บทที่ 13
เจ้าพ่อหนุ่มยิ้มเยาะให้กับนาราภัทร และก่อนที่หญิงสาว จะทันตั้งตัว ก็กระแทกจมพิตหนักหน่วงลงไปบนเรียวปาก อิ่ม บดขยี้จุมพิตเร่าร้อนจนเป็นที่พอใจ จึงผลักร่างบางให้ ล้มลงไปบนโซฟาอีกครั้ง
“เจรจาธุรกิจง่ายดี นารา เตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้คุณก็ จะเปลี่ยนมาใช้นามสกุล อัลซาโคร์แล้ว”
“คุณต้องสัญญากับฉันว่าจะไม่ยุ่งกับพี่เพิร์ล” นาราภัทร ขอคําสัญญาอีกครั้ง หลังจากริคคาร์โด้ไม่ยอมรับปากเธอ สักที
“ตราบใดที่คุณยอมอยู่ในอัลซาโคร์ ผมก็จะไม่ไปยุ่งกับพี่ สาวของคุณ”
ดอนริคคาร์โด้รับคําเสียงหนักแน่น ก่อนจะกดกระแทก จุมพิตหนักๆ ลงไปบนเรียวปากอิ่มแดงช้ำ ตักตวงความ หวานก๋าซ่านเข้าสู่หัวใจของตนเอง
พอได้จูบนาราภัทรแล้วก็ทำท่าจะหยุดไม่ลง ริมฝีปาก ร้อนรุ่มบดขยี้ดุดันทั่วเรียวปากอิ่ม สอดลิ้นเข้าไปชอนไช หยอกเฉินหลอกล่อให้คนในอ้อมแขนจูบตอบอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน
นาราภัทรยังอ่อนหัดต่อชั้นเชิงรัก พอลิ้นร้อนๆ สอดเข้ามา ดวัดโลมไล้ทั่วโพรงปาก พัวพันกับลิ้นนุ่มที่เลียนกริยาของ อีกฝ่ายอย่างกล้าๆ กลัว แต่พอได้รับความหวานรัญจวนใจ ตอบกลับมา หญิงสาวก็จูบตอบกลับคืน สอดลิ้นนุ่มเข้าไป กระหวัดโลมไล้ทั่วโพรงปากของอีกฝ่ายบ้าง ส่งให้คอน คคาร์โค้ต้องสูดปากส่งเสียงครางด้วยความถูกใจ แม้หญิง สาวจะจูบตอบอย่างไม่ประสีประสา ทว่ากลับทำให้เขากระ สั่นานไปกับจุมพิต
เมื่อนาราภัทรกำลังตกอยู่ในภวังค์ของเพลิงเสน่หา ดอน ริคคาร์โด้ก็ย่ามใจ ลดมือใหญ่ทั้งสองเข้ามาบีบขย้ำฟอน เฟ้นหน้าอกอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ นิ้วแข็งแกร่งสะกิดเบาๆ บนยอดกันสีหวานจนแข็งเป็นไตสู้กับมือของเขา จากนั้นก็ ตวัดปลายนิ้วรัวไล้ทั่วยอดถันทั้งสองข้าง เรียกเสียงครวญ ครางระงมเพราะความซ่านสยิวได้จากผู้เป็นเจ้าของ
“ดอน…โอ้…”
นาราภัทรหวีดเสียงครางดังขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะการ เคล้นคลึงอย่างหนักหน่วงด้วยฝ่ามือใหญ่ พอดอนริคคาร์ ได้เข้าครอบครองยอดถันด้วยริมฝีปาก ขบเม้มดูดกลืน ตวัดลิ้นรัวเร็ววนเป็นวงอยู่รอบๆ จงวยกันที่บวมเป่ง ก็ ส่งเสียงครางดัง หยัดกายเข้าหา ยกมือเล็กไปกดศีรษะให้ อีกฝ่ายแนบชิดกับเรือนร่างของเธอให้มากยิ่งขึ้น
“คุณชอบให้ผมจูบคุณแบบนี้ใช่ไหมนารา”
ดอนริคคาร์โด้กระซิบถามอยู่ระหว่างร่องอก จากนั้นก็ขบ เม้มปทุมถันทั้งสองข้างจนปรากฏรอยแห่งรักเกิดขึ้นใน ทันทีที่ผละริมฝีปากออกแล้ว
นาราภัทรถูกดำกฤษณากระสั่นเสียวเข้าครอบงำทั่วทุก อณู หญิงสาวคิดอะไรไม่ออกนอกจากพยักหน้ารับคำในสิ่ง ที่เจ้าพ่อหนุ่มกระซิบถาม มือเล็กกดศีรษะของเขาให้แนบ เข้าหาอกอวบอิ่มอีกครั้ง ไม่ต้องการให้ความซ่านสยิวขาด หายไปแม้วินาทีเดียว
มอบความทรมานอันแสนหวานให้กับปทุมถันยังไม่เป็น ที่เพียงพอสําหรับดอนริคคาร์โด้ มือใหญ่ร้อนรุ่มไม่ต่าง จากเปลวไฟ ลากระเรื่อยลงมาตามซีโครง นวดเฟ้นเบาๆ กระตุ้นเลือดในตัวของนาราภัทรให้ร้อนระอุมากกว่าเดิม
นาราภัทรรู้สึกราวกับว่ามีกองไฟร้อนๆ แล่นอยู่บนผิวกาย ของเธอ ไม่ว่าฝ่ามือใหญ่จะลากผ่านบริเวณใดของเรือน ร่าง ก็สร้างความวาบหวิวให้กับเธอทุกวินาที และเมื่อรับ รู้ถึงความร้อนรุ่มที่ค่อยๆ เลื่อนมาประกบอยู่บนเนินเนื้อ สวรรค์ชุ่มฉ่ำ พร้อมกับการกดเคล้นคลึงหนักเบาสลับกันไป มา หญิงสาวก็สูดปากส่งเสียงครวญครางด้วยความหรรษา ยกสะโพกผายมนขึ้นให้เป็นเนื้อนูนเด่นรับสัมผัสจากมือ ร้อนได้อย่างถนัดถน
“ผมอยากจูบคุณนารา…”
ดอนริคคาร์โด้กระซิบบอกถึงความต้องการของตนเอง ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า จับเรียวเท้าเล็กให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นความหวานของเนินเนื้อสาว ซึ่งอวบอิ่มเป็น สีชมพูหวาน มีลาวารักเปียกชุ่มอยู่รายรอบ ยั่วให้เขาอยาก ทําตามที่ได้กระซิบบอกไป
แค่เพียงนึกถึงรสชาติความหวานที่จะได้รับจากดอกไม้ สวรรค์ เลือดในกายของเขาก็แล่นพล่านไปทั่วเรือนกาย ทั้งเสียวซ่าน ทั้งหิวกระหายในรสชาติและกลิ่นหอมอัน รัญจวนใจของดอกไม้หวาน ดวงตาคมกริบทอดมองด้วย แววตาอันเต็มไปด้วยความปรารถนาเร่าร้อน และเมื่อไม่ อาจรั้งรอได้อีกต่อไป ก็ฝังจมูกและริมฝีปากร้อนๆ เข้าไป ดูดกลืนดอมดมกับกลีบดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้า
“โอ้…ดอน…ดอนริคคาร์โด้…ดีเหลือเกิน…
นาราภัทรไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป พอลิ้นร้อนๆ ตวัดชอนไชดูดกลืนทั่วจุดศูนย์รวมของความหฤหรรษ์ ก็ ปลดปล่อยเสียงครางกระเส่า ยกสะโพกเสียดสีไปมาตาม จังหวะการโรมรันอันดุดันของอีกฝ่าย
“ผมชอบเสียงครางของคุณนารา…ผมอยากให้คุณเรียก ชื่อผม
ดอนริคคาร์โด้ชื่นชอบทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสูดปาก เสียง ครางกระเส่า หอบหายใจรัวเร็วของนาราภัทร และเลือดใน การของเขาร้อนระอุแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ในทุกครั้ง ที่ได้ยินหญิงสาวเรียกชื่อของเขาขณะโรมรันรักด้วยกัน
ยิ่งนาราภัทรครางดังระงม เรือนร่างสั่นสะเทิ้มมากเพียง ใด เขาก็ยิ่งตวัดลิ้นร้อนๆ ดูดกลืนกินความหวานของ ลาวารักจากเนินเนื้อสวรรค์มากเท่านั้น
เจ้าพ่อหนุ่มลากปลายลิ้นโลมไล้ทั่วกลีบดอกไม้หวานอันชุ่มฉ่ำ จุดศูนย์รวมของความหรรษาซึ่งเป็นสีชมพูงดงาม ไม่รอดไปจากการดูดดื่มขบเม้มด้วยริมฝีปากของเขา เพิ่ม ความซ่านสยิว เร่งเร้าให้นาราภัทรส่งเสียงครางดังลั่นด้วย การตวัดลิ้นชอนไชตามความอวบอูมของเนินเนื้อ ก่อนจะ สอดเข้าไปสัมผัสกับผิวกายอันอ่อนนุ่มดุจแพรไหมภายใน กลีบดอกไม้หวาน
“ดอน…หยุดทรมานฉันสักที…
นาราภัทรหวีดเสียงครางระคนวิงวอน อยากให้ดอนริค คาร์โด้เติมเต็มกายแข็งจึงเข้ามาในตัวเธอ มือเล็กทั้งสองที่ จับยึดอยู่ตรงบ่ากว้าง จิกเล็บลงไปทุกครั้งเมื่อลิ้นร้อนๆ ดูด เม้มกลีบดอกไม้อย่างหนักหน่วง ส่งให้ความซ่านสยิวมาด ลึกไปทั่วทุกอณูของเรือนร่าง
“ขอร้องผมสินารา…แล้วผมจะให้ตามที่คุณต้องการ
รู้ว่าตนเองกำลังถือไพ่เหนือกว่า อยากได้ยินนาราภัทร คร่ำครวญร้องหาตัวเขา ดอนริคคาร์โด้จึงแสร้งถ่วงเวลา เพื่อให้ได้ยินในสิ่งที่ตนเองต้องการ
และเพื่อเป็นการยั่วยวนเร่งเร้าให้นาราภัทรตกอยู่ใน อำนาจของเขา ดอนริคคาร์โด้จึงสอดปลายนิ้วแข็งแกร่งเข้าไปในกลีบดอกไม้ กดมือควานวนท้วความ ม า ก่อนจะขยับเข้าออกด้วยท่วงทํานองรักอันแสน หฤหรรษ์ เพิ่มความกระสันซ่านให้กับนาราภัทรจนต้อง ปลดปล่อยเสียงครางดังลั่นไปทั่วห้อง
“โอ้…โอ้…ดอนริคคาร์โด้…ฉันต้องการคุณ….
“มาแค่ไหนนารา คุณต้องการผมมาแค่ไหน…”
“มากที่สุด ฉันต้องการคุณมากที่สุด…ได้โปรด…อย่า ทรมานฉัน…”
ดอนริคคาร์โด้กระตุกยิ้มกับคำตอบที่ได้รับ น้ำเสียงที่ หลุดตอบสั่นพร่ามาพร้อมๆ กับเสียงสูดปาก เสียงครวญ ครางระงม ใบหน้างามแดงซ่านเพราะพิษรักส่ายไปมากับ เตียงใหญ่ ดวงตากลมโตหวานเยิ้มด้วยไฟปรารถนาระคน วิงวอน ทำให้เขาไม่อาจทรมานหญิงสาวได้อีกต่อไป
มือใหญ่ถอนออกจากกลีบดอกไม้ชุ่มฉ่ำ จากนั้นก็แทนที่ ด้วยกายแข็งข็งซึ่งกดกระแทกพวยพุ่งเข้าไปแค่เพียงครั้ง เดียวก็เติมเต็มเข้าไปถึงแก่นของความหรรษา
นาราภัทรสูดหายใจเข้าล็กๆ จิกเล็บแน่นกับบ่ากว้าง เป็นสุขอิ่มเอิบใจไปกับการจมดิ่งลึกถึงที่สุดตามที่เธอ ปรารถนา พอดอนริคคาร์โด้เริ่มโยกคลึงส่ายสะโพกโรมรัน ท่วงทำนองรัก ก็รีบยกสะโพกตอบรับจังหวะการขยับเข้า ออกของอีกฝ่าย
ดอนริคคาร์โด้โจนจ้างกายสอดลึกครั้งแล้วครั้งเล่า ความ คับแน่นของกลีบดอกไม้หวานเสียดสีกับกายแข็งข็งทั่ว ทิศทาง สร้างความเสียวซ่านให้กับเขายิ่งนัก อีกทั้งเสียง หวีดครางแหบแห้งของนาราภัทร กระตุ้นเลือดของเขาให้ ร้อนฉ่า และเป็นตัวเร่งให้เขากดกายโหมกระหน่ำ กระแทก กระทั้นรัวเร็ว าลึกในทุกๆ ครั้งของท่านองรัก
ไฟรักที่แผดเผาหนุ่มสาวทั้งคู่ เรียกเสียงคำรามครวญ ดรางประสานเป็นหนึ่งเดียว ดอนริคคาร์โค้กดกายโจนจ้วง หนักหน่วงมากเพียงใด นาราภัทรก็ยกสะโพกตอบรับได้ใน ทุกจังหวะอันดุดัน สองกายที่เกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน เท่านั้น ต่างก็ตอบรับจังหวะรุกและจังหวะรับ เติมเต็มให้รส สวาทเร่าร้อนยิ่งกว่าครั้งแรกที่ผ่านมา
นาราภัทรรู้สึกราวกับเนื้อตัวจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไปกับ การโรมรันรัก หญิงสาวแอ่นกายขึ้นเพื่อให้คอนริคคาร์โด้สอดประสานได้ ลึกมากที่สุด และเมื่อรู้ว่าตนเอง กำลังทนต่อความหรรษาไม่ไหว เส้นทางสีรุ้งอยู่ไม่ไกล เกินสัมผัส จึงเร่งเร้าให้อีกฝ่ายส่งเธอไปถึงหนทางอัน สวยงามด้วยการกรีดเล็บบีบขย้ำลงไปบนสะโพกแข็งแกร่ง
ดอนริคคาร์โด้รู้ถึงจังหวะรัก จดจําการปลดปล่อยของ นาราภัทรได้เป็นอย่างดี พอหญิงสาวขาฟอนเฟ้นสะโพก ของเขา ก็รีบกดกระแทกโจนจ้างต่ำลึกให้ถึงแก่นของค วามสุขรัวเร็วหนักหน่วงหลายๆ ครั้ง จนกระทั่งส่งให้ตัวเขา และหญิงสาวโผบินเข้าไปลอยละล่องอยู่บนเส้นทางสีรุ้ง พร้อมๆ กัน
ดอนริคคาร์โด้ค่อยๆ ผ่อนร่างบางระหง ซึ่งหลับไหล เพราะความเหน็ดเหนื่อย ทั้งจากการเดินทาง ทั้งจากการ โรมรันรักถึงสองครั้งสองคราในคืนเดียวกัน ให้นอนลงบน เตียงหนานุ่ม มือใหญ่ไล้เบาๆ ไปบนพวงแก้มเนียนแดง ปลั่ง ดวงตาคมกริบทอดมองคนตรงหน้า ซึ่งเขายังงุนงงไม่ หายว่านาราภัทรเป็นแม่มดหรืออย่างไรกัน จึงสามารถร่าย มนต์ทำให้เขาหลงใหลในตัวเธอแค่เพียงแรกสบตาเท่านั้น
“นารา คุณรู้ตัวไหมว่าคุณทำให้ผมตัดสินใจแต่งงาน ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวสมองมาก่อน
รำพันออกมาแล้ว เจ้าพ่อหนุ่มก็เดินออกจากห้องนอน ลงไปหามาคอสและโรมัน ซึ่งเขารู้ว่าคงมีคำถามเกิดขึ้น มากมายในหัวสมองของโรมัน และมาคอสคงยิงคำถามว เป็นร้อยๆ คำถาม เพราะอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงยอมแต่งงาน กับผู้หญิงที่เพิ่งเจอหน้ากันแค่ครึ่งค่อนคืน แต่เขาคงหาคำ ตอบให้กับโรมันและมาคอสไม่ได้ เพราะตอนนี้ตัวเขาเอง ยังงุนงงว่าจู่ๆ ทำไมถึงอุปโลกน์เรื่องการแต่งงานขึ้นมา เพื่อผูกมัดให้นาราภัทรอยู่กับเขาทั้งๆ ที่เธอไม่เต็มใจเลย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ