ฝึกยังไงถึง เป็นมาเฟีย

บทที่4



บทที่4

ใบหน้าเกาเฉียงประดับรอยยิ้มอันโหดร้าย จากนั้นก็ถีบเซ่เห วินตงล้มอีกครั้ง “ทําไม หมดฤทธิ์เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”เกาเฉียง เหยียบบนหน้าของเซ่เหวินตง หันไปถามหลวง “คนนี้ก็คือไอ้ หมาลูกพี่มึงเหรอ ตอนนี้อยู่ใต้เท้ากฮ่าๆๆ……

หลุล่วงดิ้น อยากลุกขึ้นมา แต่คนสี่ถึงห้าคนแบ่งจุดทับมือและ ขาของเขา “เกาเฉียง แม่ง…”ยังพูดไม่จบก็ถูกคนรอบข้างถีบใส่ หน้า หลี่ล่วงไอหนึ่งครั้ง แล้วคลายเลือดออกมาจากปาก

เซ่เหวินตงที่นอนอยู่บนพื้นจู่ๆก็จับข้อเท่าผู้ที่เหยียบหน้าตน เกาเฉียงมึนงง เซ่เหวินตงเอามีดคัตเตอร์แทงที่ต้นขาเขา “อ๊าก~~”เกาเฉียงส่งเสียงร้องโอดครวญเหมือนหมูโดนฆ่า เขา จับแผลบนต้นขาแล้วถอยหลังหลายก้าว เซเหวินตงลุกขึ้นเดินไป อยู่ข้างกายเกาเฉียง

จากนั้นกําหมัดชกใส่หน้าเขา ลูกน้องเกาเฉียงเห็นมีเลือดไหล ก็ทำตัวไม่ถูก พวกเขายืนอึ้ง แต่เซ่เหวินตงไม่ได้หยุด จ้องตาแดง ทั้งชกทั้งถีบใส่เกาเฉียง ไม่นาน เกาเฉียงถูกตีจนเลือดเต็มไป หมด แล้วก้มอยู่ที่พื้น หลี่ล่วงถือโอกาสคนอื่นอยู่ในอาการอึ้งทึ่ง ลุกขึ้นมา จากนั้นคว้าท่อนไม้สี่เหลี่ยมที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ แล้ว ปล่อยใส่หัวคนที่ถีบเขาเมื่อกี้ คนนั้นส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด จากนั้นก็เอามือบังหัวพร้อมกับคุกเข่า เลือดซึมออกมาตาม ระหว่างนิ้ว หลี่ช่วงตะโกนว่า “พรรคพวก ออกมาให้หมด!
สิ้นเสียงไม่นาน ระเบียงทางเดินมีเสียงฝีเท้ายุ่งเหยิงส่งมา ไม่ นาน ในห้องก็มีคนเข้ามาอีกเจ็ดถึงแปดคน หลี่ล่วงตะโกนว่า “ผมกระทืบให้เละเลย!! แล้วยกเท้าไปตีคนที่เหลือของพวกเขา โดยไม่พูดอะไรก็ถีบคนที่เกาเฉียงพามาอย่างดุเดือด

เซ่เหวินตงจับผมของเกาเฉียงไว้ แล้วดึงหัวขึ้น เวลานี้สติการ รับรู้ของเกาเฉียงเลอะเลือน ตาข้างหนึ่งถูกชกจนบวมนูน ตาอีก ข้างมองคนตรงหน้าอย่างพร่ามัว “เจ้านี่ ครั้งนี้กูยอมแล้ว เพราะ กูไม่ได้โหดเท่ามึง จะฆ่าแกงยังไงก็เชิญตามสบาย ถ้าเกาเฉียง อย่างกู พูดหนึ่งก็ไม่ใช่คนที่มีแม่เลี้ยง!

เซ่เหวินตงวางมีดคัตเตอร์ไว้ที่คอของเขา”ตอนนี้นายมีสอง ทางเลือก หนึ่งคือโดนเก็บ สองคือเป็นลูกน้องกู นายเลือกเอง”เซ เหวินตงปล่อยเกาเฉียงลงแล้วถอยหลังสองก้าว เวลานี้คนอื่นก็ ยกมือยืนอยู่ด้านหลังเซ่เหวินตง นักเรียนมีไหวพริบคนหนึ่งรีบยก เก้าอี้มา เซ่เหวินตงมองหน้าเขาแล้วยิ้มให้ จากนั้นก็นั่งลง นั่งเท้า ไขว่ห้าง นิ้วมือเคลื่อนที่อยู่บนใบหน้าเบาๆ

เกาเฉียงเช็ดเลือดมุมปาก มองลูกน้องที่ล้มอยู่ที่พื้น จากนั้น ถามว่า“สหาย ถึงชื่ออะไร?”

“เซ่เหวินตง”เซ่เหวินตงเอามีดเข้ากระเป๋ากางเกงของตัวเอง พร้อมกับตอบคําถาม

“ได้ พี่ตง ข้าน้อยนับถือท่าน วันหลังถึงคือพี่ใหญ่ของกู!”เกา เฉียงรู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่เพียงแต่โหดร้ายเพียงพอ ยิ่งกว่านั้น ยังมีสมองอีก อนาคตคงได้เป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดา
เซ่เหวินตงลุกขึ้น ตบไหล่เกาเฉียง พลางพูดว่า “คิกคิก!วันหลัง ทุกคนก็เป็นพี่น้องกันแล้ว มีของกูก็ต้องมีของมึงแน่!”พูดจบก็ เดินออกจากห้อง เกาเฉียงมองแผ่นหลังที่หายไปตรงประตู แวว ตายังคงความเป็นกันเองอย่างอบอุ่นในตอนที่เขาถูกเซ่เหวินตง ตบไหล่ นาทีนี้เขารู้สึกมีความสุขโดยไม่รู้ที่มา

คนที่เข้ามาตอนหลังมึนงงเล็กน้อย พวกเขาเป็นเพื่อนของหลี่ วง วันนี้หลวงบอกว่ามีคนหนึ่งเป็นลูกพี่ของเขา ให้พวกเขามา พบหน้ากัน หลังเจอหน้าแล้วก็รู้สึกผิดหลัวหนักมาก เพราะเซ่เห วินตงตรงหน้าไม่เห็นมีดีอะไร เพราะเห็นแก่หน้าหลี่ล่วง จึงเรียก เซ่เหวินตงตามหลี่ล่วงว่า “พี่ตง ในใจกลับไม่เต็มใจเลยสักนิด คาดไม่ถึงว่าคนธรรมดาในสายตาพวกเขา คนเดียวก็เอาเกา เฉียงอยู่หมัด ยังให้เกาเฉียงเป็นลูกน้องได้อย่างซูฮก ตอนนี้เซ เหวินตงทำให้พวกเขาเต็มอกเต็มใจได้แล้ว

หลี่ส่วงทำลายความเงียบ พูดกับคนด้านข้างว่า “แม่ง ยังอึ้งอยู่ ทำไม?รีบพาพี่เฉียงกับคนพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บไปโรงบาลดิ!” คนอื่นได้ยินก็รีบยกเกาเฉียงกับลูกน้องที่บาดเจ็บ เกาเฉียงผลัก คนที่มาพยุงเขา ลุกขึ้นยืนนเองอย่างดิ้นรน “กูเดินเองได้โว๊ย!ไอ้ อ้วน ครั้งนี้เรียกว่าพี่เฉียงเหรอว่ะ?ตบหัวแล้วลูบหลังนี้ว่ะ!”

หลี่ล่วงยิ้มอย่างอึดอัด”พี่เฉียง ดูพี่พูดสิวอีกหน่อยพวกเราก็ เป็นพี่น้องกันแล้ว ตามพี่ตงบุกใต้หล้า รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน มา ผมพยุงพี่เอง!”หลี่ล่วงพยุงเกาเฉียงที่ร่างกายโซเซ เกาเฉียง ตบหัวเขา แม่ง ไอ้บ้าเอ๊ย…!! คนทั้งกลุ่มหัวเราะเดินเข้าโรง พยาบาล
เซ่เหวินตงอยู่บนถนนระหว่างทางกลับบ้าน เขาเดินช้ามาก ย้อนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ ตัวต้องทำอย่างไรถึงไม่โดน คนอื่นรังแก ค่าตอบคือ มีเพียงตัวเองแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ทำ อย่างไรถึงแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ต้องโหดเข้าไว้ นักเลงใน โรงเรียนเกือบทั้งหมดถูกเขาควบคุมหมดแล้ว ถ้ามีอีกก็เป็นนอก รั้วโรงเรียนแล้วแหละ เซ่เหวินดงตัดสินใจสร้างอำนาจของตัวเอง ยึดโรงเรียนมัธยมที่สองเป็นศูนย์กลาง แล้วชักจูงพวกเด็ก อันธพาลในสังคมเข้าร่วม คนกลุ่มนี้อายุไม่มาก เวลาชกต่อยกัน ไม่รู้จักหนักเบา พูดตรงๆก็คือโหดใช้ได้ ด้วยความที่เป็นวัยรุ่น ใจร้อนกับเลื่อมใสวีรบุรุษอย่างหน้ามืดตามัว จึงทำให้ควบคุมได้ ง่าย ตอนนี้สมองของเซ่เหวินตงสูงเกินอายุจริงของเขาแล้ว หรือ ผู้ใหญ่บางคนอาจเทียบไม่ได้

เซ่เหวินตงไม่ได้มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงตอนอยู่บ้าน ยังเป็น ลูกชายแสนดีที่เชื่อฟังเหมือนเดิม เป็นความภาคภูมิใจของพ่อ แม่ ในโรงเรียน ยังคงเป็นนักเรียนดี เด็กเรียนเก่งสุดในสายตา ของคุณครูเช่นเดิม แต่ชื่อเสียงของเขาแพร่กระจายไปนอกรั้ว โรงเรียนมัธยมที่สอง พวกใฝ่ต่ำทั้งหลายรู้ว่าช่วงนี้โรงเรียน

มัธยมที่สองมีเจ้าแห่งอันธพาลคนใหม่ เซเหวินตง ต่อสู้อย่าง โหด อาวุธประจํากายคือ มีดคัตเตอร์…

วันนี้เซ่เหวินตงตั้งใจฟังคำสอนของคุณครูทุกคำในห้องเรียน ดั่งเช่นปกติ เขาคิดว่า ไม่ว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร อนาคตทำ อะไร การศึกษาสำคัญมากที่สุดในทุกช่วงเวลา มีสมองที่ฉลาด เกินคนดีกว่ามีร่างกายที่แข็งแกร่งเป็นไหนๆ หลังเลิกเรียน หลีวงวิ่งเข้ามาจากด้านนอก จากนั้นมากระซิบข้างหูเซ่เหวินตง “พี่ ตง ลูกน้องสามตาอยากเจอหน้าพี่

เซ่เหวินตงกำลังก้มหน้าคำนวณเลขบนกระดาษ พูดอย่างไม่ เงยหน้าว่า”อืม จึงให้เขารอแป๊บหนึ่ง กทำข้อนี้เสร็จก่อน

หลี่ล่วงพยักหน้าแล้ววิ่งออกไปติดจรวด ชื่อจริงของสามตาคือ จางจื้อตง เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะหัวหน้าแก๊งอันธพาลประจำรุ่น ของโรงเรียนมัธยมที่สอง ชกต่อยแบบไม่หวงชีวิต ครั้งหนึ่งเคย กับเพื่อนร่วมแก๊ง จนทำให้หน้าผากทิ้งรอยแผลเป็นยาวสองนิ้ว พอมองไปให้ความรู้สึกเหมือนมีสามตาข้าง และนี่ก็คือที่มาของ ฉายาสามดา

หลี่ล่วงวิ่งไปชั้นล่าง สนามของโรงเรียนมีคนยืนเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเป็นพวกของเกาเฉียงมีลูกน้องประมาณเจ็ดถึงสิบคน ส่วนอีกกลุ่มเป็นลูกน้องของสามตามีด้วยกันทั้งหมดสิบคน เกา เฉียงนั่งเอียงหน้าในขณะที่สูบบุหรี่อยู่ที่พื้น เมื่อเห็นหลวงมา เขาก็ดีดหัวบุหรี่ ลุกขึ้นมาถาม “ไอ้อ้วน พี่ตงล่ะ?”

“เดี๋ยวพี่ตงมา ให้พวกเขารอแป๊บหนึ่ง!”หลี่ล่วงที่ร่างกาย ตุ้ยนุ้ยหายใจหอบเหนื่อยนิดๆ

เกาเฉียงเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ “แม่ง ไอ้อ้วนดูสารรูปถึงดี ลด น้ำหนักไม่ได้เหรอว่ะ?วิ่งไม่กี่ก้าวก็หอบเหมือนหมูเลย”

“ไอ้บ้า จึงคิดว่ากูไม่อยากลดเหรอว่ะ พูดมันง่ายนะโว้ย!”หลี่ วงมองลูกน้องของสามตาที่รอจนเหลืออด พลางพูดว่า “พวกมึง อีกแป๊บ ลูกพี่พวกกูเดี๋ยวก็มา
“แม่ง ใหญ่มาจากไหนฟะ แม่งคิดว่าตัวเองเป็นใคร!”คนที่ สวมแว่นกันแดดสีเหลืองพูดเสียงดัง

หลุล่วงได้ยินเลือดขึ้นหน้า เดินไปด้านหน้าคนนั้น แล้วปล่อย หมัด ใส่หน้าเขาอย่างไม่ให้สัญญาณ แว่นกันแดดลอยกระจุยไป ไกล ลูกน้องสามตาคิดไม่ถึงว่าจะลงมือ รู้สึกว่าไม่ไว้หน้ากันเลย ดังนั้นฝ่ายตรงนั้นทุกคนต่างเอามือเข้าเสื้อ แล้วจับใบมีดที่ซ่อน อยู่ในนั้น แกนนำในกลุ่มโบกมือ เพื่อไม่ให้ลูกน้องนุ่มบ่าม พลาง พูดกับหลวงว่า “ลูกน้องคนนั้นเพิ่งมา ไม่รู้เรื่อง น่าขัน

หลี่ล่วงหัวเราะ ฮ่าๆ’ พูดง่าย พูดง่าย! จากนั้นก็มองไปยังคน ถูกตี “ก่อนออกมาควรสั่งสอนก่อนรู้ไหมว่ะ อย่าอมมาพูดสัตว์!

แกนนำสีหน้าเปลี่ยนไป แต่ไม่นานก็พูดเหมือนหนังยิ้มแต่ผิว ไม่ยิ้ม”อืม ลูกพี่ใช้หมัดสั่งสอนครั้งนี้ กูจำได้แล้ว ฮ่าๆ”

“มึงจ๋าอีแม่มึงดิ!”เกาเฉียงยืนเก็บอารมณ์ไว้นานแล้ว เห็นท่าที ผู้นำกลุ่มแล้วก็ยิ่งโมโห จึงค่าออกไปหนึ่งประโยค แล้วถีบ ลงท้องน้อยของอีกฝ่าย คนนั้นเอียงหลังถอยไปหลังก้าว ลูกน้อง เข้ามาประคอง ตอนนี้ลูกน้องของสามตาไม่ทนอีกต่อไป ทุกคน ต่างชักมีดออกมา คนที่หลวงกับเกาเฉียงพามาก็เอาท่อนไม้ ออกมาจากแผ่นหลัง ตอนนี้สถานการณ์ตึงเกลียดมาก พร้อมที่จะ ระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ แต่ละคนต้องมองคู่ต่อสู้ของตนตาเขม็ง และเวลานี้เอง เซเหวินตงสองมือล้วงกระเป๋าเดินออกมาจาก อาคารเรียนอยากไม่รีบร้อน

“คิกคิก!คึกคักจังเลยนะ?

“เซ่เหวินตงเดินมาอยู่กึ่งกลาง ไม่ได้เห็นใบมีดคู่ต่อสู้อยู่ในสายตา เห็นนักเรียนธรรมดา ใส่เครื่อง แบบโรงเรียนมัธยมที่สองมา หัวหน้ากลุ่มอีกฝ่ายถามพลางลูบ ท้อง “ไอ้เวร มึงมาทําอะไรเหรอ

เซ่เหวินตงไม่ได้พูด หรี่ล่วงพูดเสียงดังว่า “คนนี้คือลูกพี่ของ พวกเรา”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ