บทที่ 12 : สงครามสุดท้าย
ชินเพตะคอกอย่างอดไม่ได้ ตอนนี้พวกเขากำลังเดินอยู่ บนบันไดกระจกแสนบอบบาง และสายฟ้าผู้ซุกซนก็เดิน ไปขย่มเขย่าบันไดกระจกไปด้วยแรงอันถกเถื่อนอย่าง สนุกสนาน ไม่รู้สึกว่ามันเสี่ยงตายอะไร แต่คนที่มาด้วย หัวใจจะวายตายอยู่แล้ว
ห่วงชีวิตตัวเองหน่อยสิโว้ยฮันนี่!
สายฟ้าไม่ห่วงอะไรอยู่แล้วเพราะรู้ว่าบันไดกระจกนี่ดู บอบบางแต่มันแข็งแกร่งมากขนาดที่จอมเวทระดับห้า โจมตีให้พังไม่ได้ ที่เธอขย่มเขย่าจนสั่นสะเทือนนี่ก็เพื่อ แกล้งชินเพที่ตามมาด้วยก็เท่านั้นเอง
พวกเขาเดินทางมาที่ปราสาทกระจกเป็นพื้นที่พิเศษ หนึ่งในภารกิจลับที่โฮสต์สามารถบรรลุเงื่อนไขเพื่อมา รับตรามหาเวทไปใช้ในสงครามได้ เพิ่มเปอร์เซ็นต์ใน การชนะสงครามเป็นหนึ่งร้อยเต็ม สายฟ้าที่ตัดทางบรรลุ เงื่อนไขของดีลักซ์ไปแล้วก็ใช้เวลาช่วงครึ่งปีที่ว่างอยู่ ออกเก็บภารกิจลับที่มีประโยชน์บ้าง ซึ่งผลออกมาก็เป็นที่ น่าพอใจ
หลังจากจัดการผู้เฝ้าปราสาทกระจกแล้วฉกเอาตำรา มหาเวทมาแล้วสายฟ้าและชินเพก็กลับกองทัพ ตอนนี้ ระบบวายร้ายแจ้งเตือนมาว่ากองทัพของเซียร์เริ่มบุก โจมตีเมื่อในการคุ้มกันของกองทัพไรดีนแล้ว นำทีมบุกโดยออทัม เฟลกังฟอส ถ้าหากสายฟ้าไม่รีบกลับไป บัญชาการเมืองจะแตก
ซึ่ง… เราก็ต้องยอมให้แตกไปเพื่อให้พวกเขาหยามใจ เล่น
แน่นอนว่าคำบัญชานี้ของแม่ทัพไรดีนทำให้มีหลายคน ไม่พอใจ แต่ด้วยฝีมือระดับนี้คาดว่าต้องมีแผนการในใจ อย่างแน่นอนจึงปล่อยให้เมืองแตก ในขณะที่ นเพค่อน ข้างเป็นกังวลเพราะกลัวว่าสายฟ้าจะใจอ่อนยอมอ่อนข้อ ให้เพราะเห็นอีกฝ่ายเป็นอดีตคนเคยรัก
“จะปล่อยให้พวกเขาตีแตกมาจริงๆ เหรอ” บันเพถาม อย่างไม่ไว้วางใจ มือโอบแม่ทัพสาวเข้ามาใกล้ตัว ใบหน้า หน้าของตนกับใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างคลอเคลีย ซึ่ง สายฟ้าไม่ขัดขืนสักนิด ไม่แม้แต่จะเหลือบมอง ดวงตาสี เขียวสวยจ้องจอข่าวสารของระบบอยู่
“ปล่อยให้พวกเขาตีแตกไป เมืองที่ตีได้ก็ไม่ได้สำคัญ อะไรนักหรอก ให้พวกนั้นเหลิงแล้วละความระมัดระวังลง เราอาจจะได้เปรียบขึ้นมา” น้ำเสียงนุ่มเอ่ยเป็นการเป็น งาน
“กองทัพของเราใหญ่และเกรียงไกร ไม่จำเป็นต้องให้ ศัตรูประมาทก็ได้นี่”
“ถึงจะกองทัพใหญ่แต่เราก็ไม่ควรประมาทเอง ตอนนี้ ต้องวางกองกำลังให้กระจายไปตามจุดเพื่อดักซุ่มโจมตี ลดทอนกำลังเสริม เปิดช่องให้โจมตีลึกเข้ามาแล้วให้อีก ทัพโจมตีตลบหลัง ทั้งนี้อาจจะต้องมีแผนเผื่อเอาไว้อีก หากมีคนทรยศขายแผนการทหารออกไปด้วย จำเป็น ต้องวางกำลังสำรองไว้ในพื้นที่ที่สามารถมองเห็นพลุ สัญญาณได้
“อืม ต้องวางแผนเผื่อสักสองสามแผนเพื่อรองรับการ พลิกแพลงของสถานการณ์ รองแม่ทัพแต่ละคนมีความ สามารถในการโจมตีแข็งแกร่งและความคุมทัพได้ในส ถาพพื้นที่แตกต่างกัน ที่ที่เป็นหุบเขา ในป่าและที่ราบอาจ จะต้องจัดสรรผู้คนกันสักหน่อย”
สายฟ้าและชินเพพูดเรื่องการวางกองกำลังกันอย่าง เคร่งขรึมลืมเรื่องพระเอกตีเมืองแตกไปจากสมอง เรียบร้อย และท่าทางของทั้งคู่ก็ยังกอดก่ายกันอยู่ไม่ได้ รู้สึกผิดแปลกอะไร ข้ารับใช้ที่อยู่ในห้องก็ล้วนแต่ก้มหน้า ก้มตาทำไม่รู้ไม่ชี้ แม้ว่าจะปวดฟันแค่ไหนกับสภาพของ ทั้งคู่ที่คนหนึ่งทำท่าองอาจดุจราชาส่วนอีกคนทำเหมือน สาวงามในอ้อมอกที่เกาะข้างกายไม่ห่าง
สายฟ้าเป็นราชา ชินเพเป็นสนม มองจนตาบอดก็ยังเห็น เป็นอย่างนี้
คนรับใช้คนสนิทในกระโจมแม่ทัพล้วนรู้ดีว่าแม่ทัพไรดีน เป็นผู้หญิง หน้าตาก็หล่อมากถึงจะไม่เท่ากับเสนาธิการก็ตาม การต้องมาเห็นท่าทางมาดแมนที่แม้แต่ บุรุษแท้อย่างบนเพยังต้องยอมลงให้แบบนี้… ข้ารับใช้ ของกระโจมอื่นไม่มีทางเข้าใจหรอก!
การปะทะกันของกองทัพไจการ์และเชียร์เกิดขึ้นอีก เนื่องๆ เป็นเวลาครึ่งปี สภาพการของทั้งสองทัพนั้นอยู่ใน ความคู่คี่สูสี ไม่มีใครคาดคิดว่าบุตรชายคนกลางของด ยุกเฟลกังฟอสจะสามารถนำทัพปะทะกับกองทัพไรดีน ได้นานขนาดนี้ ชนชั้นสูงของไจการ์เริ่มมีความกังวลต่อ สถานการณ์พักเรื่องวุ่นวายเล็กน้อยในเมืองหลวงของ พวกตนไปสิ้น
พันธมิตรของประเทศเซียร์เริ่มมีความหวัง เพิ่งกำลังการ สนับสนุนกองทัพของออทัมมากขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายต่อสู้ให้ ชนะแม่ทัพไรดีนให้ได้
ภายในกองทัพของสายฟ้านั้นก็มีความตรึงเครียด แม่ทัพที่ไร้พ่ายเสมอกำลังเจอศัตรูที่มีความสูสีขึ้นมา แต่ ตัวแม่ทัพนั้นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร กองกำลังทั้งหมดเธอ วางแผนมาเพื่อสอดรับกับแผนของทางโฮสต์มาตั้งแต่ แรกอยู่แล้วเพื่อให้สถานการณ์สูสีมากขึ้นทุกขณะ ทำ ปฏิกิริยาเพื่อให้เบื้องบนของทั้งสองประเทศตัดสินใจ เคลื่อนกองทัพประจันหน้าอย่างจริงจัง เป็นศึกตัดสิน ระหว่างสองประเทศและพันธมิตรไปเลย
นี่เป็นสิ่งที่สายฟ้ากําลังรอ…
ดีลักซ์และออทัมก็ตัดสินใจแล้วเช่นกัน พวกเขาเตรียม ความพร้อมสำหรับรับมือไรดีนและเสนาธิการของอีกฝ่าย ที่เพิ่งจะสืบรู้มาได้ว่าเขาคืออดีตอาจารย์ของโรงเรียนไซ เรเฮิร์ล ชินเพ เซดัสท์
“ผมไม่คิดเลยว่าอาจารย์จะไปเข้าพวกกับไจการ เขา ไม่รู้เหรอว่าไจการ์เป็นผู้ที่ฆ่านักเรียนของไซเรเฮิร์ล” ดี ลักซ์พูดอย่างไม่เกรงใจ ด้วยฐานะรองแม่ทัพในตอนนี้ ไม่มีใครกล้าตำหนิติเตียนอีกฝ่าย ทําได้เพียงก้มหน้าลง ทำเป็นไม่รู้เห็น
“ฉันคิดว่าเขารู้” ออทัมเอ่ยพลางมองแผนที่อย่างใจลอย “บางทีเขาอาจจะได้เงื่อนงำอะไรบางอย่างถึงได้ไปเข้า ร่วมกับไจการเพื่อทําลายเชียร
ออทัมคิดว่าชินเพน่าจะรู้เบื้องหลังของแผนการส่งนักฆ่า เหล่านั้น เขาไม่คิดว่าทั้งหมดเป็นแค่เพียงฝีมือของพวกไ การ์ พวกนั้นไม่มีทางฆ่าแบบเจาะจงพิเศษแน่ ดูจากสภาพ ศพของนักเรียนคนอื่นที่มีบาดแผลถึงตายแต่ไม่มีใคร ตายอนาถเท่ากับเฟรย์
มันดูเป็นการจงใจเกินไป เหมือนจงใจฆ่าโดยเฉพาะ
เฟรย์ไม่มีทางมีความแค้นข้ามประเทศเพราะเขาไม่เคย ออกนอกประเทศมาก่อน การที่ถูกฆ่าอย่างจงใจนี้อาจ เป็นฝีมือของคนในเอง ชินเพก็น่าจะจับพิรุธได้เหมือนกัน เขาคาดเดาว่าเพราะรู้แล้วว่าฝีมือใครและศัตรู อาจมีฐานะสูงส่งอีกฝ่ายเลยไปเข้ากับไจการ์เพื่อมาล้าง แค้น
เรื่องนี้คงต้องลองถามเจ้าตัวดู หากเจอกันในสนามรบ นั่นแล้วยังมีเวลาคุยได้
“ถึงจะมีเงื่อนงำแต่เขาก็ไม่สมควรทรยศประเทศนะครับ ครอบครัวของท่านชินเพยังอยู่ที่เซียร์ เขาไม่ควรให้ความ อาฆาตแค้นครอบงำจนทำร้ายผู้บริสุทธิ์ไปมากมายอย่าง ดีลักซ์เอ่ยจริงจังมีเหตุผล ออทัมเงียบลงและพยักหน้า เห็นด้วย
“นายพูดถูก ถึงจะแค้นแค่ไหนก็ไม่ควรทรยศประเทศ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ล้มตายไปมากมาย ถึงจะมีเหตุผลแต่ผิด ยังไงก็คือผิด”
“ท่านออทัม” ดีลักซ์ยื่นมือเนียนนุ่มไปลูบไล้มืออีกฝ่าย อย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องกังวลนะครับ ถ้าเราชนะศึกในครั้ง นี้ได้เราจะช่วยผู้บริสุทธิ์ได้อีกมากมาย”
“อืม” ออทัมพยักหน้ามองดีลักซ์อย่างอ่อนโยน
“ผมจะอยู่ข้างๆ ท่านเสมอครับ…”
“ขอบใจดีลักซ์ โชคดีที่ฉันมีนาย”
“ท่านออทัม…” ดีลักซ์เอ่ยเสียงหวานชวนหวั่นไหว ออทัม รู้สึกใจสั่นอยู่บ้างแต่ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยเพียงปล่อยให้ อีกฝ่ายลูบมือเขาปลอบประโลมไปเท่านั้น ไม่นานนาย ทหารก็มาเรียกพวกเขาไปร่วมประชุมหารือเรื่องการเดิน ทัพในวันพรุ่งนี้
อีกสามวันข้างหน้าเป็นศึกชี้ชะตา
สายฟ้าที่ลอบสังเกตการณ์เห็นความสัมพันธ์ของ พระเอกนายเอกแล้วก็ได้แต่พ่นลมหายใจ หมั่นไส้ฉาก หวานคลุมเครือของพวกเขาซะจริง สถานการณ์แบบนั้น ควรจับมากอดแล้วลูบหัวจากนั้นก็บดจูบเร้าร้อนแล้วลาก เข้าห้องนอนไปสิ! ลูบมือกับเพื่อ!?
ขัดใจวายร้ายมาก โฮสต์ไม่ได้เรื่อง!
[มาสเตอร์สายฟ้าก็ไม่ได้เรื่องเหมือนกันแหละครับ สหายบักของมาสเตอร์อ่อยแรงกว่านี้สิบเท่ามาสเตอร์ยัง ใจแข็งไม่จับเขากินได้เลย อันนี้ว่าโฮสต์ไม่ได้นะครับเนี่ย
สถานการณ์ของฉันกับโฮสต์ต่างกันไหมล่ะ ทางนั้นเขา ปูมาเพื่อให้เสียซิงให้กัน ในขณะที่ตัวละครเฟรย์ต้องเวอร์ จิ้นจนตายนะ นายไม่เข้าใจหรอกระบบ มันซับซ้อน
[เอาที่มาสเตอร์สบายใจครับ…]
สายฟ้าไม่ต่อล้อต่อเถียงวันตัดสินใกล้เข้ามาแล้วภารกิจ จะเสร็จสิ้น ใบหน้าที่ตอนนี้เอียงไปทางหล่อเหลาของ ตัวละครเฟรย์ยิ้มเหยียดออกมาดูชั่วร้ายแต่งดงามมาก เป็นพิเศษ เหล่าข้ารับใช้ตัวสั่นงันงก รอยยิ้มของแม่ทัพ ไรดีนในเวลานี้ดูน่ากลัวมากกว่าทุกที ศึกครั้งนี้คงพินาศ มากกว่าครั้งไหนๆ
สามวันเป็นเวลาที่สั้นกองทัพใหญ่ของทั้งสองประเทศ เผชิญหน้ากันที่พื้นที่ราวที่เต็มไปด้วยหญ้าที่โดนเหยียบ ย่า จํานวนกองทัพหลายแสนของทั้งสองประเทศมีสีหน้า บริงข็ง ดวงตาจับจ้องศัตรูเขม็ง บรรยากาศกดดันและกิน ไอแห่งความตายลอยวนเวียนไปทั่ว แม่ทัพไรดีนนั่งอยู่ บนอาชาสีขาวมือข้างหนึ่งถือหอกยาวอันแข็งแกร่งเอา ไว้ ดวงตาสีเขียวกวาดมองทัพศัตรูทั้งหมดแล้วเหยียดยิ้ม เยาะเย้ย
ดีมาก มากันเยอะจริงๆ แบบนี้ตอนตายจะได้ไม่เหงา
ทางฝั่งดีลักซ์และออทัมมีการพูดปลุกใจกันอย่างฮึกเฮิม เสียงของกองทัพที่ตอบรับคำนั้นช่างน่าเกรงขาม ส่วน ทางกองทัพไรดีนไม่มีอะไรเลยยังคงเงียบขรึม มีหลาย คนประหลาดใจว่าทำไมแม่ทัพไม่พูด ทุกครั้งก่อนทำศึก จะพูดมาจนน่าถีบในตกหลังม้าแท้ๆ แต่พอสายฟ้าพูดขึ้น มาจริงๆ ก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าอย่าพูดเลยดีกว่า!
“กองทัพของข้าเอ๋ย วันนี้ข้าจะไม่พูดเยอะ เอาเป็นว่า… ใครตายก่อนก็เป็นผีรุ่นพี่ ตายหลังก็เป็นผีรุ่นน้อง ตาย พร้อมกับก็คือสหายผี ศึกวันนี้มันเครียดเราอาจจะได้เป็น ผีรุ่นน้องมากมาย แต่เฮ้ย อย่าให้พวกเดียวกันเป็นผีรุ่นพี่ เชียวนะ ข้าไม่ปลื้ม”
“พวกเราก็ไม่ปลื้มครับ!”
เหล่าทหารตอบหน้านิ่งแต่ในใจกรีดร้อง แม่ทัพพูดอะไร ครับ พอเหอะ!
“แอบนินทากันในใจอยู่ใช่ไหม?” แล้วสายฟ้าก็ดันรู้อีก ว่านินทา “ไม่พูดต่อก็ได้ เอาเป็นว่าจงทำหน้าที่ของตนเอง ให้ดี ในศึกนี้ไม่ว่าใครจะอยู่ใครจะตายพวกเจ้าทุกคนก็ เป็นพี่น้องของข้า… ตลอดไป”
เอ๊า จงซาบซึ้งให้กับคำพูดเท่ๆ ที่คิดจนหัวจะแตกมาสาม วันซะเจ้าพวกทหาร!
นานๆ ทีสายฟ้าจะเล่นบทซึ้ง ไม่มีใครตามทันอารมณ์ ของแม่ทัพได้แต่คำพูดนั่นก็ทำให้หัวใจของเหล่าทหาร ฮึกเหิมขึ้นยิ่งกว่าคำพูดปลุกใจใดๆ คงเพราะนี่เป็นศึก ชี้ชะตา สงครามระหว่างสองประเทศกำลังจะยุติลง ถ้า จบลงที่พวกเขาพ่ายแพ้ประเทศไจการ์จะไม่ใช่สวรรค์ สำหรับพวกเขาและบิดามารดาญาติพี่น้องอีกต่อไป
เมื่อบรรเทาความตึงเครียดและสร้างความฮึกเหิมให้กับ กองทัพแล้วสายฟ้าก็หันมองคนข้างกาย ทั้งเขาและเธอ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันอีก หันหน้าไปเผชิญกับกองทัพ ของศัตรูที่ให้สัญญาณบุกโจมตี
“พวกเรา… ลุย!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ