ฝึกยังไงถึง เป็นมาเฟีย

บทที่6



บทที่6

เวลานี้ลูกน้องของสามตายก โต๊ะสนุกเกอร์ไปไว้อีกด้านหนึ่ง จากนั้นก็เปิดไฟในห้อง ทันใดนั้นด้านในร้านสนุกเกอร์ก็สว่างขึ้น มา เขาเองก็ถอดเสื้อกันหนาวออก พับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น เมื่อ เตรียมตัวเสร็จ ตอนนี้เขารู้สึกน่าขัน ตัวเองต้องดวลตัวต่อตัวกับ เด็ก ไม่รู้ว่าแพร่ออกไปจะขายหน้าหรือเปล่า?

เซ่เหวินดงมายืนอยู่ด้านหน้าสามตา ไม่ได้มีความตื่นเต้นกลัว เลยสักนิด เหมือนทุกอย่างอยู่ในการควบคุม ห้องสนุกเกอร์เงียบ สงัด ทุกคนต่างมองสองคนที่ยืนอยู่กลางสนาม ความกดดันที่ มองไม่เห็นแผ่กระจายไปทั่วชั้นอากาศ

เห็นเซ่เหวินตงไม่มีทีท่าว่าจะเริ่ม สามตาพูดก่อนว่า “น้องชาย เริ่มได้รึยัง? “เซเหวินตงพยักหน้าตอบเขา

“ระวังนะ!”สามตาไม่เกรงใจอีกต่อไป ปล่อยหมัด ใส่เซ่เหวิน ตง เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว จึงหลบไปได้อย่างหวุดหวิด แต่ต่อ มาบริเวณท้องก็โดนสามตาถีบหนึ่งครั้ง เซ่เหวินตงถูกถีบตนตี ลังกาไปหลายตลบ จึงอยากลุกขึ้น แต่สามตาไม่ให้โอกาสนั้น เลย ถีบใส่ท้องเขาอีกครั้ง ร่างกายที่คลานอยู่บนพื้นลื่นไหลไป สองเมตรถึงจะหยุด หลีส่วงที่อยู่ด้านข้างเริ่มทนไม่ไหว เตรียมชัก มีดออกมา แต่ถูกเกาเฉียงห้ามไว้ พูดเสียงต่ำว่า “รออีกเดี๋ยว!” หลี่ส่วงโกรธจนกระทืบเท้า และแล้วเหงื่อก็ไหลพรากออกมา

เห็นเซ่เหวินตงคลานอยู่ที่พื้นเนิ่นนานก็ไม่ลุกขึ้น สามตาหัวเราะคิกคิก พร้อมกับพูดว่า “น้องชาย พี่ชนะแล้ว? “หันไปเอา เสื้อจากลูกน้องมาใส่

“ผมว่าไม่แน่ไม่รู้ว่าเซ่เหวินตงลุกขึ้นตอนไหน ใบหน้าไม่ได้ เจ็บปวด ดวงตาคู่แดง ฉายแสงเย็นยะเยือก “นาย…สามตารู้ ว่าไม่ใช่วัยรุ่นอายุสิบห้าสิบหกปีจะรับแรงถีบของเขาได้สองครั้ง

“คิกคิก ดูเหมือนจะประเมินน้องไป!”สามตาก้าวเท้ายาว ไปยังเซ่เหวินตง ยกเท้าไปแตะหน้าเซเหวินตง ทำให้ต้องถอย หลังไปหนึ่งก้าว แต่เซ่เหวินตงไม่ได้ล้ม ต่อมาก็โดนแตะอีกครั้ง เซเหวินตงถอยหลังไปสามก้าว ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็น จมูกหรือมุมปากก็ล้วนมีเลือดไหลออกมาทั้งสิ้น แก้มสองข้างก็ บวมขึ้นมา จากนั้นก็พ่นเลือดออกทางปาก เซ่เหวินตงยิ้มเล็ก น้อย

ตัวสามตาเองก็รู้สึกกลัว ถึงเขาจะเป็นผู้กระทำก็ตาม “นายล้ม ลงเดี๋ยวนี้”ตะโกนสุดเสียงเสร็จ สามตาใช้แรงทั้งหมดที่มีปล่อย หมัด ใส่เซ่เหวินตง เซ่เหวินตงขยับกายนั่งลงกะทันหัน ทำให้หมด ของสามตาพลาดเป้า เซ่เหวินตงพุ่งไปด้านหน้า จากร่างกายที่จะ ล้มไม่ล้มก็กลายเป็นปราดเปรียวขึ้นมา รีบดึงมืดที่แอบคาดเอว ไว้ จากนั้นก็แทงเข้าบริเวณจุดอ่อนในร่างกายของสามตา พอ ปลายมีดแทงเข้าเนื้อก็ยังมือไว้ เซ่เหวินตงชักมีดกลับมา แล้วใช่ ปลายมีดแหลมพูดกับสามตาว่า “เมื่อกี้พี่ตายแล้ว”

สามตามองแผลบนกระดูกอ่อนซี่โครง ก้มหน้าพิงกำแพงโดย ไม่พูดอะไร เซ่เหวินตงยืนนิ่งรอเขาตอบอยู่ตรงนั้น หลวงพูดกับ เกาเฉียงที่อยู่ด้านข้างอย่างตื่นเต้นด้วยเสียงเบา “ฮ่าๆ พี่ตงชนะแล้ว!”เกาเฉียงพยักหน้า ชักมีดที่คาดเอวไว้ออกมา จากนั้น ค่อยๆดึงไปยังสนามประลอง สามตาแพ้แล้ว แต่ไม่ได้ หมายความว่าเขาจะไม่มีกำลังต่อสู้ เกาเฉียงกลัวสามตาไม่ ยอมรับความพ่ายแพ้ แอบล่อทำร้ายเซ่เหวินดง

ผ่านไปสักพัก สามตาเงยหน้าขึ้นมองเซ่เหวินตงพร้อมกับพูด ว่า“ถึงจะรู้สึกไม่พอใจหน่อย แต่ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น พี่แพ้ แล้ววันหลังนายก็คือลูกพี่ ขอเพียงนายพูดคำเดียว ชีวิตของพี่ก็ ให้นายได้”พูดจบก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อม

เซ่เหวินตงหัวเราะคิกคิก ภาพตรงหน้ามืดมน แล้วสลบไป สามตาไหวพริบดีรับตัวเซ่เหวินตงไว้ได้ ก่อนจะตะโกนเสียงดัง ลั่น “ออกไปโบกรถเร็ว!”ยังไม่ทันสิ้นเสียง หลวงก็วิ่งออกไปหา รถแล้ว…

สามตาส่งเซ่เหวินตงไปที่โรงพยาบาล ผลวินิจฉัยอาการคือ กระดูกอ่อนเสียหายหลายตำแหน่ง บางจุด ในและสมองได้รับ กระทบกระเทือนเล็กน้อย ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หลี่ส่วงแจ้งทางบ้านของเซ่เหวินดงว่าเขาเกิดอุบัติเหตุทาง รถยนต์ ตอนนี้อยู่ในโรงพยาบาล พ่อแม่เซ่เหวินตงได้ยินก็ถาม ว่าโรงพยาบาลไหน จากนั้นก็ไปอย่างรีบร้อน หลังเจอหน้ากัน พวกหลีส่วงทั้งปลอบใจทั้งอธิบายถึงทำให้พ่อแม่เซ่เหวินตง สบายใจ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ หลีช่วงจับสามตาที่เพิ่งพันแผล บริเวณจุดอ่อนของร่างกาย แล้วพูดว่า “คุณลุงคุณป้าครับ เขา เป็นคนขับรถชน ตงเองครับ!”เกาเฉียงกับพี่น้องข้างกายหลาย คนต่างพยักหน้า เกาหัวพลางยิ้มซื่อบื่ออย่างอึดอัดใจ
ครึ่งเดือนต่อมา เซ่เหวินตงหายดีพอประมาณแล้ว คุณหมอบ อกว่าบำรุงอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว วันนี้มีเพียงพ่อแม่ของเขา มารับที่โรงพยาบาล พวกสามตาได้คุยกันว่าไม่มาแล้ว ซึ่งเซ่เห วินางก็ไม่อยากให้พ่อแม่เจอหน้าพวกเขา

หลังกลับถึงบ้าน พ่อแม่ทำอาหารอันโอชะมื้อใหญ่ให้เขา เพื่อ ฉลองออกจากโรงพยาบาล มองอาหารเต็มโต๊ะ ทำให้เซ่เหวินตง รู้สึกผิดในใจ หากพ่อแม่รู้ว่าตนเข้าโรงพยาบาลเพราะชกต่อย กับผู้อื่น ไม่รู้ว่าพวกเขาจะคิดเช่นไร ตอนนี้เซเหวินตงทั้งรู้สึกผิด ต่อพ่อแม่ แต่เวลาเดียวกันก็ไม่อาจละทิ้งชีวิตปัจจุบันได้ ในช่วง เวลาที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการหลงระเริง เขาถึงสัมผัสความ สุขได้ บนโลกนี้ไม่มีอะไรจะมีความสุขไปกว่าการได้รับการ เคารพของผู้อื่นอีกแล้ว อย่างน้อยตอนนี้เขาคิดเช่นนี้

เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองทำถูกหรือเปล่า แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขา มั่นใจแน่ชัด นั่นก็คือเขาชื่นชอบวิถีชีวิต ในตอนนี้มาก อาจเป็น เพราะตนเป็นคนเลวแต่กำเนิดก็เป็นได้ เซ่เหวินตงปัดความทุกข์ ทิ้งชั่วคราว ร่วมกินกับข้าวบนโต๊ะให้หมดกับพ่อแม่อย่างมีความ สุข

วันรุ่งขึ้นเซ่เหวินตงก็แบกกระเป๋าหนังสือไปโรงเรียน เขาเห็น คนไม่น้อยกว่าห้าสิบคนยืนอยู่ตรงประตูโรงเรียนแต่ไกล มุมปาก เซ่เหวินตงยกสูงขึ้น เห็นเพียงสามตากับเกาเฉียงนั่งยองๆอยู่บน พื้น ในมือยังคีบบุหรี่พลางพูดคุยไปด้วย ร่างกายอ้วนท้วนของ หลี่ส่วงนั่งไม่ลง ยืนเต้นแร้งเต้นกาอยู่ด้านข้าง ไม่รู้พูดอะไรอยู่ เสียงดังเหมือนลำโพงอย่างนี้ทำให้เซ่เหวินตงได้ยินแต่ไกล ทั้สามคนเห็นเซ่เหวินตงเดินมาแต่ไกลก็โยนบุหรี่ทิ้ง จากนั้นก็ลุก ขึ้น หลี่ล่วงเปล่งเสียงดังลั่น “ยืนให้ดี ยืนให้ดี พี่ดงมาแล้ว!!

พรรคพวกที่นั่งกระจัดกระจายอยู่ก็รีบเข้าเป็นสองแถว หลังเซ เหวินตงเดินเข้าใกล้ ทุกคนต่างพูดพร้อมเพรียงกันว่า “สวัสดีพี่ ตง! “นักเรียนที่เดินผ่านเห็นเข้าก็รีบหลบไปไกล คนเดินผ่านไปมา ต่างหันหน้ามามอง ดูขบวนอย่างนี้ พลางคิดในใจว่า แก๊ง มาเฟียเหรอ ?

สามตาเกาหัว มองเซ่เหวินตงอย่างเก้อเขิน”พี่ดง ครั้งก่อนขอ โทษจริงๆ ขอบคุณที่พี่ยงไม่ได้แทงเข้าไป หมอบอกผมว่าบาด เจ็บอยู่ใกล้ตับ”เซ่เหวินตงหัวเราะ ฮ่าๆ พลางพูดว่า “ถ้าผมแทง เข้าไปจริงๆจะมีพี่น้องดีๆอย่างพี่ไหม? “พูดจบก็ยื่นมือไปยัง สามตา ดวงสามตาตามีความซาบซึ้งแบบผ่าน เขาจับมือเซ่เหวิน ตงไว้แน่ หลี่วงกับเกาเฉียงก็เข้ามาวางมือไว้ด้านบน ยามนี้มือ ของทั้งสี่คนประสานกันแน่น ดุจดั่งชะตาชีวิตของพวกเขาที่ไม่ อาจแบ่งแยกได้ หลวมรวมเป็นหนึ่งเดียว ทั้งสี่คนไม่พูดอะไร หวัง ว่าความซาบซึ้งของวินาทีนี้ตราตรึงอยู่ในหัวใจตลอดกาล เซ่เห วินตงในตอนนี้ ในสายตาของลูกน้องเขาเป็นวฮีโร่ที่แท้จริง พวก เขารู้สึกว่าขอเพียงมีพี่คงอยู่ ไม่มีเรื่องใดยากเกินความสามารถ ของพวกเขาได้ ฮีโร่ไม่ได้ใช้ปากพูดพร่ำอย่างเดียว ต้องใช้การก ระทํามายืนยันด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ