รักอุ่นใจ ท่านซีอีโอไร้ใจ

บทที่ 8 แต่งค่ะ



บทที่ 8 แต่งค่ะ

“ถ้าคุณไม่เชื่อคำพูดของฉัน พวกเราเซ็นเอกสารยินยอมก็ได้ ถ้า ฉันทําไม่สอดคล้องกับในเนื้อหา คุณเพิกถอนสิทธิการเข้าเยี่ยม ก็ได้……” หยูนจิ้งจียังคงต่อรองเพื่อตัวเธอเอง

ที่เธอยังไม่รู้ก็คือ เธอพูดจนผู้ชายคนนี้ยอมแล้ว

“ได้สิ ฉันเห็นด้วย” ฉิวหยู่เฉิงตอบกลับอย่างสบายอก สบายใจ ทำให้หยูนจิ้งจีรู้สึกว่าตนเองฟังอะไรผิดอีกครั้ง

“นอกจากคําขอบคุณ ก็ไม่รู้แล้วจริงๆว่าควรจะพูดอะไร…….ห ยูนจิ้งจีพูดได้เพียงครึ่งเดียว ประตูห้องทำงานก็โดนคนถีบเปิด ออกมาทันที

คุณหญิงอาวุโสผมหงอกขาวท่านหนึ่ง สวมชุดกี่เพ้า เดินเข้า มาอย่างหุนหันพลันแล่นมองหน้าผิวหยู่เฉิงด้วยท่าทางเหิมเกริม เข้าไปดึงหูของเขาด้วยความโมโหแล้วครามออกมา “ฉิวหย เฉิง แกกล้ามากนะที่จะทำแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าคิดจะกำจัดเหลน ที่รักของฉัน แกเชื่อไหม ถ้าแกกล้าทำ ฉันจะทำให้ชีวิตน้อยๆของ แกจบเห่เหมือนกัน!”

“คุณย่าครับ คุณย่าครับ……. ใจเย็น ใจเย็นครับ ผมไม่ได้ กําจัดเด็กคนนั้น ไม่ได้กำจัดจริงๆ!” ฉิวหยู่เฉิงอธิบายอย่างรีบ ร้อน

“ฉันก็คิดว่าแกไม่มีความกล้านี้หรอก!” คุณย่าวจึงยอมปล่อยหูของหลานตน

ครูนี้เธอก็เพิ่งจะสนใจถึง หญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ที่นี่ด้วย หน้าตาของหญิงสาวไม่ถือว่าพิเศษมากมาย แต่ก็สวยมีเสน่ห์ ต้องตาต้องใจ

สายตาของคุณย่าผิว เคลื่อนไปที่ท้องของหยูนจิ้งจีโดย อัตโนมัติมองอยู่สักพัก ก็เดินเข้าไปหา จูงมือเล็กๆของเธอ ตบ ปลอบขวัญเบาๆ: “สาวน้อย ตอนนี้เธอท้องแล้ว ก็พักผ่อนให้เต็ม ที่รอฉันหาฤกษ์ดี จัดการเรื่องงานแต่งงานของพวกเธอ ถึงตอน นั้นก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ!”

“คุณย่า…….พูด พูดอะไรคะ?” หยูนจิ้งเหมือนจะไม่เข้าใจคำ พูดของคุณย่าผิวหยู่เฉิง จัดการเรื่องแต่งงานอะไรกัน?

“ดูท่าเด็กคนนี้ คงจะดีใจจนพูดไม่ออกแล้ว ฉันบอกว่า ให้

พวกเธอเลือกวันแต่งงาน ให้พวกเธอเตรียมจัดการงานแต่งตั้ง แต่เนิ่นๆ “คุณย่าฉวพูดอีกครั้งอย่างใจดี ตรงไหนที่หยูนจิ้งจีดีใจจนพูดไม่ออก เธอตกใจมากต่างหาก

ล่ะ

ทิศทางของเรื่องนี้ก็เป็นไปโดยปกติอย่างชัดเจน รวมถึงความ ลำบากของเธอก็แก้ไขได้หมดแล้ว ทำไมถึงมีเรื่องที่ไม่คาดคิด เกิดขึ้นอีกแล้ว?

คุณย่าฉิวจูงหยูนจิ้งจี แล้วพูดด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม “ผู้ชาย ของบ้านตระกูลฉิว ไม่เคยปฏิเสธความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับ มาก่อน เธอวางใจเถอะ พวกฉันจะรับผิดชอบเธอ!”
หยูนจิ้งจีมองไปที่ฉิวหยู่เฉิง ก็พบว่าเขากำลังเม้มปากด้วย

ท่าทางที่ไม่ยอมพูดอะไร ใบหน้าก็ไม่ปรากฏความรู้สึก เธอจึงรีบเอ่ยปากอธิบาย “จริงๆแล้ว……..วามรับผิดชอบ ทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่ว…….

หยูนจิ้งจีพูดได้ครึ่งหนึ่ง ก็ทำให้คุณย่าผิวสกัดขึ้นมา “ฉิวห เฉิง หลายปีมานี้แกจะเล่นอย่างไร ฉันก็ตามใจแกหมด แต่ตอนนี้ แกต้องฟังฉัน!”

คุณย่าฉวพูดกับฉิวหยู่เฉิง ต่อว่าไม่หยุด ท่าทาง โมโห ราวกับ ว่าเรื่องที่ไม่ขอหยูนจิ้งจีแต่งงานจะทำให้สวรรค์และผู้คนรู้สึก เคียดแค้นขนาดนี้

“ได้ครับ อย่างนั้นก็แต่งงานกันเถอะ!” ฉิวหยู่เฉิงพูดออกมา อย่างกะทันหัน เหมือนกับทุบหยูนจิ้งจีกับคุณย่านิ้วไปเต็มๆ

ฉิวหยู่เฉิงยินยอมแต่งงานหรือ? วงศ์ตระกูลบ้านตระกูลผิวที่ ใหญ่ที่สุดในเมืองอย่างนั้นหรือ?

ไม่ได้ วุ่นวายมากไปแล้ว วุ่นวายเหลือเกิน เธอปวดหัวไปหมด แล้ว

“เอ่อ……พวกคุณควรจะฟังความเห็นจากฉันด้วยไหมคะ” ห ยูนจิ้งจีเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง แจ้งความเห็นของตน “ฉันคิดว่า ฉันไม่ต้องการให้นายฉิวรับผิดชอบอะไรเลย เรื่องราวที่เลยเถิด มาจนถึง ในวันนี้ เป็นปัญหาในหลายๆด้านของฉันเองค่ะ”

“คุณย่า ออกไปก่อนนะครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับเธอ” ในตอนนี้ฉิวหยู่เฉิงพูดขึ้นมาทันที เขาเดาความหมายของหยุนจึงออก แล้ว ถ้าให้เธอพูดต่อไป โรคหัวใจของคุณย่าคงจะกำเริบขึ้นมา อีกครั้งแน่

“หยูนจิ้งจี คุณหวังว่าต่อไปเด็กคนนี้ จะเรียกผู้หญิงคนอื่นว่า แม่ แล้วคุณก็ต้องหลบอยู่ในมุมไกลๆ ไม่มีส่วนร่วมในชีวิตของ เขาอย่างนั้นหรือ” คําพูดนี้ของฉิวหยู่เฉิงโจมตีเข้ามาอย่างรู้ใจ

เป็นปรกติที่หยูนจิ้งจีไม่หวังว่าจะเป็นแค่คนดูอยู่ข้างๆที่มองดู ลูกของตนเติบโต

ก่อนหน้านี้ในใจของหยูนจิ้งจีก็ไม่กล้าหวังว่าจะเก็บเด็กคนนี้ ไว้ กลัวว่าตนเองจะทนไม่ได้ แต่เมื่อได้รู้ว่าสามารถเก็บลูกไว้ได้ แล้ว กลับหวังว่าจะได้อยู่กับเขาตลอดไปอีก

“ฉันแต่งค่ะ” หยูนจิ้งจีตัดสินใจอย่างเฉียบขาด พร้อมจะเสี่ยงกับทุกอย่างแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ