พลิกปฐพี ชายาไว้ใจ

ตอนที่ 14 เสแสร้งหลอกหลวง



ตอนที่ 14 เสแสร้งหลอกหลวง

ตอนที่ 14 เสแสร้งหลอกลวง

จ้าวซินซินรออยู่ข้างนอกพักใหญ่ ในที่สุดจางยวโหวก็เดิน ออกมา

ในใจของเขากั้นความโมโหไว้ เพราะคำพูดของนาง นางต้อง นั่งรอไปเกือบสี่ชั่วโมง รอจนนางทนไม่ไหวแล้ว

นางมาตั้งแต่เช้า ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว เมื่อก่อนทุกครั้งที่นางมาก จะมีคนเอาเครื่องดื่มและอาหารมาให้เป็นอย่างดี แต่ตอนนี้ผ่าน ไปพักใหญ่ก็ไม่มีใครสนใจนางเลย นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า นางไม่ถูกปฏิบัติเหมือนเดิมแล้ว

ดอกทองอย่างจางยโหร่าคงจะแอบซ่อนไว้ในห้องและอายที่

จะพบแขกเพราะเกิดเรื่องใหญ่แบบนี้หรือ?

เวลานี้ก็มีเสียงฝีเท้าดังออกมาจากข้างนอก จ้าวซินซินรีบปรับ อารมณ์ของตนเอง สีหน้าก็ดูอ่อนโยนและอบอุ่นขึ้นมาทันที

มองดูคนนั้นที่รูปร่างงดงาม บุคลิกที่สง่าเดินเข้ามาอย่างเฉิด ฉาย ชุดสีแดงสดยิ่งเข้าได้ดีเลยกับผิวขาวเนียนราวกับหิมะของ นาง เครื่องประดับที่หรูดูแพงบนศีรษะของนางยิ่งทำให้นาง สูงส่งเทียบไม่ติด ไม่พูดไม่ได้ สีแดงเหมาะกับบุคลิกของจาง โหร่วที่สุด เหมือนหงส์ที่ผ่านการอาบไฟแล้วเกิดใหม่อย่างสง่า และมีเกียรติ สวยข้ามเมืองข้ามพิภพ ทำให้คนไม่สามารถละสายตาออกจากนางได้

จ้าวซินซินมองจนเหม่อลอย นางรู้ว่าจางโหราเป็นคนที่สวย มาก แต่คนที่สวยแค่ไหนถ้าไม่แต่งตัว ก็ไม่สามารถเฉิดฉาย ความงดงามนั้นออกมาได้

เมื่อก่อนตอนที่จางยวโหวอยู่กับนาง ส่วนมากก็แต่งตัว ธรรมดา ไม่แต่งหน้าและไม่เคยใส่เสื้อที่หรูแบบนี้ และทุกครั้งที่ นางไปพบจางโหรวนั้นต้องตั้งใจแต่งตัวพักใหญ่ ต้องแบบนี้ เวลาออกไปข้างนอกกับนาง สายตาของพวกคุณชายต่างๆถึงจะ สะกดอยู่บนตัวของนาง

โดยเฉพาะครั้งแรกที่พบองค์ชายสาม พอเห็นสายตาของเขา ที่มองตัวนางแล้ว นางก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ นางในตอนนั้นไม่ แพ้จางยว โหร่วเลยแม้แต่นิด

แต่ว่า….ดูจางยวโหวในตอนนี้แล้ว นางก็รู้สึกละอายจาก เลือดเนื้อกระดูก

ได้หญิงของตระกูลจางก็เหมือนได้พิภพ จางยโหร่วมีบุคลิก แบบนั้นจริงๆ จ้าวซินซินกำมือของตนเองแน่น เล็บที่ยาวแทงที่ มือของตนเองก็ไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย

พอจางโหร่วเห็นนาง ก็ยิ้มอ่อน “ที่แท้ก็น้องจ้าวมานี่เอง เสี่ยวเฟิง เจ้าเป็นอะไรทำไมไม่บอกข้าก่อนว่าคนที่มาเป็นน้อง จ้าว ให้นางรอนานเช่นนี้”

“ข้าน้อยไม่ดีเอง ข้าน้อยเห็นว่าเมื่อคืนคุณหนูนอนดึก ต้องการ พักผ่อน เลยไม่เรียกคุณหนูหิ่น” เสี่ยวเฟิงก็ต้องอยู่ข้างเจ้านายอยู่แล้ว

จ้าวซินซินรีบส่ายหน้า ไร เป็นข้าพึ่งได้ไม่ นาน ท่านพี่….ข้าได้ยินเกิดเรื่องแบบนั้นท่านในรู้สึกเป็นห่วงมาก เลยรีบทําไมถึงกลายเป็นแบบไปได้ อ๋องชิงผนคงทําให้ลำบากไหม

จางโหรวมองแล้วพูดเบา“เหมือนจะกลับมาเมื่อ วานนะ ทำไมน้องพึ่งมาวัน? แต่นะพวกเราทั้งสนิทกัน ข้าเชื่อว่าเจ้าคงจะน้องกลัวเรื่องเป็นเยี่ยงเลยกล้ามา

คำพูดของนาง เหมือนตบหน้าของจ้าวซินซิน เหตุการณ์ ขึ้น เกี้ยวผิดความเกี่ยวข้องกับอย่างอ๋องชิงผน เกี่ยวกับอีกคนคือองค์ชายสาม วันที่ แต่งงานนั้นก็วุ่นวายจากนั้นถ้าจะว่านางนั้น จะเกินหน่อย

จ้าวซินซินหน้าซีด แล้วตาแดง

นางไม่โง่ เข้าใจความหมายของจางยวโหว ถึงมานางจะกับตนเองมาก แต่แค่สงสารนาง และเสียสละนางเท่านั้นเอง แค่นางไม่

“ท่านที่กำลังโทษน้องที่ไม่รีบมาใช่ไหม? น้องไม่ดีเอง น้องผิดต่อวานเกิดใหญ่แบบนั้น ใจข้ากังวลแทนท่านที่เหลือ เกิน อยากจะมาเยี่ยมท่านให้ที่สุด แต่ว่าพ่อข้า…..พ่อข้าขวาง ข้าไว้ออกไป ท่านรู้นิสัยของขา พ่อข้าไว้ในห้อง และ ข้าด้วย”

นางช้าด้วย

จางยโหรวกระพริบตา จ้าวซินซินคนนี้ เพื่อการแสดงแล้ว ทําการบ้านมาเชียว

ฉากที่ ทําร้ายตนเอง กลับเหมือนกับเป่ยเหมาะสมกันจริงเพื่อเป้าหมายยอมอย่าง ไม่ แปลกที่ชาติก่อนสามารถอยู่ด้วยกันได้

นางตั้งใจยื่นไปกดแผลพวกนั้น จ้าวซินซินเจ็บจนขมวดคิ้ว แต่ไม่กล้าหดมือกลับไป

ทำไมพ่อของหนักเช่นเสียดายผิวที่ขาวเนียน จริงเสี่ยวเฟิง เอายาที่ดีเป็นขึ้นมาจะไม่

ตอนที่จางยโหร่วพูดอยู่ยักคิ้วให้เสี่ยวเฟิง เสี่ยวเฟิงเข้าใจ เลยถอยออกเลย

กลัวจะแผลแต่นางบ้านจางมียาที่สุด และจางยโหร่วต้องนางนางเลยไม่กังวลปัญหานี้อีกเลย

นางคุกเข่าอยู่บนพื้นสักพัก จางยโหรวก็ไม่ได้ให้นางลุกขึ้น นางเลยเข้าใจว่าความโกรธในใจของนางยังไม่จาง สีหน้าของ นางเลยเริ่มเปลี่ยนเป็นน่าสงสารมากขึ้นเรื่อยๆ

“ไม่ น้องทำผิดต่อท่านพี่เอง เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ก็ไม่สามารถ อยู่เคียงข้างพี่ได้ น้องรู้สึกผิดในใจ ไม่คู่ควรที่จะใช้ยาดีแบบนั้น” จางยโหรวพยุงนางลุกขึ้น จากนั้นก็มองนาง “เจ้าเป็นน้อง

ของข้า ก็คู่ควรสิ!”

เช่นนี้คงจะ……..หมายความว่าไม่โกรธนางแล้วใช่ไหม?

จ้าวซินซินรีบทำสีหน้าเป็นห่วงแล้วมองนาง “ท่านพี่ อยู่ดีๆพี่ ไปขึ้นเกี่ยวของอ๋องชิงผนได้ไง? ข้าได้ยินว่าเมื่อวานตอนอยู่ห้อง หนังสือ อ๋องชิงผนนั่นดึงพี่ไว้ไม่ปล่อย จะให้พี่กลับไปตำหนักของ เขา อ๋องชิงผนที่ทําเกินไปจริงๆ ถึงเขาจะเก่งกาจแค่ไหน ก็รู้อยู่ว่า ท่านเป็นภรรยาขององค์ชายสาม กลับไม่เห็นแก่หน้าของ ราชวงศ์ และไม่เห็นแก่ศักดิ์ของฮ่องเต้ กล้าแย่งพี่ต่อหน้าแบบ นั้น แตกต่างกับคนทรยศยังไง? ท่านวางใจได้ องค์ชายสามต้อง ไม่ให้พี่โดนเขารังแกแน่”

“จำได้ว่าวันที่ข้าแต่งงาน น้องเองที่เตือนข้าว่าฐานะของฮ่อง ชิงผินสูงแค่ไหน สู้รบเก่งแค่ไหน ขนาดฮ่องเต้ยังต้องเกรงใจเขา เลย แต่ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ น้องกลับมาเชื่อใจองค์ชายสามว่า สามารถปกป้องพี่ได้?” สายตาที่แหลมคมหันไปมองนาง ทำให้ จ้าวซินซินรู้สึกกลัวในใจ
ในชาติก่อน เกรงว่าน่าจะเวลานี้แหละ ที่จ้าวซันซินกับเป่ยจื่อ ห้าวร่วมมือกัน

ใครๆก็รู้ องค์ชายสามไม่ได้เป็นลูกรัก ในราชวงศ์แล้ว เขาไม่มี อำนาจใดๆที่จะกล้าต่อต้านคนที่มีอำนาจทางทหาร และมีชื่อ เสียงด้านการสู้รบอย่างอ๋องชิงผน เขามีความสามารถนี้หรือ?

“น้อง….ก็แค่พูดไปงั้นๆ ถึงไม่มีองค์ชายสาม ก็มีฮ่องเต้ และ ยังมีท่านปู่ของท่านจางไปซื้อ พวกเขาต้องทวงความยุติธรรมให้ ท่านแน่ ไม่ปล่อยให้ท่านถูกคนที่กล้ากินคนอย่างอ๋องชิงผนรังแก หรอก” พูดไปไม่กี่ประโยค จ้าวซินซินกลับเหงื่อท่วมหัว ทำไม รู้สึกว่าจางยวโหวจัดการยากเช่นนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ