สามี ข้าจะปกป้องเจ้าเอง

ตอนที่ 12 เซ็นสัญญาด้วยความราบรื่น



ตอนที่ 12 เซ็นสัญญาด้วยความราบรื่น

“ผู้ดูแลครับ”บริกรรีบออกไปต้อนรับ ใช้น้ำเสียงแผ่วเบา ความสักครู่อธิบายขึ้นอีกรอบ

ผู้ดูแลอายุยังน้อย แต่ทว่าเวลาทำงานดูมีวุฒิภาวะเป็นอย่าง มาก เอาสองมือกุมทำความเคารพมาที่พวกเขา “ไม่ทราบว่าทั้ง สองท่านอยากจะขายอะไรหรือครับ ถ้าหากว่าเป็นสัตว์ป่าล่ะก็ หอสุราของพวกเราสามารถรับซื้อได้ในระยะยาว

“ผู้ดูแลอายุยังน้อยแต่ช่างเป็นผู้โดดเด่นดูเก่งกาจ”กู้จื่อซีรีบ พูดจาเอาอกเอาใจเขาสักครั้ง แต่สิ่งที่พวกเรามาขายไม่ใช่สัตว์ ป่า แต่เป็นเครื่องปรุงแบบใหม่

สีหน้าของผู้ดูแลดูแปรเปลี่ยนขึ้น ทั้งสองท่านเชิญมากับ ข้า!

กู้ชื่อก็คิดไม่ถึงเลยว่าคนผู้นี้จะนำพวกเขามายังครัวด้านหลัง โดยตรงเลย อีกทั้งยังแนะนำพวกเขาขึ้น “ผู้นี้คือพ่อครัวจ้าวคือ คนที่ข้าจ่ายเงินอย่างหนักเพื่อไปลากเอาตัวมาจากเมืองหยาง เป็นผู้เชี่ยวชาญมีความรู้ พวกท่านเอาเครื่องปรุงที่ว่าให้เขาลอง

เมืองหยาง เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญรุ่งเรือง ด้านล่างยัง รวมถึงเมืองเล็ก ๆ ของพวกเขาอีกหลาย ๆ เมืองแบบนี้

กู้จื่อซีซักเริ่มไม่แน่ใจ ถึงแม้ว่าเมืองเล็กจะไม่มีผงแป้ง แต่ว่าถ้าหากเมืองอื่น ๆ มีกันล่ะ?

คิดก็คิดแบบนี้ ใบหน้าของเธอยังคงรักษาความราบเรียบนิ่ง เฉย เอาห่อผ้าเล็กแกะออก “พ่อครัวจ้าวเชิญดูค่ะ”

พ่อครัวเจ้าใช้มือหยิบผงแป้งสีขาวขึ้นมาลองดม พูดขึ้น “ของสิ่งนี้คืออะไรกัน? # ขมวดคิ้ว

ในใจของจื่อก็ถอนหายใจออกอย่างโล่งอก รู้ว่าการค้ามา แน่ ๆ คราวนี้ รีบพูดแนะนำขึ้น “ของสิ่งนี้เรียกว่าแป้งค่ะ มีวิธีใช้ ที่หลากหลาย สามารถใส่ลงไปทำให้น้ำซุปข้นขึ้น หรือสามารถ เอามาทําของทอด”

ผู้ดูแลพูดแทรกขึ้น “เอาไปทอดนี้ทำอย่างไร?

มองเห็นพวกเขาที่ดูมีทีท่าสนอกสนใจ กู้ชื่อก็อธิบายอย่าง เปิดเผยไม่มีปิดบัง ยังไงก็แล้วแต่เหมือนเอามาเป็นเหยื่อหลอก ล่อ ทำให้พวกเขารู้สึกสนใจในแป้งให้ได้ก่อนค่อยว่าก่อน ใน ช่วงระยะเวลาอันสั้นพวกเขาคงคิดศึกษาถึงวิธีทำแป้งออกมาไม่ ได้แน่ ๆ เธอเองก็จะยังสามารถทำการค้าได้

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด หลังจากที่เธอพูดจบลง พ่อครัวที่อยู่ใน เหตุการณ์ดวงตาก็เป็นประกาย อีกทั้งยังส่งสายตาไปให้ผู้ดูแล อย่างไม่หยุดหย่อน

“ทั้งสองท่านเชิญทางนี้”ผู้ดูแลปรับสีหน้าท่าทาง ให้พวกเขา ไปพูดปะหารือรายละเอียดกันในห้อง

“ข้าจะพูดตรงไปตรงมาละกัน ผงแป้งข้าซื้อ พวกท่านจะขายสูตรหรือไม่”

กู้จื่อ ยิ้มปริ่ม “ผงแป้งนี้ วิธีทำเป็นของบรรพบุรุษของพวกเรา สมบัติของบรรพบุรุษไม่สามารถขายได้ค่ะ แต่ว่าพวกเรา สามารถส่งของให้ท่านได้ตามเวลาที่ตกลง

คำพูดแบบนี้ผู้ดูแลไม่เชื่อหรอก ถ้าเป็นของจากบรรพบุรุษจริง ๆ แบบนั้นก็ต้องถูกคนถ่ายทอดไปตั้งนานแล้ว แต่เขาเองก็เป็น คนฉลาดอยู่พอตัว ไม่ได้เพียรพยายามว่าต้องเอาสูตรตำรับให้ ได้

ทั้งสองฝ่ายต่างก็เจรจาถึงเรื่องราคาได้อย่างรวดเร็ว นัดหมาย วันเวลาที่ต้องส่งของ และก็เชิญเจ้าหน้าที่รัฐให้มาร่างสนธิ สัญญา

สมัยยุคราชวงศ์นี้ตัวอักษรที่ใช้เป็นประเภทเดียวกับตัวอักษร จีนโบราณแบบตัวเต็ม จื่อถึงแม้ว่าจะเขียนไม่ค่อยได้ แต่ว่า พอจะอ่านได้ไม่มีปัญหา กวาดสายตามองเนื้อความบนกระดาษ อย่างลวก ๆ เห็นว่าผู้ดูแลไม่ได้หลอกพวกเขา ก็เซ็นสัญญาด้วย ความสบายใจ

เงินก้อนสี่เหลี่ยงวางอยู่บนมือ แผนการของหอสุราใหญ่โต แบบนี้ก็คือ “ความใหม่ มีสินค้าใหม่ ๆ ออกมายังจะกลัวคนไม่ มาอีกหรอ? เพื่อที่จะไม่ให้ฝั่งตรงข้ามได้ผงแป้งไป พวกเขาเองก็ ต้องกรีดเลือดมาแลกเหมือนกัน

อันที่จริงเงินก้อนสามเหลี่ยงเป็นเงินค่าจองมัดจำ ต่อไปถ้า หากว่าอาหารพวกที่ได้ใส่ผงแป้งลงไปขายดีมากขึ้นล่ะก็ ยังสามารถเอา

“คิดไม่ถึงเลยว่าของเด็กเล่นแบบจะออก กระทั่งเดิน ออกจากสุรา หลี่ชวนเอาแต่เงียบอยู่ด้านหลังเหมือนชีวิตอยู่ในความฝันอย่างไรอย่างนั้น

คิดถึงว่าเขาเองต้องลำบากยากเย็นแสนเข็ญออกล่า สัตว์ ตลอดทั้งยังเก็บเงินค่อยมากเท่าไหร่ คิดไม่ถึงเลยผงแป้งแบบจะมีค่าถึงเงินหนึ่งเหลี่ยง

หน้าหนาวนี้เราต้องกลุ้มใจแล้ว! ”

ทั้งสองคนอารมณ์เป็นอย่างตลอดจนกลับมาถึงยัง

จื่อกับชวนถึงมามองกัน ต่างมองเห็นดวงตาแต่ละฝ่ายเต็มไปด้วยความกังวลใจ พวกเขารีบก้าวเท้ายาว ๆ วิ่งกลับไป ถึงได้พบว่าที่สวนมีจื่อเนียนและหญิงชราอีกคนยืน อยู่

“เหมาต้านเป็นอะไร? แม่กอดเจ้าไม่ต้องร้องแล้ว กู้จื่อไม่ได้มองพวกส่วนเกิน รีบเข้ากอดเหมาต้านที่ กําลังร้องไห้ไม่หยุด

“เจ้าลูกชั่วสมควรตาย เจอทำชั่วทำกรรมอะไรถึงคลอดเจ้า อกตัญญูคุณขนาดตบแต่งออกแม้กระทั่งแม่แก่ ๆ จะเป็นหรือจะตายก็ไม่สนใจ
หญิงชราเดิมที่ยังคงเชิดหน้าชูคอรอให้ลูกสาวคนโตตรงมา ก้มหัวรับผิดต่อนาง คิดไม่ถึงเลยว่าจื่อซี ไม่แม้แต่จะชายตามา มองนางเลยด้วยซ้ำ ดวงตาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่แผ่ซ่าน ขึ้นในทันที

กู้จื่อเนี่ยนประคองหญิงชราพร้อมกับด่าว่าขึ้น “ก็ใช่สิคะ พี่ ท่านไม่รีบมาทำความเคารพท่านแม่ แล้วค่อยไปเอาอะไรมาให้ กิน ยังจะมาสนใจอีกนั่งลูกสาวนั่นอยู่อีก

กู้จื่อ กำลังเช็ดน้ำตาให้เหมาต้านเผลอถลกแขนเสื้อของนาง ขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ ถึงจะพบว่าบนแขนของเหมาต้านมีรอยเขียว อยู่สามสี่ที่ แค่ดูก็รู้ว่าถูกคนหยิกเข้าให้

ไม่กี่วันมานี้เธอเป็นคนอาบน้ำให้เหมาบ้าน จื่อรู้ดีแก่ใจ เป็นที่แน่ชัดว่าร่างของเหมาต้านไม่ได้มีร่องรอยบาดแผลพวกนี้ ในใจของเธอก็จุกแน่นขึ้น

กู้ชื่อกัดฟันชี้นิ้วไปที่ร่องรอยพวกนั้นมองไปทางสองแม่ลูกที่ เข้ากันอย่างดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย “นี่ใครทำกัน?

“แม่ของเจ้าเอง ข้า

กู้จื่อเนี่ยนกวาดตามองรอบ ๆ หญิงชรารับเอาเรื่องนี้ไว้กับตัว เอง นางไม่เชื่อว่าเจ้าลูกสาวอกตัญญูคนนี้จะกล้าลงไม้ลงมือกับ นางได้

“ก็แค่ลูกสาวไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร อยู่บ้านไม่ได้ทำอะไรก็ พอดูอยู่แล้ว เจอยายกับน้ามาเข้า ประตูก็ไม่มาเปิด เจ้าเลี้ยงมัน ไม่ดี ยายของเจ้าก็เป็นอัมพาตอยู่บนเตียงลุกขึ้นมาไม่ได้ ข้าเป็นแม่จะสั่งสอนเจ้าหน่อยแล้วมันจะเป็นอะไร! ”

“อย่างนั้นท่านแม่มาหาข้ามีอะไรกัน

กู้จื่อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกจุดไฟขึ้น ทว่าในสมัย โบราณแบบนี้ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความกตัญญู เธอเองจะ มาทำท่าทางร้ายกาจแล้วไล่พวกนางให้ไปก็ไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ สะกดกลั้นไฟโกรธนั้นเอาไว้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ