พลิกปฐพี ชายาไว้ใจ

ตอนที่ 5 สลับเกี้ยวแต่งงานผิดคน



ตอนที่ 5 สลับเกี้ยวแต่งงานผิดคน

จางยโหร่วพูดเบาๆว่า ” เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่ท่าน ตอนนี้มีเพียง สองทางเลือกเท่านั้นที่อยู่ตรงหน้าของท่าน หากท่านจะฆ่าตัว ตายในตอนนี้ข้าก็จะไม่ยุ่ง หากท่านเห็นด้วยกับการแลกเปลี่ยน ตัวกับข้า ทั้งหมดแล้วแต่ว่าท่านจะเลือกอย่างไร ”

แน่นอน หากมีความหวังเพื่อที่จะอยู่รอดได้ ใครจะยอมตาย กันล่ะ?

อีกทั้งยังได้ยินมาก่อนแล้วว่าองค์ชายสามรูปงามและสง่า ผ่าเผย สามารถได้แต่งงานกับสามีแบบนี้นั้นวาสนาดีไปหลาย ชาติ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดจางยโหร่วถึงทำการแลกเปลี่ยน แบบนี้กับนาง แต่โอกาสมาอยู่ตรงหน้า คนโง่เท่าจึงจะไม่เห็น คุณค่า แม้แต่ความตายนางยังไม่กลัวแล้วนางจะกลัวอะไรอีก

ดังนั้นนางจึงพยักหน้าในทันที “ข้ายินดี! ”

” ท่าน ออะไร? ”

” ข้าชื่อหลิงจือ เป็นลูกสาวของหลินหงตำแหน่งผนเช่า เจียน ”

ดีมาก ข้ามีคำพูดจะบอกท่านสองประโยคหวังว่าท่านจะ ไว้ หนึ่ง : เมื่อเรื่องถูกเปิดเผย ตระกูลของเราก็จะมีโทษประหาร ชีวิตเก้าชั่วโคตรและจะสร้างความเดือดร้อนแก่พ่อแม่และคนใน ครอบครัวอย่างไม่สามารถทำอะไรได้ ท่านควรจะรู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ “

“ อื้ม หลังจือจะปิดปากเงียบสนิท ถึงแม้ว่าตายก็จะไม่เผยแพร่ ออกไป

จางยโหรวนั้นวางใจตรงจุดนี้ มันเป็นเพียงการเตือนสตินาง อย่างหนึ่งเท่านั้น จัดพระราชโองการนั้นเป็นความผิดร้ายแรง นอกเสียจากนางไม่ต้องการมีชีวิตแล้วถึงจะกล้าพูดออกไป

“สอง : พวกเราเปลี่ยนตัวตนกัน ท่านแต่งงานเข้าตระหนัก สามแทนขา แต่ท่านควรเตรียมใจไว้ให้ดี หากองค์ชายสาม ยอมรับตัวตนของท่าน ท่านก็จะเป็นพระชายาสาม แต่หากเขาไม่ ยอมรับการแต่งงานในครั้งนี้ก็จะถูกยกเลิก ฝั่งทางด้านท่านอ๋อง ชิงผิงนั้นปล่อยให้ข้าจัดการเองทั้งหมด ข้าจะไม่ปล่อยให้ไป พัวพันถึงตัวตนของท่านอีก ท่านยังสามารถกลับเป็นคุณหนูหลิน แห่งตระกูลหลินได้ และเลือกสามีที่ดีแต่งงานออกเรือนอีกครั้ง ”

หลินจือพูดอย่างกังวลใจอีกครั้งว่า “ถ้าหาก…หากว่าหลังจาก ถูกเปิดโปงแล้ว องค์ชายสามกับท่านอ๋องชิงผิงต้องการเปลี่ยน ตัวเจ้าสาวกัน เช่นนั้นควรจะทำอย่างไรล่ะ?”

“พวกเราเคยเรียนหลักสามเชื่อฟังจรรยามาตั้งแต่เด็ก แต่งงานออกเรือนแล้วต้องเชื่อฟังสามี ในเมื่อท่านกับองค์ชาย สามคำนับเทวดาฟ้าดินแล้ว จะมาแต่งงานกับท่านอ๋องชิงผิงอีก ได้อย่างไรกัน? ” ถึงแม้ในตอนนี้จางโหร่วจะเหยียดหยาม ทฤษฎีการควบคุมผู้หญิง แต่ในเวลานี้กลับต้องเอาออกมาใช้

รอบดวงตาของหลินค่อยๆแดง และรีบคุกเข่าก้มหน้าลงกับพื้นทันที

“ ขอบพระคุณที่ท่านพี่ยวโหวที่ช่วยชีวิตข้า ตราบใดที่ไม่ต้อง แต่งงานเข้าจวนท่านอ๋องชิงผิงที่ที่กินมนุษย์คนนั้น ข้าก็โชคดี มากแล้ว จะกล้าอยากได้ฐานะพระชายาสามได้อย่างไรกัน? หาก ไม่ใช่เพราะท่านพี่ เกรงว่าครั้งนี้ข้าคงตายโดยไร้หลุมฝังศพแน่ ”

ช่างเป็นผู้หญิงที่รู้จักวางตัวเหมาะสม จางยโหรวรีบประคอง นางลุกขึ้นทันที

” ท่านกับข้าแต่งงานออกเรือนในวันเดียวกัน นับว่ามีวาสนา ต่อกัน ข้าใจไม่แข็งพอที่จะปล่อยคนคนหนึ่งสูญเสียชีวิตต่อหน้า ของข้า และที่ข้าช่วยเจ้าก็มีเหตุผลของข้าเอง ”

“แต่…เข้าเอาตัวรอดไป หากท่านพี่ถูกท่านอ๋องชิงผิงรังแกจะ ทำอย่างไรดีล่ะ? ถ้าเกิดเรื่องอะไรกับท่านพี่เพราะเหตุนี้ ต่อไปข้า ก็จะรู้สึกไม่สบายใจแน่ ” นางไม่เพียงแต่คิดถึงเรื่องของตัวเอง แต่ยังคิดถึงเรื่องของจางยวโหวด้วย จึงทำให้จางยโหรารู้สึก ชอบพอนางมากขึ้น

“เจ้าวางใจเถอะ ท่านปู่ของข้าเป็นขุนนางที่สำคัญในราช สำนัก ท่านพ่อและพี่ชายก็มีตำแหน่ง เขาไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก อีกอย่างถ้าหากเขาน่ากลัวอย่างที่ข่าวลือจากโลกภายนอกบอก กันจริงๆ ข้าก็สามารถเอาตัวรอดไปเร็วขึ้นได้ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้า ”

เมื่อฟังนางพูดเช่นนี้ หลินจือก็ค่อยๆเบา ใจลง และย่อตัว ทำความเคารพ
* บุญคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านที่ยวโหว ข้าหลินจือจะไม่มีวัน ลืม ในภายภาคหน้าหากมีอะไรที่ขาสามารถช่วยท่านที่ได้ ข้าจะ ไม่ปฏิเสธเด็ดขาด”

* เอาล่ะ พวกเขาใกล้จะกลับมาแล้ว พวกเรารีบเตรียมตัวกัน

เถอะ ”

ชุดแต่งงานของหญิงสาวสมัยโบราณแทบจะเป็นแบบเดียวกัน หากไม่มองให้ละเอียดก็จะมองไม่ออก อีกทั้งก่อนที่เจ้าบ่าวจะ เปิดผ้าคลุมใบหน้าออกด้วยมือของตัวเองในเรือนหอ นางมั่นใจ ว่าเรื่องนี้จะไม่มีวันเปิดเผยแน่

หลังจากสั่งเสียกับหลินจือไปสองสามประโยค พวกนางก็ เปลี่ยนเกี้ยวเจ้าสาวกัน ในตอนนั้นด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังมา

ที่แท้ด้านนอกฝนหยุดตกลงแล้ว และสามารถเดินทางต่อได้

จางยโหร่วแอบมองด้านนอกจากช่องว่างระหว่างม่านจึงพบ ว่าถึงทางแยกแล้ว ขบวนแห่เกี่ยวกับตัวเจ้าสาวขบวนหนึ่งไปทาง ตะวันออกเฉียงเหนือ และทางฝั่งของนางไปทางทิศตะวันออก เฉียงใต้

ในตอนนั้น นางรอเจอกับปัญหาใหญ่ที่แก้ไขยากอีก

ท่านอ๋องชิงผิงคนนั้นเป็นคนแบบไหนกันแน่ เขาน่ากลัวเหมือน ข่าวลือจริงหรือ?

วันแต่งงานของหนานหมู่ ตราบใดที่แต่งงานกับภรรยาคนแรก เจ้าบ่าวต้องไปรับตัวที่บ้านของเจ้าสาวและประคองขึ้นเกี้ยวด้วยตัวเอง ถึงจะถูกต้องตามประเพณี และถึงแม้จะเป็นฮ่องเต้ก็ต้อง ส่งฮองเฮาไปยังวังบรรทมด้วยตัวเองเช่นกัน

ดังนั้นองค์ชายสามถึงต้องมารับนางที่ตำหนักไปซื้อด้วยตัว เอง แต่เท่าที่นางรู้ ท่านอ๋องชิงผิงส่งขบวนเกี้ยวไปรับตัวเจ้าสาว แค่ขบวนเดียวเท่านั้น และตัวเขาเองไม่เคยปรากฏตัวเลย

นี่มันถือตัวเกินไปไหม?

พอลองคิดทบทวนข่าวลือเหล่านั้นของเขาอีกครั้ง ทันใดนั้น นางก็รู้สึกว่ามันเป็นแค่เรื่องปกติ

ช่างเถอะ ถึงแม้อ่องชิงผิงจะเป็นคนแบบนั้นจริงๆ นางจะมี อะไรให้กลัวกันล่ะ เดิมทีแล้วนี่เป็นทางเลือกที่นางเลือกเองและ เป้าหมายของนางก็สำเร็จแล้ว ด้วยเหตุนี้นางก็มีเหตุผลอัน สมควรและข้อแก้ตัวในการยกเลิกสัญญาการแต่งงานกับเป่ยจื่อ ห้าวแล้ว

เกี้ยวเจ้าสาวทางเดินอย่างราบรื่นมาก ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่า ไหร่ จนในที่สุดก็หยุดลง

ถึงแล้ว? จางยวโหวค่อยๆเปิดม่านเบาๆและเห็นตำหนักอัน สง่างามด้านหน้า ป้ายด้านบนเขียนว่า “ ตำหนักอ๋องชิงผิง ” สี่ ตัวใหญ่ๆ

ท่านอ๋องชิงผิงยังคงไม่ปรากฏตัวออกมา นางเปิดม่านขึ้น มือ ชราที่หยาบกร้านข้างหนึ่งยื่นมาตรงหน้าของนาง

จางยโหรวตกใจเล็กน้อย นี่คือแม่นมของตำหนักพวกเขาสึนะ เขาดูแลว่าที่พระชายาเช่นนี้หรือไงกัน?

จางยวโหวยื่นมือส่งไปให้นาง จนถึงตอนนี้นางไม่สนใจแล้ว ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่งานแต่งงานของนาง อีกสักครู่ต้องคํานับ เทวดาฟ้าดินเขาไม่ออกมาก็จะดีที่สุด เช่นนั้นนางก็ยิ่งตรงกับใจ ของบาง

ตราบใดที่คํานับเทวดาฟ้าดินแล้วก็จะกลายเป็นสามีภรรยา กัน หญิงสาวหลายคนยอมตายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ไว้ และใน ชีวิตนี้จะติดตามสามีเพียงคนเดียว ถึงแม้สามีจะตายไป ก็ต้อง รักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองไว้ไม่แต่งงานกับคนอื่น และยอม อยู่คนเดียวไปจนวันตาย

จางโหราจะไม่เพ้อฝันไปกับความรู้สึกอีกต่อไป ใจของนาง ตายไปนานแล้ว แต่ความซับซ้อนพื้นฐานนี้ นางยังคงมีอยู่

นางยอมไม่แต่งงานไปจนวันตาย ขอเพียงแค่ได้ดูแลท่านพ่อ ท่านแม่และท่านปู่อยู่ข้างๆ กตัญญูและทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ในครั้งนี้ จางยวโหวจะต้องผิดหวังแล้ว!

นางถูกแม่นมกับสาวใช้ประคองเดินเข้ามาที่ตำหนัก ผ่าน ระเบียงทางเดินด้านหน้า เดินอ้อมสวนดอกไม้ ก้าวเข้าสู่ห้องโถง ใหญ่ และเดินผ่านพรมสีแดงยาว จางยโหร่วเหนื่อยจนสับสน เล็กน้อย

ปกติตอนเดินทางไม่เห็นรู้สึกว่ามีอะไร เพียงแต่ชุดแต่งงาน หนักๆตัวนี้และมงกุฎฟีนิกซ์หนักๆบนหัว กดทับจนทำให้นางหาย ไปไม่ออก
ตอนที่แม่นมกับสาวใช้ปล่อยตัวนาง นางตาลายจนเกือบจะ ล้มลง ขณะนั้นก็มีแขนแข็งแรงคู่หนึ่งดึงนางไว้ในอ้อมแขน

ผู้ชายคนหนึ่ง!

ผู้ชายที่กล้ากอดนางในวันแต่งงานอย่างโจ่งแจ้งคนหนึ่ง นอกจากอ๋องซิงผิงแล้ว นางมองหา “สามีราคาถูก ” ชั่วคราว ของตัวเองทันที และไม่มีใครอื่น

จางยวโหร่วเตรียมที่จะผลักเขาออกไป ในตอนนั้นเขาก็ปล่อย ตัวนางแล้วจับมือของนางขึ้นมาเบาๆ และพานางไปข้างหน้าด้วย กัน

จางยโหรวตกใจเล็กน้อย มองดูที่มือนั้น ขาวและเรียวยาว ข้อต่อชัดเจน ไม่เหมือนกับ “เทพเจ้าแห่งสงครามที่ต่อสู้กับศัตรู อย่างกล้าหาญในสนามรบเลยสักนิดเดียว แต่กลับเหมือน ปัญญาชนที่สนุกกับการขีดเขียนน้ำหมึกมากกว่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ