Kings- of - Element

ตอนที่20 XVIII



ตอนที่20 XVIII

ความมืดมิด กลิ่นเหม็นสาบชื้นจากพื้นที่ที่ถูกทิ้งให้รกร้าง มาเป็นเวลานาน ความแออัดจากผู้เล่นกว่า 50 ชีวิต ที่รวม ตัวอยู่ในเหมืองแร่เพื่อทำการสำรวจพื้นที่ เสียงฝีเท้าที่เดิน กันอย่างระมัดระวังทุกฝีก้าว ดวงตาจับจ้องไปยังพื้นที่ข้าง หน้าของตนคอยสอดส่งหาภัยอันตรายอยู่เสมอ

“นักเวทย์ ขอไฟด้วย!” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นมา

พลันสิ้นเสียงคำสั่งกลุ่มนักเวทย์ของแต่ละปาร์ตี้ได้เรียก สกิลบางอย่างขึ้นมา ปรากฏเป็นบอลแสงขนาดเท่าลูกบอล ลอยอยู่เหนือหัวของนักเวทย์แต่ละคนคอยส่องแสงสว่าง ไปทั่วพื้นที่

กลุ่มผู้เล่นเดินสำรวจภายในเหมืองแร่ได้ราว 10 นาทีแล้ว แต่ยังไม่พบอะไรเลย แม้แต่มอนสเตอร์ซักตัวก็ไม่โผล่ให้ เห็น ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สัมผัสของภัยอันตรายในนี้ได้ เลย เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าสถานการณ์ก็เริ่มแปรเปลี่ยน ไป ความตรึงเครียด ความอึดอัด ความหวาดระแวงที่ต้อง คอยระวังศัตรูว่าจะโผล่ออกมาตอนไหนอยู่เป็นเวลานาน แต่พวกมันกลับไม่โผล่ออกมาซัก ตัวหนึ่ง และในที่สุดขีดจํากัดความอดทนของคนในกลุ่มก็ หมดลง

“โว้ยย! ไม่ไหวแล้วนะ อึดอัดซะจริง” เสียงตัวประกอบ หนึ่งโวยวายเสียงดังจนคนทั้งกลุ่มหันมามอง

“นี่แกเป็นบ้าอะไรหะ! เงียบๆหน่อยเซ่!” เสียงตัวประกอบ ที่สองกําลังเข้าปรามเพื่อนของมันให้เงียบเสียง

“ก็นี่มันแปลกเกินไปแล้วไม่ใช่หรือไง พวกเราก็สํารวจ มาตั้งนานแล้วแต่กลับไม่พบอะไรเลย มันเงียบเกินไปแล้ว นะ!”

* เกร็กๆ.……….*

“ก็จริงอย่างที่แกพูด ปกติมันต้องมีตัวอะไรซักอย่างเข้า มาต้อนรับเราตั้งแต่ก้าวเข้ามาในนี้แล้วสิ หรือว่าเหมืองแร่นี้ มันจะมีระดับต่ำเกินไปกันนะ” เสียงตัวประกอบตัวอื่นเข้ามา ร่วมวงสนทนากันมากขึ้นจนขบวนรบเริ่มแตก เสียงเริ่มดัง สมาธิเริ่มหายไป
“เหอะ ระดับต่ำงั้นหรอ บ้าจริง เสียเวลาชะมัด

“ฉันว่ามันไม่น่ามีอะไรแล้วล่ะ พวกนายผ่อนคลายกัน หน่อยก็ดีนะ”

* เกร็กๆ…..*

“เห้ อย่าประมาทกันนักสิ มันอาจจะมีตัวอะไรโผล่มาตอน นี้ก็ได้นะ”

“จริงจังไปแล้วน่าพวก….”

“เงียบกันหน่อย!! พวกนายได้ยินเสียงอะไรมั้ย?” พลัน เสียงตะโกนของหัวหน้ากลุ่มดังขึ้นทุกคนกลับเงียบสงบใน ทันที หลังจากที่เกาะกลุ่มคุยกันเสียงดัง และละทิ้งหน้าที่ ของตัวเองที่ได้รับมอบหมายเอาไว้

“เสียงอะไรงั้นหรอ ทีมมม” ตัวประกอบทั้งหลายต่างเงี่ยหู ฟังเสียงตามคำพูดของหัวหน้ากลุ่ม และพวกเขาก็ได้ยิน เสียงนั้นจริงๆ

กีซ…กีซ…กีซ…
“อ๊ะ ได้ยินจริงด้วย นั่นเสียงอะไรน่ะ”

“ทางไหนกันนะ อ๊ะ มันค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆแล้ว” ผู้เล่นทุก คนต่างช่วยกันหินชายหันขวาเพื่อตามหาที่มาของเสียงนั้น และในที่สุดพวกเขาก็เจอเมื่อมีเสียงๆหนึ่งตะโกนบอกให้ ทราบ

“ทุกคนมองไปข้างบนเร็วเข้า!!” เสียงผู้ร้องเตือนถึงภัย อันตรายให้ทุกคนแหงนหน้าขึ้นไปมองบนผนังของถ้ำ ภาพที่ทุกคนเห็นคือฝูงแมงมุมขนาดตัวเท่าสุนัขตัวโตเต็ม ไวกำลังไต่กันยั้วเยี้ยเต็มผนังถ้ำนับร้อยตัว ดวงตาของมัน แดงฉานบวกกับคมเคี้ยวแหลมคม ตอนนี้มันพร้อมจะใช้โย โรยตัวลงมาขย้ำผู้เล่นทุกคนที่บนพื้นแล้ว

“ทุกคนรีบประจำตำแหน่งเร็วเข้า!” หัวหน้ากลุ่มออกคำ สั่งทันที คำสั่งนั้นถูกกระจายไปแต่ละปาร์ตีในทันที แต่ดู เหมือนว่ามันช้าไปเสียแล้วเมื่อเห็นฝูงมอนสเตอร์กรูกันเข้า มาโจมตีพร้อมกันทั้งฝูงอย่างรวดเร็ว จนไม่อาจจะตั้งรับได้

แมงมุมขาเหล็กคลาส 5 จำนวนนับร้อยพุ่งเข้ากัด และฉีก กระชากกลุ่มผู้เล่นอย่างหิวโหยราวกับไม่ไม่ได้มีเหยื่อตก ถึงท้องมานานแสนนาน ใครที่ตั้งตัวไม่ทันล้วนถูกพวกมันรุมกินจนตาย ผู้เล่นบางส่วนที่ตั้งสติได้ทันต่าง รวมกลุ่มกันต้านพวกแมงมุมกันไว้อย่างสุดกำลัง แม้พวก มันจะเป็นเพียงแค่มอนสเตอร์คาส 5 แต่ด้วยจำนวนของ พวกมันที่มากเกินจะรับมือไหวในพื้นที่แคบๆ ส่งผลให้กลุ่ม ผู้เล่นถูกกัดกระชากอย่างน่าสยดสยองแล้วกลายเป็นแสง หายไปอย่างง่ายดาย แต่ดูเหมือนว่าจะมีอยู่ปาร์ตี้หนึ่งที่ตั้ง สติได้ และรับมือกับพวกแมงมุมได้อย่างทันท่วงที่

“จอย บันเสริมพลังให้พี่ด้วย!” ซีคตะโกนบอกพรีซใน ปาร์ตี้ จอยพยักหน้ารับก่อนใช้ยกคฑาในมีแล้วเริ่มร่ายสกิ ลบางอย่างทันที พลันบังเกิดแสงสีแดงอ่อนๆรอบตัวซีควูบ หนึ่งก่อนจะหายไป

เบอร์เซิร์กโหมด

ซิคเปิดโหมดบ้าคลั่งเข้าเสริม ด้วยทักษะนี้เขาจะมีพละ กำลังมหาศาลเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว แต่ผมข้างเคียงของ มันก็ทำให้สติของเขาเลือนลางไปในบ้างครั้งเหมือนกัน เขารีบใช้ดาบสองมือขนาดใหญ่ไล่หวดฝูงแมงมุมขาเหล็ก จนบี้ไม่เหลือชิ้นดี พวกมันในตอนนี้ก็เปรียบเหมือนกลุ่ม ก้อนเนื้อนุ่มๆที่รอคอยให้เขาบดขยี้เพียงเท่านั้น
“อ๊ากกก ดาหน้ากันเข้ามาเลย ไอ่พวกมอนสเตอร์บ้าเอ้ ยย!!”

“หมอนั่นจะบ้าเลือดเกินไปแล้ว เล่นไล่หวดไปไกลจนลืม หน้าที่ของตัวเองไปแล้วรึไง ให้ตายสิ!” ลดี้แทงค์ประจํา กลุ่มบนอุบอิ่มพลันใช้มือซ้ายถือโล่ผลักเหล่าแมงมุมขา เหล็กออกไปให้ห่างจากพรีซของกลุ่มที่ตอนนี้กำลังใช้ สมาธิในการบัพฮิว และบัพเสริมพลังให้ทุกคนอยู่ มือขวา มองลดี้พลันวาดดาบเข้าฟันอย่างไม่ปราณีจนแมงมุมขา เหล็กต้องตายไปหลายสิบตัว

“ทุกคนระวังที่พื้นด้วย!” เพลตันนักเวทย์หนุ่มร้องเตือน เพื่อนให้ดูที่พื้นก่อนที่จะร่ายสกิลปรับเปลี่ยนสภาพดินให้ กลายเป็นหนามแหลมยาวพุ่งทะลุตัวของพวกแมงมุมขา เหล็กจนพรุนหลายสิบตัว

“พี่เซอิน ไหวรึเปล่าคะ?” จอยหันไปถามเซอินสาวสวย ดาบคู่ที่กำลังฟาดฟันกับฝูงแมงมุมนับสิบอย่างไม่เกรงกลัว ด้วยฝีมือการใช้ดาบของเธอทำให้พวกแมงมุมไม่สามารถ ทําอันตรายเธอได้เลย แต่ที่หนักก็คือไม่ว่าจะฆ่ามันไปมาก เท่าไหร่พวกมันก็ไม่หมดลงเสียที

“สบาย……” เธอตอบสั้นๆพลันเรียกใช้สกิลของตัวเอง เพื่อกำจัดพวกมันในคราวเดียว
พายุดาบเริงระบำ

เซอินตั้งท่าบางอย่าง ในมือถือดาบคาตะนะไว้แน่นก่อน ที่เธอจะเริ่มร่ายระบำดาบเป็นท่วงท่าที่สวยงามชวนหน้า มองแต่กลับแฝงไปด้วยอันตราย เธอเริ่มเร่งจังหวะให้เร็ว ขึ้นเรื่อยๆราวกับพายุหมุนขนาดย่อมๆ ทุกที่ที่เธอระบำดาบ ผ่านไปล้วนมีมอนสเตอร์ต้องตายลงอย่างช่วยไม่ได้

“เดี๋ยวหนูช่วยค่ะ” จอยพลันใช้ไม้คฑาของตัวเองปัก ลงพื้น จากนั้นก็บังเกิดเป็นวงเวทย์โบราณขนาดใหญ่ขึ้นมา ใต้เท้าของทุกคนที่อยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน

การอวยพรของเทพธิดา

ทุกคนในปาร์ตี้มีแสงสีขาวปนทองอ่อนๆเปล่งออกมาจาก ตัวครู่หนึ่งก่อนจะจางหายไป สกิลนี้เป็นบัพเสริมพลังให้ทุก คนในปาร์ตี้ ทุกคนจะได้รับบัพป้องกันค่าความเสียหายเพิ่ม ขึ้น 20% พลังโจมตีเพิ่มอีก 20% และอัตราการฟื้นฟูพลัง เพิ่มขึ้น 10% เป็นระยะเวลา 3 นาที

“ช่วยได้มากเลยจอย” เป็นลูดี้ที่พูดออกมา บัพพวกนี้มี ประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะเขาที่เป็นตัวแทงค์เพราะมันสามารถให้เขายืนแทงค์ได้อย่างสบายๆโดยไม่ ต้องคอยห่วงเลือดตัวเองจะหมดง่ายๆอีกต่อไป และตอนนี้ ก็ถึงทีของเขาบ้างแล้ว

พื้นทีของการยั่วยุ

ลูดี้ปล่อยรังสีสีแดงกลิ่นคล้ายเลือดออกจากตัว มัน กระจายเป็นวงกว้างเพื่อล่อให้ฝูงแมงมุมหันมาสนใจเขา แทน เมื่อแมงมุมขาแหล็กได้กลิ่นพวกมันก็พากันวิ่งกรู กันเข้าหาลูดี้นับร้อยตัวเลยทีเดียว และผลของทักษะนี้ นอกจากจะดึงดูดความสนใจได้แล้ว มันยังช่วยเพิ่มพลัง ป้องกัน และอัตราการหลบหลีกให้เขาอีก 10 % เป็นระยะ เวลา 1 นาทีอีกด้วย

“เข้ามา! ไอ่พวกน่าขยะแขยงเอ้ยยย” ลูดี้พลันกำโล่ และ ดาบในมือไว้แน่น พลางมองเหล่าแมงมุมขาเหล็กไม่กระ พริบตา เขาไม่รอให้พวกมันมาขย้ำเขาฝ่ายเดียวแน่ ดาบใน มีดถูกฟันกวาดของไปใส่พวกมันจนขาดเป็นสองท่อน โล่ที่ มือซ้ายใช้กระแทกเพื่อเคลียร์พวกมันออกไปจากตัว และ ทำการวาดดาบใส่พวกมันอีกครั้งจนกลายเป็นแสงหายไป เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนแมงมุมที่ถูกดึงมาหาเขาเหลือ เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น

ในตอนนี้กลุ่มผู้เล่นเริ่มควบคุมสถานการณ์ได้บ้างแล้วแม้ตอนแรกจะมีตกใจกันบ้างจนทำให้คนที่ไร้ประสบการณ์ ต้องเป็นคนที่สังเวยชีวิตไปเป็นกลุ่มแรก ส่วนผู้ที่มีไหว พริบดีเยี่ยมย่อมจัดการกับสถานการณ์ไม่คาดฝันตรงหน้า ได้อย่างดี แต่ก็ต้องสูญเสียผู้เล่นนับสิบคนไปเนื่องจากไม่ สามารถชุบชีวิตพวกเขาได้ทัน

เมื่อกลุ่มผู้เล่นช่วยกันทำการสังหารฝูงแมงมุมขาเหล็กจน หมดไปแล้ว ผู้เล่นแต่ละคนก็เริ่มกลับมาเช็คสถานะปาร์ตี้ ของตัวเองเพื่อเช็คความพร้อมก่อนจะเดินสํารวจกันต่อไป

“จากเท่าที่เห็น ทุกคนไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ซิคหัวหน้า ปาร์ตี้ถามขึ้นมา ทุกคนก็พยักหน้าตอบเป็นเชิงว่าปลอดภัย ดี แต่เหมือนว่าในตอนนี้ปาร์ตี้ของเขาจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ ตอบคำถามเขา และตอนนี้ก็หายไปไหนก็ไม่รู้ด้วย

“ว่าแต่คุณภาคิน เขาหายไปไหนล่ะ?” ลูดี้ถามขึ้นมาเมื่อ สังเกตเห็นความผิดปกติ

“นั่นสิ ฉันไม่เห็นเขาออกมาช่วยสู้เลย หายไปไหนของเขา กันนะ” เพลตันเสริมพลันหันหัวไปมาเพื่อตามหาตัวคนหาย
“ฉันว่าเขาคงไม่อยากเปลืองแรงลงมือกับพวกมอนสเตอร์ ระดับ แน่ๆเลย” ชิคพูดอย่างมีเหตุผลพลางเอามือลูบคาง ไปด้วย

“ฉันก็คิดงั้นนะ ก็เขาระดับสูงซะขนาดนั้นนี่ แต่อย่างน้อยก็ ควรให้คําแนะนําพวกเราบ้างสิ ไม่ใช่เงียบหายไปแบบนี้ ให้ ตายเถอะ” ลูดี้พูดด้วยความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่คนระดับ สูงแบบนั้นปล่อยให้พวกเขาเผชิญกับอันตรายอย่างเดียว ดาย

“ฉันก็ไม่อยากจะยุ่งกับเขาเท่าไหร่หรอกนะ ว่าแต่มีใคร เห็นบ้างว่าเขาอยู่ตรงไหนกัน?”

“เออ..คือ ถ้าเป็นคุณภาคินเขาอยู่ตรงนั้นได้ซักพักหนึ่ง แล้วล่ะค่ะ” จอยพูดขึ้นพร้อมใช้มือชี้ไปยังทิศของผู้เล่น ภาคิน เขาในตอนนี้กำลังยืนกอดอกหลังพิงผนังถ้ำ ใบหน้า นิ่งขรึมน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก

พวกเขาเริ่มใช้คำนำหน้าว่า คุณ ตั้งแต่เห็นว่าเขาเป็นถึง ผู้เล่นคลาส 8 แล้ว เริ่มแรกพวกเขากะว่าจะช่วยกันรุมฆ่า หาก ภาคิน คิดจะหักหลังพวกเขา แต่เมื่อเห็นระดับแล้ว ความคิดของพวกเขาก็เปลี่ยนไป เพราะหากภาคินคิดจะ หักหลังพวกเขาจริงๆแล้วล่ะก็ เขาคงทำได้ราวปลอกกล้วย เข้าปากโดยที่พวกเขาไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย พวกเขาเลยนอบน้อมเป็นพิเศษเผื่อว่า ผู้เล่นชื่อแดงคนนี้จะเห็นอกเห็นใจพวกเขาบ้าง

ซิคเป็นคนนําเข้ามาถามภาคินโดยมีคนที่เหลือตามเข้ามา อย่างกล้าๆกลัวๆ ถ้าเป็นไปได้พวกเขาก็ไม่อยากยุ่งเรื่อง ของชายคนนี้มากนัก แต่ต่อมความสงสัยมันมากเกินจะ ควบคุมได้ ซิคค่อยๆรวบรวมความกล้าขึ้นมาก่อนที่จะถาม ออกไป

“อ เอ่ออ..คือ….คุณภาคินครับ ทำไมคุณถึงไม่ช่วยพวก เราเลยล่ะครับ?”

“คือว่า….”

“คืออะไรหรอครับ!?

“คือฉัน….”

“ฉัน..?” ทุกคนในตอนนี้กำลังเอียงคอลุ้นคำตอบกันจนตัว

โก่ง

“ฉัน ก กลัว.. ……….แมงมุ..ม…” เสียงตอนท้ายแผ่วเบาจน แทบไม่มีใครได้ยิน นั่นจึงทำให้ซิคถามต่อด้วยความสงสัย

“กลัวอะไรนะครับ?”

“ฉัน…กลัวแมงมุม โว้ยยยยยย!!!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ