บทที่ 13 ระวังตัวไว้เถอะฉันจะสกัดซานาย
“ลุง พูดได้ดีมากเลยนะคะ ถึงจะเป็นครอบครัวก็ต้องคุยเรื่องเงิน ให้รู้เรื่อง ในเมื่อวันนี้ลุงอยู่ที่นี่แล้ว ลุงก็ควรให้ค่าตอบที่ชัดเจน กับพวกเรานะคะ เงินที่เอาไปจากครอบครัวฉันจะคืนเมื่อไหร่ คะ?”
“ยัยเด็กคนนี้ เจอญาติเมื่อไหร่ก็ยื่นมือขอเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า หยูนเชิงกางเกือบจะลืมเป้าหมายที่ตนเองมาที่นี่แล้ว จนกระทั่ง ภรรยาของตนหยกเข้าที่เอว จึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้
พวกเขาอยากให้แฟนของหยูนจิ้งจีหางานตำแหน่งสูงๆ ให้ถึง ตอนนั้นคนที่ได้พบเจอกันก็จะแตกต่างออกไป จิ้งจีเด็กคนนี้ยังหา คนมีเงินได้เลย ลูกสาวของเขาก็ต้องตกได้สามีที่ร่ำรวยเช่นกัน
ตอนนี้หยูนเชิงกางคิดจะใช้ความสัมพันธ์มาเป็นเครื่องมืออีก ครั้ง “เสี่ยวหวาน เธอก็มีพี่ชายอยู่คนเดียว เธอเป็นญาติฉัน แล้ว ใครเป็นญาติเธอล่ะ? เธอช่วยให้แฟนของจิ้งจีแนะนำงานดีๆ ให้ ฟางฟางหน่อยสิ ได้ทำงานในบริษัทของเขาคงจะ…….
ฉิวหยู่เฉิงที่ยืนรออยู่ด้านนอกใบหน้าเต็มไปด้วยความอึดอัด ครอบครัวนี้แสดงอะไรอยู่
หยูนหว่านซูด่าด้วยเสียงอันดัง “หยูนเชิงกาง พี่ก็รู้ว่าพี่เป็นพี่ ของฉัน เรื่องเหล่านี้ฉันประหลาดใจจริงๆ ทำไมถึงทำเรื่องหน้า อายแบบนี้ออกมา ฟางฟางโตขนาดนี้แล้วไม่หางานทำก็ว่าตัว เธอเองที่ไม่พยายามสิ โทษคนอื่นตลอด พี่เป็นพ่อยังจะมาตามใจเธอที่นี่อีก!”
เพราะอารมณ์อ่อนไหว หยูนหวานซูจึงต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ เธอยังคิดว่า เพราะสุขภาพของตนเองไม่ดี จึงทำให้หยุนเชิง กางนึกถึงมิตรไมตรีพี่น้องขึ้นมา แต่ดูแล้วคงจะเป็นนิสัยแย่ๆที่ ยากจะเปลี่ยนแปลงแล้วจริงๆ
หยูนจึงไม่อยากให้แม่ของตนอ่อนไหวขนาดนี้ จึงขอให้ ครอบครัวนี้กลับไปตรงๆ “แม่ฉันไม่สบาย พวกลุงกลับไปเถอะ ค่ะ ถ้าจะให้ดีที่สุดช่วงที่รักษาตัวอยู่พวกลุงไม่ต้องมาเยี่ยมแล้ว นะคะ พวกเราไม่ยินดีค่ะ!”
“พวกเธอแม่ลูกก็ไม่นึกถึงความสัมพันธ์ทางสายเลือด ไม่ไว้ หน้ากันเลยหรือ?” หยูนเชิงกางพูดอย่างโมโห
หยูนจิ้งจีมองเขาอย่างเหลือเชื่อ “ใครกันแน่ที่ไม่ไว้หน้าคะ? ทุกครั้งที่ลุงมาหาเป็นเพราะมีเรื่องอะไรถึงจะคิดถึงแม่ฉัน ปกติ ตอนที่แม่ฉันไม่สบายต้องการความช่วยเหลือ แม้แต่เงาพวกลุงก็ ยังไม่เห็นเลย”
ถึงแม้จะเป็นความสัมพันธ์ของญาติที่สนิทแต่เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ ทำให้ผิดหวังเช่นกัน
“อาจี ลูกไม่ต้องพูดแล้ว ให้พวกเขาไปเถอะ” ท่าทางของหยูน หว่านซูขี้เกียจจะพูดกับพวกเขาแล้ว
หยูนเชิงกางโมโหแล้ว เป็นครั้งแรกที่โดนน้องสาวไม่ไว้หน้า อย่างนี้ “ฉันไปแน่ ไม่ต้องให้พวกเธอมาไล่ฉัน ก่อนแต่งงานยังต้องทำข้อตกลงทางทรัพย์สิน เธอคิดจริงๆ หรือว่าผู้ชายคนนั้นจะ รักลูกสาวเธอ? ต่อไปถ้าโดนรังแก จะไม่มีคนคอยหนุนหลังสัก
“แค่อยากจะบอก ตอนแรกก็คิดว่าถ้าเธอได้แต่งงานไปจะดี เท่าไหน แต่ก็เป็นเพียงแค่โครงร่างที่ว่างเปล่าเท่านั้น” ชิวหลา นมองหยูนจิ้งอย่างเหยียดหยาม
พอพูดเสร็จ หยูนเชิงกางก็พาลูกและภรรยาของเขาออกไป จากที่นี่ด้วยความโมโห เมื่อออกไปนอกประตู ก็เจอกับฉิวหยู่เฉิง ที่ยืนอยู่ข้างนอก แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาได้ยินอะไรไปบ้าง
ยังมีของขวัญอีกกองหนึ่งวางอยู่ที่ข้างๆขาของเขา มองไปแล้ว ก็ทำให้ชิวหลานอิจฉาตาร้อนขึ้นมาเลย สิ้นเปลืองจริงๆที่เอา ของเหล่านี้ไปให้หยุนหว่าน
ฉับพลันนั้น หยูนเชิงกางก็คิดขึ้นมาได้ เขาเดินไปที่ข้างหน้า ฉิวหยู่เฉิง พูดอย่างเสียใจเหลือเกิน: “แม้ว่าคุณกับจิ้งจีของพวก เราจะอยู่ด้วยกันแล้ว แต่ก็มีเรื่องที่ฉันอยากจะเปิดเผยให้คุณรู้ แต่ก่อนตอนที่จิ้งจียังเด็กเธอเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน อาจจะไม่ สามารถมีลูกได้ ต่อไปถ้าคุณเลิกกับเธอเพราะเรื่องนี้ ฉันจะไม่ให้ อภัยคุณ!”
ท่าทางของหยูนเชิงกางแบบนี้ดูแล้วเหมือนลุงที่เป็นห่วงหลาน สาวอย่างจริงใจ แต่ความหมายลึกๆที่เขาพูดก็เข้าใจแล้ว
“ความหมายของคุณคืออาจจะไม่สามารถตั้งท้องได้ตลอด ชีวิตนี้อย่างนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร! ครอบครัวของฉันทั้งสามรุ่นในแต่ละรุ่นก็มีลูกชายเพียงคนเดียว ต่างก็คาดหวังว่าฉัน จะมีทายาทสืบสกุลต่อไป!”ฉิวหยู่เฉิงแสร้งตกใจพูดออกไป ถ้า ไม่ใช่เพราะเขาดีใจที่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว ก็คงเชื่อสิ่งที่หยูนเชิง กางกุขึ้นมา
หยูนเชิงกางได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจ ก็เพียงแค่ได้แต่งงานกับ คนรวย จะทำให้พวกเธอดีใจเก้อไปเลย ดูสิว่าต่อไปพวกเธอจะ ยังโอหังได้อีกไหม!
ในใจของหนูนเชิงการคิดแบบนั้น แต่ตอนที่เขาพูด กลับ เคร่งขรึมมาก “ฉันขอเตือนคุณเลยนะ! คุณกับจิ้งจีของพวกเรา อยู่ด้วยกันแล้ว คุณห้ามทิ้งเธอ มิเช่นนั้นระวังฉันจะสกัดขาของ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ