Kings- of - Element

ตอนที่11 .9.



ตอนที่11 .9.

3 วันต่อมานับตั้งแต่เริ่มมาราธอนลงดันเจียน

ก๊าซซซซซซ !!!

เสียงของมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ร้องคำรามลั่นขณะที่ตัว ของมันเองกำลังถูกผู้เล่น 4 คนรุมโจมตีโดยที่ไม่สามารถ ขยับตัวได้แม้แต่นิดเดียว รูปร่างของมันคล้ายงูขนาดใหญ่ แต่กลับมีขางอกออกมาถึง 8 ขา ตรงหางมีลักษณะคล้าย กับดาบเรียวแหลม เกล็ดเรียงกันเป็นเงาสวยงาม แววตา ของมันฉายแรงอาฆาตอย่างชัดเจน

“เร่งมือเข้า เลือดของบอสเหลือไม่ถึง 10 % แล้ว ใส่สกิล ทุกอย่างเข้าไปเลย!” ผมร้องบอกเพื่อนๆให้รีบโจมตีบอส เพราะสกิลจับที่ไม่ให้บอสเคลื่อไหวได้ของสิงห์ใกล้หมด เวลาแล้ว พร้อมหันไปตะโกนถามลูน่ายืนอยู่ด้านหลัง

“ลูน่าร่ายสกิลเสร็จรึยัง?”
“เสร็จแล้วค่ะ ทุกคน เตรียมรับแรงกระแทก!” ลูน่าตอบ Shield Grenade ลูน่าชาร์ทพลังไปที่โล่ของตัวเอง พร้อมอัดแน่นพลังเอาไว้ภายในโล่ เมื่อร่ายสกิลเสร็จเธอก็ ปลดปล่อยสกิลกลายเป็นลำแสงสีทองพุ่งเข้าหาบอสทันที

ตู้มมมมมม!!

มันไม่อาจหลบไว้ได้ทัน พื้นดินเกิดสนั่นหวั่นไหว บอสง กระเด็นไปติดขอบกำแพงของดันเจียนจนเป็นรอยแตกร้าว ขนาดใหญ่ ทั่วทั้งตัวมีบาดแผลฉีกขาดปานถูกระเบิดพร้อม กันหลายร้อยลูก จนมันไม่สามารถขยับตัวได้

ผมเห็นดังนั้นจึงรับใช้ Sonic’ พุ่งเข้าหากัน จากนั้นดึง ศรในมือพลันเรียกใช้สกิล Fire Cannon ศรไฟขนาด ใหญ่พุ่งเข้าปะทะหน้าบอสอย่างจัง ตู้มม! HP ของมันหมด หลอด และสลายกลายเป็นแสงหายไปทันที

ยินดีด้วยค่ะ

ปาร์ตี้ของท่านเคลียร์ดันเจียนได้แล้วค่ะ
ปาร์ตี้ของท่านได้รับเกล็ดราชาอสรพิษวายุ ระดับ B จํา นาน 10 ชิ้นค่ะ

ได้รับเขี้ยวราชาอสรพิษ ระดับ B จำนวน 15 ชิ้นค่ะ

ได้รับมีดเขี้ยวราชาอสรพิษ ระดับ A จํานวน 1 เล่มค่ะ

ได้รับเงินจํานวน 100,000 เหรียญ ค่ะ

“เฮ้อออออ เหนื่อยจังวุ้ย” ธีระผ่อนคลายออกมา พร้อม ทิ้งตัวนอนลงไปกับพื้นอย่างเหนื่อยล้า

“เล่นเอาไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยนะเว้ยไอ่คิน” สิงห์น ขึ้นพร้อมทิ้งตัวลงไปข้างๆกับธีระ

“ฮ่าๆๆ เดี๋ยวจะออฟไลน์กันแล้วนี่นา ก็เลยอยากทำให้ เสร็จทีเดียวกันเลย แต่อย่างน้อยภารกิจเลื่อนคลาสก็เสร็จ กันหมดแล้วนี่ ใช่มั้ย?” ผมพูดกับเพื่อนๆ ก่อนจะเดินเข้าไป หาลูน่าที่กำลังนั่งพิงผนังกำแพงอยู่

“เออๆ ขอบใจมากว่ะ ถ้าไม่ได้มึงนี่คงไม่เสร็จไวขนาดนี้ หรอก” ธีระขอบคุณอย่างจริงใจ เพราะถ้าผมที่มีเลเวลสูง ขนาดนี้ไม่มาช่วยพวกเขาก็คงลำบากกว่านี้ไม่น้อย
ผมไม่พูดอะไรต่อ และเดินไปหาลูน่าทันที “นั่งด้วยได้มั้ย ครับ?” ผมยิ้มให้ลูน่า

“ได้ค่ะ” ลูน่ายิ้มตอบ เธอในตอนนี้ก็คงเหนื่อยไม่น้อยเช่น กัน เพราะดูจากการหายใจที่หอบแรงตลอดเวลา ดูๆแล้วก็ เซ็กซี่ไปอีกแบบหนึ่งนะ แหะๆ

“ขอบคุณมากนะคะ คุณภาคิน ที่ช่วยฉันทำภารกิจเลื่อน คลาสทั้งๆที่มันไม่ธุระของคุณเลยแท้ๆ ฉันไม่รู้จะตอบแทน คุณยังไงดี” ลูน่าขอบคุณผมอย่างจริงใจพร้อมก้มหัวให้ เล็กน้อย

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจ แค่ได้ช่วยคุณผมก็มีความ สุขแล้วล่ะ” ผมยิ้มอบอุ่น หน้าของลูน่าแดงขึ้นเล็กน้อย

“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ไว้ฉันจะหาทางตอบแทนคุณ แน่นอน” เธอพูดพลางยิ้มเขิน

“แค่ข้าวหนึ่งมื้อผมก็พอใจแล้วล่ะ แล้วต่อจากนี้คุณจะทำ ไรต่อล่ะครับ?” ผมถามลูน่า

“ฉันคงจะกลับไปที่กิลด์น่ะ เป็นถึงหัวหน้ากิลด์แต่กับทิ้งภาระมาแบบนี้คงจะไม่ดีใช่มั้ยล่ะคะ”

“บางครั้งคนเราก็ต้องการการพักผ่อน และใช้ชีวิตที่เป็น อิสระเป็นของตัวเองบ้างใช่มั้ยล่ะครับ อย่าคิดมากเลย” ผม พูดปลอบลูน่า ถึงแม้จะไม่ถนัดเรื่องนี้ก็ตามที ลูน่ายิ้มให้ เล็กน้อยและไม่พูดอะไรต่อ

เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที เมื่อพักเหนื่อยเสร็จแล้วพวก เราก็ออกไปจากดันเจียน เป้าหมายต่อไปคือไปส่งภารกิจ ที่อาคารภารกิจของเมือง ตอนนี้เป็นเวลาเย็นแล้ว แต่ผู้เล่น ยังเดินขวักไขว่กันอย่างล้นหลาม พวกเราแวะเดินเที่ยวชม เมือง และตลาดกันเล็กน้อยก่อนที่จะมุ่งไปที่อาคารภารกิจ ทันที

“เลื่อนคลาสได้ซักทีโว้ยยยยยยย! ” ธีระ และสิงห์ตะโกน แหกปากอย่างเสียงดังจนคนรอบข้างต่างพากันหันมองมา

“ไม่อายบ้างรึไงวะ ไอ่สองคนนี้” ผมกล่าวออกมาเนือยๆ

“ก็คนมันดีใจนี่หว่า” สิงห์พูดออกมาอย่างไม่สนใจ
“เออๆเดี๋ยวกุไปส่งลูน่าก่อน แล้วเจอกันเว้ย” ผมบอกกับ สอองเกลอ เพราะผมต้องไปส่งลูน่าขึ้นเรือของระบบ ตอน แรกผมอาสาจะไปส่งเธอแต่เธอก็ปฏิเสธโดยให้เหตุผล ว่าเธอจะออฟไลน์แล้ว เลยจะเข้าไปออฟไลน์บนเรือของ ระบบ พอกลับเข้ามาก็คงถึงเมืองเริ่มต้นพอดี

“ฉันไปก่อนนะคะ คุณธีระ คุณสิงห์ ไว้มีเวลาจะมาเก็บเว ลด้วยนะคะ” ลูน่ากล่าวลาสองเกลอพร้อมยิ้มอย่างน่ารัก แบบที่เธอเป็น

“เช่นกันครับ คุณลูน่า เจอกันครับ ว่างๆก็มาแวะที่กิลด์ของ พวกเราได้นะครับ” ธีระพูดขึ้น

“นี่พวกคุณมีกิลด์ด้วยหรอคะ?” ลูน่าอย่างสงสัย

“มีครับ แต่พึ่งตั้งได้ไม่นานหรอก เลยไม่ค่อยมีชื่อเสียง เท่าไหร่นัก” ธีระตอบ

“คนอย่างพวกแกนี่นะมีกิลด์ จะมีใครเข้าเคารพรึเปล่า เนี่ย!?” ผมพูดลอยๆออกไป

“เหอะ เดี๋ยวแกก็ได้ กิลด์พวกกุจะต้องติด ท็อป 100ในเร็ววันแน่!”

“อ๊าบๆ พ่อคนเก่งงง” ผมไม่พูดอะไรต่อ พวกเราทั้งสี่บอก ลากัน และแยกย้ายกันไป แต่ยังเหลือเจ้าสองเกลอที่กำลัง กอดคอกันนินทาคนที่เดินไปไกลอยู่

“มึงว่าสองคนนั้นจะมีอะไรที่ลึกซึ้งกันมั้ยวะ?” ธีระหันไป คุยกับสิงห์ทันทีทีผมกับลูน่าเดินจากไป

“ไม่เหลืออะกว่า สเปคไอ่คนมันเลยนะ ห้าวๆแบบนั้น ทั้ง สวยทั้งเก่ง หุ่นก็ดี อิจฉามันว่ะ” สิงห์ตอบ

“นั่นดิ ว่าแล้วกูเริ่มไม่ไหวละ ไปที่บาร์กันดีกว่า ไปเหล่ สาวกันเว้ย ฮ่าๆๆๆๆ” สองเกลอกอดคอกันอย่างอารมณ์ดี พร้อมเดินไปที่บาร์เพื่อผ่อนคลายบ้าง เนื่องจากเหนื่อยล้า จากการต่อสู้เหลือเกิน

ที่ท่าเรือของอาณาจักรสายลม

“ส่งแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา อีกครั้งนะคะ” ลูน่ากล่าวขอบคุณผมอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรครับ เดินทางปลอดภัยนะ ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็เรียกได้เสมอนะ” ผมยิ้มตอบลูน่า

“โอเคค่ะ ฉันไปก่อนนะ” ลูน่าบอกลาผมพร้อมโบกมือลา ให้ผม ผมยิ้มส่งให้เธอจนเธอขึ้นเรือของระบบ และหาย เข้าไปในวาป

“หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะ ลูน่า” ผมพูดพร้อมมองขึ้น ไปบนเรือซักพัก จากนั้นจึงค่อยหันหลังเดินกลับไปเที่ยว ชมเมืองเล็กน้อยพลันนึกถึงความรู้สึกเดิมๆไปตลอดทาง

ความรู้สึกที่ได้ลงดันเจียน ความรู้สึกที่ได้เล่นกับคนที่ ไว้ใจได้ ความวุ่นวาย ความแค้น ความรัก การแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่นกัน ผู้มีอำนาจ ผู้อ่อนแอ ปลาใหญ่ที่กินปลา เล็ก เงามืดผู้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนปานเสือซ่อนเล็บ ผู้คนที่รู้ หน้าไม่รู้ใจ ทุกอย่างนี้เป็นสิ่งที่ต้องพบเจอไม่วันใดก็วันนึ่ง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“คิดถึงจังเลยน๊า ความรู้สึกแบบนี้ หวังว่าคงจะเจอเรื่อง สนุกๆอีกนะ” ผมพูดขึ้นขณะที่นอนดูดาวบนหลังคาของ โรงแรมหรูแห่งหนึ่งจากนั้นก็กดออฟไลน์ออกไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ