การโต้กลับอันงดงามของสาวชาวบ้าน

ตอนที่ 3 ใครจะทำมิดีมิร้ายใครกันแน่



ตอนที่ 3 ใครจะทำมิดีมิร้ายใครกันแน่

เด็กหนุ่มไม่ยอมถือกระเป๋าสัมภาระใดๆ อย่างสง่าผ่าเผย นำขึ้นไปบนเกวียนเทียมวัวที่จ้างมา เขาหาที่ที่สบายและทิ้ง ตัวลงนั่งพร้อมปิดตาลง

จูจูมองไปข้างทางเห็นภูเขา ป่า ต้นไม้ ใบหญ้าแกว่งไกว ไปมาและค่อยๆ เคลื่อนไปด้านหลัง แต่กลับไม่มีความรู้สึก อาลัยอาวรณ์ นางกลับคิดขึ้นมาได้ถึงปัญหาข้อหนึ่ง เด็กหนุ่ม เคยพูดว่าการที่จะสามารถไปกินอยู่เปล่าๆ ที่เขาญาณ ศักดิ์สิทธิ์ได้จะต้องผ่านการทดสอบรากวิญญาณก่อน

จนถึงตอนที่โดนลากพามาด้วยนั้นถึงเพิ่งจะนึกได้ว่า นางไม่รู้ว่ารากวิญญาณคืออะไร และยิ่งไม่รู้เลยว่าทำอย่างไร ถึงจะผ่านการทดสอบ ถ้าเกิดว่าไม่ผ่านการทดสอบขึ้นมาล่ะ? จะทํายังไง?!

แต่เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ อยากสนใจนาง นางจึงไม่กล้าไปรบกวนเขา ทำได้เพียงแอบ จ้องมองเขาอย่างเงียบๆ หลายครั้ง

นางจ้องไปเรื่อยๆ จนถึงตอนเที่ยง จูจูจ้องจนตาจะกลาย เป็นตาไก่ชนเสียแล้ว ทันใดนั้นเด็กหนุ่มก็ลืมตาขึ้นมา พูดอย่างหยิ่งยโสว่า “จ้องมาตั้งแต่เช้า ต้องพอหรือยังล่ะ? อยาก มองก็มองตรงๆ สิ ทุกคนก็ชอบความสวยงามกันทั้งนั้น ถึงเจ้า จะจ้องข้านานแค่ไหน ก็ไม่ทำให้เนื้อของข้าน้อยลงสักชิ้น หรอก”

เจ้าคนหลงตัวเอง! จูจูแอบบ่นเขาอยู่ในใจ แต่ใบหน้าก็ ฉีกยิ้มอย่างประจบ : “ข้า ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า

“อือ?”

“รากวิญญาณอะไรนั้นคืออะไรหรือ?”

“บอกแล้วว่าเจ้าเป็นหมูยังไม่ยอมรับอีก ตอนนี้เพิ่งจะมา รู้จักถาม ทำไมไม่ถามตั้งแต่แรกล่ะ?” เด็กหนุ่มไม่ทิ้งโอกาสที่ จะได้เยาะเย้ยนางแม้แต่ครั้งเดียว

จูจูโกรธแต่ไม่กล้าแสดงออกมา รถออกเดินทางมาได้ครึ่ง วันแล้ว ถ้าหากว่าเด็กหนุ่มโยนนางลงจากรถ นางคงหาทาง กลับไม่ได้แน่ๆ ณ เนินเขาแห้งแล้งที่ห่างไกลเช่นนี้หากโชค ร้ายเจอสัตว์ป่า พวกมันคงไม่ปล่อยนางเพียงเพราะนางไม่มี สิ่งของมีค่าหรือหน้าตาธรรมดาเป็นแน่

“วางใจเถอะ! มีข้าอยู่ทั้งคน เจ้าต้องอยู่ที่เขาญาณ ศักดิ์สิทธิ์ได้แน่” เด็กหนุ่มบิดขี้เกียจ และเริ่มหยิบเสบียงอาหาร ในตระกร้าไม้ไผ่ของนางมากัดกินคำโต ไม่มีท่าทีจะตอบ คําถามนางต่อแม้แต่น้อย

จูจูไม่รู้หรอกว่าท่านยายของนางให้ยาจีกับเขาถึงสามเม็ดค่าตอบแทนเพื่อให้เขายอมตกลงดูแลนาง

เด็กหนุ่มรู้ว่ายาชนิดในสำนักบำเพ็ญตบะใหญ่เป็น ยาวิเศษที่เฉพาะเหล่าศิษย์หัวกะทิเท่านั้นและปริมาณเป็นผู้บำเพ็ญเพียร ฝีมือคงไม่ธรรมดาอีกด้วย

เด็กเคยได้เห็นการทำเพื่อผลประโยชน์มากมายตั้งความแต่แฝงไปด้วยความระมัดระวังก็คงไม่ทางได้รับสายตาเช่นจากบำเพ็ญหรอก แม้ว่า ทั้งสองความสัมพันธ์ฉันท์ยายหลานกันตามเถอะ

นั้นจึงสงสัยมาโดยอยู่ จะเป็นอัจฉริยะมีพรสวรรค์การบำเพ็ญขึ้น พลิกฟ้าเหมือนเขาได้

ถ้าหากว่าเขาทายผิดไป อาศัยความสามารถของเขา เมื่อถึงเขาญาณศักดิ์สิทธิ์ที่จะต้องๆ

จูจูโดนเขารังแกจนชินแล้ว และตอนนี้ก็อยู่บนนอกจากเชื่อฟังเขาแล้วไม่มีทางอื่น ดังนางจึงหยิบเสบียง อาหารแห้งขึ้นมากัดบ้าง

เมื่อจินตนาการว่าสิ่งกัดเข้าไปเป็นเนื้อของเด็กนางอดไม่ได้ที่จะคลื่นไส้ นางรีบพยายามหายใจเข้าลึกๆ ทางปาก เพื่อกดอาการอยากอาเจียนลงไป

ถุงบรรจุน้ำถูกยื่นมาตรงหน้านาง เด็กหนุ่มพูดอย่าง รำคาญว่า “แค่กินปิ้งก็ยังสำลักแบบนี้ ข้าไม่เคยเจอใครโง่ ขนาดเจ้าเลย!”

เจ้าสิโง่! จูจูรับถุงที่บรรจุน้ำมาดื่มเงียบๆ ค่อยๆ ผ่อน คลายลงอย่างไม่รู้ตัว อาการคลื่นไส้ถูกการขัดจังหวะของเด็ก หนุ่มทำให้หายไปเป็นปลิดทิ้ง

ตกเย็นพวกเขาหยุดพักที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง จาก หมู่บ้านไปถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์ต้องเดินขึ้นไป รถไม่สามารถขึ้นไป ได้ เด็กหนุ่มพามาที่โรงเตี้ยมที่มีเพียงหนึ่งเดียวในหมู่บ้าน และไม่รู้ว่าเขานำเงินทองแดงสองพวงใหญ่มาจากไหนยื่นให้ เจ้าของร้านพลางพูดว่า “เอาห้องที่ดีที่สุดให้ข้าห้องนึง

เจ้าของร้านมองไปที่เด็กหนุ่มผู้หน้าตาหล่อเหลาและหันไป มองจูจูหญิงสาวที่มีกลิ่นอายของสาวชนบทข้างกายเขา แต่ก็ ไม่ได้คัดค้านอะไร กวักมือเรียกเสี่ยวเอ้อร์มาพาพวกเขาไปที่ ห้องพัก

หลังจากที่เสี่ยวเอ้อร์ออกไปจากห้องพัก จอดไม่ได้ที่จะ เสนอความคิดเห็น “หญิงชายแตกต่าง พวกเราแยกกันอยู่จะดี กว่าไหม” นางกับเด็กหนุ่มไม่ได้เป็นอะไรกัน จะนอนห้อง เดียวกันได้ยังไงกันล่ะ?!

เด็กหนุ่มพูดอย่างดูถูกว่า “ไม้กระดานอย่างเจ้า จะมีแรงที่ไหนมาทํามิดีมิร้ายข้า

ใครจะทำมิดีมิร้ายเจ้า? ข้ากลัวเจ้าจะทำมิดีมิร้ายข้า

มากกว่า!

จูจู โกรธอยู่ภายในใจ หลังจากนั้นก็พบความจริงที่เจ็บ ปวดว่า ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของนางแล้ว แม้แต่ตัวเองยัง ไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มจะทำอะไรนาง ถึงว่าเจ้าของร้านมองดู พวกเขาสองคนที่บอกว่าจะอยู่ห้องเดียวกันแล้ว กระทั่งท่าทาง อะไรก็ยังไม่มีให้เห็นแม้แต่น้อย

ไม่นานเสี่ยวเอ้อร์ก็นำตั่งไม้เข้ามา ในห้องก็มีเพียงเตียง หนึ่งเตียงตั้งอยู่มุมหนึ่ง จูจูยืนอยู่ฝั่งนึงด้วยจิตใจหดหู นางอยู่ คนเดียวจนชิน ไม่ชินกับการที่มีคนแปลกหน้าอยู่ในห้อง แต่ นางก็ไม่ได้มีเงินทองอะไร ถ้าหากไม่นอนกับเด็กหนุ่มคงต้องไป นอนข้างถนนเป็นแน่

แขนยาวของเด็กหนุ่มยื่นมือมานำตระกร้าไม้ไผ่ที่อยู่บน หลังนางวางลงบนขอบเตียงเล็ก พลางพูดด้วยเสียงฮึดฮัดว่า “เจ้าคิดว่าข้าอยากอยู่กับเจ้าหรือ? ข้ากลัวเจ้าอยู่คนเดียวแล้ว จะฝันร้ายลุกขึ้นมาร้องแหกปากอีก รบกวนคนอื่นแล้วยังจะเพิ่ม ความลำบากให้ข้าอีก ถ้าเจ้ารู้สำนึกบุญคุณแล้ว ก็ไปทำอะไร อร่อยๆ มาให้ข้ากันเป็นการตอบแทนส

จูจูอึ้งไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มจะจำได้ว่านางฝัน ร้ายบ่อยๆ นางก้มหน้าลงพลางคิดอยู่ในหัว ในที่สุดนางก็ ยอมรับเงินหนึ่งที่เขาส่งให้แต่โดยดี และออกไปยืมห้องครัวองโรงเตี๊ยมเพื่อทำอาหารของ

เด็กหนุ่มไม่เพียงแค่ปากเสียแถมยังเป็นคนเลือกกิน ตั้งหนึ่งมาเป็นภาระนาง วันเขาต้องมากินอาหารที่นาง ทำทั้งสามมื้อ โดยได้รับเชิญ และยังสัตว์ที่ล่าได้โยน ให้นางจัดการอยู่บ่อยๆ

ภายใต้การกดขี่เผด็จการของเขาจูจูเลิกที่ขัดขืนนาน แล้ว นางมักปลอบโยนตัวเองๆ แต่มีอาหารกิน แถมยังนำเนื้อที่เหลือไปกับ สิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย แค่นี้เลวแล้ว

แน่นอนว่าถ้าเด็กหนุ่มเลิกด่านางโง่และเลิกบิดนาง บ้าง ก็จะกว่านี้

คืนนั้นผ่านไปเดินทาง ปกติแล้วจูจูจะชอบออกมาหาสมุนไพรป่า การ เดินป่าไม่ได้ทำให้ลำบากนัก พวกเขาไปตาม ทาง เมื่อหิวก็หาผลไม้ป่ากิน

จูจูดูเหมือนจะความรู้เกี่ยวพืชพรรณมาตั้งแต่เกิด นางรู้จักต้นไม้ใบหญ้าในป่าเป็นอย่างนางจะหาผลไม้รสชาติและไม่เป็นอันตรายอย่างข้อนี้นางนานแล้ว จึงมอบหน้าที่นี้ให้นางอย่างไม่ ลังเล

เดินหยุดไปฟ้าก็เริ่มมืด เด็กหนุ่มหาที่เรียบๆ ข้างลำธารเพื่อหยุดพักค้างคืน จูจูกำลังกังวลว่านางไม่มีแม้กระทั่ง เตียงหรือผ้าห่ม ก็เห็นเด็กหนุ่มขยับนิ้วของตนเอง ในพริบตา บนพื้นที่ว่างเปล่าก็พลันปรากฎกระโจมขึ้นมาหนึ่งหลัง ทำให้ นางอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

เด็กหนุ่มเขกหัวนางหนึ่งที ยิ้มพลางพูดว่า : “เจ้าหมูโง่ แหวนจัดเก็บเจ้าไม่เคยเห็นหรือ? กำไลที่เจ้าสวมอยู่ใส่ของลง ไปได้มากกว่าแหวนของข้าอีก

“แหวนจัดเก็บ? กำไล?” จูจูมองกำไลที่ดูแล้วแสนธรรมดา ที่ท่านยายเหลือไว้ให้อย่างไม่อยากจะเชื่อ

“อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่รู้อะไรเลย? ยายของเจ้าไม่เคยบอก เจ้าเลยเหรอ?” เด็กหนุ่มพูดอย่างหมดแรง

จูจูส่ายหน้าด้วยใบหน้าที่งุนงง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ