ลิขิตรัก ในกรงแค้น

บทที่ 16 ช่วยในฐานะหลานแม่บ้าน



บทที่ 16 ช่วยในฐานะหลานแม่บ้าน

และคืนวันเดียวกันหลังจากร้านปิด ร้านของพี่รินได้จัดงาน อำลา พนักงานทุกคนในร้านอยู่ร่วมเพื่ออำลาเจ้านายที่แสนดี ของพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย เพราะนับแต่นี้นอกจากจะไม่เจอกัน แล้วเจ้านายของพวกเขายังอยู่หากไกลถึงเมืองนอก นันทิชาผู้ซึ่ง สนิทกับเจ้าของร้านมากที่สุด รู้สึกใจหายและไม่ทันตั้งตัว ในงาน เปิดเพลงครึกครื้นบรรยากาศไม่มีแม้ความเศร้าแต่ต่างกับใจ ของเธอที่พยายามยิ้มและแอบมองเจ้านายเป็นระยะ เธอแอบ มองหญิงสูงอายุที่แสนใจดี

“พี่รินจะรู้สึกเหมือนเราไหมนะ รู้สึกเสียใจ รู้สึกไม่อยากจาก กัน” ความรู้สึกพลัดพรากมันล้นจนเอ่ยเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ นันทิชาได้แต่มองและนั่งคิดทบทวน พรินเปรียบเสมือนญาติ ผู้ใหญ่คนหนึ่งหลังจากเธอสูญเสียมารดา พี่รินจึงเป็นผู้คอย แนะนำและอยู่ข้างๆ เธอมาตลอด หญิงสาวจึงตัดสินใจเดิน เข้าไปหาหญิงสูงอายุที่นั่งดื่มนั่งคุยกับพนักงานคนอื่นๆ ร่างบาง ค่อยๆ ก้าวเข้ามาหยุดแล้วนั่งลงบนพื้น ก่อนที่จะก้มลงกราบบน ตักของหญิงเจ้าของร้าน

“ทิชาขอบคุณพี่ริน สําหรับทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งที่พี่รินคอยช่วย เหลือ คอยให้กำลังใจ คอยอบรมสั่งสอน ทิชาคงขอบคุณพี่รินไม่ หมด” หญิงสูงอายุยิ้มก่อนที่จะใช้มือลูบหลังเพื่อปลอบประโลม เธอเข้าใจความรู้สึกของสาวน้อยคนนี้ดีว่าการจากไปของเธอ ส่ง ผลให้นันทิชาต้องเสียใจไม่น้อย
“การจากลาเป็นเรื่องปกตินะทิชา เธอยังเด็กยังต้องเจออะไร ในชีวิตอีกมาก พี่ขอให้เธอเข้มแข็งเมื่อเจออุปสรรค อย่าร้องไห้ นะ วันนี้เป็นวันอำลาพี่ไม่อยากเห็นน้ำตาใครก่อนที่จะไป ไม่ใช่เพียงนันทิชาคนเดียวเท่านั้นที่ต้องทรมานกับการกลั้น นํ้าตาหากแต่พี่รินเองก็เช่นกัน ก่อนที่หญิงเจ้าของร้านจะโอบ กอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายแทนคำบอกลา

“พรีมพอเถอะ” นันทิชาหยิบแก้วในมือของพริมออก

“ทำไมดื่มเยอะอย่างนี้ พอเถอะกลับบ้านได้แล้ว” นันทิชาพูด ห้ามปรามเพื่อนสาวที่เมาจนพูดไม่ได้ความ

“ก็พี่รินห้ามพนักงานทุกคนร้องไห้ ก็กินมันเข้าไปสิ เอ้า! ชน ชน ชนแก้ว ฮ่าๆๆ”

นันทิซารีบลากเพื่อนออกมาจากในงานอย่างเงียบๆ โดยไม่ ได้ลาใคร เธอไม่กล้าแม้จะไปลาหญิงเจ้าของร้านด้วยกลัวจะ กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะภายในใจอยากจะตะโกนออกมาดังๆ อยากจะกอดรั้ง ริม อยากร้องไห้หากแต่ต้องกลั้นน้ำตาไว้ ทำไม ความเสียใจครั้งนี้รู้สึกทรมาน ทำไมพี่รินไม่บอกก่อน ทำไมเร็ว อย่างนี้

คำถามและความเสียใจวนอยู่ในสมองของเธอ สองมือกึ่งพยุง กึ่งลากเพื่อนสาวที่เมาจนแทบจะเดินไม่ไหว มาหยุดรอรถ ณ จุด เดิม น้ำตาที่กลั้นไว้ในงานพรั่งพรูออกมา เธอกลั้นมันไม่ไหวอีก แล้ว แม้จะรู้ก่อนเพียงไม่กี่วันแต่เมื่อถึงเวลาที่พี่รินจะไป กลับตั้ง ตัวไม่ติด สองมือเช็ดน้ำตาแล้วพยุงเพื่อนที่แม้แต่ยืนยังเซซ้ายที่ขวาที

เหตุการณ์ทั้งหมดของหญิงสาวทั้งสองที่ออกไปโดยไม่ลาอยู่ ในสายตาของหญิงเจ้าของร้าน ที่ยืนถือแก้วไวน์ในมือน้ำตาไหล อาบแก้มมองผ่านกระจกร้านออกไปด้านนอก แน่นอนความ เสียใจความผูกพันหญิงเจ้าของร้านรู้สึกมากกว่านั้นทิชากว่า หลายเท่าตัวนัก นั่นเพราะร้านที่เธอรักเพราะพนักงานอย่างนั้น ชาทำให้เธอตัดใจยากเสียกว่าแต่หากครอบครัวเธอนั้นก็สำคัญ เธอปาดน้ำตาแล้วหันกลับเข้าไปในงานต่อ อยู่ๆ รถคันหรูจอด เทียบ กระจกรถเลื่อนลงอย่างช้าๆ

“ขึ้นรถสิ” เสียงแทนคุณดังขึ้น นันทิชารีบปาดน้ำตาออกจาก ใบหน้าทันที เธอตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ คนน่ากลัวก็โผล่มาในเวลา นี้

“ขึ้นรถไม่ได้ยินเหรอ” แทนคุณสั่งย้ำอีกครั้งก่อนที่ชายหนุ่มจะ ลงมาช่วยพยุงพริมเข้าด้านหลังรถ นันทิชาพยายามขึ้นตามพริม ไป

“ผมไม่ใช่คนขับรถของพวกคุณนะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ แล้วรีบดึงแขนเล็กเรียวขนาดเท่าฝ่ามือของเขาเกือบจะก๋ามิด ทิช าค่อยๆ ปลดมือเขาออกก่อนจะลงมาขึ้นด้านหน้าอย่างง่ายดาย

“ดึกขนาดนี้ ทำไมยังไม่กลับ” เป็นคำถามที่ผู้ถามไม่หันมา มองเพราะสายตายังคงจ้องมองถนน

“ก็…กำลังจะกลับค่ะ” เธอเริ่มอึดอัดอีกครั้ง เธอรู้สึกกลัวชาย หนุ่มคนนี้ เขาทำตัวดูพิลึกพิกล
“นี่ถ้าป้านาเห็นหลานตัวเองเมาขนาดนี้ ป้านางไม่สบายใจ เขาพูดเมื่อมองในกระจกหลังแล้วเห็นสภาพหลานสาวแม่บ้าน ของตนกึ่งนั่งกึ่งนอนเช่นนั้น

“จะให้ไปส่งที่ไหน” น้ำเสียงเหมือนจะดีแต่ก็แฝงไปด้วยความ แข็งกระด้าง

“หอทิชากับบ้านของพริมอยู่ไกลกันมากค่ะ คุณแทนไปส่งพริม ที่บ้านแล้วเดี๋ยวทิชาจะกลับเอง”

“ถ้าป้านารู้ คงโกรธผมแย่ ที่ปล่อยให้หลานคนใดคนหนึ่ง กลับบ้านเองทั้งที่ดึกขนาดนี้ ให้ป้านาโกรธพวกคุณจะดีกว่า ไป นอนกับป้านาแล้วกัน ส่วนจะอธิบายว่าเมาอย่างไร หรือจะโทร บอกใครที่บ้าน นั่นเรื่องของพวกคุณ

เขายังคงพูด ใช้น้ำเสียงเรียบเฉย ร่างสูงสองมือกำพวงมาลัย รถแน่น นันทิชาเองไม่กล้าแม้จะหันไปมองหรือเอ่ยทักท้วงว่าเธอ นั้นไม่ใช่หลานของป้านาตามที่เขาเข้าใจ ใช้เวลาเกือบยี่สิบนาที ในขณะรถไม่ติดก็เดินทางมาถึงบ้านหลังงามเมื่อแทนคุณจอดรถ เสร็จ เขาก็หันมาเจรจากับเธออีกครั้ง

“คุณพาเพื่อนคุณไปห้องป้านาได้ใช่ไหม” นันทิชาพยักหน้า รับคําก่อนที่เขาจะเดินลับเข้าบ้านไป โดยไม่หันกลับมาสนใจว่า เด็กสาวทั้งสองคนจะเดินไปห้องป่านาในสภาพแบบไหน สอง สาวพากันโซซัดโซเซเข้าไปด้านหลัง ซึ่งเป็นบริเวณห้องพักของ ป้านา ส่วนแทนคุณตั้งหน้าตั้งตาเดินเข้าบ้านเพราะเหนื่อยจนไม่ อยากจะทําอะไรต่อ นอกจากอาบน้ำและนอนพัก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ