ลิขิตรัก ในกรงแค้น

บทที่ 14 ไม้หรรษา



บทที่ 14 ไม้หรรษา

ร้านสาขาสามในเวลานี้ลูกค้ายังไม่มากเท่าไหร่นัก แทนคุณ นั่งเหม่อลอย ในสมองคิดเกี่ยวกับม่านฟ้า เพื่อนสาวที่เขาแกล้ง เป็นแฟนเพื่อหลอกพ่อของเธอ “หรือว่าเราจะชอบม่าน ความ ห่วงใยแบบนี้เรียกว่าชอบไหมนะ” ชายหนุ่มนั่งวนถามตัวเองอยู่ อย่างนั้นมานานหลายนาที ปากกาสีดำในมือยังคงถูกหมุนไปมา ไม่หยุด มืออีกข้างกุมศีรษะในขณะที่ใช้ความคิด

“แทน” เสียงเรียกของทีภพดังขึ้น ทำให้หลุดจากห้วงความคิด ทันที ก่อนจะขยับมองหาต้นเสียงอย่างไม่พอใจนัก “เหม่ออะไร ของนาย” ที่ภพตามหลังจากเดินเข้ามานั่งลงบนโซฟาหรูใกล้ แทนคุณ พร้อมวางเอกสารที่ถือมาลงไว้

ด้านข้าง แล้วหันมาจ้องมองเจ้านายหนุ่มด้วยรอยยิ้มอย่างคน อารมณ์ดี

“เรื่องม่านน่ะ ฉันคิดไม่ตก” แทนคุณตอบไปตามตรง ที่ภพยิ้ม พร้อมกับยกมือหนาขึ้นมาตบเบาๆ ที่ไหล่เพื่อน

“นายต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน ซึ่งบางครั้งความรู้สึกที่นาย สับสนอยู่ตอนนี้อาจจะเป็นความรู้สึกแค่เพื่อนหรือเป็นความรู้สึก ของความรัก ไม่มีใครรู้ดีเท่านาย แต่อย่างที่ฉันเตือนหากสายไป ม่านไม่ใช่สิ่งของ เธอพร้อมเดินออกจากชีวิตนายตลอด ถึงตอน นั้นใครก็ช่วยนายไม่ได้

ที่ภพกล่าวเตือนด้วยความหวังดี ซึ่งทั้งม่านฟ้าและแทนคุณต่างก็เป็นเพื่อนรักของเขา สิ่งที่ทภพต้องการคือความชัดเจนของ ทั้งสองที่ดูคลุมเครือมาหลายต่อหลายปี เมื่อเตือนสติเพื่อนเสร็จ ทภพหยิบเอกสารแล้วเดินตรงไปยังทางออก ก่อนหันมายัง แทนคุณที่ยังนั่งทำหน้าวิตกอยู่

“ไปกันได้แล้วเหลือร้านสุดท้ายที่ต้องไปดู นายจะนั่งสับสนอีก นานไหมฉันมีเวลาไม่มาก” สิ้นเสียงเรียกจากทภพ แทนคุณจึงลุก เดินตามเพื่อนออกไปอย่างว่าง่าย

ก่อนเลิกงานวันนี้ พรินสาวสูงอายุเจ้าของร้านเรียกพนักงาน ทุกคนให้มารวมตัวกัน สีหน้าเธอบ่งบอกว่ามีเรื่องสำคัญ แต่ไม่มี ใครทราบว่าเกี่ยวกับเรื่องใด และเมื่อพนักงานรวมตัวกันครบ เจ้าของร้านจึงเริ่มทำการอธิบาย

“ทุกคนฟังนะคะ วันนี้พี่มีเรื่องสำคัญจะมาแจ้งให้พวกเรา ทราบ คือ….” เธอเว้นช่วงไปครู่หนึ่งเพราะกำลังทบทวนสิ่งที่ กำลังจะสื่อสาร เธอต้องการให้พนักงานในร้านไม่ตระหนกตกใจ มากนักเมื่อได้ฟังการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น

“คือร้านนี้กำลังมีเจ้าของใหม่เข้ามา” เสียงซุบซิบดังขึ้นในหมู่ พนักงานของเธอทันที นันทิชากับพริมหันมองหน้ากัน เธอทั้งคู่ ต่างยังไม่เข้าใจความหมายที่ดินสื่อ

“เงียบก่อนค่ะ ฟัง นะคะ ร้านนี้จะเปลี่ยนเจ้าของใหม่แต่พวก เราทุกๆ คนก็ยังคงทำงานที่นี่ได้ตามปกติ

“พี่จะทิ้งพวกเราไปอย่างนั้นหรือคะ” เสียงพนักงานหนึ่งในนั้น ชูมือขึ้นแล้วถาม หญิงสูงอายุเจ้าของร้านหยุดอธิบายแล้วหันไปตอบ

“มีร้านอยู่ต่างประเทศที่ครอบครัวพี่ดูแล ครอบครัวพี่ ทั้งหมดก็นั่น ร้านทำกำไรให้ได้มากจริง แต่มันก็กับการพี่ต้องห่างลูกห่างสามี ต้องดูแลไม่วันสิ้นสุด ตอนอายุก็มากแล้ว พี่ไม่ได้ทิ้งพวก เราพี่หวังว่าพวกเราจะเข้าใจพี่ พรุ่งนี้เจ้าของร้านคนใหม่ จะเข้าชี้แจงให้พวกเราทราบอีกอย่างปลอดภัยคะ

เมื่อพูดจบหญิงสูงอายุจึงกลับเข้าไปยังห้องครัวปล่อยให้ พนักงานซุบซิบกันไม่ขาดปาก น้ำตาที่กลั้นเมื่อครู่ใหญ่ ไหลมา หลังจากเธอต้องหน้าพนักงาน เธอเองสร้างร้านกับมือ รักร้านเป็นอย่าง มาก เธอจําเป็นจะต้องตัดใจเนื่องด้วยครอบครัวเธอสำคัญ กว่า

“รินคะ” เสียงเรียก ใสหญิงเจ้าของร้านจึงรีบเช็ด น้ำตา แต่ไม่ทันเธอเช็ดเสร็จมือเล็กๆ พุ่งมากอดเธอ ด้านหลัง

“พี่รินไปหรือคำถามเอาไว้ พรินเจ้าของร้านเช็ดน้ำตาที่เหลือแล้วมือเรียวเล็ก ที่เอวเธอออกอย่างช้าๆ ก่อนหันเช็ด

“เข้าใจนะ ทิชา” สาวน้อยยิ่งน้ำตาไหล ตอบเจ้าของ ร้านพูดกับเธอสื่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก สิ่งเดียวที่เธอทำได้นั่นคือการยอมรับ ความจริง พรินเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งที่คอยดูแลเธอ การจากไปของพรินยิ่งตอกย้ำว่านอกจากบิดาของเธอแล้ว เธอ เองก็แทบจะไม่เหลือที่พึ่งในชีวิตเลย น้ำตายังคงไหลอย่างต่อ เนื่องภายใต้อ้อมกอดอบอุ่นนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ