ตอนที่ 7 ถังใส่ทองใบแรก
“อีกนานไหมน่ะกว่าจะถึง
กู้ซื้อใช้มือข้างหนึ่งไว้ที่เอว หยุดยืนหายใจหอบอยู่กับที่ ช้อนตาขึ้นมองไปที่ภูเขาแต่ละลูกที่คั่นอยู่ โดยมองไม่เห็นเลยว่า กระจุกตัวเมืองที่ว่านั้นอยู่ตรงไหน
หลี่ชวนถึงที่หิ้วหมาป่าเอาไว้ในมือเดินอย่างรวดเร็วราวกับ เหาะได้ยินขึ้นก็ไม่ได้เงยหน้า พูดตอบกลับไปว่า “ยังเหลืออีก ครึ่งทาง อีกครู่เดียวก็ใกล้จะถึงแล้ว “ใกล้กับผีน่ะสิ
กู้จื่อกัดฟันสบถค่าขึ้นในใจ เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้กินอะไรดิบดี ร่างเดิมเองก็ไม่ได้แย่อะไรมาก อีกทั้งไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เดินไปไม่กี่ก้าวก็อยากที่จะทรุดตัวนั่งลงหายใจสักครึ่งชั่วโมง
แต่ตัวเองก็ตามมาทัน กู้จื่อรู้สึกเกรงใจที่จะลงไม้ลงมือกับ เขา โดยที่ไม่ทันได้เตรียมตัว ทำได้ดีที่สุดก็เพียงแค่ตามไปด้วย ความโมโห
“เจ้าคนเดียวไหวไหมนะ? “พอถึงในเมือง ทั้งสองคนเพื่อที่จะ เสร็จสิ้นภารกิจด้วยความรวดเร็วแล้วรีบกลับ ในระหว่างทางก็ได้ หารือกันเรียบร้อยว่าจะแยกทางกันไปจัดการเรื่องของตัวเอง แต่ หลี่ชวนถึงเองก็ยังไม่ค่อยวางใจกับท่าทีของชื่อในเมื่อก่อน กลัวว่าถ้านางหมุนตัวไปก็จะไปยั่วยวนบรรดานายท่านหนุ่ม ๆ ของตระกูลผู้ดีมีเงินในเมือง ถึงเวลานั้นเขาเองจะต้องขายขี้หน้า เข้าให้อีก
กู้จื่อชีโบกมือเป็นระวิง “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลาก็ไปเจอกันที่ ปากทางตลาดใต้ต้นไทรเหลือง”
มองดูสีหน้าท่าทางเป็นมั่นเป็นเหมาะของเธอ หลี่ชวนถึงทำได้ ดีที่สุดก็แค่ถือสัตว์ที่ล่ามาได้เดินเข้าไปในตลาดสดด้วยใจที่ กังวล เตรียมตัวหาร้านรีบขายของให้เสร็จเสีย
กู้ชื่อเดินไปตามถนน เดินวนอยู่สามสี่รอบ เจอเข้ากับร้าน ขายยาที่มีชื่อไพเราะน่าฟังแล้วเดินเข้าไป
“ไปซะ ๆ ๆ วันนี้ไม่ทำบุญ ไปขอข้าวที่อื่นไป
เธอแค่เดินเหยียบเข้าไป เด็กฝึกหัดที่นั่งอยู่บริเวณโถงก็เงย หน้าขึ้น แต่พอมองเห็นเสื้อผ้าที่เก่า ๆ ขาด ๆ หญิงสาวที่หน้าตาดู อัปลักษณ์น่าเกลียด ก็รีบโบกไม้โบกมือสบถค่าเข้าให้
ใบหน้าของชื่อที่ยังไม่ทันได้แจกรอยยิ้มโปรยปรายออกไป ก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งงันในทันที เธอเองก็รู้ถึงสารรูปตัวเองใน ตอนนี้ว่าเป็นอย่างไร ทำแค่เพียงเมินเฉยไม่สนใจคำพูดเข้าแล้ว พุ่งตรงเข้าไป “ข้า……..
รีบไปเสีย! อย่ามารบกวนเวลาทำมาค้าขายของพวกเรา เธอยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกขัดจังหวะขึ้น
“อ้ยย่ะ นายท่านหลิน นี่ท่านมาด้วยตัวเองเลยหรือครับ? “แต่ เมื่อพอมองเห็นชายหนุ่มวัยกลางคนที่แต่งตัวไว้อย่างประณีต เด็กฝึกหัดก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มหน้าบานแช่มชื่นออกมาใน ทันที วิ่งเหยาะ ๆ ออกไปต้อนรับให้เข้ามา “ท่านให้คนมาตามพ วกเราก็ได้แล้วครับ
นายท่านหลิน ใช้มือพัดให้กับตัวเอง “พอเข้าออกมาเดินเล่น สักหน่อยน่ะ วันนี้มีตัวยามาใหม่บ้างไหมล่ะ”
สายตาก็มองกลับมาที่กู้จื่ออีกครั้งที่ยังยืนอยู่อีกฟาก อดไม่ ได้ที่จะเบะปาก “ร้านยาของพวกเขากลายเป็นวัดไปตั้งแต่เมื่อ ไหร่กัน ไปเรียกขอทานมาไว้ตั้งแต่ตอนไหน พอเหยียบเข้าประตู มาถึงมาเจอคนพรรค์นี้อยู่ ซวยจริง ๆ เลย”
เด็กฝึกหัดยิ้มตามไปด้วย “ข้าเองกำลังไล่ตะเพิดนางให้ไปอยู่ พอดี”
โดยที่ไม่ได้รอให้เขาพูดอะไรต่อ กู้ชื่อก็รีบออกจากร้านยามา อย่างรวดเร็ว
เธอหลงเข้าใจไปว่าพนักงานร้านประเภทนี้น่าจะมีคุณภาพอยู่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำตัวหยิ่งจองหองมองคนด้วยความดูถูกแบบ
เธอเดินออกจากประตูมาก็เดินเลี้ยว มองเห็นร้านยาร้านหนึ่งที่ ไม่ค่อยใหญ่โตนัก จื่อชีคิดอยู่ชั่วครู่ ก็แหวกม่านประตูออกเดิน เข้าไป
“แม่นางเจ้ารู้สึกไม่สบายที่ตรงไหน? “เด็กฝึกหัดของร้านยา ร้านนี้เป็นหนุ่มน้อยที่ดูกระตือรือร้น แค่มองเห็นนางเข้าก็ลุกขึ้น ทักทาย
กู้จื่อชีพยักหน้าขึ้นด้วยความพึงพอใจอยู่เงียบ ๆ ที่ข้าได้ตัว ยาชนิดหนึ่งมา อยากจะให้พี่ชายช่วยลองคำนวณราคาให้ข้าสัก หน่อย”
“แม่นางหยิบออกมาก็พอแล้ว ร้านหุยชวนถางของพวกเราให้ ราคาที่เป็นธรรมอย่างแน่นอน”
จื่อหยิบเอาห่อโสมจีนที่อยู่ในเสื้อผ้าออกมาด้วยความ ระมัดระวังเอาไปวางไว้ที่บนโต๊ะ สีหน้าท่าทางดูซื่อ ๆ เหมือนกับ ชาวไร่ชาวนาทั่วไป “ข้าเองก็เพิ่งจะเคยเห็นสิ่งนี้เป็นครั้งแรก
ใบหน้าของเด็กฝึกหัดก็ดูดีใจขึ้น จากนั้นก็รีบหมุนตัวตะโกน เรียกเจ้าของร้านที่อยู่ด้านหลัง “อาจารย์รีบออกมานี่เร็ว ตรงนี้มี ตัวยาชั้นดี!
ดู ซื่อสัตย์อย่างแท้จริง
กู้จื่อแอบยิ้มกระหยิ่มในใจ นับว่าสบายใจโล่งอกไปได้ เปราะหนึ่ง ก็กลัวอยู่ว่าฝั่งตรงข้ามจะมองว่าเธอเป็นหญิงชาวนาที่ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เอาเงินนิด ๆ หน่อย ๆ ให้กับเธอ ตบหัวเธอ ก็ได้แล้ว
“เอะอะโวยวายอะไรกัน”ชายหน้าดำที่มือข้างหนึ่งยังเปรอะ เปื้อนไว้ด้วยดินโคลนก็เดินออกมา ดูจากท่าทางน่าจะอยู่สวน ด้านหลังกำลังทำตัวยาสมุนไพร “ไม่เห็นหรอว่ายังมีคนไข้อยู่นะ”
ใบหน้าของเด็กฝึกหัดเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง “แม่นางผู้นี้ไม่ ได้มาตรวจโรคครับ นางมาขายโสม”
“โสม? ”
เจ้าของร้านดวงตาเป็นประกาย ก้าวเท้ายาว ๆ ตรงเข้ามาที่ โต๊ะหยิบโสมขึ้นพร้อมกับใช้สายตากะดู โสมนี้ยังไม่เกินสามสิบปี เขาเองก็ไม่ได้ตื่นตะลึงอะไร
แต่ว่าฤดูหนาวในช่วงฤดูกาลที่ทุกอย่างก็ดูขาดแคลนแบบนี้ มี ตัวยาที่ยังสดใหม่ขนาดนี้เข้ามาได้ ก็ทำให้คนรู้สึกดีใจตื่นเต้น ขึ้น
“แม่นาง โสมนี้เจ้าไปขุดมาจากที่ไหน
“ข้าเองก็ออกจากบ้านไปทำไร่ไถนาของข้าไปแล้วบังเอิญได้ มันมาจ่อมองดูใบหน้าของเขาที่พอดูมีความหวัง ก็จัดการ ดับความฝันของเขาลงเสีย แต่ในตอนนั้นที่ข้าดู โดยรอบ ๆ ก็ ไม่มีใบอะไรที่จะดูหน้าตาเหมือนเจ้าสิ่งนี้อีกแล้ว”
เจ้าของร้านก็ถอนหายใจเฮือกอย่างที่คิดเอาไว้ แต่ก็ยังดูมี ท่าทีใจกว้าง “ก็ใช่ ของพวกนี้มันเป็นของที่จะเจอก็พบได้โดย บังเอิญไม่ใช่ว่าอยากจะหาถึงจะหาได้หรอก เจ้าสามารถมาหา พวกเราถึงที่ร้านได้ คนแก่คนนี้จะไม่ทำความยุ่งยากให้กับเจ้า คิดราคาตามตลาด ราคาโสมปีนี้ เงินก้อนห้าเหลี่ยง
กู้จื่อซีรับเงินก้อนชุ่ยอินจี ดวงตาเป็นกระกาย นี่มันยังมากกว่า ที่เธอคาดเอาไว้เยอะเลย !
อันที่จริง เงินก้อนหนึ่งเหลี่ยงก็เท่ากับแปดร้อยเหรียญทองแดง
ใบหน้าของเธอก็ฉีกยิ้มอย่างซื่อ ๆ ขึ้น “ขอบพระคุณท่านหมอ ท่านช่างเป็นคนดีจริง ๆ 11
เจ้าของร้านโบกไม้โบกมืออย่างไม่สนใจ “แม่นางต่อไปถ้า หากยังขุดเจอตัวยาดี ๆ แบบนี้ได้ล่ะก็สามารถมาหาพวกเราที่นี่ได้นะ พวกเราจะให้ราคาตามตลาด
“แน่นอนค่ะ”
กู้จื่อตกปากรับค่า แต่ในใจก็พอจะรู้ดีอยู่หรอกว่าความโชค ดีของคนมันมีจำกัด ไม่ใช่ว่าทุกครั้งเธอจะพบเข้ากับของที่ดี ขนาดนี้ได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ