ตอนที่ 4 สลับตัวตนกัน
หน้าห้องโถงตำหนักตระกูลจางประดับตกแต่งด้วยโคมไฟ จาง ไหนือและพ่อแม่ของจางโหรว พี่ชายและพี่สะใภ้ทุกคนล้วนอยู่ กันที่นั่นเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ใบหน้าของจางไม่ซื้อไม่ได้แสดงออกถึงสีหน้าที่มี ความสุขเลย แต่กลับมีความกังวลใจเล็กน้อย
ในตอนแรกเดิมทีเขาไม่ได้เห็นด้วยกับการแต่งงานของจาง โหวและเป่ยจื่อห้าวเลย แต่กลับคิดไม่ถึงว่านางจะมีใจต่อองค์ ชายสาม เขามีหลานสาวเพียงแค่คนเดียว ก็ต้องหวังว่านางจะได้ แต่งงานกับคนที่นางปรารถนาอย่างมีความสุข ดังนั้นสุดท้ายจึง แล้วแต่ความต้องการของนาง
องค์ชายสามไม่ใช่องค์รัชทายาทที่ฮ่องเต้ทรงเลือกในตอน แรก แต่เพื่อจางยโหรว ตระกูลจางจึงพยายามปกป้องตำแหน่ง ขององค์ชายสามไว้อย่างดีที่สุด แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะมาพบ จุดจบโดยการถูกฆ่าล้างครอบครัวเช่นนี้ได้
ดังนั้นนางจะไม่มีวันแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าว หากแม้แต่ชะตา ชีวิตนี้นางยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่นนั้นคงจะเกิดเรื่อง รอยเดิม ในก่อนหน้านี้อีก
เมื่อเห็นจางยโหร่วมา ทุกคนในบ้านก็เดินมาล้อมรอบ พูด อวยพรสองสามประโยค แม้ว่าจะมองไม่เห็นหน้าตาของพวกเขา นางก็สามารถเข้าใจถึงความอาลัยอาวรณ์ในคำพูดของพวกเขาอย่างลึกๆได้
นางรู้สึกตื้นตันใจเล็กน้อย หยดน้ำตาไหลออกมาอย่างอดไม่ ได้ นางคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันกับทุกคนใน บ้านอีกครั้ง
นางไม่อยากเป็นดอกไม้ที่ถูกเลี้ยงท่ามกลางความอบอุ่น เหมือนเมื่อก่อนอีก ถูกคนในครอบครัวให้ความรักปกป้องดูแล จนตัวเองไม่รู้ว่าโลกใบหน้ากว้างใหญ่เพียงไหน หลังจากนี้นาง จะใช้ความสามารถของตัวเองปกป้องพวกเขาอย่างดีที่สุด
เมื่อถึงฤกษ์งามยามดี เจ้าสาวขึ้นเกี่ยว
นางค่อยๆเปิดผ้าคลุมหัวขึ้นและมองไปบนฟ้าท้อง สวรรค์เจ้า คะ หากท่านมีตาจริงๆก็ไม่ควรจะปล่อยให้คนชั่วได้สมหวัง และ คนดีถูกทําลาย
เมื่อถูกคนประคองมาจนมาถึงหน้าประตู เกี้ยวเจ้าสาวหยุดลง ตรงที่นั่นตั้งนานแล้ว เสียงผู้คนจ้อกแจ้กจอแจดังอยู่ด้านนอก ผู้คนในเมืองล้วนออกมาดูกันอย่างรื่นเริง เด็กๆหลายคนต่างก็วิ่ง หยิบลูกอมไปมา เช่นเดียวกับเหตุการณ์เดิมในตอนนั้น
มือข้างหนึ่งยื่นเข้ามาตรงหน้าของนาง ช่องว่างระหว่างผ้า คลุมหน้านั้นสามารถมองเห็นแขนเสื้อกว้างของเสื้อคลุมสีแดงที่ สวมใส่อยู่ จางยโหร่วตกใจตัวสั่นเทาและเข้าใจในทันทีว่าคน ตรงหน้านั้นเป็นใคร
นางกัดริมฝีปากล่างแน่นและอยากจะหยิบมีดพกที่ซ่อนอยู่ใน แขนเสื้อออกมาแทงเข้าที่หัวใจของเขาอย่างอดไม่ได้ นางพยายามควบคุมตัวเองอย่างมาก ถึงจะทำให้ความต้องการฆ่า ในใจของตัวเองลดลงได้
“โหร่วเอ๋อร์? ” เลยจื่อห้าวเห็นว่านางไม่ตอบโต้ใดๆ จึงเอ่ย ปากถามออกมาอย่างเป็นห่วง
จางยวี่โหร่วสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นจึงส่งมือของตัวเองไป วางมือของเขาและปล่อยให้เขาประคองตัวนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว เสียงเป่าขลุย ฆ้องและกลองดังขึ้น เกี้ยวเจ้าสาวออกเดินทาง
จางยวโหวพิงอยู่บนเกี้ยว หลับตาลง หยดน้ำตาก็ไหลรินลง มาทั้งสองข้าง
เสียงเรียก ” โหร่วเอ๋อร์” นั้น กระตุ้นความทรงจำของนางก่อน หน้านั้นได้อย่างชัดเจน
ในตอนนั้นเป่ยจื่อห้าวดีกับนางทุกอย่างและยังสัญญากับนาง ว่าจะมีนางเพียงคนเดียวตลอดชีวิต ทำให้นางมอบหัวใจให้เขา อย่างโง่เขลาจนไม่สามารถถอนตัวได้
เขาเคยรีบมาตำหนักไม่ซื้อในคืนที่หิมะตกหนัก เมื่อตอนที่นาง เห็นเขาก็เกือบจะกลายเป็นมนุษย์หิมะ และกลับนำเสื้อคลุมหนา ตัวใหญ่มาห่อซุปโสม ในตะกร้าอาหาร
เขาเคยรีบออกมาเอาโคมไฟดอกบัวหนึ่งร้อยอันแขวนไว้เต็ม บนยอดต้นไม้ในคืนวันเกิดของนาง นางยังจำได้ว่าในคืนนั้นลม พัดดาวตกลงมาราบกับสายฝน เป็นหนึ่งของปลามังกรเต้นรำ แต่ตอนนี้นางถึงเข้าใจว่าทุกอย่างนั้นล้วนเป็นของปลอม นางเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับการแย่งชิงบัลลังก์ของเขาตั้งแต่ต้นจน จบ สิ่งที่เขาทำดีกับนางทุกอย่างและแต่งงานกับนางนั้น เพียงแค่ หลอกใช้นาง หลอก ใช้ตระกูลจาง
ตอนที่นางลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา และไม่มีความรู้สึกใดๆ
ความหมายของการมีจางยวโหวอยู่ในชาตินี้มีเพียงแค่อย่าง เดียว นั่นก็คือการแก้แค้น นอกจากเรื่องนี้แล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใด
ในขณะนั้น จู่ๆด้านนอกก็มีเสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้น จางยวโหว เปิดผ้าม่านขึ้นดู ทันใดนั้นสภาพอากาศที่ปลอดโปร่งก็ปกคลุม ไปด้วยเมฆดำทันที เสียงฟ้าร้องดังเปรี้ยงปร้าง นี่เป็น สัญญาณ…ของฝนที่จะตกหนักอย่างเห็นได้ชัด
นางยังจำได้ว่า ในวันแต่งงานเมื่อห้าปีก่อน สภาพอากาศ ท้องฟ้าโปร่งใสไร้เมฆบัง ดูเหมือนว่าหลายๆสิ่งจะเปลี่ยนแปลง ไป
ฝนตกหนักในครั้งนี้ นั่นเป็น ” ฝนช่วยได้ทันการ
สายตามองดูฝนที่ตกหนักมากยิ่งขึ้น และค่อยๆพัฒนาจังหวะ ตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่มีวิธีที่จะเร่งการเดิน ทางได้ สินสอดทองหมั้นก็จะเปียกโชก ดังนั้นทางที่ดีก็คือรีบไป หาที่หลบฝน
ทันใดนั้นจึงมีคนตะโกนบอกว่า ด้านหน้ามีวัดเก่าอยู่ ให้รีบ เข้าไปหลบฝน จากนั้นจางยวโหวก็รู้สึกถึงความเร็วของเกี้ยวที่ เพิ่มขึ้น ขบวนเกี่ยวกับตัวเจ้าสาวทั้งหมดล้วนเข้าไปหลบอยู่ที่วัดเท่านั้น
นางรู้ว่าไม่ได้มีแค่พวกนางที่เข้ามาหลบฝน ยังมีขบวนเกี่ยวกับ ตัวเจ้าสาวของตำหนักอ๋องซิงผิง
เกี่ยวถูกวางลง นางได้ยินเสียงพูดคุยกันไม่ไกลออกไป
“องค์ชายสามขอรับ เหตุใดอยู่ดีๆฝนจึงตกลงมาได้ ฉุนเทียน เจียนเคยพูดไว้แท้ๆว่าวันนี้เป็นวันที่ฤกษ์งามยามดี หากพลาด เวลาพิธีไหว้เทวดาฟ้าดินไปเราจะทำอย่างไรดี ฮ่องเต้กับพระสน มลี่เฟยยังรออยู่ที่ตำหนักนะขอรับ ”
ไปตายซะ ยังไม่รับคิดหาวิธีไปแจ้งข่าวอีก แล้วก็สินสอด เหล่านี้ หากเสียหายแม้เล็กน้อยข้าจะเด็ดหัวของพวกเจ้าทิ้งซะ ”
” พ่ะย่ะค่ะ พะยะค่ะ! ”
จากนั้นเสียงฝีเท้าก็ค่อยๆห่างออกไป สินสอดนั้นมีจำนวนมาก จนแม้แต่สาวใช้ก็ล้วนถูกเรียกไปช่วย ขณะนั้นพระอุโบสถที่เงียบ สงบก็มีเสียงหญิงสาวร้องไห้เสียใจสะอึกสะอื้นดังมา
จางยโหร่วสังเกตเห็นมานาน ในขณะเดียวกันเกี่ยวที่ถูกยก เข้ามายังมี “พระชายาชิงผน” ผู้ที่กำลังจะแต่งงานเข้าตำหนัก อ๋องชิงผิง
จางยโหรวออกมาจากในเกี้ยว เมื่อเข้าไปใกล้ก็เห็นผู้หญิง ใส่ชุดสีแดงคนนั้นกำลังแขวนผ้าแพรสีขาวไว้บนเสาหลักกลาง ห้อง
นี่มัน….เร็วเกินไปแล้ว
ฉวยโอกาสช่วงเวลาสำคัญที่นางกำลังจะกระโดดลงจากม้านั่ง จางยโหรวรีบก้าวไปกอดนางไว้ข้างหน้า จากนั้นวางตัวนางลง
ผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ดิ้นรนไม่หยุด ” ท่านปล่อยข้า ปล่อยให้ข้า ตาย ให้ข้าตาย! ”
ร่างกายผิวพรรณดูดี ได้รับการดูแลจากพ่อแม่ แม่นาง เหตุ
ใดจึงดูถูกชีวิตของตัวเองขนาดนี้ล่ะ? ”
หญิงสาวร้องไห้เสียใจหนัก “ หากท่านได้แต่งงานกับสามีที่ หน้าตาอัปลักษณ์ ฆ่าคนจนเป็นนิสัย และยังชอบกินเลือดกินเนื้อ ของมนุษย์เช่นเดียวกับข้า ก็จะรู้ว่าตายเสียยังจะดีกว่าถูกท่าน อ๋องชิงผิง นทรมานทั้งเป็นจนตาย ข้าฆ่าตัวตายเองเสียยังจะดี กว่า “
ดูเหมือนว่าท่านอ๋องชิงผิงคนนี้จะโด่งดังเสียจริง สามารถ ทำให้บรรดาหญิงสาวที่ได้ยินข่าวล้วนเปลี่ยนสีหน้า และยอม ตายดีกว่าที่จะได้แต่งงานกับเขา
ในใจของจางยโหร่วสังเกตเห็นมานานแล้ว ” ท่านอ๋องชิงผิง นั้นน่ากลัวอย่างที่เจ้าบอกขนาดนั้นเชียว? ”
“จริงแท้แน่นอน! ” ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นด้วยความกลัว ” ในเวลาเดียวกันท่านพ่อกับท่านแม่เตรียมสินสอดทองหมั้นเพื่อ
ข้า แม้แต่งานศพของข้าก็เตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชีวิตของ ข้าช่างขมขื่นยิ่งนัก! ”
นางยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งตรงกับใจของจางยวโหว
” ผู้หญิงที่ใบหน้างดงามราวกับดอกไม้เช่นท่าน กลับล่วงลับ ไปเช่นนี้ช่างน่าเสียดาย เอาแบบนี้สิ ขายินดีที่จะแลกเปลี่ยนกับ ท่านแนะแต่งงานเข้าตำหนักอ๋องซึ่งผึ้งแทนท่าน ท่านคิดว่า อย่างไร? ”
หญิงสาวคนนั้นมองดูนางด้วยความตกตะลึงและไม่เชื่ออย่าง เห็นได้ชัด ” ท่านอย่ามาล้อเล่นกับข้าเลย ข้ารู้ ท่านคือหลานสาว แท้ๆของจางไท่ซือ คนที่ท่านต้องแต่งงานก็คือองค์ชายสามที่สง่า ผ่าเผย แต่ขาต้องแต่งกับคนจากนรก มีใครบ้างที่ไม่ต้องการ ความร่ำรวยเจริญรุ่งเรือง แต่กลับต้องการเข้าสถานที่ที่น่ากลัว เช่นนี้? “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ