สามี ข้าจะปกป้องเจ้าเอง

ตอนที่ 10 เจอช่องทางการทำการค้าใหม่



ตอนที่ 10 เจอช่องทางการทำการค้าใหม่

อากาศนับวันยิ่งหนาวเย็นขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเวลาเช้ามีหิมะตกลง มาอย่างหนัก สัตว์ที่อยู่บนเขายิ่งบางตาลงเรื่อย ๆ

“ท่านพี่ วันนี้อย่าออกไปเลย”จอสวมชุดที่ถูกตัดทำขึ้นใหม่ คอหดสั่นพลางกับพูดโน้มน้าวหลี่ชวนถึงที่ทำความสะอาดธนู หน้าไม้อยู่

ไม่กี่วันมานี้หลี่ชวนถึงเอาสัตว์กลับมาด้วยยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ หลาย ๆ ครั้งเลยทีเดียวที่ออกไปแล้วต้องกลับมามือเปล่า สีหน้า ท่าทางดูไม่ค่อยดี

กู้ชื่อกลับรู้สึกว่าก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เอาจริง ๆ วันนี้มันก็ช่าง หนาวเหน็บเย็นยะเยือกไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ไม่ต้องพูดถึงสัตว์ หรอก ในตอนกลางวันคนเองยังอยากจะเอนกายมุดตัวอยู่ใน โปงผ้าห่มไม่ออกมา

หลี่ชวนถึงมองไปที่หิมะสีขาวโพลนแล้วถอนหายใจออกมาอีก รอบ “อากาศแบบนี้ก็คงหมดหนทางที่จะออกไปเหมือนกัน”

มองเห็นใบหน้าที่มืดคล้ำลงของเขา กู้จื่อชีก็ปลอบโยนเขาขึ้น “ยังไงที่บ้านก็ยังพอมีเงินทองอยู่บ้าง ช้าไปสักไม่กี่วันค่อยออก ไปก็ไม่เป็นไรหรอก”ที่เธอรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นที่สุดก็คือเงินที่ยัง เหลืออยู่พวกนั้นหลี่ชวนถึงไม่ได้เอาไปเลยสักแดงเดียว แม้ กระทั่งจะถามก็ยังไม่ถามถึงเลยด้วยซ้ำ ยอมรับในใจว่าเงินพวก นี้มันเป็นเงินส่วนตัวของเธอ
“จะให้มานั่งงอมืองอเท้าเฉย ๆ ก็ไม่ได้ค่อยว่าแล้วกัน ฤดู หนาวยังอีกยาวไกล ถ้าหากว่าจะไม่ออกไปเลย โดยตลอด บ้าน ของพวกเขาเองก็ไม่ได้มีที่ทางอะไร เงินพวกนั้นเกรงว่าต่อให้ ใช้สอยอย่างประหยัดสักแค่ไหนก็คงไม่พ้นหน้าหนาวนี้ไปได้แน่

“บ้านตระกูลหลีอยู่กันไหม เสียงที่ใสแจ๋วชัดเจนของสตรีคน หนึ่งดังเข้ามาจากนอกประตู

คนอื่นตะโกนเรียกชื่อแซ่นามสกุลเข้าแบบนี้ จื่อซีทำได้เพียง แค่อดทนต่อความเหน็บหนาวแล้วเดินไปเปิดประตู

ที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูเป็นเพื่อนบ้านเรือนเคียงของพวกเขา เอง ป้าเฉิน นางเป็นหม้าย สามีต้องมาตายไปเมื่อหลายปีมาก่อน ทิ้งลูกชายที่ยังเล็กแบเบาะเอาไว้ ยังดีที่ว่าสามีของนางก็นับว่า เป็นคนพอมีพอใช้ ยังมีที่ทางอยู่บ้าง ตัวนางเองก็เป็นคนขยันขัน แข็ง ทั้งเลี้ยงดูแม่สองคนก็ไม่ได้ลำบากยากเข็ญอะไร

อีกทั้งในตอนที่เจ้าของร่างไร้ความรับผิดชอบ ป้าเฉันยังมา ช่วยดูแลเหมาต้าน ให้

กู้จื่อชียิ้มออกมา “ป้าเฉิน หนาวขนาดนี้มาหาข้ามีเรื่องหรือ คะ”

ป้าเฉินเอาตะกร้าที่อยู่ในมือดันออกมาเบื้องหน้าของเธอ “เอา มันมาส่งให้พวกเจ้าหน่อย ของพวกนี้ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร แต่บ้านของพวกเจ้าเองก็ไม่มีที่ทาง นี่อย่างน้อย ๆ ก็นับว่าเป็น อาหารจานหนึ่งได้ก็แล้วกันนะ”

มัน ก็คือมันฝรั่ง ชื่อทางการของมันก็คือ มันฝรั่ง
ในช่วงเวลายุคปัจจุบันผู้คนล้วนก็ชอบกันทั้งนั้น อีกทั้งยังมีวิธี ทำอยู่หลากหลาย ต้มเป็นโจ๊ก ทอด ผัด ก็ทำได้ทั้งนั้น

ในหมู่บ้านถึงแม้ว่าจะมีพวกผู้หญิงขี้นินทาอยู่ไม่น้อย แต่ว่า ชาวไร่ชาวนา โดยส่วนใหญ่แล้วก็เป็นคนซื่อ ๆ ชอบช่วยเหลือ ผู้คน ชื่อไม่ได้ทำท่าทีมีพิธีรีตรองเกรงอกเกรงใจนาง รีบรับ เอามา “ขอบคุณป้ามากค่ะ”

ป้าเฉิน โบกมือไปมา “ของเล็กน้อยแค่นี้มีอะไรจะต้องขอบอก ขอบใจกัน”

และก็ปรับเปลี่ยนท่าทีถอดถอนหายใจอีก “ปีนี้ผู้คนที่ปลูกมัน เกรงว่าจะต้องเสียหายกันแล้ว หน้าหนาวนี้ไม่รู้จะใช้ชีวิตกันยัง ไง”

กู้จื่อถามขึ้นอย่างสงสัย “พูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร หรือคะ”

“ปีนี้เศรษฐีจ้าวที่ให้เช่าที่ดินข้าง ๆ หมู่บ้านเรา ก็ให้มันกับ คนในหมู่บ้านเปล่า ๆ ไม่ใช่น้อย พูดว่าเขาหาคนที่จะมารับได้ แล้ว ทุกคนสนใจแค่ปลูกก็พอ พอถึงเวลาก็ให้คิดราคาสหกเป็น เขามีสี่หมู่บ้าน”

“เวลาปกติทั่วไปแล้วเวลาเพาะปลูกพวกธัญพืชก็ได้ราคาหก เฟิน ที่ดินที่เช่าพวกนั้นก็ต้องจ่ายภาษีนะ เขาพูดออกมาแบบนี้คน อื่น ๆ ก็พลอยดีใจกัน ยังไงก็แล้วแต่ที่ดินยังไม่ได้เพาะปลูกอะไร มันเองก็ไม่ได้ใช้เงินลงทุนอะไรมากมายก็ไม่ต้องไปสนใจอะไร มันมาก คนพวกนั้นถึงใช้ที่ทางเอามาปลูกมันกัน
กู้จื่อได้ฟังก็รู้สึกสนใจขึ้น “นี่ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือคะ”

ป้าเฉินจ้องมองที่เธอ “มันจะเรื่องดีได้ยังไงกันล่ะ! ควรจะขุด มันแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไปหาเศรษฐีจ้าว คนที่เขา ติดต่อเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว พอมาดูเข้า ตอนนั้นสีหน้าก็เปลี่ยน แล้ว บอกว่ามันเล็กเกินไป เอาไปทำอะไรก็ไม่ได้ เก้าอี้ของ หัวหน้าหมู่บ้านยังนั่งได้ไม่ทันร้อนก็ลุกขึ้นจากไปแล้ว ! ”

“เขากลับพูดง่าย ๆ อย่างนั้น ก็แค่ลำบากคนอื่นเท่านั้น ปล่อย ให้ดีใจกันเก้อก็พอดูแล้ว วันต่อไปจะไปใช้ชีวิตกันยังไงล่ะ

“ความหมายของป้าก็คือมันพวกนั้นถูกเขาขุดกลับไปแล้วหรือ คะ”ความคิดหนึ่งก็ก่อตัวขึ้นในใจของชื่อ เธอกำลังกลุ้มใจที่ ไม่มีโอกาสทำมาหากิน ป้าเฉินช่างเป็นคนที่มาจุดประกายใน ช่วงความหวังกำลังจะดับมอด

“ใช่สิ ถ้าเจ้าอยากจะเก็บเอาไว้สำหรับช่วงฤดูหนาวละก็ไปซื้อ เสียสิ ตอนนี้พวกเขากำลังกลุ้มใจว่าจะขายออกยังไงกัน ”

“ได้สิคะ ขอบคุณป้ามากค่ะ”

กู้จื่อชีบอกลาป้าเฉินด้วยความลิงโลด กลับไปก็เอาเงิน ทั้งหมดจากกระบอกไม้ไผ่ออกมา รีบฉุดลากหลชวนถึงให้ออก มาด้วย

“นี่จะไปไหนกัน? “หลี่ชวนถึงขมวดคิ้วซะงักค้าง “เหมาต้าน อยู่ที่บ้านนะ”

กู้จื่อชีก็เลยจัดแจงเอาข่าวคราวที่เพิ่งได้รู้มาอธิบายขึ้นอีกรอบพูดขึ้นอีก “มันเอามาทำให้เป็นผงทำให้เป็นแป้งได้ พวกเราซื้อ กลับมากันเยอะหน่อย ส่วนประกอบสำคัญของ มันฝรั่งก็คือแป้ง ในห้วงเวลาของยุคนี้ยังไม่มีแป้ง ของประเภทนี้

มิหนำซ้ำ เหล้ามันฝรั่งก็ยังเป็นอีกส่วนที่สามารถเอามาทำเป็น อาชีพได้

เธอมองกลับไปที่บ้านอีกครั้ง “เหมาต้ายังนอนอยู่เลย พวกเรา

รีบไปรับกลับมา”

หลี่ชวนถึงก็ยังตามเธอไป เพียงแค่ในหัวเต็มไปด้วยความ สงสัย “แป้งคืออะไรกัน

กู้จื่อกำลังนึกย้อนกลับไปถึงวิธีการทำแป้ง พอได้ยินคำพูด แบบนี้ตอบกลับมาก็ไม่ได้เข้าไปในหัวสมอง “ตอนเด็ก ๆ ฟังท่าน พูดว่า เหมือนแป้งทาหน้าขาว ๆ แบบนั้นแหละ แต่มันนับว่า เป็นเครื่องปรุงอาหาร อันที่จริงบ้านของเธอเองในตอนที่เธอยัง เด็กค่อนข้างยากจน ก็แค่ของที่ตัวเองปลูกนี่แหละที่ไม่ต้องใช้เงิน

แต่ต่อมาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พวกแป้งมันม่วงก็มีราคาถูก ก็ไม่มีใครที่จะไปหลังขดหลังแข็งท่าขึ้นอีก

ก็แค่เธอพูดว่าคุณปู่ของเธอ แต่สิ่งที่หลี่ชวนถึงคิดไปคือท่าน ของเจ้าของร่างเดิม ในใจก็บ่นพึมพำขึ้น “ท่านรู้เรื่องพวกนี้ ด้วย? เอาจริง ๆ ที่หมู่บ้านไม่เห็นว่าจะเคยมีใครพูดถึงกันเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ