ตอนที่14 XII
ผู้เล่นได้เข้าสู่มิติพิเศษสำหรับการทำภารกิจเลื่อนคลาสที่
8 แล้วค่ะ
ตอนนี้เวฟที่ 1 กำลังจะเริ่มขึ้น ขอให้ผู้เล่นเตรียมตัวด้วย
ค่ะ
10
9
3
2
1
พลันระบบนับถึง 1 เบื้องหน้าของผมเริ่มปรากฏบางสิ่ง บางอย่างขึ้นเป็นจํานวนมาก ลักษณะของมันดูคล้ายกับ อัศวินยุคโรมันสวมเกราะเหล็กระดับสูง ในมือของมันคือ อาวุธหลากหลาย บ้างถือค้อนยักษ์ บ้างถือดาบ บ้างถือ หอก พวกมันยืนอยู่อย่างสง่าดูน่าเกรงขามดุจอัศวินผู้มี เกียรติ พวกมันพร้อมสร้างความตื่นตระหนัก หวาดกลัวให้ แก่ศัตรูตรงหน้าของมัน
กองทัพอันเดธ อัศวินเหมันต์
Class 7 Lv. 720 (ธาตุ น้ำแข็ง) จำนวน 100 ตัว ปรากฏ ตัวแล้วค่ะ
“What the..!!!!!!” ผมถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ กับกองทัพอันเดธที่มีจำนวนมากมายเบื้องหน้าของตนเอง ไม่รอช้ารีบเปิดหน้าต่างช่องเก็บของพร้อมเรียกใช้ไอเท มยาเสริมพลังที่นําออกมาจากคลังมิติทันที ผมหยิบออก มา 3 ชนิด นั่นคือ โพชั่นเสริมพลังการโจมตี 25% เป็นเวลา 180 วินาที โพชั่นเสริมความเร็วในการเคลื่อนที่ 25% เป็นเวลา 180 วินาที และ สุดท้ายโพชั่นเสริมพลังป้องกัน 25% เป็นเวลา 180 วินาที ร่างของผมเรืองแสงเล็กน้อยหลังจากกดใช้โพชั่นเป็น สัญญาณให้รู้ว่ามันส่งผลแล้ว และแน่นอน ผมมีเวลาแค่ 180 วินาทีก่อนยาจะหมดฤทธิ์ ซึ่งผมก็จะทำให้มันจบ ภายในเวลานี้เท่านั้น
กองทัพอันเดธเบื้องหน้าผมมันกำลังเร่งจัดกระบวนทัพ ราวกับมีความคิดเป็นของตัวเองยังไงยังงั้น ผมฉีกยิ้มให้ กับการกระทำของพวกมัน และไม่รอช้าผมเริ่มเปิดโจมตี ก่อนทันที
ทักษะประจำเผ่าพันธ์ – ศรเพลิงฟินิกซ์กลืนกินปฐพี
สกิลของผมถูกเรียกใช้งานพลันยิงธนูขึ้นไปบนฟ้า ศรธนู แปรเปลี่ยนกลายเป็นนกฟินิกซ์ขนาดใหญ่ร่างกายห่อหุ้ม ด้วยเปลวเพลิงที่ร้อนแรงสีแดงฉาน มันพุ่งขึ้นไปสูงเฉียด ฟ้าก่อนจะตกลงมากลางกองทัพอัศวินด้วยความรุนแรง ทันที
ตู้มมมม!
เกิดแรงระเบิดเป็นวงกว้าง ผืนดินสนั่นสั่นไหว ความร้อนจากทักษะแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ จากพื้นที่ที่เคย ปกคลุมไปด้วยกองหิมะหนาทึบ กลับแปรเปลี่ยนเป็นผืนดิน ที่ร้อนละอุจนเกิดแมกม่าปะทุขึ้นกลางรอยแตกของผืนดิน เป็นระยะ กองทัพอัศวินเริ่มแตกขบวนทัพ และได้รับดา เมจจำนวนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะสังหารพวกมันได้ แม้แต่ตัวเดียว
“อึดดีเหมือนกันแฮะ งี้ค่อยน่าสนุกหน่อย!” ผมฉีกยิ้ม อย่างพอใจกับผลงานตรงหน้า ถึงจะทำดาเมจได้ไม่เยอะ เท่าที่ควร แต่อย่างน้อยก็ทำให้พวกนั้นแตกขบวนได้ใน ระดับหนึ่ง ด้วยเหตุนั้นเองจึงทำให้ง่ายต่อการสังหารยิ่งขึ้น
ผมพุ่งเข้าหาอัศวินเหมันต์ที่ยืนแยกออกมาอยู่ประมาณ 5 ตัว สายตาของพวกมันจ้องมองผมด้วยรังสีฆ่าฟัน หนึ่งใน นั้นได้เหวี่ยงดาบพร้อมที่จะฟันผมในทันที
วีดดด..
คมดาบเสยผ่านใบหน้าของผมไป ผมหลบได้ในเสี้ยว วินาทีก่อนที่จะง้างธนูของตัวเองแล้วยิงสวนมันกลับไปเช่น กัน
Fire Lance
ลูกศรพลันกลายเป็นหอกไฟแหลทยาวพุ่งทะลุหัวของ อัศวินเหมันต์ที่วาดดาบมาฟินใส่ให้ผมกลายเป็นแสงหาย ไปในทันที (หากโจมตีจุดตายจะสร้างดาเมจมากกว่า ปกติ) อีก 4 ตัวที่เหลือเมื่อเห็นเพื่อนของมันถูกสังหาร กลายเป็นแสงไปก็กรูกันเข้ามารุมฟันผมหมายจะเอาชีวิต ไปให้ได้ยังไงยังงั้น ผมไม่ได้หวั่นเกรงแม้แต่น้อย และใช้ ทักษะ Sonic ไปโผล่ข้างหลังของมันทั้งสี่ จากนั้นจึงใช้ศร ไฟส่งพวกมันให้กลายเป็นแสงตามเพื่อนของพวกมันมันที
กัซซซซ…!!
เสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวที่เห็นพวกพ้องของตน ถูกสังหารอย่างง่ายดาย อัศวินเหมันต์ทั้งหมดวิ่งเข้ามาหา ผมด้วยความรวดเร็ว ผมเองก็ไม่ได้ขยับหนีออกไปจากจุด เดิมแต่อย่างใด
Prismatic Arrow
ผมยิงธนูขึ้นไปข้างบน ศรธนูพลันแตกออกเป็นสาย 9 สาย 9 ธาตุ พุ่งตกลงไปยังพื้นที่รอบตัวผม และระเบิดออกไปทั่วบริเวณ
ตุ้ม ตูม ตู้ม…..ตู้มมมม
แรงระเบิดทําให้กองทับอัศวินกระเด็นกันไปคนละทิศละ ทาง บางตัวที่โดนดามเมจเข้าเต็มๆถึงกับกลายเป็นแสง หายไปเป็นจํานวนไม่น้อย ผมไม่รอช้ายิงธนูเข้าไปที่หัว ของอัศวินแต่ละตัวอย่างว่องไว และแม่นยำา พวกมันไม่มี แม้แต่โอกาสที่จะตอบโต้เลยแม้แต่น้อย ตัวแล้วตัวเล่าที่ ถูกศรหอกเพลิงของผมยิงทะลุหัวกลายเป็นแสงไปราว ใบไม้ร่วงโรยออกจากต้นไม้ใหญ่
“ฟู….” เสียงพ่นลมหายใจเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ดังออก มา ผมใช้เวลาไม่นานในการเก็บเหล่าอัศวินเหมันต์กว่า 100 ตัว แต่กระนั้นก็ทำให้ผมเหนื่อยพอสมควร ในตอนนี้ เบื้องหน้าของผมเหลือเพียงแค่ลานกว้างโล่งๆที่ทิ้งร่อง รอยของการต่อสู้เพียงเท่านั้น
ยินดีด้วยค่ะ ผู้เล่นเคลียร์เวฟที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเริ่มเวฟที่ 2 ค่ะ ขอให้ผู้เล่นเตรียมตัวภายใน
10
9
2
1
สภาพแวดล้อมรอบตัวผมพลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง สายลม พัดพาลเบาๆ เศษกระดาษปลิวว่อนไปทั่วพื้นที่ มีแสงแดด ยามเย็นที่ส่องกระทบกับตึกราบ้านช่องเก่าๆจนเกิดเป็นเงา สะท้อนลงผืนดินอันอ้างว้าง
ตอนนี้ผมยืนอยู่บนลานกว้างประมาณ 2 สนามฟุตบอล รอบข้างมีตึกสูงใหญ่ และบ้านเรือนมากมายที่สภาพดูทรุด โทรมราวกับเป็นเมืองที่ล่มสลายแล้วยังไงยังงั้น ขณะที่ผม กำลังกวาดสายตามองโดยรอบกลับปรากฏฝูงวัวกระทิง โผล่ออกมาจากมุมมืดต่างๆ ทีละตัวสองตัวจนไม่นานก็ เต็มลานขนาดใหญ่ รูปร่างของมันโตกว่าสองเมตร มันมี กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เขาโค้งยาวแหลมคม มีอุปกรณ์คล้าย เครื่องกลติดอยู่บนหลังของมัน และเกราะเหล็กหุ้มตามตัวราวกับว่ามันถูกดัดแปลงเป็นวัว กระทิงจักรกลก็ว่าได้
กระทิงจักรกล (ธาตุ สายฟ้า) Class 7 Lv. 760 จำนวน 50 ตัว ปรากฏตัวแล้วค่ะ
ครื้นๆๆ..!!!
เสียงกระทิงจักรกลกำลังใช้เท้าขูดลงพื้นพลางพ่นลม หายใจเสียงดังฟืดฟัด มันพร้อมจะใช้เขาอันแหลมคมที่ถูก ห่อหุ้มไปด้วยสายฟ้า และพละกำลังอันทรงพลังไล่ขวิด ศัตรูเบื้องหน้าให้ดับสิ้นแล้ว
ผมใช้มือลูบใต้คางพรางใช้ความคิดครู่หนึ่งก่อนจะตัดสิน ใจพุ่งเข้าหาฝูงกระทิงจักรกลที่กำลังเดือนดาลอยู่ในขณะนี้
“ฉันไม่รอให้พวกแกพุ่งเข้าหาฉันก่อนหรอกเฟ้ยยย!” ผม ตะโกนร้องลั่นขณะพุ่งเข้าหาฝูงกระทิงจักรกล หากผมไม่ พุ่งเข้าหาพวกมันผมจะกลายเป็นเป้านิ่งให้พวกมันไล่ขวิด อย่างง่ายดาย เพราะมอนสเตอร์ชนิดนี้มีทั้งความอึด ความ แรง และความเร็ว แต่ข้อเสียคือใจร้อนจนขาดสติไป
ทักษะประจำเผ่าพันธุ์ – อาภรณ์ฟีนิกซ์เพลิงโลกันต์
(เพิ่มค่าสถานะทุกอย่างขึ้น 50% เป็นทักษะเปิดปิด ใช้มา นา และพลังเวท เป็นตัวกำหนดระยะเวลา)
รอบตัวผมเริ่มมีเปลวเพลิงอ่อนๆลุกขึ้นทั่วร่างกาย เส้น ทางที่ผมพุ่งผ่านมาล้วนเกิดรอยไหม้เป็นทางยาว ความ ร้อนแผ่กระจายไปรอบตัว กระทิงจักรกลเริ่มถอยห่าง เพราะความร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวของผม ผมปรายตาม องฝูงกระทิงจักรกลรอบตัวแล้วแสยะยิ้มเล็กน้อย “ร้อน อะดิพวกเอ็ง ยังร้อนได้มากกว่านี้อีกจะบอกให้
อาณาเขตแห่งราชันย์
(ลดค่าค่าสถานะทุกอย่างของศัตรู 50% และเพิ่มค่า สถานะให้ผู้ใช้ทักษะ 50 % เมื่อถูกเปลวไฟจากผลของ ทักษะจะติดสถานะเผาไหม้ส่งผลให้เลือดลด 1%/5วินาที : ทักษะเปิดปิด ใช้มานา และพลังเวท เป็นตัวกำหนดระยะ เวลา)
ตู้มมมม….!!!
เมื่อผมเรียกใช้ทักษะเสร็จพลันเปลวไฟรอบตัวผมขยายใหญ่กว่าเท่าตัว และระเบิดอออกเป็นวงกว้าง แรง ระเบิดของเปลวเพลิงทำให้พื้นที่ในรัศมีกว่า 1 กิโลเมตร เกิดไฟไหม้ทั่วบริเวณ ตึกราบ้านช่องเกิดเปลวเพลิงลุก ท่วมอย่างหนัก ฝูงกระทิงจักรกลวิ่งหนีเปลวเพลิงที่ถูก สายลมพัดมาใส่กันยกใหญ่
“สะใจมั้ยละพวก ฮ่าๆๆ ” ผมมองไปที่ฝูงกระทิงจักรกล โดยรอบ และยิ้มอย่างผู้ชนะ สายตาของฝูงวัวกระทิงรอบ มองผมด้วยความอาฆาต พวกมันจะไม่ทนอยู่เฉยอีกต่อ ไปแล้ว มันพร้อมจะพุ่งเข้าใส่ผมด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มัน มีโดยไม่สนว่าร่างกายของมันจะเป็นอย่างไร เครื่องจักร บนหลังของพวกมันได้ถูกเปิดใช้งาน พลังงานไฟฟ้าจาก เครื่องบนหลังของพวกมันกระจายปกคลุมไปทั่วร่างส่งผล ให้มันมีพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
“เวรแล้วไง” ผมตัดเพ้อออกมาที่ไปพูดยั่วยุพวกมันเมื่อกี้ แต่ก็ไม่ได้หวั่นเกรงพวกมันเลยแม้แต่น้อย
กระทิงจักรกล 4 ตัว วิ่งเข้ามาหาผมด้วยความเร็ว ผมจ้อง ไปที่ 1 ใน 4 ตัวนั้นจากนั้นยกคันธนูขึ้นเล็งไปที่หัวและยิง ทันที แต่การยิงของผมกลับไม่สามารถสร้างดาเมจให้มัน ได้แม้แต่น้อย ด้วยสายฟ้าที่คุ้มกันรอบตัวของมันแล้ว อีก ทั้งยังมีเกราะเหล็กที่หอหุ้มส่วนสำคัญไว้เป็นอย่างดี ผม กระโดดตีลังกากลับหลังเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่มันจะพุ่งชนผมด้วยเขาอันทรงพลังของมัน
Power Shot
ผมหมุนตัวหันหลังกลับไปยังทิศทางที่พวกมันพุ่งไปพลัน เรียกใช้สกิลแล้วยิงเข้าข้างหลังของมัน มันหยุดชะงักครู่ หนึ่งหลังจากโดนผมยิง ไม่รอช้าผลใช้สกิล Sonic พุ่งไป ลอยอยู่ข้างบนหัวของมันแล้วยิงจากมุมสูงด้วยสกิลเดิม ทันที หัวมันทิ่มจมลงไปในพื้นดินด้วยแรงจากสกิล มัน กระตุกเล็กน้อย และค่อยๆล้มลงอย่างช้าๆก่อนจะกลาย เป็นแสงหายไป
Fire Cannon
ผมจ้างธนูยิงลูกไฟยักษ์ใส่อีก 3 ตัวที่อยู่ด้านข้างพร้อม กัน ความแรงที่ยิงออกไปราวกับลูกกระสุนของปืนใหญ่ก็ ว่าได้ ทั้ง 3 ตัวต่างกระเด็นกระดอนไถลไปด้านหลังของ มันเมื่อปะทะเข้ากับลูกไฟที่มีแรงปะทะสูงกว่า มันลุกขึ้นมา และใช้เท้าขูดกับพื้นด้วยท่าทีโมโหพร้อมพุ่งเข้ามาหาผม อีกครั้ง
Power Shot
ผมเรียกใช้สกิลเดิมเล็งเข้าไปที่หัวของทั้ง 3 ตัว อย่าง รวดเร็วติดต่อกันก่อนที่มันจะพุ่งเข้าชนตัวผม หลังจากที่ โดนยิงไปมันล้มทั้งยืน ร่างของมันไถลมาตามแรงที่พุ่งเข้า มาหาก่อนจะกลายเป็นแสงหายไป ตอนนี้พวกมันที่เหลือ อยู่ต่างจ้องมาที่ผมพร้อมวิ่งกรูเข้ามาหาอย่างพร้อมเพรียง กันราวกับมันมีความคิดนัดหมายกัน
Sonic Shooter
ผมหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ จากนั้นเคลื่อนไหวด้วยความ ไวสูงพลันโจมตีฝูงวัวกระทิงจากทุกทิศทุกทางอย่างต่อ เนื่อง ตัวแล้วตัวเล่าที่ถูกยิงธนูใส่ แต่ละตัวผมเล็งไปที่ หัวด้วยความแม่นยำ และรวดเร็ว พวกมันไม่สามารถตาม ความเคลื่อนไหวของผมทันได้แม้แต่น้อย ใช้เวลาไม่นาน ฝูงกระทิงจักรกลก็กลายเป็นแสงหายไปจากพื้นที่โดยรอบ ทันที
ยินดีด้วยค่ะ ท่านเคลียร์เวฟที่ 2 เรียบร้อยแล้ว
ต่อไปจะเริ่มเวฟที่ 3 ค่ะ ขอให้ผู้เล่นเตรียมตัวภายใน
10
9
2
1
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ