ขยี้หัวใจมาเฟีย

บทที่ 5



บทที่ 5

ดอนริคคาร์โด้ อัลซาโค้ กลับเข้ามาในคฤหาสน์หรูหรา หลังจากดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปหลายชั่วโมงแล้ว ร่าง สูงใหญ่ในสูทสีดำก้าวเท้าช้าๆ ทว่ามั่นคงเต็มไปด้วย อำานาจ ซึ่งแผ่อยู่รอบตัว พร้อมกับบอร์ดี้การ์ดคนสนิทอีก หนึ่งคนที่เดินตามมาติดๆ

เมื่อดวงตาคมกริบไม่ต่างจากดวงตาพญาอินทรี จ้องมอง ไปยังเคาน์เตอร์บาร์ภายในคฤหาสน์ เห็นน้องชายกำลังนั่ง จิบบรั่นดีอย่างสบายอารมณ์ ก็เอ่ยปากทักทายทันที

“มาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไรมาคอส

“สายันต์สวัสดิ์ครับ ริคโค้ มาคอสทักทายพี่ชายในยาม เย็น ก่อนจะตอบคำถามของอีกฝ่ายที่กำลังก้าวเดินองอาจ มาทรุดกายลงนั่งข้างๆ ตัวเขา

“กลับมาถึงตอนบ่ายแล้วครับ ว่าแต่พี่เถอะ งานทางนี้เป็น ยังไงบ้าง เรียบร้อยดีหรือเปล่า”

“อืม…เรียบร้อยทุกอย่าง ดอนริคโค้ทำอะไรไม่มีพลาดอยู่ แล้ว”
ดอนริคคาร์โด้ให้เครดิตกับตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่างานไหน ที่เขาลงมือจัดการด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านลูกน้อง ย่อม ไม่มีคำว่าผิดพลาด หรือถึงแม้จะให้ลูกน้องเป็นฝ่ายจัดการ ก็ไม่มีคำว่าผิดพลาดเช่นเดียวกัน เพราะเขาไม่เคยรู้จักคำๆ นี้

“หมายความว่าตอนนี้มาเฟียทุกแก๊งในซิซิลี ต้องอยู่ภาย ใต้การควบคุมของตระกูลอัลซาโคร์” มาคอสถามเพื่อ ความมั่นใจ

“แน่นอน…มาคอส ทุกแก๊งจะต้องขึ้นกับตระกูลอัลซาโค้ เพียงตระกูลเดียวเท่านั้น

ดอนริคคาร์โด้รับคำเสียงเย็นยะเยือก กระตุกยิ้มเย็นตรง มุมปาก เสริมส่งให้ใบหน้าคมเข้มดูหล่อเหลาและน่าเกรง ขามในเวลาเดียวกัน

“ข่าวดีแบบนี้ต้องฉลองใช่ไหมครับริคโค้

มาคอสเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปสั่งบอร์ดี้การ์ด ของพี่ชายซึ่งยืนอยู่ไม่ห่าง พร้อมสำหรับการรอรับใช้ดอนริ คคาร์โด้และตัวเขาในทุกนาที
“โรมัน รินเหล้าให้ดอนด้วย

“ได้ครับคุณมาคอส

โรมัน ผู้ที่เป็นทั้งลูกน้องและบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวให้กับริ คคาร์โด้ตอบรับคำสั่ง จากนั้นก็รินบรั่นดีให้กับเจ้านายทั้ง สอง รวมทั้งตัวเองด้วย

“ต่อไปมาเฟียทุกแก๊งจะต้องทำตามคำสั่งของพี่”

ริคโค้รับบรั่นดีจากลูกน้องมาถือไว้ ดวงตาคมกริบไหว วามพึงพอใจกับการลงมือจัดการมาเฟียแก๊งต่างๆ ที่อยู่บน เกาะซิซิลี

“ดื่มให้กับความสำเร็จของตระกูลอัลซาโคร์” มาคอสชู แก้วบรั่นดีขึ้นสูง รอให้ผู้เป็นพี่ชายและโรมันยื่นแก้วมาชน กับแก้วของเขา

“ดื่มให้กับตระกูลอัลซาโค้ร์” ดอนริคคาร์โด้เอ่ยด้วยน้ำ เสียงทรงอำนาจ ขณะชนแก้วกับน้องชาย

“ดื่มให้ดอนและคุณมาคอส
น้ำเสียงที่โรมันเอ่ยออกมานั้น เต็มไปด้วยความเคารพ และยำเกรงที่มีต่อเจ้านายทั้งสองคน

ดอนริคคาร์โด้ดื่มบรั่นดีรอบเดียวหมดแก้ว แล้วหันมาออก คำสั่งกับโรมัน “ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อยากนอนแช่น้ำ อุ่นสักชั่วโมงสองชั่วโมง แกรีบไปจัดการให้ฉันด้วย”

ออกคำสั่งเป็นนัยๆ เพียงเท่านี้ ผู้ที่อยู่รับใช้ดอนริคคาร์โด้ มาเป็นสิบๆ ปี ก็รู้ดีว่าเจ้าพ่อหนุ่มต้องการอะไร นอกเหนือ จากการนอนแช่น้ำอุ่น

“ได้ครับดอน ผมจะจัดการหาสาวๆ ที่สะอาดเอี่ยมอ่องมา ให้ดอนครับ”

โรมันเอ่ยบอกไปแล้ว ก็ทำท่าจะผละไปทำตามคำสั่งของ เจ้านาย แต่ถูกมาคอสเรียกไว้เสียก่อน

“เดี๋ยวโรมัน อย่าเพิ่งไปหาสาวๆ ให้ดอน”

“ทำไม?” ดอนริคคาร์โด้เป็นฝ่ายถามน้องชายสั้นๆ ก่อนจะ เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความแปลกใจกับคำตอบที่ได้รับจากมา คอสจอมขี้เล่น
“เพราะผมคิดว่าดอนไม่น่าจะมีเวลาว่างไปนอนแช่นําอุ่น นะสิ”

ยิ่งฟังก็ยิ่งงุนงง อีกทั้งเริ่มรำคาญที่น้องชายเล่นลิ้น ไม่ ยอมพูดให้กระจ่างสักที ดอนริคคาร์โค้จึงถามมาคอสเสียง เข้ม

“เลิกเล่นได้แล้วเจ้ามาคอส มีเรื่องอะไรก็รีบๆ พูดมา พี่จะ ได้ไปพักผ่อน

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่มีสาวสวยหน้าตาคมเข้ม ตาดุยิ่งกว่านางเสือ มานั่งรอพี่อยู่ในห้องทำงานก็เท่านั้น เอง”

มาคอสตอบเสียงกลั้วหัวเราะอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก หาก แต่เจ้าพ่อหนุ่มไม่นึกสนุกด้วย ใบหน้าคมเข้มบึ้งตึงขึ้นมาใน ทันที เพราะคิดว่าลูกน้องซึ่งทำหน้าที่เฝ้าอยู่หน้าคฤหาสน์ ยอมละเมิดคำสั่งของเขา ปล่อยให้บรรดาพวกผู้หญิงที่ คอยตามตื้อและหิวเงินเข้ามารออยู่ถึงในห้องทำงาน

“ดูเหมือนพวก รปภ. จะลืมคำสั่งของพี่ไปแล้ว ว่าห้ามไม่ ให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาในคฤหาสน์อัลซาโค้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากพี่ก่อน

ดอนริคคาร์โด้เค้นเสียงเย็นยะเยือก ดวงตาวาวโรจน์ เพราะความโกรธจัดที่ถูกกวนให้อุ่นขึ้นมาในยามนี้

เมื่อเจ้าพ่อหนุ่มเค้นเสียงพูดเช่นนั้น โรมันก็พร้อมจะทำ ตามคําสั่งในทันทีเช่นเดียวกัน “ผมจะจัดการพวก รปภ.เอง ครับดอน”

“เฮ้ยๆ โรมัน ไม่ต้องไปจัดการใครทั้งนั้น

มาคอสร้องห้ามเสียงหลงก่อนที่โรมันจะเดินออกไปจาก ห้องโถง และเมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมาย คําถามทั้งจากโรมัน และดวงตาคมกริบของดอนริคคาร์โด้ ที่จ้องมองเขม็ง บ่งบอกถึงสัญญาณอันตรายที่กำลังคืบ คลานมาหาเขา มาคอสจึงรีบเอ่ยบอกผู้เป็นพี่ในทันที

“นิลนาราส่งนกพิราบให้คาบข่าวสำคัญมาบอกพี่”

ตั้งใจจะเอ่ยบอกให้ฟังง่ายๆ แต่มาคอสก็ไม่วายเล่นลิ้น เหมือนเดิม พอร่างใหญ่ล่ำสันของพี่ชายเดินเข้าใส่ด้วย ใบหน้าถมึงทึง ก็กระโดดหนีพร้อมกับตะโกนบอกเสียงดังอีกครั้ง

“คู่หมั้นพี่ริคโค้ ส่งน้องสาวให้มาเจรจาหย่าศึก

“นกพิราบที่ว่าอยู่ที่ไหน

ดอนริคคาร์โด้เอ่ยถามมาคอสเสียงเย็น พลางยังคงเดิน เข้าใส่น้องชายตัวแสบอยู่ ซึ่งหากมาคอสยังเล่นลิ้นและ เอ่ยตอบกวนๆ อีกละก็… คงได้เจอพายุโกรธจากเขาเป็น แน่!

“นกพิราบรออยู่ในห้องทำงานของพี่”

“ใครเป็นคนพาเธอเข้ามา

“ผมเองครับ ผมเห็นเธอเรียกแท็กซี่ให้มาส่งที่อัลซาโค้

“แต่ไม่มีแท็กซี่มาส่ง นายเลยอาสาพามาเองใช่ไหม” ดอนริคคาร์โด้เอ่ยต่อท้ายได้อย่างตรงเผง ราวกับเห็นด้วย ตาตนเอง แน่นอนว่าหากไม่จำเป็น ก็ไม่มีใครอยากผ่าน มายังถิ่นของเจ้าพ่อแห่งเกาะซิซิลี
มาคอสพยักหน้ารับคำ ก่อนจะเอ่ยกับพี่ชายต่อ “เธอ บอกว่าเพิร์ล…พี่สาวของเธอให้เอาของสำคัญมาให้พี่ ผม สงสารที่ไม่มีแท็กซี่คันไหนยอมมาส่งเธอที่อัลซาโคร์ ก็ เลยอาสาพามาเองครับ”

เพราะมัวแต่สนใจกับนกพิราบที่คาบข่าวมาบอก ดอนริค คาร์โด้จึงไม่ทันได้สังเกตว่าสีหน้าของมาคอสในขณะเอ่ย ถึงนิลนารานั้น มีความผิดหวังปรากฏขึ้นที่ดวงตาอย่างแจ่ม ชัด ทว่าผู้เป็นพี่ชายกลับไม่เห็น แต่โรมันกลับสังเกตเห็น ทุกนาที หากเพียงแค่ไม่ได้เอ่ยออกมาเท่านั้น

“ขอบใจนาย ที่ทำตัวเป็นประโยชน์กับพี่

เจ้าพ่อหนุ่มเอ่ยแกมประชดประชัน ก่อนจะเดินตรงไปยัง ห้องทำงานของตัวเอง ปล่อยให้มาคอสบ่นอุบอยู่กับโรมัน

“ตกลงดอนริคคาร์โด้ผู้ยิ่งใหญ่เอ่ยชมหรือเหน็บแนมเรา กันแน่”

“ผมคิดว่าเป็นอย่างหลังนะครับมาคอส” โรมันเอ่ยตอบ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามแบบฉบับของบอร์ดี้การ์ดที่ยิ้มไม่เป็น

และคนที่ขี้เล่นอย่างมาคอสก็แสร้งร้องโวยวายพอเป็น พิธี “อะไรกัน เราอุตส่าห์ช่วยพานกพิราบแสนสวยมาส่ง ถึงปากเสือ แต่เจ้าพ่ออย่างท่านดอนริคคาร์โด้ อัลซาโค้ กลับไม่เห็นความดีของเราซะเลย ทำดีไม่ขึ้นแท้ๆ เรา

โรมันส่ายหน้าราวกับระอาในความขี้เล่นของเขา ซึ่งหาก ไม่ได้อยู่ต่อหน้าผู้คนหมู่มาก หรือต่อหน้าบรรดามาเฟีย คนอื่นๆ มาคอสมักจะเป็นคนขี้เล่นอยู่เสมอ แต่ถ้าหากมี คนอื่นอยู่ด้วย มาคอส อัลซาโคร์ จะกลายเป็นคนละคนที่ดู เคร่งขรึมและน่ากลัวไม่ต่างจากดอนริคคาร์โด้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ