คุณหมอจอมเผด็จการ ติดรักเมียเก่า

ตอนที่ 22 ในเมื่อไม่ต้องการก็ทิ้งไปซะ



ตอนที่ 22 ในเมื่อไม่ต้องการก็ทิ้งไปซะ

เสี่ยวหนานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเธอลังเลอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสิน ใจโทรหาจิ้งอี้เซวียน

“มีธุระ?”

เสียงของจิ้งอี้เซวียนในสายโทรศัพท์แฝงไปด้วยความเย็นชา

“ใช่” เสี่ยวหนานตอบเสียงเบา ใจเธอที่ว่างเปล่ากลับมามี ชีวิตอีกครั้งและตอนนี้หัวใจเธอมันกำลังเต้นรัวเหมือนกลอง

“คุณว่างเมื่อไหร่ ฉันมีของอยากจะคืนคุณ

“คุณหยี ถ้ามันคือปัญหาการออกแบบบ้าน คุณสามารถติดต่อ คู่หมั้นผมได้นะ แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่น

เขาพูดแล้วชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นมาว่า “ของที่คุณ ต้องการคืนผม เมื่อเช้าผมได้มาแล้ว ดังนั้นผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่ายังมีอะไรที่ไม่ชัดเจนอีกหรือเปล่า แต่ถ้าคุณหยีจะยั่วผมละก็ ต้องขอโทษด้วยผมไม่นิยมนอนกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว อีก อย่างผมมีคู่หมั้นแล้ว คุณหยีโปรดจำไว้ด้วย ถ้าไม่มีอะไรแล้ว วางแล้วนะ ผมยุ่งอยู่

เมื่อจิ่งอี้เซวียนพูดจบเขาไม่รอให้เสียวหนานได้พูดก็วางสาย

เสี่ยวหนานยังคงถือโทรศัพท์คาไว้อย่างเหม่อลอย
ผู้ชายคนนี้ .

พอเลิกงาน เสี่ยวหนานเก็บของแล้วก็ตรงไปโรงพยาบาลทันที เด็กคนนี้สภาพไม่เลว ทำให้เสียวหนานค่อนข้างสบายใจ หลังจากเสี่ยวเซี่ยงหยังทานข้าวเย็นเสร็จ เสี่ยวหนานก็ไปหา

จิ่งอี้เซวียนที่แผนกประสาทศัลยศาสตร์

จริงๆ แล้วเธอก็ไม่แน่ใจว่าเวลานี้จึงเซวียนยังอยู่ที่โรง พยาบาลมั้ย?

“เอ๊ะ คุณหยี คุณมาหาคุณหมอจึงหรอ?”

ภายในแผนกนั้นมีเพียงแค่หยุนเฟิงที่นั่งอยู่ เขาจำเสี่ยวหนาน

“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณหมอจึงอยู่มั้ยคะ”

หยุนเฟิงส่ายหน้า “คุณมาช้าไป เขาเพิ่งออกไปเมื่อสักพัก ตอนนี้น่าจะอยู่ระหว่างทางกลับบ้านนะ

“งั้นหรอ” เสี่ยวหนานรู้สึกผิดหวังแต่ก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณหนู นเฟิง “ขอบคุณนะคะ”

หลังจากที่เธอออกไป เธอคิดอยู่นานจึงตัดสินใจจะไปหาเขาที่

บ้าน

ตั้งแต่เธอรู้ว่าต่างหูนั่นคือเพชรน้ำเงิน ใจเธอก็กระสับกระส่าย ไม่สบายใจ เธอซ่อนของมีค่าเอาไว้ในกระเป๋าตลอดทั้งวัน เธอกังวลว่าถ้าโดนโจรขโมยขึ้นมาจะทำอย่างไร ถึงเวลานั้นจะขาย เธอขึ้นมาเธอก็ไม่สามารถเทียบกับเพชรที่มีอยู่หนึ่งเดียวบนโลก นี้ได้

องขวัญชิ้นใหญ่ นอกจากนี้เธอไม่ต้องการเป็นหนี้ผู้ชายคนนี้ ของขว ขนาดนี้เธอรับไว้ไม่ได้เด็ดขาด

เสี่ยวหนานนั่งรถไฟใต้ดินไปบ้านของจิ้งอี้เซวียน

เสี่ยวหนานไม่สามารถนำต่างหูนี้กลับไปได้ แม้ว่าเขาไม่อยู่ เธอก็รอเขาแล้วกัน

เสี่ยวหนานเดินเล่นบริเวณรอบๆคอนโดอย่างเบื่อหน่าย

เธอยืนอยู่บนสะพานเล็กๆ ที่รอบข้างล้อมไปด้วยความเขียว ขจี สายลมยามค่ำคืนกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวกำลัง สะท้อนลงมาในทะเลสาบ ลมยาวค่ำคืนพัดเส้นผมของเธอพลิ้ว ราวกับน้ำตก

เธอนั่งลงบนสะพานนับดาวบนท้องฟ้าที่สะท้อนลงมาอยู่บนพื้น น้ำอย่างเบื่อหน่าย

ทันใดนั้นก็เห็นรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถจึงเซวียนลงมา จากรถ

เสี่ยวหนานรีบโทรไปหาเขา ปฏิกิริยาของชายหนุ่มเขาควัก โทรศัพท์ออกมาเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา แล้วลังเลอยู่หลายวินาที ก่อนที่เขาจะรับ

เอาเข้าจริง การกระทำเล็กๆ ของเขากลับทำให้เธอรู้สึกเจ็บอยู่ไม่น้อย

ดูเหมือนว่าเขาจะรำคาญเธอจริงๆ

แต่นี่จะเป็นการรบกวนเขาครั้งสุดท้ายและจะไม่มีครั้งต่อไป

แล้ว

“ฮัลโหล” เสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างหุนหันพลันแล่นได้ โทนเสียงใดๆ ไร้ความรู้สึก

“ฉันเอง”

เสี่ยวหนานพูดขึ้น “ฉันอยู่บนสะพาน จิ้งอี้เซวียนได้ยินก็หันกลับมาเห็นเธอยืนอยู่ใต้แสงไฟบน สะพาน ทั้งสองคนยืนมองกันอยู่ในระยะไกล

“หยีเสี่ยวหนานสรุปคนยังรังควานผมไม่เลิกใช่มั้ย” เขาถาม

ผ่านสายโทรศัพท์

“คุณเข้าใจผิดแล้ว” เธอส่ายหน้า อธิบาย “เพื่อที่จะไม่ต้อง

รังควานคุณอีก นี่เป็นเหตุผลที่ฉันตัดสินใจที่จัดการกับทุกอย่าง ให้ชัดเจน ของที่ควรคืนก็คืนแล้วตั้งแต่นี้ต่อไปฉันจะไม่มา รังควานคุณอีก คุณคิดว่าไงหล่ะ?”

“ดีมาก” มุมปากของเขายกขึ้นอย่างเย็นชา แล้วเดินเข้ามาหา

เธอ

จิ้งอี้เซวียนหยุดยืนอยู่หน้าเสียวหนาน
กลิ่นพิเศษทีเธอคุ้นเคยเข้ามาใกล้เธอ เขายืนห่างจากเธอไม่ ถึงครึ่งเมตร สายตามองมาหาเธออย่างแปลกใจ

แสงไฟนีออนบนสะพานตกมากระทบที่ใบหน้าที่ไม่ธรรมดา ของจิ้งอี้เซวียน เขาจ้องมองมาที่เสี่ยวหนาน “หยีเสี่ยวหนานให้ ผมดูหน่อยว่าคุณมีวิธีที่จะทำให้ความสัมพันธ์มันชัดเจนกับผม อย่างไร”

เสี่ยวหนานสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเธอก็นำต่างหูออกมาจาก กระเป๋าเธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะส่งมันให้กับเขา

“ขอบคุณที่เคยส่งของขวัญให้ฉัน แต่ฉันรับไว้ไม่ได้ ดังนั้นฉัน เคยจะคืนคุณ”

จิ่งอี้เซวียนรู้สึกประหลาดใจกับการกระทำของเธอ

ดวงตาสีเข้มจ้องเขม่นเธอ “นี่คุณกำลังล้อผมเล่นใช่มั้ย ใคร กันที่ขอให้ฉันคืนของให้เมื่อวันก่อน? แล้วตอนนี้หล่ะ? หยีเสี่ยว หนานนี่คุณกำลังเล่นละครกับผมอยู่หรอ?”

ดูเหมือนว่าเขากำลังโมโห

“ขอโทษ” เสี่ยวหนานขอโทษเสียงแผ่ว “เป็นเพราะว่าฉันไม่รู้ มาก่อนว่านี่คือเพชรที่มีราคาแพงขนาดนี้”

เธอก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขา ทำได้แค่บ่นพึมพำว่า “ฉันไม่ อยากติดหนี้อะไรกับคุณ โดยเฉพาะเรื่องเงิน

เธอไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์เหล่านี้มีเรื่องเงินทองเข้ามา เกี่ยว
และเธอก็ไม่ต้องการที่จะเป็นผู้หญิงที่ถือทิฐิในสายตาของจึง เซวียน เธอไม่ต้องการเงินทองจากตระกูลจิ้งจริงๆ!

“หยีเสี่ยวหนานคุณยังติดหนี้อะไรผมอยู่หรือป่าว” จิ้งอี้เซวียน ถามด้วยความโมโห มุมปากยกขึ้นอย่างเย็นชา “ของที่ผมให้ไป ผมไม่มีเหตุผลที่จะเอากลับคืน

“แต่ฉันไม่ต้องการมันไง” เสี่ยวหนานยังยืนยันคำเดิม

“ในเมื่อไม่ต้องการ ก็ทิ้งมันไปซะ!”

จิ้งอี้เซวียนก็คว้าต่างหูในมือเธอมาโดยเธอยังไม่ทันตั้งตัว เธอเห็นต่างหูเพชรน้ำเงินนั้นถูกขว้างลอยไปเป็นเส้นโค้ง พาราโบลา ร่วงลงไปในพื้นน้ำดังจ๊อม พื้นน้ำเป็นคลื่นหลายชั้น และก็สงบลงหลังจากไม่กี่วินาที

เสี่ยวหนานแทบไม่อยากเชื่อ

“คุณ…….. คุณทิ้งมัน?”

จิ้งอี้เซวียนหัวเราะขึ้นมา “ขอโทษนะฉัน จึงอี้เซวียนไม่รับของ ที่เป็นขยะ”

เธอมองหาต่างหูที่ตอนนี้จมหายไปในน้ำแล้ว ดวงตาของ เสี่ยวหนานแดงขึ้นโดยที่เธอไม่รู้ตัว “คุณทิ้งมันทำไม มันไม่ใช่ ขยะนะ”

อย่างน้อยมันก็ยังมีความทรงจำที่อบอุ่นของพวกเขานะ แม้ว่า เธอจะไม่ต้องการ แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะทิ้งมันนะ
“ของที่คนเขาไม่อยากได้ มันก็คือขยะนั่นแหละ ดูเหมือนจึง เซวียนกำลังโมโหอยู่มากๆ เสียงของเขาดังขึ้นมาทันที “ในเมื่อ มันเป็นขยะ ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมันไว้!!

“ถ้าฉันรู้ว่าคุณจะทิ้งมันแบบนี้ ต่อให้ฉันเป็นหนี้คุณฉันก็ไม่มี ทางคืนคุณหรอก”

ท้ายที่สุดน้ำตาของเสี่ยวหนานก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่

ได้

เธอยืนอยู่บนสะพานถอดเสื้อโค้ตหลังจากจากนั้นก็ถอด รองเท้าออก

จิ่งอี้เซวียน ใจหาย เขาคว้าแขนเธอไว้ “หยีเสี่ยวหนานคุณจะ ทําอะไร?”

“ไม่ต้องมายุ่ง”

เสี่ยวหนานสะบัดมือเขาออกด้วยความโกรธ โดยไม่พูดอะไร แล้วกระโดดตู้มลงไปในน้ำต่อหน้าต่อตาจิ้งอี้เซวียน

“แม่งเอ๊ย!”

คนที่ได้รับการศึกษามาอย่างดีอย่างยิ่ง เซวียนก็อดไม่ได้ที่จะ สบถคําหยาบออกมา

เขาถอดแจ็คเก็ตสูทและรองเท้าออกอย่างรวดเร็ว ในวินาทีต่อ มาเขาก็กระโดดตู้มลงในน้ำที่หนาวเย็นอย่างไม่ลังเล

ค่ำคืนของฤดูใบไม้ร่วงอากาศหนาวเย็น
น้ำในทะเลสาบหนาวเข้ากระดูก

จิ้งอี้เซวียนคว้าเสียวหนานที่ตอนนี้อยู่ในน้ำ พยายามกอดลาก เธอไปที่ฝั่ง เสี่ยวหนานขัดขืน จิ้งอี้เซวียนมีท่าทีหงุดหงิด รีบคว้าตัวเธอเข้ามากอดแล้วว่าย

น้ำพาเธอมาที่ฝั่งอย่างรวดเร็ว “คุณปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน!”

เสี่ยวหนานยังคงขัดขืนดิ้นรนอยู่ในอ้อมกอดเขา จึงเซวียนทำ

ตามที่เธอบอกเขาเหวี่ยงเธอลงบนพื้นหญ้าอย่างไร้ความปรานี

เสี่ยวหนานร้องออกมาด้วยความเจ็บ เธอลุกขึ้นนั่งบนพื้น เผชิญหน้ากับชายหนุ่มร่างเปียกโชกเช่นเดียวกันกับเธอที่กำลัง โมโหเดือดดาลตอนนี้

ร่างทั้งสองเปียกโชกไปทั้งตัว ลมยามค่ำคืนพัดผ่านหนาว จับใจ

จึงอี้เซวียนยืนอยู่ท่ามกลางสายลม เสื้อเชิ้ตสีขาวที่กำลังเปียก โชกแนบติดอยู่บนร่างของเขาทำให้เห็นกล้ามหน้าท้องที่แข็งแรง และเซ็กซี่มีเสน่ห์ขึ้นมาทันใด

สายตาที่แสนจะเย็นชาของเขากำลังจ้องไปที่ เสี่ยวหนาน

“หยีเสี่ยวหนานเธอบ้าหรือไง บ่อน้ำใหญ่ขนาดนั้น ต่างหูใหญ่ แค่ไหนกันเธอกระโดดลงไปแล้วคิดว่ามันจะเจอหรอ? ถึงเธอจะ หามันตลอดทั้งคืน จนเธอตัวแข็งตายในนี้เธอก็หามันไม่เจอ!!”

เสี่ยวหนานถูกเขาตวาดเสียงดัง ในใจร้อนรุ่ม เธอเช็ดหยดน้ำ บนใบหน้าพร้อมตะโกนใส่เขาอย่างทะนง “ถึงแม้ว่าฉันจะตัวแข็งตายหรือตายมันไม่เกี่ยว

เธอจงใจ”

สิ่งที่จิ้งเซวียนเกลียดมากเสี่ยวหนาน

แต่เพราะนิสัยแบบเลยทำให้เซวียนหลงเธอ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถออกจากกำแพงเวทมนตร์เธอสร้างไว้ได้

จิ่งเซวียนเดินไปสะพานจากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าและรองเท้า

ของและเธอเดินไปยังอาคาร

นี่ เอาเสื้อโค้ตกับรองเท้าฉันคืนมานะ”

เสี่ยว

“หยีเสี่ยวหนานคุณอยากตัวแข็งตาย ก็เดินตามมา

เขาพูด เดินเข้าอาคารแตะ

เขาเข้าไปอยู่ในลิฟต์ปุ่มค้างไว้ สายตามองไปเสียว หนานยืนตรงประตูพอดี

เสี่ยวหนานยืนตรงนั้น

ริมฝีปากไม่ยอมขยับ

เขาว่ากำลังประท้วงเขาประท้วงกับการกระทำที่เขา เพิ่งทิ้งต่างหูนั้นไปและคือเล่ห์เหลี่ยมเก่าๆ เธอ

เขาออกมาอย่างอดกลั้น
เสี่ยวหนานยังไม่ยอมขยับ เธอตาแดงเห็นได้ชัดว่าเธอกำลัง

โกรธ

“สาม”

เขาเริ่มนับเลข ไม่มีความเมตตาใดๆ ด้านนอก เธอกะพริบตาลงดูเหมือนกำลังลังเล

นี่เป็นสัญญาณที่ดี

“สอง”

เมื่อลมหนาวพัดมากระทบร่างทำให้เสี่ยวหนานสั่นเทา

แววตาที่ยากที่เข้าใจของเขากำลังมองมาที่ร่างผอมบาง เขา ลดเสียงเบาแล้วนับ “หนึ่ง” พร้อมกับดึงร่างบางเปียกชื้นที่ยืนอยู่ ด้านนอกเข้ามา

ประตูลิฟต์กลับยังไม่ปิดเพราะนิ้วของเขายังกดค้างไว้อยู่ไม่

เคยปล่อยตั้งแต่ก่อนที่เธอยังไม่ได้เข้ามา

เสี่ยวหนานมองเขาละมือออกจากปุ่ม เธอใจเต้น

เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง

เขาและเธอยืนอยู่ในพื้นที่เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศ แปลกๆ

ภายในลิฟต์เต็มไปด้วยกลิ่นของเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ