บทที่ 2 เฟรย์
สายฟ้าไม่ได้สนใจท่าทางของพวกเธอสักเท่าไหร่ โบกมือให้ครั้งหนึ่งก็ขึ้นรถม้าเดินทางไปยังโรงเรียน ส่วน สิ่งของในชีวิตประจำวันนั้นทางบ้านของมาร์ควิสได้ส่งไป ยังหอพักของเฟรย์ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน พร้อมให้ข้ารับ ใข้จัดการห้องให้หมดแล้ว ที่เหลือแค่เรียนแล้วเข้าพัก
โรงเรียนที่ไปเรียนคือโรงเรียนเวทไซเรเฮิร์ล ผู้เข้าเรียน ต้องมีอายุสิบห้าปีไม่จำกัดชนชั้น มีพลังเวทในระดับสอง ขึ้นไป พวกเขาเหล่านั้นต้องเรียนอยู่ในโรงเรียนนี้สาม ปีเมื่อจบออกไปแล้วจึงจะมีงานทำในสภาเวทมนต์หรือ ตำแหน่งขุนนาง ถ้าเรียนถึงห้าปีก็จะได้เป็นอาจารย์ผู้ฝัน สอนในโรงเรียนเวทนี้ซึ่งฐานะก็นับว่ามีเกียรติไม่น้อยหน้า ขุนนาง
เฟรย์อายุสิบห้าปีไปเมื่อสองเดือนก่อนนับว่าผ่านเกณฑ์ แน่นอน ส่วนสายฟ้าที่เป็นคนสวมร่างนี่อายุเกินวัยเรียน ไปแล้วแต่ต้องมาอยู่ในร่างวัยเรียนทำเอารู้สึกปวดเหงือก ไม่น้อย ระหว่างนี้ก็ใช้ระบบวายร้ายโกงอ่านบทเรียนล่วง หน้าไปแล้วกัน
[มาสเตอร์สายฟ้า ตัวละครเฟรย์เป็นพวกฉลาดกลางๆ มาสเตอร์ไม่จําเป็นต้องอ่านให้ฉลาดมากก็ได้นะครับ]
จะเป็นวายร้ายทั้งทีฉันก็ต้องเป็นแบบวายร้ายสายฉลาด ฟะ
(แต่มาสเตอร์ไม่อยากเด่นไม่ใช่เหรอครับ
ก็ไม่ได้จะทำตัวเด่นนี่หว่า ความเด่นกับความฉลาดไม่ เหมือนกัน ความฉลาดมันซ่อนได้เข้าใจไหมเจ้าวินด์ จะ เป็นวายร้ายอย่าสักแต่ร้ายมันต้องรู้จักหมกเม็ดกลยุทธ์ ร้ายๆ ด้วย
วายร้ายที่ฉลาดอย่างเปิดเผยนี่เสร็จพระเอกไปกี่รายต่อ กี่รายแล้ว เพราะงั้นเราต้องฉลาดอย่างหลบๆ ซ่อนๆ จ้วง แทงให้เจ็บสาหัสอย่างลึกลับ รอถึงเวลาบั่นคอแล้วคอย เปิดเผยสิถึงจะสะใจดี!
[สมกับเป็นมาสเตอร์สายฟ้า เรื่องชั่วช้านี่ไว้ใจได้จริงๆ
ครับ]
นั่นฟังไม่เหมือนคำชมนะ
“ถึงแล้วครับท่านเฟร
เสียงของคนขับรถม้าดังขึ้น สายฟ้าที่กำลังจะสวดระบบ วินด์ให้ย่อยยับน้ำตาตกก็ละความสนใจหันไปมองกระตูที่เปิดออกด้วยฝีมือคนใช้เพื่อเชิญบุคคลในรถม้า ออกมา
สายฟ้าลุกจากรถม้าด้วยมาดคุณชายสุดแสนจะสง่างาม แฝงไปด้วยความเกียจคร้านล็กๆ ท่าทางดูคล้ายแมวผู้ หยิ่งยโส ร่างสูงโปร่งเดินผ่านเหล่าเด็กหนุ่มสาวทั้งหลาย ไปแบบไม่ค่อยจะสนใจใคร ด้วยฐานะและตำแหน่งของ เขาไม่จําเป็นต้องประจบใครมากมีแต่รอให้คนอื่นมา ประจบเท่านั้นเอง
เสียงทักทายจากเหล่าหนุ่มสาวรอบด้านดังขึ้น สายฟ้า ยกยิ้มตอบกลับไปและผงกหัวรับเล็กน้อยเท่านั้นเป็นเรื่อง ปกติ ก่อนจะมาถึงห้องเรียนแล้วนั่งลงที่เก้าอี้หลังห้องซึ่ง เป็นที่นั่งส่วนใหญ่ของพวกเด็กไม่ตั้งใจเรียน
แน่นอนว่าสายฟ้าที่จ้องจะเป็นวายร้ายไม่จําเป็นต้อง ตั้งใจเรียนเช่นกัน แค่มาเข้าเรียนให้ อาจารย์ก็ต้อง ขอบคุณเขาแล้ว
เฟรย์นั้นมีเพื่อนซี้อยู่สองคนเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ทั้งคู่ อยู่ห้องเดียวกันนี้เองชื่อว่า เอลเดนกับรีลิน่า ทั้งคู่เป็นดัง มือขวาและมือซ้ายของเฟรย์ในการกลั่นแกล้งโฮสต์นาย เอก ที่ชื่อว่า ‘ดีลักซ์ ซึ่งก็อยู่ห้องเดียวกัน
ห้องที่เฟรย์อยู่คือรวมเหล่าคนมีความสามารถ ถึงเฟรย์ จะมีความฉลาดกลางๆ แต่ความสามารถด้านเวทก็ถือว่าสูงอยู่ ก่อนหน้าการปรับแต่งก็ถือว่าอยู่ในระดับห้าของนัก เวท
ระดับของนักเวทมี 9 ระดับ สูงกว่านักเวทคือจอมเวทมี 5 ระดับ
ตอนนี้สถานะของเฟรย์คือจอมเวทระดับ 3 เป็นสถานะ กลางๆ จริงๆ นะ ไม่ได้เก่งโดดเด่นอะไรเล๊ย!
“มาเร็วจังเลยครับท่านเฟรย์” เอลเดนที่เพิ่มมาถึงเอ่ย ทักทาย สายฟ้าคลี่ยิ้มเอนตัวไปข้างหลังอย่างผ่อนคลาย เสียงนุ่มที่ฟังแล้วแยะเพศไม่ออกเหมือนหน้าตาก็เอ่ย ตอบ
“ท่านแม่ปลุกเลยต้องตื่นเช้าหน่อย นายเองก็มาเร็วนะ
เอล”
“ผมตื่นเต้นน่ะครับ ยังไงนี่ก็มาเรียนวันแรกแล้วก็อยาก เจอท่านเฟรย์เร็วๆ” เอลเดนยิ้มตอบมองสายฟ้าด้วย สายตารักใคร่เทิดทูน นี่เป็นติ่งเฟรย์นัมเบอร์วัน ตัวละคร ที่ตั้งค่าไว้ให้ทำเพื่อเฟรย์ทุกสรรพสิ่งอย่างไม่มีข้อแม้ หน้าตาก็หล่อเหลาอยู่บ้าง ถ้าเฟรย์ไม่ได้ถูกตั้งค่าให้ชอบ พระเอกจนวันตาย เอลเดนน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“แล้วรีลิน่าล่ะ?” สายฟ้าถามหาอีกคน พอถามไปแล้วอีกฝ่ายก็ปรากฎตัวทันทีราวกับรอให้เขาถามอยู่แล้ว
“มาแล้วค่ะท่านเฟรย์” หญิงสาวสุดน่ารักในชุดนักเรียน โลลิต้าเอ่ยอย่างสดใส ติ่งนับเบอร์ทรูส่งสายตาระยิบ ระยังเต็มไปด้วยความรักมาให้เฟรย์เช่นกัน เธอคนนี้ถูก ตั้งค่าให้หลงรักเฟรย์อย่างโงหัวไม่ขึ้น ตั้งตัวเป็นศัตรูกับ พระเอกเพราะแย่งความรักของเฟรย์ไป เป็นหญิงร้ายใน คราวตุ๊กตาโลลิต้าชัดๆ นี่ก็เป็นอีกคนที่น่าจะเป็นเนื้อคู่ให้ เฟรย์ได้เหมือนกัน
มีติ่งที่ดีแบบนี้ไม่น่าไปสนใจพระเอกได้เลยนะเนี่ย
“ดีใจจังเลยค่ะที่ได้อยู่ห้องเดียวกับท่านเฟรย์” รีลิน่าเอ่ย อย่างมีความสุข “ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันก็อยากจะมีเรียนทุก วันแล้วล่ะค่ะ”
รีลิน่าเป็นพวกไม่ชอบเรียนแต่ถึงกระนั้นเธอก็มีสมองที่ ฉลาดอยู่บ้าง ความถนัดของเธอไปทางอัศวินมากกว่า แต่ เพราะความเป็นหญิงและตระกูลขุนนางเลยไม่ยอมให้ เธอเข้าเรียนโรงเรียนเฉพาะอัศวิน
“แต่ว่า… คนๆ นั้นก็อยู่ห้องนี้ด้วยน่ะสิ” เอลเดนเอ่ยอย่าง เคร่งขรึม ดวงตาหันไปมองทางประตูที่มีผู้มาใหม่เดินเข้า มา รีลิน่าหันไปมองตามแล้วใบหน้ายิ้มแย้มก็พลันเครียด ขึง
คนๆ นั้นที่พูดถึงก็คือพระเอก บุตรชายคนกลางของท่าน ดยุก ‘ออทัม’ คนที่เฟรย์ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบนั่นเอง
ใบหน้าของอีกฝ่ายเรียกได้ว่าหล่อเหลาคมคาย คิ้วเข้ม ดุดัน ดวงตาคมกริบสีน้ำเงิน ผิวค่อนข้างเข้มแต่ไม่ถึงกับ สีแทนร่างกายสูงใหญ่กำยำ ท่าทางองอาจสง่างามเกิน บรรยาย ให้ความรู้สึกสูงศักดิ์และเข้าถึงยาก รังสีกดดัน รอบตัวทำให้ไม่มีคนกล้าเข้าใกล้ถ้าไม่ใช่พวกไร้สติกับ พวกที่มีภูมิต้านทานสูง
สายฟ้าเลิกคิ้วมองออทัมแล้วปั้นยิ้มกว้างดวงตา วงตามอง อีกฝ่ายด้วยความรักใคร่ ที่สุดของความเสแสร้งแต่แนบ เนียนจนไม่มีใครดูออกว่านี่คือการตอแหล เขาลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปหาอีกฝ่ายด้วยท่าทางกระดี้กระด๊าอย่างเกิน งาม
“ท่านออทัม!” น้ำเสียงนุ่มละมุนเอ่ยเรียกร้องความสนใจ ร่างสูงที่ปรากฏตัวขึ้นมาในคลองสายตาทำให้ออทัม ขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ แต่สายฟ้าไม่ได้แคร์แม้แต่น้อย ยังคงเข้าไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอน่างไร้สติ
ไม่สิ มีสติสุดๆ เลยต่างหาก
นี่เขากำลังแสดงบทบาทของวายร้ายที่หลงพระเอกอยู่นะ
“อืม” ออทัมตอบกลับมาแค่นั้นแล้วพยายามจะไม่มอง หน้าของเฟรย์ เพราะเขาค่อนข้างรำคายอีกฝ่ายที่มาเกาะ ติด ถึงแม้จะไม่ติดขนาดแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ แต่อีกฝ่ายก็เปิดเผยว่าชอบเขาอย่างออกหน้าออกตาเกิน ไป ดูไร้การอบรมสิ้นดี
“ดีใจจังที่ได้อยู่ห้องเดียวกับท่านออทัม ฝากเนื้อฝากตัว ด้วยนะครับ”
“อืม”
“จะเป็นอะไรหรือไม่หรอกผมจะขอนั่งเรียนข้างๆ ท่านอ อทัม” สายฟ้ายิ้มตาหยี ที่จริงบทพูดตรงนี้ต้องเป็น ‘จะ รังเกียจหรือไม่หรอกจะขอนั่งเรียนข้างๆ
แน่นอนว่าถ้าถามแบบนั้นต้องโดนปฏิเสธด้วยคำว่า รังเกียจให้เสียหน้าแน่ แต่ถ้าเปลี่ยนรูปประโยคใหม่ค่ ตอบก็จะเปลี่ยนตาม ซึ่งการจะปฏิเสธรูปประโยคแบบนี้ก็ ต้อง…
“ขออภัยด้วยครับท่านเฟรย์ ท่านออทัมสัญญากับผมไว้ แล้วว่าจะนั่งเรียนข้างกัน เชิญท่านไปนั่งตรงอื่นนะครับ”
คนที่เอ่ยตอบไม่ใช่ออทัมแต่เป็นชายอีกคนที่สายฟ้า กำลังรออยู่ เขายิ้มกว้างมากขึ้นแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เชียวล่ะ
ในที่สุดก็ปรากฏตัว โฮสต์ ดีลักซ์
“ใช่ไหมครับท่านออทัม” ดีลักซ์หันไปขอคำยืนยันจากอ อทัมที่ยืนนิ่งเงียบ ชายหนุ่มจ้องมององครักษ์ผู้งดงามสูง โปร่งของตนเองแล้วพยักหน้ารับ แต่ยังพยักหน้าไม่สุด สายฟ้าก็เอ่ยแทรกขึ้น
“เป็นแค่องครักษ์กลับกล้าขอคําสัญญาจากท่านออทัม ช่างไม่เจียมตนเอาเสียเลย ทั้งยังถามกดดันให้ท่านออทัม ต้องตอบอีกนี่ก็ไร้มารยาทนัก ท่านออทัม ท่านตามใจ องครักษ์ของตนเองมากไปกระมังครับ ถึงจะเติมโตมา ด้วยกันอย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้เขามีอำนาจเหนือท่าน ได้นะครับ มันไม่ถูกต้อง”
คำพูดนี้เป็นการใส่ร้ายอย่างมาก ทั้งยังปัดตกคำแก้ตัว แทนของดีลักซ์ทิ้งอย่างไม่มีเยื่อใย สายฟ้าทำหน้าบึ้งเล็ก น้อยกอดอกมององครักษ์ที่ตอนนี้เม้มปากเน้น ดวงตาจ้อง มาที่เขาเขม็ง หาทางกำลังคิดค่าตอบโต้แต่เหมือนจะคิด ไม่ออก สายตาคนในห้องก็มองมาที่พวกเขาด้วยความ สนใจ และมองไปที่องครักษ์ของออทัมด้วยสายตาดูหมิ่น
เริ่มทุกข์รึยังล่ะโฮสต์… สายฟ้าแสยะยิ้มในใจ
ในสถานการณ์อย่างนี้องครักษ์ไม่มีสิทธิ์ตอบโต้หรอกไม่ อย่างนั้นจะยิ่งดูแย่เข้าไปใหญ่ ต้องให้ออทัมเป็นคนช่วย แก้ต่าง ตรงนี้ต้องวัดการที่ค่าความสัมพันธ์แล้วว่าโฮสต์ดี ลักซ์
(ค่าความสัมพันธ์โฮสต์กับออทัม 38%]
ระบบแจ้งค่าความสัมพันธ์ให้เสร็จสรรพ ขอบคุณ
สายฟ้าเกือบกลั้นยิ้มไม่ได้ อยู่กันมาตั้งแต่เด็กค่าความ สัมพันธ์ได้เท่านี้เองเรอะ แต่เขาปัดเป็นห้าสิบห้าสิบไว้ ก่อน เพราะระบบเซาน์ค่อนข้างเอนเอียงสนับสนุนโฮสต์ อยู่บ้าง
“เรื่องนี้ฉันไม่ถือสา” ค่าตอบของออทัมเป็นไปอย่าง ที่สายฟ้าคาดไว้ แต่คำตอบต่อมาก็ทำให้ต้องเลิกคิ้ว ประหลาดใจไม่ได้ “แต่ฉันจะอบรมให้ดีไม่ให้องครักษ์ ต้องทําตัวแบบนี้อีก ขอบใจที่เตือนเฟรย์
“อะ… เอ่อ…
ไม่เป็นไรครับ
ไม่คิดว่าจะได้คําขอบคุณ
[ค่าความสัมพันธ์มาสเตอร์สายฟ้ากับออทัม 1%]
อันนี้ไม่ต้องแจ้งก็ได้นะระบบวินด์ ฉันไม่ได้ชอบออทัม ไหมวะ ไม่ได้อยากรู้เลย
สายฟ้าอยากจะเหลือกตาใส่หน้าจอระบบขึ้นมาจริงๆ เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างอุ่นเคืองแล้วสะบัดตัวเดิน ไปนั่งที่ ยังไงพ่อพระเอกก็ได้นั่งกับนายเอกแล้วก็ปล่อย ไปเถอะ เรื่องเล็กน้อยขนาดนี้เขาก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ ที่ สนใจน่ะมันอย่างอื่น
[มาสเตอร์สายฟ้าได้รับคะแนนความ S กดขี่โฮสต์จนได้ รับความทุกข์ใจ 2 คะแนนครับ ยินดีด้วยครับมาสเตอร์ เข้ามาไม่ทันไรก็ได้คะแนนแล้ว ซาดิสม์จริงๆ ครับ]
ถึงจะดีใจกับคะแนน แต่ประโยคของเจ้าระบบนี้ไม่ได้ ช่วยให้รู้สึกดีเท่าไหร่เลยนะ
ตอนนี้รู้สึกอยากออกจากแชนเนลแล้วไปกระโดดถีบขา คู่ใส่ยอดหน้าเจ้าวายุที่เป็นต้นแบบ AI ระบบวายร้ายของ เขาจริงๆ ปากดีเกินไปแล้ว
[มาสเตอร์สายฟ้าอย่าทำร้ายมาสเตอร์วายุเลยนะครับ มาสเตอร์วายุนั้น…]
หุบปากไประบบ ก่อนที่ฉันจะเดือดแล้วเปลี่ยนจาก กระโดดถีบเป็นติบให้นอนในโรงพยาบาลนานเป็นปีแทน ถ้ารักคนสร้างก็ทำตัวดีๆ หน่อยเว้ย!
[Yes, My Master]
สายฟ้าที่คุกรุ่นอยู่ก็พ่นลมหายใจอีกครั้ง ไม่ได้สนใจ สายตาของใครที่มามองทั้งสิ้น แม้แต่สายตาของออทัมที่ เหลือบมองด้วยความสนใจด้วย
นิสัยของเฟรย์ที่ได้ยินมาคือพวกที่ตรงไปตรงมา แต่วัน นี้ดูจะไม่แค่ตรงอย่างเดียวแล้ว แต่แฝงความดุดันร้ายกาจ เข้าไปด้วย ท่าทางที่เมื่อก่อนดูเหลาะแหละก็เปลี่ยนเป็น ความดูดีมีสง่าราศีสมฐานะ มีความแข็งกร้าวอยู่ในกระดูก หางตาชี้ขึ้นดูชั่วร้ายล้ำลึกนั่น เมื่อผสมกับรอยยิ้มยียวน มันช่วยเพิ่มเสน่ห์ของเขาจริงๆ จนใครหลายคนละสายตา ไม่ได้
นี่คือตัวตนจริงของ เฟรย์ มาริสฟิลล์ ที่ล่ำลือคนนั้นจริง เหรอ…
ออทัมคิดว่าที่ผ่านมาเขาคงเชื่อข่าวลือมากไป เฟรย์ที่ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเสเพลวิปริตคนนั้น… น่าจะเป็นเพียงการถูกใส่ร้ายมากกว่า
สายฟ้าที่ตอนนี้ได้ลบล้างฉายาเสเพลวิปริตออกไปจากหัวคุณพระเอกได้อย่างงงๆ ไม่ได้สนใจสักนิด ตอน นี้กำลังเปิดหน้าต่างภารกิจของโฮสต์เพื่อเช็คอีกครั้งว่ามี ภารกิจอะไรที่ขัดขวางและกดขี่ข่มเหงโฮสต์ได้อีกบ้าง
ภารกิจบังคับที่ระบบเซาน์มอบให้ท่านี้สายฟ้าเล็งไว้แล้ว ว่าจะป่วนโฮสต์ ส่วนภารกิจประจำวันปลีกย่อยเขาไม่เห็น ความสำคัญแต่ก็จดจำไว้เผื่อได้ใช้
เป้าหมายต่อไปของสายฟ้ายังคงต้องเกาะติดออทัมไป สักพัก ต้องแสดงออกถึงความรักใคร่ต่อตัวพระเอกเพื่อ เรียกพฤติกรรมกระด้างกระเดื่องด้วยความอิจฉาของดี ลักซ์ได้ จากนั้นจะได้ลงมือแกล้งจริงจังเพื่อเรียกคะแนน ซาดิสม์ใส่ตัว
แค่กๆ ไม่ได้อยากทำอะไรแบบนี้เลยนะ ถ้าไม่ติดว่าต้อง เอาคะแนนด้วย
สายฟ้าทําท่ารักใคร่ส่งสายตาและรอยยิ้มให้กับออทัม เป็นระยะเพื่อการสร้างภาพที่สมบูรณ์แบบ เอลเดนกับ รีลิน่าเลยพลอยส่งสายตาให้กับออทัมไปด้วย แต่เป็น สายตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังที่มีคนจะมาแย่งชิงผู้เป็น ที่รักของพวกเขานั่นเอง ทำให้ออทัมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่ถูกแทน
สายฟ้าไม่คิดจะห้ามด้วยนะ แบบนี้แหละดี เอาให้นั่งไม่ ติดเก้าอี้กันไปเลย ลุกลนเท่าไหร่ยิ่งสะใจมากเท่าไหร่ จะให้ดีเผื่อแผ่ไปทางดีลักซ์ด้วยจะดีมาก เผื่อจะได้ คะแนนเพิ่มเติมจากพฤติกรรมของสมุนวายร้าย
ความคิดของสายฟ้าทำเอาระบบนด์อยากจะกล่าว
[มาสเตอร์ช่างเหมาะสมดั่งคำแนะนำของมาสเตอร์วายุ
จริงๆ ครับ]
วายร้ายสายฟ้านี่ร้ายและซาดิสม์เองโดยไม่ต้องพึ่ง ระบบสนับสนุนเลยล่ะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ