สุดท้ายแล้ว ฉันแค่เป็นเมียเก็บ

บทที่ 14 พี่สะใภ้ คิดถึงฉันเหรอ



บทที่ 14 พี่สะใภ้ คิดถึงฉันเหรอ

แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา ในร้านอาหารสุดหรู พร้อมกับท่วงทำนองเพลงที่มีความอบอุ่น

หนานหย่าซินนั่งอยู่มุมข้างใน รอคอยการปรากฏตัว ของหลงฉีรุ่ยอย่างตื่นเต้น

เวลานัดผ่านไปครั่วโมงแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ถึง กาแฟที่ อยู่ในมือเย็นชืดจนหมด หนานหย่าซินถอนหายใจเบาๆ มองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใจลอยและสับสน กระทั่ง ไม่รู้ตัวว่ามีคนคนหนึ่งมาอยู่ตรงหน้า

“ทำไม? หลงฉีรุ่ยยังไม่มา?”

เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังมา หนานหย่าซินจึงหันไปมอง ด้วยความตกใจ

ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นมีหน้าตาหล่อเหลาและโครงหน้า ชัดเจน นัยน์ตาดำคมกริบเหมือนกับหินอัคนี แสงสว่าง ของพระอาทิตย์ส่องบนตัวเขา ทำให้บุคลิกลักษณะที่อึ มครีมลดลง และมีความสุภาพอ่อนโยนเพิ่มขึ้น

“คุณมาอยู่ที่ได้ยังไง?” สติในการป้องกันตัวของเธอ ตื่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“ไม่ต้อนรับฉัน?”

“ใช่! ต่อไปคุณอย่ามากวนฉันอีก!”
หลงเป่ยเฉินหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ นัยน์ตา มองไปยัง ใบหน้าที่เรียวเล็กของเธอ “ฉันคิดว่า…เธอจะคิดถึงฉัน”

หนานหย่าซินถลึงตามองเขา และเตรียมจะจาก ไป แล้วค่อยไปขอโทษหลงฉีรุ่ยทีหลัง แต่หลงเป่ย เฉินเหมือนจะอ่านความคิดของเธอได้ และพูดอย่าง คลุมเครือ “ถ้าหากเธออยากเจอเขาวันนี้ ก็จงเชื่อฟัง และนั่งทานอาหารมื้อนี้กับฉันที่นี่ นี่คือ…คำบอกกล่าว ของหลงฉีรุ่ย”

ในที่สุดหนานหย่าซินก็นั่งลง เธอต้องการพบหลงฉีรุ่ย ไม่ใช่แค่การเดทอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องสำคัญอย่าง อื่น

เธอเล่นอาหารในจานโดยไม่พูดสักคำ และยัดอาหาร ใส่ปากอย่างไม่รู้รสชาติ เธอพยายามทำตัวเป็นมนุษย์ ล่องหน แต่มีสายตาที่แหลมคนที่ร้อนเป็นไฟที่ไม่ยอม ปล่อยเธอ ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ

“ฉันขอตัวไปห้องน้ำค่ะ” หนานหย่าซินรีบลุกขึ้น ไม่รอ ให้หลงเป่ยเฉินเอ่ยปากก็เดินหนีไปทางห้องน้ำแล้ว

หลงเป่ยเฉินจ้องมองเงาหลังเธอพลางครุ่นคิด แล้วจึง หยิบโทรศัพท์กดเบอร์ที่คุ้นเคย “เก็บห้องไว้ให้ฉันด้วย ฉันจะถึงในไม่ช้า

หนานหย่าซินอยู่ในห้องน้ำพักหนึ่ง แล้วจึงปรับ อารมณ์ได้ในที่สุด จากนั้นจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่ร้อนแรงของหลงเป่ยเฉิน เธอบังคับตัวเองไม่ให้ถอย “พวกเราจะไปเจอเขาเมื่อไร คะ?”

หลงเป่ยเฉินไม่พูดอะไร มีเพียงมุมปากที่ยิ้มเล็กน้อย และกลายเป็นเส้นตรง สายตากลายเป็นมืดหม่นและ เย็นชาขึ้นมาทันที

เขาหยิบผ้าเช็ดปากมาเช็ดมุดปาก ริมฝีปากเรียวบาง

พูดสองคำออกมาอย่างช้าๆ…

“ตอนนี้”

หนานหย่าซินโล่งอก ใบหน้าเรียวเล็กรู้สึกดีใจขึ้นมา โดยไม่รู้ตัว “งั้นพวกเรารีบไปกันเถอะ”

หลงเป่ยเฉินจ้องมองเธอ นัยน์ตาดำแฝงไปด้วยความ แปลกประหลาด เขาจึงพูดขึ้นอย่างกะทันหัน “ฉันคิด ว่าผู้หญิงจะมีความรู้สึกไวกับเรื่องแบบนั้น ไม่คิดว่าเธอ กลับ…”

เขาหัวเราะหึ ไม่สนใจความสงสัยของเธอ แล้วจึงลุก ขึ้นเดินตรงออกไปข้างนอก

ทั้งสองคนเดินตามกันออกมาจากร้านอาหาร แต่กลับ เงียบไม่พูดอะไร

บนถนนที่คึกคักมีคู่รักที่เดินจีบไม่ขาดสาย ขณะที่ หนานหย่าซินมอง ในหัวของเธอพลันปรากฏภาพของหนานเฉียนหมิงขึ้นมาแวบหนึ่ง

พี่ใหญ่…

เธอกระพริบตาด้วยความสับสน ทำไม? ทำไมเวลาที่ มองเห็นผู้หญิงกับผู้ชายที่รักกันพวกนี้ ทำให้เธอนึกถึง คนที่เดินจูงมือด้วยซึ่งไม่ใช่หลงฉีรุ่ยสามีในอนาคต ตรง กันข้ามคือหนานเฉียนหมิง?

“ซินซิน เธอรู้จริงๆ เหรอว่าความรักคืออะไร และ คนที่เธอรักนั้นเป็นใคร?

หนานหย่าซินเหมือนกับโดนฟ้าผ่า ยืนตกตะลึงอยู่กับ ที่!

“เธอเดินข้ามถนนแบบนี้ตลอดใช่ไหม?” หลงเป่ยเฉิ นทำหน้าขรึม พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี

หนานหย่าซินรีบผลักเขาทันที หมุนตัวถอยหลังแล้ว จึงวิ่งหนี!

เธอต้องไปหาพี่ใหญ่เพื่อจัดการความคิดและอารมณ์ ของตัวเองให้ชัดเจน ทำไมเธอโง่ขนาดนี้ เพิ่งจะเข้าใจ ความคิดของตัวเอที่ชัดเจนในคืนก่อนวันแต่งงาน

หลงเป่ยเฉินกำหมัดแน่นหลังจากที่ถูกเธอทิ้งไว้ข้าง หลัง สีหน้ามืดหม่นเต็มไปด้วยความน่ากลัว เขาก้าวเท้า ยาวๆ ไปข้างหน้าและวิ่งตามสองสามก้าว จึงคว้าคอของ หนานหย่าซินไว้ได้ เหมือนกับหิ้วแมวหนึ่งตัว แล้วจึงนิ้วเธอกลับไปในรถของตัวเอง!

นัยน์ตาแหลมคมที่เย็นชา กับเสียงทุ้มต่ำของหลงเป่ย เฉินแฝงไปด้วยสัญญาณเตือน “คำอธิบายของเธอ?!”

หนานหย่าซินเหมือนถูกไฟฟ้าดูด ดิ้นอยู่ในอ้อมกอด ของเขา “คุณปล่อยฉัน…ฉันจะลงจากรถ…”

“คุณไม่ต้องมาสนใจ ปล่อยฉันลงจากรถ!

หลงเป่ยเฉินยกยิ้มเล็กน้อย นัยน์ตาคมเข้มเหมือน ทะเลลึกจู่ๆ ก็มีสายตาที่หยอกเย้าวาดผ่าน “หนานหย่า ซิน เธอใจร้ายจริงๆ นะ โบราณเขากล่าวไว้ว่า เป็นสามี ภรรยากันวันเดียวก็รักกันหนึ่งร้อยวัน แต่เธอเพิ่งจะลง จากเตียงของฉัน ก็กล้าทำอย่างนี้กับฉัน? เป็นความกล้า ที่บ้ามากจริงๆ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ