุดที่บ้านเขาเลย
“ไปอ่านหนังสือเตรียมสอบกันเถอะ” เอวิสเดินนำหน้าทั้งกลุ่ม ไปยังชั้นหนังสือสำหรับพวกนักเรียนเตรียมสอบเข้าโรงเรียนซึ่ง แถวนั้นนอกจากพวกเขาแล้วก็มีคนอื่นที่เข้ามาอ่านหนังสือ เตรียมพร้อมเช่นกัน
เท่าที่เซสรู้มา การสอบจะแบ่งออกเป็นสองช่วงนั้นคือภาคเช้า กับภาคบ่าย ตอนเช้าจะเป็นการสอบข้อเขียน ส่วนภาคบ่ายจะ เป็นการสอบภาคปฏิบัติซึ่งนั่นทําให้ชายหนุ่มต้องวางแผน ตัวจริงของเขาคือเจ้าชายแห่ง แดนมืด เขาจะแสดงตัวตนออกไปให้ใครรู้ไม่ได้ ดังนั้นต้องหา ทางกลบเกลื่อนจะได้ไม่มีใครสงสัยโดยเฉพาะพวกอาจารย์ที่ บางคนอาจทำงานให้ทางการด้วย
“เซส” หญิงสาวผมสีขาวหอบหนังสือเดินมาหาชายหนุ่มที่ยัง คงยืนนิ่ง คนถูกเรียกเลิกคิ้วข้างหนึ่งพลางมองหนังสือเล่มใหญ่ที่ เธอเอามา
เยอะขนาดนี้ อ่านหนึ่งเดือนก็ไม่จบหรอกแม่คุณ!’ เจ้าตัวสบถ ในใจแล้วปั้นหน้ายิ้มแย้ม ใสให้เธอ มองหน้าก็รู้ทันทีว่าเมเทเลีย ต้องการความช่วยเหลือ
“เมย์มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ”
“เราจับคู่ตัวหนังสือน่ะ เอวิสกับเลน่าแยกไปที่อื่นแล้ว ฉันก็เลย จะมาถามว่ามาติวหนังสือด้วยกันไหม ถ้าเทียบกับสองคนนั้น ฉัน เรียนไม่เก่งนะ เซสพอจะช่วยตัวให้ฉันได้ไหม” ท่าทางเธอเองก็ เกรงใจเขาอยู่เหมือนกัน หนุ่มสวมแว่นเลิกคิ้วข้างหนึ่งจากนั้นก็ หยิบหนังสือที่อีกฝ่ายหอบอยู่มาอ่านคร่าว ๆ
“หนังสือพวกนี้เก่ามากแล้ว เนื้อหาก็เก่าด้วย เขาคงไม่เอามา ออกข้อสอบหรอกครับ”
“ก็หนังสือเล่มใหม่ ๆ มีคนหยิบไปอ่านแล้วนี่ ฉันก็เลยต้อง หยิบเล่มเก่า ๆ มา” เรื่องนี้เมเทเลียก็รู้แต่จะทำยังไงในเมื่อมัน ไม่มีให้เธออ่าน หญิงสาวถอนหายใจยาวอย่างเป็นกังวลพลาง ยกหนังสือไปเก็บไว้ที่ชั้นตามเดิม
“เมย์คิดว่าเขาจะออกข้อสอบเรื่องอะไรบ้างครับ
“น่าจะเป็นความรู้ทั่วไปนะ ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับสามดินแดน เรื่องแดนเทวาน่ะฉันรู้ดี เรื่องแดนมนุษย์ ถ้าหาหนังสืออ่านได้ ไม่น่ายาก แต่แดนมืดนี่สิ หนังสือที่ฉันเคยอ่านเกี่ยวกับแดนนี้ ส่วนใหญ่ก็มีแต่บอกว่าชาวแดนมืดนั้นโหดร้ายกับวีรกรรมของ จ้าวปีศาจ”
“เขาว่ายังไงบ้างเหรอครับ” ชายหนุ่มถามขณะเดินตามหญิง สาวไปหาหนังสืออ่าน เจ้าของเรือนผมสีขาวเงียบไปชั่วขณะ เพราะกำลังนึกถึงเรื่องที่เคยอ่านมาแล้วอธิบายให้คนถามฟัง
“ในหนังสือบอกว่าจ้าวปีศาจนะชั่วร้าย สองร้อยปีก่อน เขา ประกาศสงครามกับแดนอื่น สังหารผู้คนไม่เลือกหน้า นี่ยังไม่ รวมอีกหลายเรื่องนะ มิน่าล่ะ ทำไมเจ้าชายแห่งแดนมืดถึงน่า กลัว สารเลว! ชั่วช้าสามานย์ที่สุด!
“อ้อ…เหรอครับ”
‘ตาดูอีกแล้ว รําคาญจริงโว้ย!’ เซเรียส ในคราบของเซสมุม ปากกระตุก มือข้างขวาขึ้นไปจับมือซ้ายที่ทำท่าจะเรียกอาวุธ ออกมาถล่ม ใครกันที่มันเขียนหนังสือเล่าถึงวีรกรรมของเขากับ จ้าวปีศาจ ถ้ารู้ว่าบ้านอยู่ไหน เขาจะไม่รอช้ารีบไปเผาบ้านมัน เลย!
ช่วงเย็นวันนั้นหลังจากที่พายุฝนฟ้าคะนองสลายตัวไป น่านฟ้า เหนือนครหลวงซัลลิแวนแห่งแดนมืดก็กลับมาแจ่มใสเช่นเดิม แสงแดดจากพระอาทิตย์ที่ใกล้จะลับขอบฟ้าในอีกไม่นานทำให้ สัตว์หลายชนิดกลับเข้าที่อยู่อาศัย ไม่เว้นแม้กระทั่งชาวแดนมืดที่ ออกมาทํางานในตอนเช้าและกลับเข้าบ้านในตอนเย็น จังหวะ นั้นเอง นกน้อยสีดำตัวหนึ่งก็บินมาเกาะที่ราวระเบียงก่อนจะส่ง เสียงร้องให้เจ้าของห้องออกมาดู
จิ๊บ จิ๊บ
ประตูกระจกเลื่อนออกแล้วร่างสูงในชุดสีดำก็ก้าวออกมา เขา แก้เชือกที่มัดขาข้างหนึ่งของนกน้อยแล้วหยิบม้วนกระดาษออก มาคลี่ดูว่าข้างในมีอะไร
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็เจ้าลูกชายตัวดีนี่เอง” แค่เห็นลายมือชื่อคน ส่ง เขาก็รู้แล้วว่าเป็นของเซเรียส หลังจากอ่านเนื้อหาด้านใน ท่าทางตอนนี้เจ้าตัวจะอยู่ที่แดนมนุษย์แถมยังมีเพื่อนใหม่อีกสามคน นับว่าเรื่องที่ชายเพื่อนกับเขาที
ร่างสูงกลับเข้าไปในห้องและหยิบปากกาขนนกกับ กระดาษมาตอบข้อความ จริงตอนพวกนั้นไม่ว่าเจ้า ชายแห่งแดนมีดเดินทางออกไปเปิดหูเปิดตาในแดน ก็อด
พ่ออ่านข้อความที่เจ้าส่งมาแล้ว โรงเรียนใหญ่ทีก็ต้องคน สมัครเข้าเยอะสิ อยากเรียนกับคนอื่นตั้งใจด้วยมีเพื่อนเดียวสามคนเลยเหรอ จังเลยนะ แต่อย่าไว้ใจพวกเขาให้มาก นัก ตอนอาจยังไม่เป็นแต่ความแตกเมื่อไหร่ พวกเขา อาจมองว่าเจ้าเป็นศัตรู เวลาอะไรก็ระวังตัวด้วย ว่าใช้เหรอ ขึ้น ชื่อจริงมีหวังได้วิ่งหนีทหารทั่วเมืองพอดี เอา เป็นโชคเจ้าชาย
วาเรียส
หลังจากข้อความเสร็จ วาเรียสม้วนกระดาษแล้วใช้ เชือกมัดกับขาของนกก่อนจะปล่อยให้สาส์นบินไป ยังแดนมนุษย์อันเป็นชายของเขาไปอยู่ในถิ่นของศัตรู ที่จริงแล้วเขาไม่อยาก ให้ไปแต่ในเมื่ออีกฝ่ายอยากเปิดเปิดตา เขาจึงทําได้แค่คอยเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ
หวังว่าความจะไม่แตกเอานะ
“อ่านหนังสือทั้งวัน ฉันล่ะปวดหัว”
“เอวิสครับ ไม่อาบน้ำก่อนเหรอ” ชายหนุ่มสวมแว่นถามเจ้า คนผมทองที่ตอนนี้กำลังนอนแผ่อยู่บนเตียงข้าง ๆ วันนี้ทั้งวัน พวกเขาช่วยกันตัวหนังสือ จึงไม่แปลกที่สมองจะล้าแล้วง่วงนอน
“ถ้าอยู่บ้าน ฉันคงอาบไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่บ้าน ฉันขอ นอนเลยละกัน ถ้าจะไปกินข้าวก็ปลุกด้วยนะ” ฝากฝังเพื่อนร่วม ห้องแล้วก็รีบมุดเข้าไปในผ้าห่มโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น เซสขมวด คิ้วเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจยาว เขาถอดแว่นตาออกตามด้วย สะบัดหัวให้ทรงผมกลับมาเป็นเหมือนเดิม
‘ถ้ามีนักฆ่าถูกส่งมา ท่าจะรอดยาก เซเรียสกล่าวในใจขณะ นำมีดที่ซ่อนไว้ในรองเท้าบู๊ทออกมาจ่อคอคนนอนหลับ เขาไม่ได้ มีเจตนาจะทำร้ายเอวิสเพียงแต่อยากทดสอบอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ
หนุ่มสาวพวกนี้ท่าทางจะโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ดี เห็นได้จาก แต่ละคนร่าเริงสดใสกันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเอวิสจะมีแววตาเศร้า หมองอยู่บ้างแต่สถานะของเขาก็ไม่ใช่น้อยเลย และเจ้าชายแห่ง แดนมืดก็รู้ตั้งแต่ได้ยินชื่อเต็ม ๆ แล้ว
คาเวอร์ลอน ตระกูลปกครองประเทศเนเวียน
“ได้ยินว่ามีพี่น้องต่างแม่พยายามแย่งตำแหน่งรัชทายาท ขอ ให้ผ่านอุปสรรคได้ละกัน” เซเรียสเก็บมีดแล้วหันหลังเดินกลับไป ที่ระเบียง นกสีดำตัวที่เขาส่งไปแดนมืด ตอนนี้กลับมาพร้อม ข้อความของพ่อแล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ