บทที่ 13 : ลาก่อน แล้วพบกันใหม่
พูดจบแม่ทัพก็กระโจนนำหน้าเหล่าทหารทั้งหมดมุ่งเข้า สู่สนามรบก่อนใคร วิชาหอกที่ลอกเลียนแบบมาจากเกม ออนไลน์อื่นถูกใช้อย่างชำนาญ สายฟ้าคือสายต่อสู้ระยะ กลางศัตรูที่เข้ามาในรัศมีจะถูกหอกทะลวงและกวาดต้อน พวกเขา การจัดขบวนทัพมีชินเพเป็นผู้สั่งการ ขบวนทัพ แปรเปลี่ยนไปมาเพื่อต้านรับกันอย่างสุดความสามารถ
กลิ่นคาวเลือดและเหม็นไหม้ที่หนาแน่นชวนอึดอัด ซากศพกองพะเนินที่จ่าต้องเหยียบข้ามไป เหล่าทหารยัง คงโรมรันกันอย่างไม่คิดชีวิต เหล่าแม่ทัพก็เผชิญหน้ากัน ในที่สุด ออทัมและดีลักซ์มาหยุดอยู่ตรงหน้าของสายฟ้า ที่อาบชโลมไปด้วยเลือดของศัตรู
สายฟ้าไม่คิดจะพูดคุยอะไรให้เสียเวลา เมื่อเป้าหมาย อยู่ตรงหน้าก็พุ่งเข้าใส่ทันที แต่ไม่ใช่แม่ทัพ คนที่เธอเล็ง ไว้คือโฮสต์ต่างหาก
ร่างในชุดเกราะสีเงินที่ผ่านออทัมไปโจมตีดีลักซ์ทำให้ ชายหนุ่มชะงักไม่ทันได้ขวาง ดีลักซ์ที่แม้จะเตรียมตัวมา อย่างดีก็ยังถูกฟาดจนตกจากหลังม้า เขาลุกขึ้นอย่างรีบ ร้อนหลบการโจมตีหอกที่พุ่งเฉียดหัวเขาแทงทะลุพื้นดิน แตกเป็นหลุมลึก ชายหนุ่มสูดลมหายใจเย็นเข้าปอด หลบ ช้ากว่านี้อีกนิดคงสมองระเบิดตาย
ออทัมเข้ามาสมทบใช้ดาบยาวโจมตีใส่ ปลายหอกที่ ปักพื้นถูกดึงขึ้นเล็กน้อยแล้วตวัดใส่พร้อมกับเศษดิน วิธี การขี้โกง ทําให้ชายหนุ่มชะงักอีกครั้งแล้วถอยหลัง ยกมือป้องกันแวบหนึ่ง รู้ตัวอีกทีแข้งขาหนักๆ ก็ฟาดเข้า ซี่โครงเขาแล้วส่งร่างกระเด็นออกไปไกล ดีลักซ์ร้องเรียก อีกฝ่ายอย่างร้อนรนกัดริมฝีปากแน่นแล้วพุ่งเข้าโจมตี สายฟ้าอย่างหักโหม ทุกกระบวนท่าถูกปัดป้องได้อย่าง ง่ายดายและสวนกลับด้วยการแทงหอกทะลุไหล่ของดีลัก ซ์ แขนซ้ายเป็นอัมพาตใช้การไม่ได้ในทันที โฮสต์สั่นทีม ยกมือกดแผลที่เลือดไหลทะลักไม่หยุดเอาไว้ ดวงตาจ้อง มองแม่ทัพไรดีนเขม็ง
สายฟ้าไม่คิดจะให้โฮสต์ตายเร็ว เธอเดินเข้าไปทุบตีดี ลักซ์เล่นเพื่อเอาคะแนนที่ห่างหายไปนานถึงสองปีกว่า การทรมานหยามเกียรติอย่างจงใจนี้ทําให้ทหารหลายคน ของเซียร์เกลียดชังแม่ทัพไรดีนเข้ากระดูก
“รองแม่ทัพของไจการ์ตายไปคนหนึ่งแล้ว!” เสียงของ ใครไม่รู้ตะโกนมาทำให้คนที่ทรมานคนอื่นเล่นชะงัก หัน ไปมองที่มาของเสียง “รองแม่ทัพของเซียร์คนหนึ่งตาย แล้ว!”
“ตายเร็วกว่าที่คิดไว้ซะอีกนะ” สายฟ้าเลิกคิ้ว ใครจะ ตายก็ไม่มีปัญหาแต่นายจะตายเร็วแบบนี้กันไม่ได้สิวะ ไอ้พวกรองแม่ทัพ เก่งกันมาตั้งนานจะรีบไปเป็นผีรุ่นพี่กัน ทำไมเนี่ย!
เสียงผลัดกันแจ้งตายของเหล่าทหารไม่ได้ทำให้รู้สึก ไขว้เขว สายฟ้ายังคงทุบทั้งโฮสต์และพระเอกของเขาไป ด้วยมองสภาพการโดยรอบไปด้วย จากนั้นก็ขวางหอกไป ปักหัวแม่ทัพอีกคนของฝั่งศัตรูร่วงลงจากหนังม้าไปอย่าง ง่ายดาย
ร่างสูงโปร่งเหยียบขยี้ดีลักซ์อีกครั้ง น้ำเสียงนุ่มที่ฟังคุ้น หูนั่นเอ่ยอย่างมีความสุขมากเกินไปจนคนฟังหงุดหงิด หัวใจ ออทัมที่ถูกทุบจนขาหักกำหมดแน่นอยากจะเข้าไป ช่วยเหลืออดีตองครักษ์ของตนแต่ก็จนปัญญา
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงซะทีนะดีลักซ์ ดูรัมเฮล ฉันรอจน เกือบเบื่อตายแล้วอยู่แล้วกว่าพวกนายจะมาถึงตรงนี้กัน ได้ จ๊ๆ ใช้เวลานานเกิน
ดีลักซ์กัดฟันตอบโต้ “มะ… หมายความว่ายังไง…
“ก็หมายความตามที่พูด วันนี้จะเป็นวันตายของพวก นายทุกคน!” สายฟ้าหัวเราะเสียงชั่วช้าเป็นพิเศษ เธอ ถอดเกราะแขนออกอย่างไม่รีบร้อนเผยให้เห็นรอยสัก ประหลาดที่กำลังเรืองแสง สายฟ้าเหลือบมองออทัมแล้ว ยิ้มเยาะเอ่ยคำพูดที่ขยี้จิตใจของอีกฝ่ายอย่างไร้ปราณี “ไม่ต้องห่วงๆ เมื่อตายแล้วก็จะได้ไปพบกับเฟรย์ไง อ้อใช่ เฟรย์ตายแบบไม่เหลือหัวไว้แล้วนี่นะพวกนายคงจำหน้า กันไม่ได้แล้ว จะช่วยให้สมหวังเป็นไง? อยากจะเห็นหน้า เฟรย์เป็นครั้งสุดท้ายไหมล่ะ?”
“แก… เป็นคนฆ่าเฟรย์!?” ออทัมคำรามในลำคออย่าง เดือดดาล พยายามลุกขึ้นยืนโดยใช้ดาบของตนเป็นไม้ ค้าแต่ก็ไร้ความหมาย เขายืนขึ้นไม่ได้
“เอ~ ก็ไม่รู้สินะ” แม่ทัพไรดีนผู้เก่งกาจไหวไหล่ รอยสัก ที่เรืองแสงนั่นระเหยขึ้นฟ้าปรากฏเป็นวงเวทบนหนึ่งที่ ไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อนบนแผ่นดินนี้ มันกำลังดูดซับ พลังสีดำจากทั่วสนามรบเพื่อก่อร่างเป็นวงเวทที่สมบูรณ์
มหาเวทจากปราสาทกระจกนั่นเอง
“เมื่อมหาเวททํางานจนหมดพวกนายทุกคนจะต้องตาย ขอย้ำอีกครั้ง ตายทุกคน” เสียงของสายฟ้าดังก้องกังวาล ไปทั่วอย่างไร้สาเหตุ การต่อสู้หยุดชะงักลงหันมามอง แม่ทัพเป็นตาเดียว
“ทําไม? ทําแบบนี้ทำไมกัน!?” แม่ทัพคนหนึ่งถามอย่าง ร้อนรน ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ ถึงได้คิดจะกำจัดทุกคนไป ได้ “ไม่พอใจอะไรงั้นเหรอท่านไรดีน!”
“ไม่พอใจ? ก็ไม่นะ พอใจมากต่างหาก แผนทุกอย่างที่ วางไว้ก็เพื่อจะทำอย่างนี้ตั้งแต่แรกแล้วนี่นา” เสียงตอบ ซื่อๆ ของสายฟ้าทำให้หลายคนสมองว่างเปล่าคิดอะไร ไม่ออกฉับพลัน
นี่มัน… หมายความว่าไง…
มีเพียงชินเพเท่านั้นที่รู้ เพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่สมัคร เป็นพวกวายร้ายสายฟ้ามาตั้งแต่ต้นแล้ว เขาเอ่ยอธิบาย การทำงานของวงเวทอย่างใจเย็นในฐานะจอมเวท อัจฉริยะ
“เวทนี้คือเวทผสานสี่ธาตุโดยมีดินและไฟเป็นแกนหลัก แกนกลางจะบีบอัดพลังเวทให้เล็กลงเมื่อถึงขีดจำกัดแล้ว ระเบิดออก แรงระเบิดน่าจะกวาดทำลายทุกสิ่งในรัศมี สี่สิบกิโลเมตรจนสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นดินหรือผืนฟ้าก็จะ กลายเป็นมลพิษ… ไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีสิ่งที่มนุษย์จะ เอาไปใช้ได้อีก พวกตาแก่ในราชสำนักคงหัวร้อนตาย”
“ทะ… ทําไมทําแบบนี้ ส่งพวกเรามาเพื่อตายแค่นั่นเห รอ!” นายทหารของไจการ์พูดอย่างสิ้นหวัง เมื่อเห็นแม่ทัพ และเสนาธิการของตนเองทำร้ายกันอย่างหน้าตาเฉย ความเชื่อใจและศรัทธาก่อนเดินทัพแตกสลายไม่มีชิ้นดี หัวใจเจ็บปวดอย่างไม่มีเหตุผล
ทุกอย่างพลิกผันรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน
“ก็มหาเวทบทนี้ใช้ความสิ้นหวังจำนวนมากเป็นพลังยังไง ล่ะ จะมีสถานที่ไหนที่คนสิ้นหวังได้มากที่สุดเท่าสนามรบ กัน อย่าโง่กันสิ”
“ทั้งสงคราม ทั้งการผลักดันพวกเรามาทีนี่ก็เพื่อการนี้?” ดีลักซ์ถามเสียงขุ่น เขารู้สึกเหมือนเนื้อเรื่องส่วนนี้จะไม่มี ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกัน
“เพื่อกวาดล้างให้สิ้นซากทั้งหมด แค่เป้าหมายฉันไม่ ใหญ่หรอกนะ แค่ทายาทที่มีชื่อเสียงและความสามารถ ของทั้งสองประเทศและพันธมิตรเท่านั้น เมื่อพวกนาย ตายโลกจะปราศจากสงครามไปอีกหลายร้อยปีเลย เป็น ไงแผนจบสงครามที่ยาวนานมันดีใช่ไหม? การเสียสละ ของพวกนายไม่สูญเปล่าด้วยนะ” สายฟ้าหัวเราะขบขัน แต่คำพูดนั่นเป็นดั่งสายฟ้าที่ฟาดลงกลางใจผู้คน ทั้งสิ้น หวังและจำนนไม่คิดขัดขืน
ชินเพเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆ จับมือของสายฟ้าที่เย็น เฉียบไว้แน่น การร่ายเวทถึงจะมีความสิ้นหวังเป็นพลัง แต่ตัวผู้ร่ายเองก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วย เขากำลังแบ่ง พลังของตนเองไปช่วยเหลืออยู่ แต่สายฟ้าผู้ต้องอยู่เฉยๆ กลับไม่เจียมตัว เอ่ยปากท้าท้ายคนอีกแล้ว
“เอ๊าๆ เวทจะทำงานในอีกหนึ่งนาทีนะ อยากจะหยุด มหาเวทก็มีแต่ต้องฆ่าคนร่ายเวทเท่านั้น มาสิ ฉันอยู่ตรง นี้แล้ว… ลั่ก!” พูดยังไม่ทันจบก็มีดาบเสียบทะลุกลางอก สายฟ้าขมวดคิ้ว ความเจ็บตีขึ้นมาแต่แล้วก็หายไปเพราะ ระบบวายร้ายตัดสัมผัสความเจ็บปวดออก
สายฟ้ามองไปยังเจ้าของดาบ ออทัมใช้แรงเฮือกสุดท้าย ขว้างดาบออกไปในจังหวะที่สายฟ้าเผลอไผลร่างสูงใหญ่ล้มหน้าทิ่มพื้นแต่ก็ไม่ยอมแพ้สิ้นหวัง ทั้งยัง เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่เข้มข้น
“แกฆ่าเฟรย์…
“เปล่า นายต่างหากที่ฆ่าเฟรย์” สายฟ้ายกมือขึ้นถอด หน้ากากช้าๆ น้าเสียงตอบกลับขาดห้วง “ยินดีด้วยนะท่า นออทัม… ได้เป็นคนฆ่าเฟรย์กับมือ คงมีความสุขน่าดู”
“ฟะ… เฟรย์!!” เหล่าเพื่อนร่วมชั้นทั้งหลายร้องอย่าง ตกใจเมื่อเห็นใบหน้าใต้หน้ากากของแม่ทัพไรดีนของศัตรู ที่แท้ก็… คือเฟรย์ มาริสฟิลล์
พวกเขาไม่เข้าใจ ทำไม? ทำไมมันถึงได้กันเป็นอย่างนี้
ไปได้!
อยากจะซาบซึ้งที่ได้เจอ อยากจะโกรธแค้นที่ถูกหลอก แต่ทั้งหมดนั่นกลับแสดงออกมาไม่ได้แม้เศษเสี้ยว มีแต่ เพียงความสับสนไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะกับใครก็พูดอะไรไม่ ออกในสถานการณ์ที่กดดันและบีบคั้นอย่างนี้
ตกใจเกินไป สมองขาวโพลนไปหมด
“ฮันนี่! รักษาตัวก่อนเถอะ อย่าเพิ่งพูด” ชินเพพูดขณะ เข้ามาใกล้หมายจะดึงดาบออกแล้วรักษา แต่สายฟ้าส่ายหน้า ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น
“ไม่ต้องหรอก ดาบ แทงโดนเส้นเลือดในหัวใจพอดี รักษาตอนนี้ไม่ทันแล้ว”
“แต่ยังพูดได้ฉอดๆ ไม่ใช่เหรอ”
“เอื้อะ!” กระอักเลือดจริงให้ดูก็ได้ เลือดไหลออกจาก ปากเหมือนก๊อกรั่ว ต่อให้ปิดปากไว้ก็ยังมีเลือดไหลออก มา ชินเพมีสีหน้าสิ้นหวังระทมทุกข์เขาจับมือสายฟ้านิ่งๆ ไม่ขยับ
ออทัมมีสีหน้ามืดมนสิ้นหวังยิ่งกว่าใครๆ ถึงจะไม่เข้าใจ จุดประสงค์ที่เฟรย์ทำแบบนี้ก็ตาม แต่ที่เขารู้แน่ชัดอยู่ใน ใจก็คือ… เฟรย์กำลังจะตายเพราะเขา
ในเวลานี้ออทัมไม่สนใจใครนอกจากเฟรย์ ความสิ้นหวัง ของเขากระตุ้นวงเวทให้ทำงานเร็วขึ้นไปอีก เขาดิ้นรน กระเสือกกระสนจะเข้าไปหาสายฟ้าที่ยืนอย่างสงบแม้จะ มาดับปักคาอกจนมิดด้ามก็ตาม เธอไม่ยอมล้มหรือซาน เซ ยืนอย่างมั่นคงที่สุด
สายฟ้าไม่มีแรงจะหายใจแล้ว แต่มหาเวทก็ใกล้จะ สมบูรณ์แล้วเช่นกัน เธอยกมือขึ้นโอบกอดชินเพเป็นครั้ง สุดท้าย น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปนั้นทั้งหวานทั้งอ่อนโยน เหมือนจะปลอบประโลมจิตใจคนในอ้อมแขนที่กําลังจะจากลากันชั่วนิรันดร์
“ลาก่อนซิน”
“ลาก่อน แล้วพบกันเฟรย์”
สายฟ้ายิ้มงดงามมาก ชินเพเองก็เช่นกัน จากนั้นพวก เขาก็หันไปมองหน้าดีลักซ์ที่ตอนนี้หวาดกลัวสิ้นหวังจน หน้าซีดไปหมดแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้หนีไปอย่างขี้ขลาด ไม่ สิ ไม่มีใครหนีสักคน แต่ถึงหนีก็ไม่ทันหรอก ระยะระเบิด มันไกลเกินไป
“ดูเหมือนจะไม่มีใครหนีแล้ว เอาเถอะ อย่าคิดมาก อย่าง ที่บอกไปแล้วนะทหารกองกำลังของข้า ตายก่อนเป็นผีรุ่น พี่ ตายหลังเป็นผีรุ่นน้อง ตายพร้อมกันเป็นสหายผี พวกที่ ตายก่อนก็เป็นรุ่นพี่ไปแล้ว ตอนนี้เรามาร่วมเป็นสหายผี กันเถอะ!”
“ไม่…!!”
ตูม!!!
ไม่มีใครได้สิทธิ์ในการปฏิเสธมหาเวทระเบิดออกทันทีที่ สายฟ้าพูดจบ กวาดทำลายทุกชีวิตในรัศมีสี่สิบกิโลเมตร ให้กลายเป็นผุยผงไม่เหลืออะไรเลย….
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ