ตอนที่ 5 ไปขึ้นเขาด้วยกัน
“ท่านแม่ ท่านก็กินด้วยสิคะ” เด็กน้อยช่างรู้ความจริง ๆ ในตอนที่ กู้ซื้อกำลังเหม่อลอยตกอยู่ในภวังค์ก็ค่อย ๆ ผลักจานไม้มาที่ เธอ
ในใจของกู้จื่อ ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้น ยิ้มตาหยี พร้อมกับพูดขึ้น “เหมาต้านเจ้ากินเยอะ ๆ หน่อย ต่อไปเมื่อโตขึ้นถึงจะได้……… สวยงามน่ารักเหมือนเด็กสาวคนอื่น ๆ ”
เดิมทีเธอเองอยากจะบอกว่าสวยเหมือนกับเธอ แต่พอคิดถึง สภาพตัวเองที่มีใบหน้าเสมือนเป็นอาวุธเช่นนี้ ก็ต้องรีบเปลี่ยน คำพูด
กู้จื่อซ๊อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขมขื่นใจ คิดถึงตัวเธอเองเดิมที่เป็นคน ที่อยากมีเอว ก็นับว่ามีเอว อยากมีอก ก็นับว่ามีอก อยากมี บั้นท้าย ก็มีบั้นท้าย ในตอนนี้ล่ะ รูปร่างผอมแห้งแรงน้อยอะไรที่ มันน่าดูน่ามองก็ไม่มีหลงเหลือให้เห็นเลยสักนิด
เธอเองก็รู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าทั้งหลี่ชวนถึง และเหมาต้านต่างก็พากับจับจ้องเธอด้วยความตะลึงงง
ในคืนวันของฤดูหนาวมีเนื้อกระต่ายร้อน ๆ สักจานไว้กิน ถึง แม้ว่ากลิ่นสาบจะหนักมาก กู้ชื่อก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว อันที่จริง มีชีวิตอยู่สิมันคือเรื่องที่สำคัญที่สุด
ผลักไสให้เหมาต้านที่มีใจคิดอยากจะเข้ามาช่วย ให้ไปอาบน้ำได้ กู้จื่อซีก็ค่อย ๆ รวบรวมจานชามแล้วเอายกเข้าไปในห้อง ครัว
“ท่านพี่ พรุ่งนี้ท่านยังต้องไปล่าสัตว์ใช่ไหมคะ? “ทั้งสองคน อยู่ในห้องครัว จื่อซีถือโอกาสถามขึ้น
หลี่ชวนถึงปราดตาไปมองที่เธอ และก็ก้มหน้างุด ๆ จุดไฟ พูด
ด้วยเสียงหนัก ๆ ออกมาคำหนึ่ง “อืม”
ดวงตาของจื่อเป็นประกาย พูดขึ้นด้วยความรีบร้อน “ถ้า อย่างนั้นพรุ่งนี้ท่านก็เอาข้าไปด้วยละกัน ข้าอยากจะออกไปเก็บ ผักในป่า”
ในเมื่ออยากจะใช้ชีวิต จะให้มาพึ่งพิงหลี่ชวนถึงคนเดียวเพียง ลำพังยังไงก็ไม่ได้แน่นอน เธอเองก็ไม่ใช่เจ้าของร่างคนเดิม ที่ทั้ง วันเอาแต่อยู่บ้านอะไรอร่อย ๆ ก็ยังขี้เกียจจะทำกิน อีกทั้งยังเอา ของดี ๆ ให้คนอื่นไปหมด
นอกจากนี้ แผลเป็นที่ใบหน้าของเธอเองก็ต้องการพวกยา สมุนไพรที่จะเอามาทาสักหน่อย ไม่มีเงินแบบนี้แล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะ ต้องหาเอาเองอย่างนั้นหรอกหรือ?
ในสมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยวิชาโทของเธอก็คือเรื่องการใช้ ยา อย่างน้อย ๆ เลยก็นับว่าได้ออกไปเปิดหูเปิดตา และถ้าโชคดี หน่อยยังเจอตัวยาบางประเภทที่เธอเองก็อาจจะจำขึ้นได้
เธอคิดอย่างโลกสวย แต่พอหลี่ชวนถึงรู้ตัวขึ้นก็ถามกลับมา “เจ้าอยากจะไปขึ้นเขากับข้า? ”
แต่ก่อน ในสมัยที่ยังไม่มีเหมาบ้าน เขาเคยพยายามให้กู้สื่อ ขึ้นเขาไปพร้อมกัน ตอนที่เขาไปล่าสัตว์ยังมีคนที่จะเด็ดพวกผัก ป่าไปเติมลงในอาหาร
เพียงแค่ประโยคค่าพูดของเขายังพูดได้ไม่ทันจบ ก็ถูกอ บีบจมูกว่าเข้าให้แล้ว “ที่ข้ากล้าแต่งกับเจ้าก็นับว่าเป็นเรื่องไม่ แย่แล้วนะ นี่เจ้ายังอยากจะมาชี้นิ้วสั่งให้ข้าทำงาน! บนเขามีทั้ง งูและแมลงมากมายขนาดนั้น ข้าถูกกัดตายขึ้นมา เจ้าคิดอยาก จะหาคนใหม่ใช่ไหมล่ะ เจ้าไม่ลองดู ๆ ตัวเจ้าเองบ้างล่ะ สารรูป ดูเหมือนกับหมาวัด อยู่มาตั้งนานขนาดนี้ก็ยังเป็นไอพวกขี้แพ้ ความรู้ความอ่านไม่มี ดูข้าเองดวงแข็งแล้วยังต้องมาน้อยเนื้อ ต่าใจแบบนี้อีก!
เขาเองก็อยากจะให้คนมาดูแลบ้านตระกูลหลี่ให้เขาสักหน่อย พอเป็นแบบนี้แล้วก็ล้มเลิกความคิดลงทันที
กู้จื่อกำชับเขาขึ้นอย่างไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น “ใช่สิ พรุ่งนี้ถ้า ตื่นแล้วอย่าล่ะว่าเรียกข้าด้วย
อันที่จริงพอเวลาที่เจ้าของร่างตื่นขึ้นมา ก็มักจะไม่เห็นเงาของ หลี่ชวนถึงที่ออกไปตั้งนานแล้ว
รอให้กู้จื่อจัดการเก็บของในห้องครัวเสร็จ ท้องฟ้าก็กลาย เป็นสีดำสนิทไปเป็นที่เรียบร้อย
ในช่วงฤดูหนาวเองก็ไม่ได้เหมือนกับต้นอินทผลัมที่ผลัดใบใน ตอนหน้าหนาว แม้กระทั่งแสงไฟก็จนปัญญาที่จะทำให้ติดได้ เทียนในบ้านเองก็มีเพียงแค่เล่มเดียวเท่านั้น นับว่าเป็นเรื่องฉุกละหุกจริง ๆ จื่อซีสามารถอาศัยได้แค่เพียงแสงสว่างดวงเล็ก คลำทางไปที่ห้อง
ที่บ้านมีเพียงแค่เตียงเพียงหลังเดียวเท่านั้น อีกทั้งตัวเธอและ หลี่ชวนถึงก็ยังมีความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยา ยังไงก็ไม่มีทางที่ จะแยกกันนอนแน่ ๆ
ยังดีที่ว่ามีเหมาต้านอีกคน จื่อเอานางมาวางคั่นไว้ตรง กลางระหว่างทั้งสองคน เธอกับหลี่ชวนถึงนอนกันคนละฟาก
ไม่ใช่ว่าเธอคิดมาก แต่ว่าเจ้าของร่างเองก็มีท่าทางแบบนี้ หล ชวนถึงไม่ได้ร่วมหอกับนางตามประเพณีแบบนั้นหรอ? ถ้าไม่เช่น นั้นแล้วเหมาต้านเองจะมาจากไหนกัน
หลี่ชวนถึงเป็นคนหน้าตาดี แต่ว่ายังไม่แน่ใจท่าที่เมื่อก่อนที่ หลี่ชวนถึงมีต่อนาง จื่อซีเองก็รู้สึกว่ามีชีวิตอยู่ที่ดีที่สุดแล้ว รอ ให้ต่อไปมีเงินแล้ว เธอเองก็สามารถเลือกผู้ชายหน้าตาดี ๆ ได้ ตามใจไม่ใช่หรอ?
บนเตียงปูด้วยแผ่นไม้กระดาน ตรงกลางถูกคั่นเอาไว้ด้วย ผ้าห่มบาง ๆ เพียงแค่ชั้นเดียว เดิมทีกู้จื่อซีเองก็เป็นคนรูปร่าง ผอม ตอนนี้ยังกดทับลงกับเตียงอีกช่างทรมานเสียจริง ๆ
กู้จื่อยิ้มยิงฟันท่ามกลางความมืด ในทันใดนั้นก็รู้สึกมีแรง บันดาลใจทอประกายขึ้น รีบถามขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “เมื่อไหร่ พวกเรามาทำเตียงผิงไฟกันดี”
แต่เดิมผ้าห่มบางเบาไม่สามารถสกัดกั้นอากาศที่หนาวเย็นยะ เยือกเอาไว้ได้ แต่ถ้ามีเตียงผิงไฟแล้วทุกอย่างก็จะไม่เหมือนเดิมแค่คิดถึงความอบอุ่นแบบนั้น กู้ชื่อก็รู้สึกตื่นเต้นไปทั้งตัว
“อะไรคือเตียงผิงไฟกัน?
เสียงของหลี่ชวนถึงก็ขัดความคิดของเธอขึ้น
“ไม่ ไม่มีอะไร ก็แค่เป็นเตียงที่สามารถทำให้คนอบอุ่นได้ใน หน้าหนาวก็แค่นั้น
กู้จื่อ รู้สึกกระดากกระเดื่อ คิดไม่ถึงเลยว่าที่นี่ แม้กระทั่งเตียง ผิงไฟก็ไม่มี แต่จากในความทรงจำของเจ้าของร่าง ตอนนี้ที่บ้าน เองแค่เศษเงินสักเล็กน้อยที่เหลือออกมาก็ยังไม่มี ต่อให้เธอรู้ว่า จะทำเตียงผิงไฟได้ยังไง ก็ยังไม่มีเงินอยู่ที่นั่นแหละ
ในทันใดนั้น จื่อซีก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้น หลี่ชวนถึงไม่รู้ นั่นมันใช่ ว่าที่นี่แต่เดิมก็ไม่เคยมีแม้กระทั่งเตียงผิงไฟหรือเปล่านะ จะสงสัย เธอขึ้นหรือเปล่า?
ใจของเธอเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ท่หูฝั่งคอยฟังดูท่าทีของหลี่ชวน
ถึง
เป็นชั่วระยะเวลานาน ถึงจะได้ยินเสียงที่อยากจะนอนเสียเต็ม แก่ “โอ๊ะ”
กู้จื่อซีถลึงตามองอย่างหมดคำพูดอยู่ครู่หนึ่ง ปล่อยให้เธอคิด ไม่ตกไปคนเดียวอยู่ได้
ช่างเหอะ นอนดีกว่า นอนอิ่มแล้วถึงจะมีแรงออกไปหาเงิน วันที่สอง ในตอนที่ท้องฟ้ากำลังเริ่มสว่างทอแสงขึ้น จื่อซีก็ได้ยินเสียงกุก ๆ ก๊ก ๆ จากด้านข้างดังขึ้นมากระทบโสตประสาท เธอพยายามลืมตาขึ้น ก็มองเห็นหลี่ชวนถึงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เตียง สวมใส่ชุดไว้อย่างเตรียมพร้อม
กู้จื่อซีรีบลุกขึ้นนั่ง “ทำไมท่านถึงไม่เรียกข้า ” หลี่ชวนถึงไม่ได้พูดอะไร จัดแจงเก็บเครื่องไม้เครื่องมือที่จะ ต้องใช้แล้วออกไป
ปะทะเข้ากับลมหนาว จื่อก็ดึงเสื้อตัวบางสวมให้กับตัวเอง ตัวสั่นสะท้านด้วยความหนาวเหน็บอย่างไม่รู้ตัว เธอกอดแขนทั้ง สองข้างเอาไว้ทั้งกระโดดและวิ่งไปมาอยู่ในสวน แบบนี้สิถึงจะ รู้สึกว่าไม่ได้หนาวขนาดนั้น
“ยังจะเข้าไปข้างในอีกหรอ?
บริเวณที่จะมีสัตว์เอาไว้ให้ล่าล้วนอยู่บนเขาลึกเข้าไปอีก ทว่า ตอนนี้ท้องฟ้าเป็นสีหม่น ยิ่งเข้าไปลึกขึ้นอากาศก็ยิ่งหนาวเย็นขึ้น กู้จื่อซีก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ