ลิขิตรัก ในกรงแค้น

บทที่ 12 บุกรุกครั้งที่สอง



บทที่ 12 บุกรุกครั้งที่สอง

เสียงมือถือของแทนคุณดังขึ้น เขากครับในทันทีที่หยิบขึ้นมาดู เมื่อรายชื่อผู้โทรแสดงเด่นชัดว่าเป็น “ภพ”

“แทนทั้งสามร้าน ทำรายได้ยอดขายได้ดี อยู่ในทำเลที่ดี ซึ่ง แตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่นัก ฉันต้องการไปดูที่ร้านทั้งหมดนาย พอจะว่างไปไหม” ที่ภพตัดสินใจไม่ได้หากเห็นแต่เพียงยอดที่ แจ้งมาในแผ่นกระดาษ เขาต้องการประเมิน สภาพร้านทั้งหมด ทั้งระบบการบริหาร ทั้งภาพรวม

“ได้ ฉันจะไปรับนายเดี๋ยวนี้แหละ” แทนคุณวางมือจากการ อ่านหนังสือ หันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้องมา อย่างรวดเร็ว

“ป้านาล่ะ” ชายหนุ่มถามหาแม่บ้านคนสนิทจากคนใช้อีกคนที่ เหลืออยู่เมื่อเขาเห็นว่าคนที่ถือของว่างออกมาจากในครัวไม่ใช่ ทํานา

ป้านาไม่สบาย เลยให้หนูมาดูแลแทนค่ะ

“อะไรนะ” เขาถามย้ำอีกครั้ง

“แล้วเป็นอะไรมากไหม”

“ไม่มากค่ะ อาหารว่าง ป้านาเป็นคนทำ แกอยู่ในครัวน่ะค่ะ” ชายหนุ่มเจ้าของบ้านพยักหน้า เขาดูเบาใจขึ้นหากป้าแม่บ้านคน สนิทมีแรงทำขนมได้อาการคงไม่หนักหนาน่าเป็นห่วงเท่าไรนักชายหนุ่มหยิบขนมในจานมาใส่ปากพร้อมเดินออกจากบ้านไป หญิงชราที่แอบดูสถานการณ์ระหว่างน้อยกับแทนคุณครู่หนึ่ง รีบ เดินออกมาทันที

น้อย คุณแทนไปแล้วแน่นะ” ปานาปรี่เข้ามาหาน้อยซึ่งกำลัง มองหญิงชราด้วยความกังวลใจ

“ไปแล้วค่ะ ป้านาทำไมไม่บอกคุณแทนไปตรงๆ ล่ะคะ ดูหน้า

ป้าสดเป็นไก่ต้ม เดินจะไม่ไหวอยู่แล้ว”

“เอาน่า กินยาเดี๋ยวเดียวก็หาย ปล่อยคุณแทนไปทำงาน เถอะ” หญิงชราพยายามบ่ายเบี่ยงกลัวว่าตนจะเป็นภาระของเจ้า นายจึงเลี่ยงไม่บอกความจริง แม้จะเดินแทบไม่ไหวก็ตามที

“น้อยไปทํางานเถอะไป” หลังจากหญิงชราเอ่ยปากไม่น้อย แล้ว เธอเองจึงหันกลับไปพักผ่อนในห้อง หวังให้ยาที่พึ่งกินไป ออกฤทธิ์บรรเทาอาการป่วย

หลังเลิกเรียนจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ทั้งสองเรียนอยู่ สอง สาวเดินทางมาทำหน้าที่ของตนตามปกติเหมือน ในเช่นทุกๆ วัน วันนี้นันทิชาสังเกตเห็นพริมเหมือนมีอะไรในใจ ไม่สดใสร่าเริง เหมือนเดิม และมีอาการผิดปกติมาตั้งแต่ตอนเที่ยงหลังทาน อาหารกลางวัน

“มีอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นเธอเอาแต่จับมือถือ”

“ฉันโทรหาป้านาทั้งวัน แต่ป้าไม่ยอมรับสายเลยโทรตั้งแต่เช้า แล้ว ตอนเที่ยงป้าก็ไม่ยอมโทรกลับ และตอนนี้ก็ยังไม่ยอมโทร มาอีก แปลกจริงๆ นะทิชา”
พริมพูดด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเป็นกังวลอย่างมาก แต่ยังไม่ทัน ที่เธอจะได้ระบายอะไรออกมาพี่รินเจ้าของร้านก็เรียกประชุมทันที ประจวบกับได้เวลาทำงาน วันนี้ก็เป็นเหมือนในทุกๆ วัน ในเวลา งานทุกคนแทบไม่ได้หยุดพักมือไม้พัลวันกันไปหมด ลูกค้าบาง โต๊ะใจดี บางโต๊ะค่อนไปทางเรื่องมาก พนักงานทุกคนถูกอบรม มาอย่างดีต่างรับมือได้อย่างมืออาชีพ เมื่องานเสร็จก็ทยอยเดิน ไปรับเงินรายวันจากพี่รินเจ้าของร้านและเดินมายังห้องพัก เพื่อ เปลี่ยนชุดกลับบ้าน

“ป้ายังไม่โทรกลับมาเหรอ” นันทิชาหันไปเห็นเพื่อนรักจับมือ ถือที่ขึ้นมาดูอีกครั้ง สีหน้าของพริมยังคงเป็นกังวลไม่ต่างจาก เดิม

“นี่มันห้าทุ่มแล้วนะทิชา ป้านาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย” พริม พยายามหาเหตุผล ก่อนจะหันไปเห็นมือเรียวเล็กของนันทิชา ค่อยๆ ปลดกระดุมชุดพนักงานออก

“เดี๋ยวก่อนทิชา! ฉันเป็นห่วงป้านา เธอไปบ้านนั้นเป็นเพื่อนฉัน หน่อยได้ไหม” พริมซึ่งอยู่ๆ ก็หันมาขอให้นันทิชาช่วยไปบ้าน หลังนั้นอีกครั้งเอาเสียดื้อๆ

“แต่…” นันทิชาพูดค้าง ดวงตากลมโตเปิดกว้างเล็กน้อย และ กําลังตกใจกับคําขอร้องของพริม มันทำให้ฉันทิชาคิดอะไร ไม่ทันในตอนนั้นได้แต่ยืนงง เธอไม่อยากทำผิดด้วยการแอบ เข้าไปบ้านคนอื่นแบบนั้นอีก ก่อนที่มือของพริมจะดึงเธอวิ่งออก จากร้านไป
บ้านใหญ่หลังงามยามค่ำ เปิดไฟสว่าง นันทิชาและพริมสอง สาวกำลังมองหาทางเข้าแต่รั้วใหญ่ปิดสนิท พวกเธอพยายาม ก้มๆ มองๆ อยู่หลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครมาพบเข้าใน ตอนนี้ เมื่อมองเข้าไปภายในบริเวณบ้านแน่ใจแล้วว่าไม่มีใคร อยู่ สองสาวจึงตัดสินใจปีนรั้วข้ามเข้ามา

“พริมเธอจําทางไปห้องป้านาได้ใช่ไหม” นันทิชามองซ้ายมอง ขวาพร้อมส่งคำถาม ภายใต้แสงไฟสีส้มอ่อนเห็นเงาตะคุ่มๆ ของ สองสาวนั้น ไม่ผิดเลยถ้าใครมาพบเข้าแล้วอาจคิดไปได้ว่าพวก เธอคือขโมยสาวตัวแสบ

“ฉันมาหลายรอบ ฉันพอจำได้” สองสาวจูงมือกัน ซึ่งเดินกึ่งวิ่ง เพื่อไปให้ถึงห้องป้านาเร็วที่สุดก่อนเจ้าของบ้านหรือใครจะมา พบเข้า

“ป้านา ป้านา ป้านา”

เสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเรียกของพริมดังขึ้นเป็นระยะ นันทิ ชาที่เป็นฝ่ายดูต้นทางพะวงใจเป็นอย่างมาก แม้พริมจะใช้เวลา เรียกอยู่พักใหญ่แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับของผู้อาศัยภายใน ห้อง ทั้งสองจึงตัดสินใจงัดประตูเข้าไปโดยใช้มือล้วงผ่าน บานเกล็ดที่เปิดทิ้งไว้ซึ่งอยู่ใกล้กับลูกบิดประตู วิชาพวกนี้พริม เรียนรู้มาเยอะพอสมควรเพราะก่อนเธอจะเข้ามหาลัยเพื่อนของ เธอล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายแทบทั้งสิ้น

“ไม่มีใครอยู่นี่พริม”

นันทิชาเอ่ยขึ้นเมื่อประตูถูกเปิดออก พริมแสดงอาการเป็นกังวลมากขึ้นหลายเท่าตัว เธอเดินสำรวจรอบห้อง รวมไปถึงใน ห้องน้ำ เมื่อไม่พบป้าของตนเธอจะแทบจะหยุดหายใจเพราะเอา เข้าจริงป้านาเปรียบเสมือนแม่อีกคนของเธอ หากเกิดอะไรขึ้นกับ หญิงชราเธอคงเจ็บปวดไม่น้อย

“นี่ไงมือถือป้านา” นันทิชาหยิบมือถือที่วางทิ้งอยู่บนเตียงขึ้น มายื่นให้เพื่อน พริมรีบออกจากห้องน้ำเดินตรงมายังนันทิชา หญิงร่างอวบกดมือถือดูด้วยมือที่สั่นระริกด้วยความแคลงใจ เป็นเบอร์เธอทั้งหมดที่ขึ้นไม่ได้รับ

“ปกติป้านาต้องพักแล้ว หมดเวลางานตั้งนานแล้ว” พริมพูด พร้อมหันมายังนันทิชา ตอนนี้หัวใจของพริมแทบเต้นไม่เป็น จังหวะ เป็นครั้งแรกที่สาวร่างอวบ มือไม้สั่นด้วยความเป็นห่วง ป้าของตน

“ไปเรือนหลังใหญ่กัน ป้านาน่าจะอยู่ที่นั่น” จิตที่เป็นกังวล ทำให้ความกลัวหายไปในพริบตา พริมหญิงสาวที่ในเวลานี้แทบ คลั่งเพราะป้าแท้ๆ หายไปอย่างปริศนา

“แต่…แต่เราแอบเข้ามานะ” นันทิชาเตือนเพื่อนรักอีกครั้ง

“ถ้าเขาจะเอาเรื่อง ฉันจะรับเอง” พริมเป็นห่วงป้าของตน จน ลืมที่จะกลัวความผิดข้อหาบุกรุกเข้ามาบ้านคนอื่น

เมื่อเข้ามาภายในเรือนหลังใหญ่ห้องโถงกว้างขวางใหญ่โต ข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดตบแต่งไว้อย่างดี แต่เวลานี้บางจุดถูกปิด ไฟไว้ พริมและนันทิชาแยกย้ายกันตามหาในชั้นล่างอยู่หลาย นาทีแต่กลับไม่พบหญิงชรา
“ทิซา ขึ้นด้านบนเถอะ”

พริมเอ่ยเรียกเพื่อนสาวที่ยังยืนหาอยู่ด้านล่าง ร่างบางๆ วิ่ง ตามพริมขึ้นมายังชั้นบน ห้องหลายห้องทำให้ทั้งสองสับสนไม่ น้อย บางห้องเปิดได้ บางห้องเปิดไม่ได้ สองสาวแยกย้ายกันเข้า ห้องนั้นออกห้องนี้อยู่พักใหญ่ นันทิชาหยุดวิ่งค้นหา ก่อนที่จะจับ ประตูห้องหนึ่งค้างไว้เพื่อพักหายใจ บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ไม่ใช่ เรื่องง่ายเลยที่จะหาได้ครบทุกซอกทุกมุม ยังไม่ทันที่ลมหายใจ หอบนั้นจะจางหาย

“ป้านา! “เสียงของพริมดัง จนทำให้นันทิชารีบหันวิ่งมายัง ห้องต้นเสียงทันที

“ป้านาได้ยินพริมไหม มานอนอะไรตรงนี้” พริมพยุงร่างสูง อายุขึ้นนั่งอย่างช้าๆ ข้างๆ มีเครื่องดูดฝุ่น ไม้ถูพื้น กับผ้าผืนเล็ก ไว้เช็ดทําความสะอาดกองอยู่

“ตัวร้อนด้วย คนอื่นไปไหนกันหมด” พริมเสียงดังโวยวาย เธอ เริ่มไม่พอใจเมื่อเห็นสภาพป้าของตน ที่มานอนกองอยู่กับ อุปกรณ์ทำความสะอาดโดยไม่มีใครสนใจ แทบไม่อยากเชื่อ สายตาตัวเองที่เห็นป้าแท้ๆ ต้องมานอนซมอยู่กับพื้นโดยไร้คน เหลียวแลแบบนี้

“มีป้ากับน้อย น้อยอาจจะกลับไปห้องแล้ว ส่วนคุณแทนคงยัง ไม่กลับ” ป้านาได้สติจากเสียงดังโวยวายของหลานรัก จึงค่อยๆ ลุกยืนขึ้นด้วยตัวเอง แล้วพยายามอธิบายให้หลานฟัง ถึงแม้จะ ไร้เรี่ยวแรงด้วยพิษไข้ก็ตามที
“ป้าจะทําต่ออีกหน่อย นี่ก็ใกล้เสร็จแล้ว” หญิงสูงอายุพูดเสร็จ ค่อยๆ ก้าวไปหยิบไม้ถูพื้น ยังไม่ทันที่มือของเธอจะเอื้อมถึง นันทิ ชารีบแย่งเอามาถือไว้เอง เธอแทบทนไม่ได้ที่เห็นหญิงชราดื้อรั้น จะทําความสะอาดเองทั้งที่ป่วยจนแทบเดินไม่ไหว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ