สุดท้ายแล้ว ฉันแค่เป็นเมียเก็บ

บทที่ 5 บริษัทจะล้มละลาย



บทที่ 5 บริษัทจะล้มละลาย

ภายในห้องหนังสือ เสียงโต้เถียงของทั้งสองคนดัง ออกมา

“ตอนนี้อีกฝ่ายต้องการล้มพวกเราโดยไม่สนใจเรื่อง ต้นทุน ราคาหุ้นที่เขาซื้อจากผู้ถือหุ้นมีราคาเป็นสามเท่า ของราคาปัจจุบัน” นี่คือเสียงของหนานจิ่นเฉิง

หนานเฉียนหมิงขมวดคิ้ว แสดงสีหน้าที่งดงามและ สุภาพนิดหน่อย “พวกเขาคิดจะทำอะไร?”

“ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ และยังมองจุดประสงค์ของตระกูล หลงไม่ออกในตอนนี้!” หนานจิ่นเฉิงกำปั้นชกไปบนโต๊ะ ทำงานอย่างแรง และพูดด้วยความโกรธ

“ได้มีการสืบชัดเจนหรือยังว่าคนที่คอยสร้างความ ปั่นป่วนอยู่เบื้องหลังคือหลงเป่ยเฉินหรือหลงฉีรุ่ย?” สองพี่น้องตระกูลหลงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกัน นี่ คือเรื่องในวงการธุรกิจต่างก็รู้กันทุกคน

“ผมสืบดูแล้ว คนที่ก่อเรื่องคือหลงเป่ยเฉิน พี่ ใหญ่…ได้ผิดใจอะไรกับเขาไหม?” หนานจิ่นเฉิงไม่คิด ว่าหลงเป่ยเฉินจะคิดทำลายบริษัทหนานซื่ออย่างไม่ สาเหตุ

หนานเฉียนหมิงส่ายหน้า “ฉันสู้กับคนในวงการค้ามา ไม่น้อย แต่ฉันมั่นใจว่าไม่เคยมีเรื่องกับหลงเป่ยเฉิน”
“แล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงหาเรื่องพวกเรา? ให้ตายเถอะ! ตอนนี้พวกเราควรทำยังไง?”

“ในเมื่อหลงเป่ยเฉินกับหลงฉีรุ่ยไม่ถูกกัน พวกเรา ลองไปขอความช่วยเหลือจากหลงฉ่รุ่ย” หนานเฉียนห มิงไม่ได้ร้อนใจเหมือนหนานจิ่งเฉิง เขาครุ่นคิดอยู่พัก หนึ่งแล้วจึงค่อยๆ พูด

“ถึงยังไงพวกเขาก็เป็นพี่น้องกัน หลงฉีรุ่ยจะยอมช่วย พวกเราจริงๆ เหรอครับ?”

“ก็คงต้องลองดูก่อน”

หนานหย่าซินที่แอบยืนฟังอยู่นอกประตู เมื่อได้ยินถึง ตรงนี้ นัยน์ตาสวยคู่นั้นจึงจ้องมองพี่ใหญ่ทันที!

เมื่อครู่พี่รองพูดว่าหลงเป่ยเฉินคิดเป็นศัตรูกับตระกูล หนานคือเรื่องสองสามวันที่ผ่านมา ถ้าหากลองนึกให้ ละเอียดก็คือ…ร่างเงาของเธอสั่นไหว หรือว่าเป็นเพราะ เธอที่ทำให้พี่ใหญ่ต้องลำบาก?

หนานหย่าซินกัดริมฝีปากแน่น นัยน์ตาสวยของเธอ ปรากฏความเสียใจแวบหนึ่ง

เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอจะต้องหาวิธีชดเชย ให้ได้ หนานหย่าซินมองนามบัตรของหลงฉีรุ่ยที่ถืออยู่ ในมือ ในใจเต็มไปด้วยความลังเล…

เวลาหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
พี่ใหญ่ออกจากบ้านแต่เช้าและกลับดึกทุกวัน แต่เรื่อง ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเหมือนที่คิด

ท้องฟ้ามืดแล้ว หนานหย่าซินนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา รอ พี่ชายทั้งสองคนกลับมา

เธอได้ยินเสียงของทั้งสองคนจากข้างนอกไกลๆ จน เข้ามาใกล้ๆ

“หลงฉีรุ่ยยังไม่ยอมช่วย?”

“ใช่ครับ สงสัยพวกเราต้องคิดหาวิธีอื่นแล้ว” หนานจิ๋น เฉิงเข้าบ้านพลางพูดด้วยความเหนื่อยล้า

“เป็นไปได้ยังไง? หลงฉีรุ่ยกับหลงเป่ยเฉินไม่ถูกกัน ตอนนี้พวกเราก็ให้เงื่อนไขที่เป็นประโยชน์กับเขาแบบ นี้ ทำไมเขายังไม่ยอมช่วยพวกเรา? พี่ใหญ่ พี่ต้องพูด ความจริงกับผม หลงฉีรุ่ยยังมีเงื่อนไขอย่างอื่นอีกใช่ ไหม?” หนานจิ่นเฉิงหรี่นัยน์ตา มองดวงตาของหนาน เฉียนหมิงที่เต็มไปด้วยความสงสัย

“แกกำลังพูดอะไร? พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางช่วยเหลือคนนอกอย่างพวกเรา” หนานเฉียนหมิงถลึงตาจ้องมองหนานจิ่นเฉิง และพูด อย่างรำคาญ

“แต่ข้อมูลที่ผมได้ไม่ใช่แบบนี้” เสียงของหนานจิ๋นเฉิง เย็นชาลงกะทันกัน แววตาที่มองดูหนานเฉียนหมิง พลัน เปลี่ยนเป็นแหลมคมทันที “เงื่อนไขของเขาคือ…
“ไม่ต้องพูดแล้ว! ไม่ว่าข้อมูลของแกจะเป็นจริงหรือ เท็จ ฉันหวังว่าเรื่องนี้จะไม่ได้ยินถึงหูของซินซิน” หนาน เฉียนหมิงตัดบทพูดของหนานจิ่นเฉิงด้วยน้ำเสียงที่เย็น ชา เขาเปลี่ยนรองเท้าเรียบร้อย แล้วจึงจ้องมองหนาน จิ่นเฉิงเพื่อเป็นการเตือน “ฉันคิดว่าแกคงไม่อยากเห็น ฉันเสียใจไปตลอดชีวิตนะ”

หนานจิ่นเฉิงบ่นไม่หยุด พลางมองดูร่างเงาที่เหนื่อย ล้าของพี่ชายที่เดินขึ้นไปชั้นบน จากนั้นเขาจึงดึงเน็กไท ออกอย่างลวกๆ แล้วจึงทิ้งกระเป๋าเอกสารแบบขอไปที แต่ไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงอู้อี้ในลำคอ!

“ซินซิน?” เขามองหนานอย่าซินที่ขดตัวอยู่บนโซฟา ด้วยความตื่นตะลึง หนานหย่าซินนวดคลึงหน้าผากที่ถูก หนานจิ่นเฉิงทุบ และหัวเราะอย่างเคอะเขิน “พี่รอง พี่ กลับมาแล้ว”

หนานจิ่นเฉิงหมุนนัยน์ตาเย็นชาของเขาเล็กน้อย “เธอ ได้ยินฉันกับพี่ใหญ่คุยกันแล้ว?”

หนานหย่าซินกัดริมฝีปากเล็กน้อย “พี่รอง หลงฉีรุ่ย จะช่วยพวกเราด้วยเงื่อนไขอะไรคะ?”

หนานจิ่นเฉิงมองเธอด้วยแววตาที่ซับซ้อน หลังจาก นั้นจึงส่ายหน้าและเดินขึ้นไปชั้นบน “เธอไม่ต้องยุ่งเรื่อง

“แต่ฉันก็เป็นคนตระกูลหนาน พี่รองไม่บอกฉันเพราะ มองฉันเป็นคนนอกใช่ไหมคะ?”
เสียงเบาๆ ของหนานหย่าซินดังตามหลังของหนานจิ่น เฉิง เขาหยุดก้าวเท้าที่กำลังเดินขึ้นไปแล้วจึงหันกลับ มามองเธอหนึ่งที “ถ้าหาก…ต้องเสียสละความสุขของ เธอก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?” เมื่อพูดจบ หนานจิ่นเฉิงจึงทิ้ง หนานหย่าซินที่กำลังตกใจอยู่ตรงนั้นและเดินขึ้นไปชั้น บน

หนานหย่าซินเงียบลง ที่แท้ก็เป็นเพราะเธอถึงทำให้ พี่ใหญ่และพี่รองต้องลำบากใช่ไหม? ถ้าหากต้องเสีย สละความสุขของเธอเพื่อแลกกับกิจการของพี่ใหญ่กับ พี่รอง แล้วเธอยังจะลังเลอะไรอีก

เมื่อตัดสินใจแล้ว หนานหย่าซินจึงกลับไปที่ห้อง กด เบอร์โทรศัพท์ “หลงฉีรุ่ย? ฉันคือหนานหย่าซิน ฉัน ตกลงที่จะแต่งงานกับคุณค่ะ…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ