ลิขิตรัก ในกรงแค้น

บทที่ 6 คนแปลกหน้า



บทที่ 6 คนแปลกหน้า

“ฉันคิดว่า นี่คงไม่ใช่บ้านป้าของเธอตามที่เธอบอกฉัน” นันทิ ขาหันมากระซิบเชิงต่อว่าพริม หลังจากป้านาพาทั้งสองมายัง เรือนเล็กหลังตึกใหญ่ คนอวบได้ยินกลับฉีกยิ้มด้วยสีหน้าเพื่อนๆ สื่อให้ทราบว่าเธอไม่มีอะไรจะโต้แย้งนันทิชา สองเท้าก้าวตาม หลังป้านาไปอย่างช้าๆ โดยไม่ตอบคำถามของเพื่อนสาว

“หนูไม่ใช่คนแรกหรอก ที่นางพริมมันหลอกมานะ”

ป้านาเอ่ยขึ้น หลังจากได้ยินนันทิชากระซิบพูดกับหลานสาว ตน ป้านาเองมักต้องแอบเปิดบ้าน ให้เพื่อนๆ ของหลานตัวแสบ เป็นประจำ แม้จะขี้บ่นตามประสาคนแก่ แต่แกเองปฏิเสธไม่ได้ ว่ารักหลานคนนี้มาก เพราะเป็นหลานคนเดียวของบ้าน เป็น ความหวังของทุกคนแม้จะดื้อรั้นบ้างตามประสาเด็กสาว แต่เธอก็ ไม่เคยเกเรเรื่องเรียนหนังสือ ยังสามารถทำเกรดเฉลี่ยได้ดีมา ตั้งแต่เด็ก หล่อนฉลาดเป็นกรด เอาตัวรอดเก่งเป็นที่หนึ่งไม่เป็น สองรองใคร เป็นนิสัยที่ติดตัวมาแต่เล็กแต่น้อย หลายครั้งที่ หล่อนเอาตัวรอดโดยการแกล้งป่วยหลังจากทำผิดเพื่อให้พ้น จากการถูกทําโทษ

“ป้าไปอาบน้ำก่อนนะ พริมกับเพื่อนก็ตามสบาย เตาอาหารป้า เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ที่สำคัญอย่าเสียงดัง

ปากนาหันมาปากเป็นนัยเตือนเด็กสาว ก่อนที่ทั้งสองพยัก หน้ารับคำ และหันมาจัดแจงอาหารที่วางเรียงรายไว้เต็มไปหมดแม้จะเป็นมื้อเล็กๆ แต่อาหารที่ป้านาเตรียมไว้ให้นั้นมากโข เดียวสำหรับสองคน นันทิชาลืมความโกรธที่มีกับพริ้มไปหมด เพราะอาหารมื้อนี้แสนอร่อยถูกปากไม่น้อย แสงไฟสีส้มอ่อน สะท้อนเข้ามาได้อารมณ์อบอุ่น ลมพัดเย็นจนไม่ต้องเปิดพัดลม หญิงสาวสองคนนั่งหันหน้าชนกัน โดยมีอาหารเป็นตัวเชื่อม

“ทิชา เธอจะไปเยี่ยมพ่อเธอเมื่อไหร่กัน” อยู่ๆ พริมก็เอ่ยถึง บิดาของนันทิชาขึ้นมา อาจเพราะนานแล้วที่ทั้งสองไม่มีโอกาส ได้สอบถามเรื่องส่วนตัวกันเท่าไหร่ หากแต่พริมทราบดีว่าทุก ครั้งที่เธอเอ่ยถึงเรื่องนี้อาจไปสะกิดแผลของเพื่อนสาวได้ นั่นจึง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอเลี่ยงเอ่ยถึงเรื่องนี้

“คงอีกหลายวัน งานที่ร้านก็วุ่นวาย ฉันยังไม่มีเวลาเลยพริม ขนาดเวลาอ่านหนังสือสอบ ยังหาแทบไม่ได้ ทำได้แต่คิดถึงพ่อ เท่านั้นแหละ” นันทิชาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปั้นหน้าให้อยู่ใน อารมณ์ปกติ แล้วจึงขยับปากตอบคำถามเพื่อนสาว ก่อนจ้อง มองคนอวบพร้อมกับแววตากลมโต

“เธอมาหาป้านาบ่อยเหรอ” หญิงสาวพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย ในทันที

“บ่อยนะ ป้านาแกใจดีวันไหนฉันไม่สบายใจแค่กดโทรหาให้ แกตาสักยกสองยกก็สบายใจแล้วล่ะ”

ร่างบางพยักหน้ายิ้มรับ ก่อนจะก้มลงไปหยิบอาหารเข้าปาก แม้เธอจะได้พบป้านาเพียงครั้งแรกก็พอดูออกว่าป้านารักพริม เป็นอย่างมาก พริมเติบโตมาท่ามกลางความรัก แม้ฐานะไม่ได้ร่ำรวยเหมือนใคร แต่พริมเป็นคนที่ความสุขได้ในทุกวัน เพราะด้วยกำลังใจ และพลังแห่งความรัก

นันทิชาจ้องมองพริมด้วยแววตาเป็นประกายเธอยินดีกับ ความโชคของเพื่อนได้ความรักอย่างเต็มที่ สองสาวกันตามประสาวัยรุ่นจนเวลาล่วงมากแล้ว ต้องกลับหอพัก ป้านาเป็นคนสองสาวลัดเลาะ กลับมาทาง เดิม นันทิชาไปมองบ้านหลังใหญ่เปิดไฟสว่างไสว นึกในต้องรวยไหนกันถึงบ้านหลังใหญ่ๆ ขนาดนี้ เจ้าของ บ้านคงความไม่น้อย ความคิดยังทันจบ บ้านที่อยู่เบื้อง หน้าค่อยเปิดออก แสงหน้ารถสาดเข้าตา

“ตายแล้วคุณแทน” ป้านาตกใจอุทานขึ้นทำท่าลุกลี้ลุกลน ด้วยคาดฝันเจ้านายจะกลับเข้าในเวลานี้ เพราะปกติแล้ว หากเวลาตีหนึ่งหมายความว่าเจ้านายจะต้องอยู่คอนโดแม่หญิงใดคนหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ขณะรถหรู ค่อยๆ แล่นเข้าจอดเทียบ กระจกทิชามองเห็นชายเป็นคนขับอย่างชัดเจน ยังหนุ่ม ลักษณะได้

“สองคนนี้ เป็นใครหรือนา” เป็นถามมีเสียงเสมือนพวกเธอเป็นอากาศธาตุ ก่อนจะเอ่ยถามถึงบุคคล แปลกหน้า จากแม่บ้านตน

“ละ หลานของเองแวะมาเดี๋ยวเดียว ก็กลับแล้วค่ะ” หลังจากป้านาลุกลี้ลุกลนพูดปลดไป ใครจะล่วงรู้ว่าในเวลา นี้หัวใจของหญิงชรานั้นเต้นกระเจิงไปหมด มือไม้เกี่ยวกันพัลวัน ด้วยกลัวเจ้านายคนฉลาดจะจับได้ แต่กระจกรถหรูกลับเลื่อนขึ้น พร้อมกับแล่นเข้าบ้านไปอย่างช้าๆ ประหนึ่งว่าไม่ได้สนใจสอง สาวแปลกหน้าเท่าไหร่นัก ป้านารีบพาทั้งสองสาวเดินอ้าวออก จากบ้านทันที

“นี่หรอป้า! คุณแทน” พริมเอามือทาบอก ดวงตาเบิกโพลง ด้วยความตกใจ เธอไม่คิดเช่นเดียวกันว่าเจ้าของบ้านที่ชื่อ แทนคุณ จะดูยังหนุ่มยังแน่นถึงเพียงนี้ ถึงแม้จะลักลอบพาเพื่อน เข้ามาบ้านเขานับครั้งไม่ถ้วนก็ตาม แต่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็น เจ้าของบ้านชัดเจนถึงเพียงนี้ ทำเอาสาวร่างอวบตะลึงงัน แข้งขา ยืนแข็งไม่อยากก้าวเดินออกจากบ้านหลังใหญ่เอาเสียดื้อๆ

“ป้าไม่เห็นเคยบอกฉันเลย ฉันจะได้มาบ่อยๆ ป้านะป้า!” พริม มุ่ยหน้าบ่นพึมพำ ทำท่าเง้างอนเหมือนเด็กไม่ได้ดังใจ

“แกไม่เคยถามฉัน อีกอย่างนะ อย่าคิดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ นักเลยนั่งพริม แกน่ะใคร แล้วหันไปมองใหม่ให้มันชัดๆ ว่าคุณ แทนน่ะเป็นใคร”

ป้านากระชากแขนคนอวบให้เดินตามมา พลางเสียงหญิงชรา และหลานสาวปะทะกันจีมมาตลอดทางไม่หยุดหย่อน หญิง ชราพาสองสาวตัวแสบมาส่งหน้าบ้าน ก่อนปากขมุบขมิบบ่นว่า หลานสาวของตน ฟังจับใจความไม่ได้จนลับเข้าบ้านไป เป็น หน้าที่ของนันทิชาที่พยายามลากเพื่อนให้เดินออกมาจากบริเวณ หน้าบ้านหลังใหญ่นั้น
คืนนี้เป็นอีกคนที่ทำให้นันทิชารู้ว่าคนเราเกิดมาไม่เท่าเทียม กัน แต่ความสุขของเธอขอเพียงแค่มีงานดีๆ ทำและได้อยู่กับ บิดาแค่นี้คงพอใจแล้ว ไม่ขอมากไปกว่านี้ ก่อนจะลากร่างเพื่อนที่ ยังตะลึงงันอยู่ ซึ่งตัวเองก็อ่อนเพลียมากจากการทำงานหนักเดิน ทางแยกย้ายกันกลับบ้าน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ