บทที่ 10 ที่นั่งพิเศษ
“คุณมาได้ยังไง?” หลินซูเนี่ยนทำสีหน้าเลิกลัก อันเลยลงมา เปิดประตูให้ พลางพยักหน้าเป็นสัญญาณบอกให้เธอขึ้นไป แล้ว เธอก็ขึ้นรถ
ห้าวหนานกำลังดูข่าวของเศรษฐกิจในโน๊ตบุ๊คอยู่ เขาไม่ได้ เงยหน้ามามองเธอ “สัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง?
“ก็ดี ไม่สิ! คุณรู้ได้ไงว่าฉันมาสัมภาษณ์!?” เธอถามขึ้นอย่าง สงสัย เมื่อวานนี้เธอไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ทั้งมา อยู่หน้าบริษัท แล้วยังรู้ว่าเธอมาสัมภาษณ์งานอีก
เขาปิดคอมลง “ป้าจางบอกฉัน”
เอ๊ะ? เธอคิดอยู่พักหนึ่ง เหมือนกับว่าตอนที่เธอออกมาได้พูด กับป้าจางไว้ แล้วพอนึกได้ เธอก็พูดกับตัวเอง อย่างนี้นี่เอง”
หลังจากที่เงียบไป เธอก็ยิ้มออกมา แล้วก็พูดขึ้น “เออใช่ เพื่อ เป็นการฉลองที่ฉันผ่านสัมภาษณ์ เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวคุณเป็นไง! เหมือนจะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ของพวกเขาหลังจากเรื่องเมื่อวาน
ภายในรถที่เงียบอยู่แล้วก็ยิ่งเงียบลงอีก อันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “คุณผู้หญิง พวกเรา…..
“ได้” สี่ห้าวหนานตอบรับ
อันถที่ขับรถอยู่ก็พลันตกใจจนขับรถเกือบเซ เขาฟังผิดไปหรือเปล่า? เขามองไปที่กระจกมองหลังก็พลันสบตาเข้ากับดวงตาสี ตาคู่นั้น ใจเขาเต้นแรงทันที แล้วก็รีบหันกลับมาขับทันที
หลินซูเนี่ยนส่งพิกัดร้านอาหารที่เป็นอาหารแบบ อาหาร กวางตุ้ง สิ่งที่เธออยากจะกินคือ หมาล่าฟังแต่พอคิดถึงห้าว หนานแล้ว ก็ไม่เอาดีกว่า
พอเขาเข้ามาในร้านก็ต้องไปที่ห้องพิเศษทันที ผู้จัดการร้าน
โค้งตัวต้อนรับ “คุณ….….…..
อันที่เดินมาตามหลังก็จัดการทุกอย่าง ทันใดนั้นก็มีพนักงาน คนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความลนลาน แล้วกระซิบข้างหูผู้จัดการ ร้าน “คุณชายเจียงก็มา ตอนนี้รออยู่ข้างนอกต้องการจองห้องนี้ ด้วย”
คุณชายเจียง? คุณชายเจียงคนไหน?
เธอรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี และก็เป็นอย่างที่คิด ไม่ต้องรอ ให้เดาเลย ครู่หนึ่งเสียงจากด้านนอกห้องก็ดังเข้ามาและก็เป็น อย่างที่เธอคิดไว้
“ห้องนี้เป็นของคุณชายเจียง ใช้งานตลอด ทำไมวันนี้ถึงได้ยก ให้คนอื่น!” ยังไม่ทันจะเห็นคน เสียงร้องโวยวายก็ดังเข้ามาในหู ก่อนแล้ว
“แต่ต้องขอโทษจริงๆ วันนี้พวกเรามีแขกแล้ว คุณชายเจียง เดี๋ยวผมหาห้องพิเศษให้ใหม่ได้มั้ย? ” พนักงานพยายามพูด อธิบายและแก้ปัญหาให้
หลินหวานหยูจับมือเจียงเจ๋อไว้ เพียงเพราะเหมือนจะเสียหน้า เขาเลยพูดเสียงออดอ้อน “เจียงเจ๋อ คุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสถานที่ ไม่คุ้นเคย
โม่ลี่ที่เดินข้างๆ หลินหว่านหยูก็ยิ่งทำให้หล่อนดูปลุกเร้ามาก ขึ้น หล่อนผลักพนักงานแล้วเดินมาที่ห้องนี้ทันที “ฉันก็อยากรู้ เหมือนกันว่าใครกันถึงไม่ยอมเห็นหัวของคุณชายเจียง
เจียงเจ๋อขมวดคิ้วแน่น เขายังไม่ทันจะพูดอะไร โมก็ถีบประตู ทันที
และในขณะนั้น ทุกอย่างเงียบกริบ…
โม่เข้าไปดูข้างใน โดยไม่คิดว่าจะเจอหลินซูเนี่ยนกับห้าว หนาน เธอเอามือกอดอกพลางหัวเราะแล้วพูดขึ้น “ฉันก็นึกว่า เป็นใครตำแหน่งใหญ่โตกัน ที่แท้ก็เธอนี่เอง!!
หลินซูเนี่ยนยิ้มอ่อน “ไม่เจอกันนานเลยนะโมลี ไม่คิดว่าเธอก็
ยังชอบเป็นเบี้ยล่างให้หลินหว่านหยูเหมือนเดิมนะ
“แก!” โม่ลี่กัดฟัน และมีสีหน้าไม่พอใจมาก แต่พอหันไปเห็น ห้าวหนานก็แทบจะเก็บอาการไม่ทัน แล้วพูดขึ้น “แล้วจะทำไม พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกัน! แล้วเธอล่ะ?”
หลินซูเนี่ยนเห็นสีหน้าหล่อนมองเห็นสี่ห้าวหนานก็ดูจะเกรง กลัวอยู่นิดหนึ่ง แต่ไม่นึกว่าหล่อนจะกล้าพูดสิ่งที่น่ารังเกียจออก มาได้ “แต่ว่าเห็นเธอผ่านเรื่องลำบากมา แม้ว่าจะถูกเฉียงเจ๋อทิ้ง แต่ก็ไม่ได้ดูตกต่ำขนาดนั้น ที่หาคนที่……
หล่อนหยุดพูด เพื่อจงใจให้สิ่งที่หล่อนพูดนั้นดูมีความหมาย แฝง
หลินซูเนี่ยนโมโหอย่างมาก กำลังคิดจะจัดการ แต่ว่าหลิน
หว่านหยูเข้ามาถึงหล่อนไว้ก่อน “โม อย่าทำแบบนี้! หล่อนพูดเตือน แล้วก็ทำเป็นที่หน้าเศร้า เหมือนอยากขอโทษ “ขอโทษนะ โม่ลี่วู่วามไปหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้
ที่มาเจอพวกคุณที่นี่”
ห้าวหนานไม่พูดอะไร ทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไร
หลินหว่านหยูมีสีน่าอึดอัดใจ จึงหันไปหาเจียงเจ๋อ ไม่นาน เจียงเจือที่นิ่งเงียบก็พูดขึ้น “บังเอิญจริงๆ ผมว่าห้าวหนานคงไม่ รังเกียจถ้าเราจะร่วมโต๊ะกัน?”
พอถามไปแบบนั้น แค่พูดจบ พวกเขาก็นั่งลงทันที ไม่ให้เวลา ในการปฏิเสธด้วยซ้ำ
หลินหว่านหยูก็สบายใจแล้วนั่งลงข้างๆ เขา โมก็หันไปชัก สีหน้าใส่หลินชูเนี่ยน แล้วก็ขยับมานั่งติดกับหลินหว่านหยู สิ่งที่ พวกเขาสามคนทำสุดท้ายก็ไปสะกิดห้าวหนาน เขาหันไปมอง สามคนนั้น
ผู้จัดการถึงกับเอามือปาดเหงื่อ เจียงเจอคือคนไม่ควรจะทำให้ ผิดใจ แต่ห้าวหนานก็ยิ่งทำอะไรไม่ได้เลย “คุณ ลองดูนี่…….
โม่ลี่ได้ยินแล้วก็ไม่พอใจทันที พลันพูดขึ้น “คุณชายเจียงนั่ง อยู่ตรงนี้ ทำไมถึงไปถามคุณลี่ แกตาบอดเหรอ!?”
พอเขาได้ยินแบบนั้น ก็แทบอยากจะเข้าไปอีกปากหล่อน ช่าง เป็นผู้หญิงที่ชอบเงินจริง
“โทษนะ คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงไม่ชอบให้ใครมารบกวนเวลา กินข้าว ช่วยเชิญคนอื่นๆ ออกไปได้มั้ย?” อันถพูดเสียงเข้ม และ สีหน้าเขาก็ดูจริงจังมาก
“ได้…ได้…” ผู้จัดการตอบรับ แล้วก็ทำสีหน้าสำนึกผิด “ขอ โทษจริงๆ คุณชายเจียง ท่านก็ได้ยินแล้ว ผมจะหาห้องพิเศษห้อง อื่นให้ รบกวนท่านย้ายออกมาเถอะนะ”
หลินหว่านหยูกัดปากแน่น เหมือนเลือดจะกระอักในอก และ ยิ่งทำให้ไม่ใจมาก!
สีหน้าของเจียงเจ๋อเองก็ดูไม่พอใจเหมือน แต่ว่า เขาไม่อยาก ทำให้ตัวเองดูโหดร้าย เลยยอมลุกขึ้น หลินหว่านหยูจับแขนเขา ไว้ทันที เพื่อไม่ให้เขาลุกขึ้น “ชูเนี่ยน พวกเราต่างก็เป็นครอบครัว เดียวกัน เธอว่า………ไม่ต้อง
“จริงด้วย ก็แค่กินข้าวเอง? ทำอย่างกับว่าเป็นห้องน้ำบ้านตัว เองเลยไม่ยอมให้คนอื่นนั่งด้วยเหรอ?” โม่ลี่ก็พูดช่วยอีกคน
ห้าวหนานแง้มปาก “แล้ว คุณผู้หญิงท่านนี้ชอบไปนั่งกินข้าว ในห้องน้ำบ้านคนอื่นเหรอ?”
“อี๋!” หลินซูเนี่ยนอดไม่ไหว ทำไมเธอไม่รู้ว่าเขาไปต่อปากต่อ คําเก่งแบบนี้ตอนไหน?
โม่ลี่ทั้งโมโหทั้งแค้น จนหน้าแดงขึ้น หล่อนแทบไม่รู้ว่าจะพูดว่ากลับไปยังไง ได้โมโหจนตาแทบถลนออกมา “ซี! ไม่กินก็ไม่ กิน ฉันก็ไม่อยากแย่งกับคุณหรอก! จะได้ไม่โดนคนอื่นว่าฉันยุ่ง กับคนไม่สมประกอบ!”
พูดเสร็จ ก็เหมือนมีเสียงฟ้าผ่า
“หวานหยู ไปกันเถอะ!” โม่ลีลากแขนหล่อนทันที แต่ตัวของ หลินหว่านหยูไม่ขยับเลย เหมือนตีตะปูทับไว้ ดึงยังไงก็ไม่ขยับ
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้โม่ถึงได้รู้ว่ามันมี บางอย่างผิดปกติ “ทำไมพวกเธอไม่ยอมไป หรือว่ายังจะอยู่ที่นี่ ฟังค่าแดกดันเหรอ?”
ผู้จัดการก็เหงื่อแตกทันที สีหน้าของหลินหว่านหยูนิ่งไป แทบ จะไม่กล้าหันไปมองหน้าของห้าวหนานเลย มือของเจียงเจ๋อเอง ค่อยๆ ดึงกลับ หล่อนเองก็รู้สึกเคว้งทันที!
“หวานหยู เธอเป็นอะไรไป? ” โมเริ่มพูดเสียงอ่อน
“อย่ามาแตะตัวฉัน!” หว่านหยูสะบัดมือหล่อนออก และใน ตอนที่หล่อนดูงุนงง หลินหว่านหยูกยกมือขึ้นมา ฟาดลงไปที่แก้ม ของเธออย่างแรก!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ