ภรรยารักแรกของประธานลี่

บทที่ 8 คําเตือน



บทที่ 8 คําเตือน

“หลินซูเนี่ยน!” เจียงเจ๋อยื่นมือไปเพื่อจะจับตัวเธอ สายตาก็มี ความน่ากลัว “ถ้าหากว่า……

“ปล่อยฉัน!” เธอสะบัดมือเขาออก แต่แรงของเขานั้นเธอไม่

สามารถจะดิ้นหลุดได้

“หลินชูเนี่ยน ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย พวกเราสามารถเริ่ม ต้นใหม่ในหลายๆ เรื่องได้ ฉันไม่ต้องการให้เธอเกลียดหวานหย พี่สาวเธอก็แค่รักฉันมากก็เท่านั้น”

ใบหน้าของหลินซูเนี่ยนตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์โมโห และ กดเสียงพูดขึ้น “ฉันรู้ว่าพี่รักกัน แต่ว่าไม่ต้องคอยเตือนฉันบ่อย ก็ได้ มันไม่ช่วยอะไร และมันไม่ช่วยให้ฉันยอมยกโทษให้ด้วย!

ความรัก คนที่ไม่ถูกรักคือคนที่สาม แต่สำหรับเธอนั้น กลับ

เป็นหนามยอกอกของ หลินหวานหยูตลอดกาล

“พวกเธอทำอะไรกัน!” หลินเทียนพูดด้วยน้ำเสียงเดือด สายตาที่ดุดันจ้องไปที่เขารวมไปถึงเธอด้วย

เหมือนทุกอย่างจะตาลปัตร เจียงเจือปล่อยเธอทันที ในใจก็ รู้สึกกระวนกระวาย เขาเองไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพียงแต่ไม่ชอบที่ หลินซูเนี่ยนทำเย็นชาใส่เขา

“ซูเนี่ยน แกก็แต่งงานกับห้าวหนานแล้ว ตอนนี้คิดจะทำอะไรอีก!”
หลินซูเนี่ยนกัดฟันด้วยความโกรธ ในใจก็พูดไม่ออกว่ารู้สึก ยังไง สถานการณ์ในตอนนี้ ดูก็รู้ว่าเขาเป็นคนจับมือเธอ แต่ผู้ เป็นพ่อแท้ๆ กลับถามเธอว่าคิดจะทำอะไร? เขาคิดว่าเธอจะทำ อะไร ทิ้งเจียงเจ๋อแล้วไปแต่งงานกับห้าวหนาน แล้วสุดท้ายก็ กลับมารื้อฟื้นความสัมพันธ์งั้นเหรอ?

“พูดสิ!”

“ไม่มีอะไรต้องพูด ท่านเคยพูดไว้ว่าสิ่งที่เห็นคือความจริง ท่านเห็นว่ามันเป็นยังไง ก็เป็นอย่างนั้นแหละ” เธอพูดขึ้นโดยไม่ สนใจว่าเขาโกรธจัดแค่ไหน พร้อมกับสบถ

เขาหันไปจ้องเจียงเจ๋อ จนรู้สึกหวั่น ” คุณลุง ผมแค่เดินมาเจอ เธอพอดี ก็เลยทักทายกันก็เท่านั้น”

“ดูแล้วพี่เขยคงจะมีหลายอย่างที่ต้องคุยกับท่าน หนูพึ่งนึกขึ้น

ได้ว่า ห้าวหนานบอกให้หนูไปปอกแอปเปิลให้ หนูขอตัวนะ!

พอพูดเสร็จ เธอก็ไม่ลังเลเลย แล้วหายไปจากสองคนนั้นทันที

ภายในห้องรับแขก ห้าวหนานนั่งอยู่บนรถเข็น พลางวางโน๊ ตบุ๊คไว้ที่ตัก แล้วเขาก็ใช้นิ้วเรียวยาวของเขาพิมบนแป้น และ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เขาเลย

หลินซูเนี่ยนกัดปากแน่น พลันฉีกยิ้มออกมา แล้วพูดขึ้น “ ห้าวหนาน”

เขาหยุดพิมพ์ทันที แล้วปิดหน้าโน๊ตบุ๊คลง “คุณหลินพูดอะไร บ้าง? ”
หลินซูเนี่ยน ชูแขนขึ้น กำไลที่ข้อมือเธอก็เตะตาทันที “เอาอันนี้ ให้ฉัน

ห้าวหนานก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมพยักหน้า พลาง ยกมือขึ้นเรียกเธอ เธอไม่เข้าใจก็เลยเดินเข้าไปหาเขา เขา ออกแรง แล้วดึงเธอเข้ามากอดไว้ และนั่งลงบนตักเขาทันที

“ไม่! ไม่ได้!” เธอพยายามกระโดดออก เพราะกลัวว่าเขาจะ

เจ็บ

เขาขมวดคิ้ว แล้วก็ล้อคตัวเธอให้นั่งลงที่ตักตัวเอง เดิมทีเธอก็ แทบไม่กล้าขยับ เพียงแค่ต้องการใช้เท้าไว้ที่พื้น เพื่อไม่ให้ เขาต้องเหนื่อยมาก

จากนั้นก็มีเสียงกระซิบถามขึ้นที่ข้างหู “เกิดอะไรขึ้น?

“ฉัน…….. เธอแอบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วก็พยายามเดาว่า สีหน้าตัวเองมันแสดงออกมาชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ “ฉันไม่ เป็นไร”

“บอกความจริงมา!” มือเขาที่จับเอวเธออยู่ก็ยิ่งแน่นขึ้น

“ไม่มีอะไร เพียงแค่ต้องมาฟังเรื่องราวอีกครั้งเท่านั้น” เธอยิ้ม ออกมาอย่างเศร้า

ห้าวหนานเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตากับเธอ ตอนนั้น ราวกับว่า ชีวิตร่อนเร่ของเธอได้พบกับที่พึ่ง เธอหยุดสบตาเขา และหลบ สายตาทันที

“ขอโทษ”
“ทําไม?”

ทำไม? เธอถึงโดนถามจนไปไม่เป็น จากนั้นก็มีคนที่คุ้นเคย เดินเข้ามา เธอตกใจจนลุกออกจากตักเขาทันที แล้วไปนั่งที่ โซฟาด้านข้างแทน

ห้าวหนานก็ไม่ได้ถามเธออีก แล้วหันไปมองหลินหวานหย ด้วยสีหน้าเย็นชา เหมือนว่าเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว หลินหว่าน หยูเดินถือจานผลไม้เข้ามา พลางเห็นหัวไหล่ขาวๆ ของหล่อน ตอนที่หล่อนวางจานผลไม้ลง เนื้อหน้าอกของหล่อนก็โผล่ให้เห็น เหมือนกัน

หลินซูเนี่ยนขมวดคิ้วแน่น ดูแล้ว หล่อนน่าจะต้องการจับปลา สองมืออย่างงั้นเหรอ? อย่างนั้นหล่อนคงคิดว่าตัวเองสวยจริง!

“ห้าวหนาน กินผลไม้” หล่อนทำเสียงอ่อนโยน

“ไม่เป็นไร” เขาพูดด้วยเสียงเย็นชา พลางก้มหน้าแล้วหยิบ

เอาโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงานต่อให้เสร็จ

หลินซูเนี่ยนยิ้มร่าทันที พลางพูดขึ้น “ท่านพี่ เมื่อฉันมองเห็น เจียงเจ๋อ เหมือนกับว่ามองหาที่อยู่

และเป็นอย่างที่คิด หล่อนหันมองซ้ายขวา เพราะเมื่อกี้หล่อน อยู่ในห้องครัว เลยไม่ทันสังเกตว่าเขามาถึงแล้วหรือยัง

“เธอโกหกฉัน!?” พอหล่อนมองไม่เห็นใคร ก็คิดว่าตัวเองถูก หลอก

หลินชูเนี่ยนเลยหยักไหล่ไปมา “เมื่อกี้ยังเห็นที่ชั้นสองอยู่เลยแล้วยังดึงฉัน

คำของเธอนั้นจงใจยั่วยหล่อนให้โมโห สีหน้าหล่อน เปลี่ยนไปทันที จากนั้นเดินเข้ามาใกล้เธอแล้วกระซิบถามแกพูดอะไรกับเขา

ให้เคา”

“หลินซูเนี่ยน อายบ้างเหรอแกแต่งงานกับอื่นไป แล้ว ทำไมยังจะมายั่วยวนเจียงเจ๋อ! ” หล่อนตกหลุมพรางเธอ จนได้ น้ำเสียงไม่พอใจมาก

พอดี เจียงเจ๋อพาหลินเทียนเดินมา แล้วก็ได้ยินประโยคนี้ พอดี

หนานกำลังพิมงานก็ยังโดยสายตาลึกลับ

“หวานหยู! ” เจียงเจ๋อรีบเดินเข้าจับมือหล่อนทันที เธอ

พูดอะไร น้องเธอไม่ทำอะไร

หล่อนเขาออกทันที หน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย แล้วปกป้องมันทำไมเจียงเจ๋อ

กำลังจะเกิดเรื่องขึ้น หลินชูเนี่ยนไม่อยากไปร่วมด้วย กลับ มาครั้งนี้ก็บทสรุปแล้ว เธอไม่อยากอยู่นาน แล้วจับเข็นเขาไว้ คุณพ่อ พวกเรากลับก่อนนะ

รอหยูเห็นสภาพเธอ นึกว่าเธอไม่มั่นใจ เลยต้องการจะเพิ่มเจียงเจ๋อจึงเข้ามาดึงหล่อนไว้ “หวานหย

หลินซูเนี่ยนทนไม่ไหว ก็เลยพยายามสะบัดมือออก หลินหว่าน หยูก็ยิ่งโกรธมาก และคิดไม่ถึงว่า หล่อนยังไม่ทันจะได้ แตะต้อง หลินซูเนี่ยนเลย ก็มีอีกมือมาจับข้อมือเธอเอาไว้แล้ว

ห้าวหนานทำสีหน้าจริงจัง “ฉันขอเตือน อย่าแตะต้องเธอ!

“โอ๊ย! คุณพ่อ!” เหมือนกับว่าหล่อนโดนสายตาเยือกเย็นจ้อง จนตกใจร้องเสียงหลงพลันถอยออกมา หลินเทียนเห็นห้าว หนานไม่พอใจ เดิมทีก็ไม่กล้าพูดอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่ยืนอยู่ ข้างๆ

“คุณหลิน ที่ผมมากับหลินซูเนี่ยนก็เพราะว่าเคารพต่อท่านที่ เป็นผู้อาวุโส แต่ถ้าหากว่าท่านทำอะไรไม่สมกับอายุ หรือคิดจะ ทำอะไรละก็ งั้นก็อย่ามาคิดเพ้อฝัน

ประโยคนี้ดังอยู่ในใจของเขาทันที เหมือนกับโดนสาดด้วยน้ำ เย็น ที่เย็นตั้งแต่หัวจรดเท้า

เขาหันไปมองสองคนนั้นที่เดินออกไป หลินหว่านหยูถึง สามารถพูดขึ้นเสียงแข็ง คุณพ่อ หลินชูเนี่ยนได้โยนความผิดที่ โดนรังแกมาให้พวกเรา ทำไมท่านถึงไม่โกรธอะไรเลยล่ะ?”

“หวานหยู เธออย่าเอาแต่ใจสิ” เจียงเจ๋อพูดปลอบหล่อน หล่อนจึงหันหน้ากลับมา พอเห็นหน้าเขาหล่อนก็โมโหขึ้นมาอีก ครั้ง “ทำไมคุณถึงไม่มีประโยชน์ขนาดนี้! ดีที่ฉันคิดเผื่อบริษัทของคุณ แต่คิดไม่ถึงว่าท่านจะไม่มีประโยชน์แบบนี้!

คำพูดที่ไม่ได้ผ่านการไตร่ตรอง ทำให้หล่อนทันสังเกตว่า สีหน้าของเขานั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ