ตอนที่ 9
ฟ้าว!
ลูกศรไฟพุ่งแหวกอากาศผ่านม่านฟ้าไปปักลงที่บ้านเรือน อย่างไร้ทิศและไร้เป้าหมายเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น ซึ่งทรงมอง เพลิงไหม้ที่ลุกโชนควันกระจายสู่ท้องฟ้าในยามวิกาลอย่างเพลิน ใจจนต้องนอนหงายลงกับพื้นเอามือหนุนหัวก่อนเหลือบเห็นชาย ชุดขาวสวมผ้าคลุมปิดหน้านั่งชมจันทร์ผสมควันไฟอยู่บนกำแพง หน้าประตู ชิงทรงฉีกยิ้มพร้อมลุกขึ้นเมื่อใต้เท้าชางกับเหนียง ออกมาจากห้อง ชายลึกลับชุดขาวกระโดดลงกำแพงทางด้าน นอกหายไปอย่างว่องไวไร้วี่แวว
“ไปช่วยดับไฟสิ” ใต้เท้าซางสั่งคนงานในบ้านทันทีก่อนหันมา เจอชิงทรงยืนเอามือไขว้หลังมองตาปริบๆ
“เจ้าเป็นผู้ติดตามฮูหยินใช่หรือไม่”
“เจ้าค่ะ ข้าน้อยนามว่าชิงทรง” ชิงทรงแนะนำตัวก้มหัวให้ช้าๆ
เหล่มองหลัวเดินเข้ามาหาใต้เท้าชาง
“เกิดอะไรขึ้น ท่านพ่อ ท่านแม่
“ไฟไหม้บ้านข้างๆ ไม่รู้ว่าจะลามมาถึงจวนหรือไม่” จีเหนียง จับมือลูกสาวอย่างกังวล
“แล้วพี่ซื่อหมิงละท่านพ่อ” หลัวหันมาจับแขนใต้เท้าชางที่ เลิกคิ้วชาเลืองมองไปทางห้องที่ปิดสนิท
“ยังไม่มีใครออกมาเลยเจ้าค่ะ ทั้งท่านคาซึระและคุณหนู” ซิงห รงตอบทันทีอย่างฉะฉาน
“ข้าอยากเข้าไปดูว่าพี่ซื่อหมิงยังอยู่จริงหรือไม่” หลัวละมือ
ออกจากแขนผู้เป็นพ่ออ้าวมุ่งหน้าไปที่ห้องซื่อหมิง
“ยี่หลัว” เสียงเคร่งขรึมของใต้เท้าช้างเอ่ยขึ้นทำให้หลว หน้างอคอตกหมุนตัวกลับมากอดเหนียง “เข้านอนกันได้แล้ว”
สิ้นคำใต้เท้าชางจีเหนียงลูบหัวลูกสาวช้าๆแล้วเดินตามใต้ เท้าซางเข้าห้อง หลัวกระทืบเท้าอย่างหงุดหงิดก่อนมองชิงทรง ที่รุ่นราวคราวเดียวกันอย่างไม่สนใจหมุนตัวกลับไปที่ห้อง ซึ่งห รงเหลียวมองห้องลี่ซื่อหมิงช้าๆ ก่อนเดินไปที่ห้องสาวใช้อย่าง ใจ
แสงแดดส่องเข้าห้องจากประตูที่ถูกเปิดลี่ซื่อหมิงเอามือป้อง แดดแยงตาก่อนพลิกตัวลุกขึ้นมองรอบห้องช้าๆแล้วเดินนวด ต้นคอไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ฮวาเงินเดินผูกผ้าปิดตาคลำประตู เข้ามาในห้องหาทางมาที่เตียงเมื่อไร้คนนอนฟังจากเสียงน้ำไหล จึงจัดการปัดที่นอนอย่างทุลักทุเล หลัวยื่นหน้าโผล่เข้ามาแอบ มองอย่างหงุดหงิดกำลังจะก้าวขาเข้าแต่มีคนออกมาจากม่านกั้น เสียก่อนทำให้หลัวต้องรีบหลบซ่อนอยู่หลังประตูเอาหูแนบแอบ ฟังคนในห้อง
ลี่ซื่อหมิงตวัดหางตามองฮวาเงินก้มลงเก็บผ้าแพรคลุมเตียง ในขณะที่ปิดตาก่อนยืนขึ้นหมุนตัวเดินตรงดิ่งมาหาชายหนุ่มที่ ก้าวถอยหลังทีละก้าวกอดอกมองหญิงสาว
“คุณหนู! มาทําอะไรตรงนี้เจ้าค่ะ” เสียงชิงทรงดังขึ้น ทำให้ ซื่อหมิงมองไปทางประตูแล้วเดินผ่านตัวฮวาเงินที่หยุดยืนนิ่ง
“เบาๆ สิ” ยี่หลวเท้าเอวจ้องเขม็งซึ่งหนึ่งที่ก้าวถอยหลังก้ม หน้า ชื่อหมิงเดินมายืนหน้าประตูมองหลัวใส่ชิงทรงก่อนหัน กลับมาเจอลี่ซื่อหมิงพอดีถึงกับตกใจ
“พีชื่อหมิง”
“ข้านะสิ นี่ห้องข้า ทำไม ดูจะห่วงใยกันดีนะ กลัวข้าฆ่านาง นรี” น้ำเสียงกระแทกแดกดันเอ่ยขึ้นก่อนเหลียวมองฮวาเงินยีน หอบผ้ารออยู่ด้านหลัง
“ข้าน้อยขอทางเจ้าค่ะ” ฮวาเงินเอ่ยขึ้นพลางเอียหูฟังเมื่อรู้ว่ามี คนยืนอยู่หน้าประตู แม้จะจับทิศทางได้ไม่ชัดเจนแต่ก็ถือว่า เป็นการบอกกล่าว ชื่อหมิงยกมุมปากเหยียดยิ้มหมุนตัวเข้ามา ขวางทางฮวาเงินทันที หลัวมองตามอย่างไม่เข้าใจทำให้ฮวา เงินเดินเข้ามาใกล้ ซื่อหมิงโดยไม่รู้ตัว
ปีก!
ร่างบางชนเข้ากับแผงอกหนาๆ จนเซถลาล้มลง ซื่อหมิงกระ ทุกยิ้มชอบใจเดินออกไปอย่างพึงพอใจ ฮวาเงินผ่อนลมหายใจ ยาวประคองตัวลุกขึ้นจนชิงทรงต้องเข้ามาพาเจ้านายไปยังที่ หมาย หลัววิ่งตามลี่ซื่อหมิงมายังหน้าประตูจวน
“พี่ซื่อหมิง เหตุใดถึงทำกับฮูหยินตนเองเช่นนี้ ข้าไม่เข้าใจ นางทําอะไรผิดพี่ถึงได้กลั่นแกล้งนางขนาดนี้” เสียงยี่หลัวโวย วายจนเปยติงต้องออกมายืนดูเหตุการณ์
“ข้าจำเป็นต้องมีเหตุผลด้วยน
“พี่ชื่อหมิง” หลัวเสียงอ่อนลงเมื่อรู้ว่าการแข็งข้อกับคนหัวรั้น ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
“เหตุผลไม่มี ก็ดีเหมือนกัน งั้นข้าจะพาฮวาเงินไปเปิดหูเปิดตา ข้างนอกแล้วกัน หวังว่าเจ้าคงไม่ว่าอะไร” เปยติงเอามือไขว้
หลังเดินเข้ามาฉีกยิ้มมองหน้าชื่อหนึ่งอย่างเจ้าเล่ห์
“ตามใจท่าน” ลี่ซื่อหมิงหันกลับก้าวขาออก
“ปานนี้จวิ้นอ๋อง คงรอแย่” เปยยิงหมุนตัวกลับยิ้มมุมปาก เดินไปหาฮวาเงินที่อยู่ในครัว ซื่อหมิงหยุดชะงักก่อนจะเดินต่อ หลัวมองตามอย่างขัดใจหน้าบูดบึงเดินเข้าไปข้างในอย่างจำ ใจ
โรงน้ำชาข้างประตูเมือง ซื่อหมิงนั่งลงที่โต๊ะประจำก่อน เหลือบมองชายหนุ่มต่างถิ่นใบหน้าหวานราวกับสตรีเดินเข้ามา นั่งลงที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามวางถุงทองแล้วสั่งกับแกล้มพร้อมชา ดวงตาคู่สวยปรายตามองมาทางซื่อหมิงที่กระดกจอกยกซด แล้ววางลงอย่างแรงแต่ที่แรงกว่าเห็นจะเป็นมือหนักๆ ของพี่ชาย ทีตบลงบนบ่า
“ชาดีต้องมีนารี” เปลี่ติงนั่งลงขวางสายตาน้องชายพร้อมยิ้ม แหย่ ซื่อหมิงมองหน้าพี่ชายก่อนชำเลืองมองโดยรอบ
“หาใครรี” เปยลี่ติงมองตามสายตาของชื่อหมิงที่หันกลับมา
มองตนอีกครั้งแล้วรินซา ใส่ออกกระดกดื่ม
“เถ้าแก่! ” ซุนเฟิน ชายหนุ่มหน้าหวานเจ้าของปากนิดจมูก หน่อยกวักมือเรียกเจ้าของโรงน้ำชาพร้อมวางตำลึงหลังจากดื่ม ยังไม่ถึงครึ่งกาใหญ่ ลี่ซื่อหมิงมองข้ามหัวเปลี่ติงมองชาย แปลกหน้าอย่างไม่คลาดสายตา
“อ่า ๆ นายท่านเพิ่งมาถึงจะไปแล้ว”
“ข้าต้องรีบไปพบคนรักของข้า แล้วข้าจะกลับมาใหม่” ซุนเฟิน แสยะยิ้มเลียริมฝีปากเอามือกอดอกเหล่มองลี่ซื่อหมิงช้าๆ แล้ว เดินออกไป
“โชคดี โชคดี นายท่าน
เปียงมองตามสายตาลี่ซื่อหมิงก่อนยักไหล่ลุกขึ้นขวางทาง สายตาน้องชายอย่างยวน
“อะไรของท่าน”
“ไม่มีอะไร ข้าว่าขากลับไปหาจขึ้นอ๋อง กับฮวาเงินดีกว่า ดูมี ชีวิตชีวากว่าเยอะ”
“นี่ท่าน! ” ลี่ซื่อหมิงขมวดคิ้ววางตำลึงแล้วลุกพรวดเข้าไปดัก
หน้าเปยยิ่งที่กำลังจะเดินห่างออกไป “จะไปไหนรี” เปยลี่ติงเอามือลูบคางมองน้องชายด้วยรอยยิ้ม
เจ้าเล่ห์
“ไปกับท่าน”
“โรงเตี๊ยมนะ”
“ข้าจะไปหาจนอ๋อง”
“งั้นรี” เปยยิงยิ้มกรุ้มกริ่มมองชื่อหมิงเดินนำไปก่อนจะ หัวเราะชอบใจในลำคอ
ฮวาเงินเดินเลือกของใช้อยู่กับชิงทรงก่อนจะมีบุรุษรูปงาม หน้าหวานราวสตรีหยุดยืนขวางทางทั้งสอง ชิงทรงมองชายหนุ่ม แล้วกระตุกยิ้มหลีกทางให้ฮวาเงินมายืนขึ้นหน้าแทน ฮวาเงินม องสบตาชายหนุ่มตรงหน้าที่คำนับ ให้ด้วยรอยยิ้มทำให้ได้รอย ยิ้มจากหญิงตรงหน้าตอบกลับ ซึ่งหนึ่งเดินอ้อมไปซื้อพุทราเชื่อม ก่อนผงะเมื่อเจอลี่ซื่อหมิงยืนอยู่ตรงหน้าสายตาเฉียบคมจับจ้อง ไปทางชายหญิงที่ยืนยิ้มให้กันและกัน เปยยิ่งหยุดชะงักหลัง จากเดินตามมาข้างหลังมองน้องชายอย่างแปลกใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ