สามี ข้าจะปกป้องเจ้าเอง

ตอนที่ 11 พวกเรามาหารือเรื่องทำมาค้าขายกันหน่อย



ตอนที่ 11 พวกเรามาหารือเรื่องทำมาค้าขายกันหน่อย

หมู่บ้านข้าง ๆ กับหมู่บ้านของพวกเขาก็ห่างกันอยู่พอตัว มี หนำซ้ำถนนหนทางก็ไม่ได้เดินกันได้ง่าย ๆ ปกติใช้เวลาเพียงแค่ หนึ่งชั่วโมง แต่พวกเขาใช้เวลาเดินอย่างเดียวเลยคือสองชั่วโมง

กู้ซื้อเองก็ไม่อยากเอาแต่ถามแต่ละคนลูกเดียว ตามหาคน เพื่อถามถึงที่ตั้งข้างบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน ตรงเข้าไปหาอย่าง มีแผนการในใจเป็นที่เรียบร้อย “หัวหน้าหมู่บ้าน พวกเราอยาก จะซื้อมัน จํานวนมาก ท่านทำราคามาหน่อย

หัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านที่อยู่ข้าง ๆ กำลังกลุ้มใจปวดหัว กับมันที่มีมากมายเกินไปแบบนี้ พอได้ยินประโยคนี้เข้าก็รีบลุก ขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ถามขึ้นอย่างให้แน่ชัดอีกครั้ง “พวกเจ้า อยากจะซื้อหรอ”

อันที่จริงมัน ในหมู่บ้านมีมากมายจนเกินไป คนในหมู่บ้าน เองก็ส่งให้คนหมู่บ้านข้าง ๆ ที่รู้จักมักคุ้นกันอยู่ไปบ้างแล้ว ทุก คนก็ไม่ใช่คนมั่งมีอะไรกัน แม้ว่าอยากจะช่วย ก็จนปัญญา

“ใช่แล้วค่ะ พวกท่านเอามันห่อให้เรียบร้อยแล้วให้ขา วันนี้จะ คิดเงินให้เลยค่ะ”

ประโยคนี้ทำให้ความคิดของหัวหน้าหมู่บ้านสงบขึ้น “เจ้า สามารถมาถึงที่นี่ได้ อีกทั้งยังรู้เรื่องราวของหมู่บ้านพวกเรา ข้า จะไม่เอาราคาสูง หนี่งหาบหนึ่งร้อยอีแปะ ถูกกว่านี้ไม่ได้แล้วจริง
มัน ก็ถ่วงน้ำหนักมากอยู่ สามารถเปิดราคามาเท่านี้ได้ก็นับว่า ใจดีมากแล้ว

กู้จื่อซีเองก็คิดไม่ถึงมาก่อนว่าราคาจะขนาดนี้ พูดตอบรับ ออกไปค่หนึ่ง “ได้ค่ะ”

ข่าวคราวแบบนี้แค่ชั่วครู่เดียวก็ข่าวประกาศออกไป ผู้คน เหล่านี้ที่เดิมทีใบหน้าเต็มไปด้วยความกลุ้มใจ ก็แบกมันของที่ บ้านกองใหญ่ ห่อแล้วเอามาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตรวจนับโดยหัวหน้าหมู่บ้าน ทั้งหมดก็ยี่สิบหาบ

คิดทั้งหมดก็เป็นก้อนเงินสองเหลี่ยงกับสี่ร้อยอีแปะสื่อผ่อน ลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อย ๆ ก็ยังเหลือเงินอยู่ บ้างนิดหน่อย ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่มีเงินติดตัวเลยช่างไม่ สะดวกเสียจริง ๆ

เธอพูดคำไหนคำนั้น เอาเงินออกมานับอย่างถี่ถ้วนในทันที ทุกคนต่างก็โล่งอก คนในหมู่บ้านที่มีรถเกวียนก็มีน้ำจิตใจ ช่วยเธอเอามันขนส่งกลับไป

ยังดีที่ว่าตอนที่ฟ้ามืดลง ถึงแม้ว่าหิมะจะหยุดตกแล้ว แต่ก็ยัง กองพะเนินไว้หนาตัวมาก ข้างนอกอากาศก็เย็น บนท้องถนนก็ไม่ ได้พบปะเจอผู้คนผ่านไปมา

ครั้งนี้ที่กลับไปเหมาต้านกลับไม่ได้ร้องไห้ เพียงแค่มองเห็น พวกเขาแล้วก็วิ่งถลาตัวเข้ามา กอดขาจื่อเอาไว้

“จะทำยังไงหรอ? “รอให้เธอโอเหมาต้านแล้วหลังจากนั้น หลี่ชวนถึงถึงได้ถามขึ้น

จื่อมองไปที่เขาอย่างขอโทษขอโพย “ท่านพี่ ลำบากท่าน แล้ว”

“เจ้าว่ามาสิ”

“ต้องใช้น้ำกับฟืนเป็นจำนวนมาก

ที่ที่จะไปตักน้ำห่างไกลออกไปมาก เธอเองแบกกลับมาไม่ไหว อีกทั้งอากาศที่หนาวยะเยือกแบบนี้ให้เธอใช้น้ำเย็นเอามาล้าง มัน ยังไงก็ไม่มีทางไหวแน่ ๆ

หลี่ชวนถึงแค่ก้มหน้าลง “อืม” คำเดียว ก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นอีก

คืนวันนั้นกู้จื่อเอามันที่ป้าเฉินนำมาให้ทำผัดมันฝรั่ง มันฝรั่ง ใช้น้ำลวกเอา ถึงแม้ว่าน้ำมันจะน้อย แต่ดีที่ว่าเครื่องปรุงพอตัว อยู่ กินแล้วรสชาติหอมอร่อยแต่เดิมยังมีอยู่

เป็นครั้งแรกที่เหมาต้านรู้ว่ามันก็เอามาทำแบบนี้ได้ รู้สึกอิ่ม เอมใจแม้กระทั่งชามก็เลียซะเกลี้ยง

หนทางข้างหน้าก็ไม่ได้มืดมนอีกต่อไป ความกังวลใจอย่าง หนักของกู้ชื่อก็นับว่าสามารถปล่อยวางลงได้ คืนนี้ก็หลับได้ดี เกินกว่าที่เคยเป็นมา

เพียงแค่ในวันที่สองในตอนที่เธอตื่นขึ้นมาก็กลับไม่พบหลี่ ชวนถึงที่ออกไปตั้งนานแล้ว รอเมื่อตอนที่เธอทำกับข้าวเสร็จถึง จะเห็นว่าโอ่งน้ำใหญ่ของที่บ้านมีน้ำอยู่เต็มเปี่ยม
ในใจของจื่อก็อบอุ่นขึ้น

เอามันฝรั่งกับข้าวตุ้นด้วยกันเป็นอาหารเช้า กู้ชื่อก็ลงมือ

เตรียมตัวทำแป้งมันฝรั่ง ล้างจนสะอาด ปอกเปลือก หั่นเป็นเส้น ๆ จากนั้นก็บดจน กลายเป็นเนื้อข้น ๆ ดูเหมือนจะเป็นขั้นตอนที่ง่ายดาย แต่ว่า เพราะวัตถุดิบที่มากมายก่ายกองแบบนี้ถึงทำให้กลายเป็นเรื่อง

ยาก มิหนำซ้ำเรี่ยวแรงแต่เดิมของชื่อก็ไม่ได้มากมายอะไร “ให้ข้าทำเถอะ”หลี่ชวนถึงกลับมาเรียบร้อยดูอยู่ข้าง ๆ สักพัก มองดูเธอที่นวดที่แขนอยู่บ่อย ๆ เสนอแนะขึ้น

กู้จื่อซีคิด แล้วเธอเองก็ยังคงอยู่ที่ด้านข้างจับตามอง ก็ไม่ได้มี ปัญหาอะไร จึงตอบตกลงทันที

ยังคงอยู่ในช่วงเวลาของการทดลอง อีกทั้งยังหาคนซื้อไม่ได้

ครั้งแรกจอก็ไม่กล้าทำออกมามากจนเกินไป งานขั้นแรกก็

สําเร็จไปได้อย่างรวดเร็ว

ในขั้นตอนต่อมาสิถึงจะเป็นเรื่องลำบากของจริง เอาเนื้อมันฝรั่งข้น ๆ ใส่ลงไปในน้ำสะอาดล้างอีกรอบ รอให้ แป้งเริ่มจับตัวขึ้น ก็เอาน้ำที่เหลือเททิ้ง

“ท่านพี่ ท่านว่าวันนี้จะมีแสงแดดไหม? “กู้จื่อซีมองไปที่ บรรยากาศอึมครึมข้างนอกก็เริ่มกังวลขึ้นหน่อย ๆ

หลี่ชวนถึงก็มองดูสภาพอากาศตามด้วย รวบรวม ประสบการณ์ที่เคยมีทั้งหมดพลางกับส่ายหน้าไปมา “ปลายปีแบบนี้เกรงว่าคงจะยากเป็นอย่างมากที่จะได้เห็นแสงแดด”

ถึงแม้ว่าจะไม่มีพลังงานความร้อน แต่ก็ยังดีหน่อยที่ว่าไม่มีฝน ตก จื่อ จึงเอาก้อนแข็งที่จับตัวแล้วกรองออกมาแล้วเอามาวาง ตากไว้ที่ด้านนอก

ยังดีที่สวรรค์มีเมตตาไม่รังแกคนที่มีความมุมานะ ไม่กี่วันหลัง จากนั้น ในที่สุดก้อนแป้งก็จับตัวขึ้นรูปได้

กู้จื่อเอาของแข็งขึ้นเป็นรูปมาวางรวมไปด้วยกันแล้วบดเป็น ผง ยิ้มและพูดขึ้น “พวกเราไปในเมืองกันอีกสักรอบ เอาแป้งไป หาร้านขาย”

“ได้”หลี่ชวนถึงเอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ดูเจ้าสิ่งปรุงรสที่กู้จื่อพูดถึง นี้ให้ดีสักเท่าไหร่ เขาเองก็ไม่ได้ทำลายความกระตือรือร้นของกู้ อซี บอกให้เหมาต้านอยู่บ้านคนเดียวต้องว่านอนสอนง่าย พวก เขาเอาของที่ต้องใช้นี้เอาไปห่อผ้าแล้วก็ไปในเมือง

“ในเมืองนี่หอสุราที่ใหญ่ที่สุดคือที่ไหน” จื่อถามขึ้นด้วย ความตื่นเต้น

“หอสุรา เต๋อหง แต่ได้ยินมาว่าหอสุราเบื้องหลังมีคนควบคุม อยู่ พวกเราไปลองที่อื่นก่อนดีกว่า”

กู้จื่อชีมั่นใจเป็นอย่างมากในแป้งของตนเอง ลากเอาหลีชวน ถึงที่ไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่พุ่งตัวเข้าไปในหอสุรา

“ลูกค้าทั้งสองท่านนี้จะมารับประทานอาหารหรือว่าจะมาพัก ครับ”ไม่เสียแรงเลยที่เป็นหอสุราใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่ไม่เลวเลย บริกรครั้งนี้ดูมีคุณสมบัติที่ดีอยู่ แม้ว่าจะมองเห็นว่าพวกเขาแต่งตัว กันธรรมดา ๆ ก็ไม่ได้ทำสีหน้าที่แปลกประหลาดออกมาแต่อย่าง

กู้เอกะดูขนาดโถงใหญ่ มองเห็นคนไม่ใช่น้อย ในใจก็มีการ เปรียบเทียบขึ้น พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “พวกเรามาหาผู้ดูแล อยากจะเจรจาการค้าด้วยสักหน่อย”

บริกรทำหน้าตาลำบากใจ “ทั้งสองท่านมีของอะไร เอามาให้ ข้าดูก่อนก็ได้ครับ ผู้ดูแลท่านมีธุระปะปังอยู่มาก ไม่แน่ว่าจะมี เวลาว่างมาต้อนรับท่านทั้งสองครับ

“ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านมีเรื่องอะไรถึงมาหรือ? ”

น้ำเสียงของเขาหยุดลง ที่ประตูก็มีน้ำเสียงที่สงสัยแทรกผ่าน เข้ามา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ