ขยี้หัวใจมาเฟีย

บทที่ 14



บทที่ 14

ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันแต่งงานของเจ้าสาวที่ตกกะได พลอยโจนอย่างนาราภัทร หญิงสาวถูกดอนริคคาร์โด้ปลุก ให้ตื่นตั้งแต่อรุณรุ่งด้วยริมฝีปากร้อนผะผ่าวที่พรมจุมพิต เกือบทั้งตัว พอผละริมฝีปากออกแล้ว อีกฝ่ายก็สั่งเธออาบ นํ้าแต่งตัวเตรียมเข้าพิธีแต่งงาน

พอสั่งด้วยความเคยชินเสร็จแล้ว เจ้าพ่อหนุ่มก็ออกไป จากห้องนอน จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา นาราภัทรก็ถูกเนรมิต ให้อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ด้วยฝีมือของช่างแต่ง หน้าทําผม ที่ต่างก็กรูเข้ามาในห้องนอน แล้วจับเธอแต่งตัว ราวกับเธอเป็นตุ๊กตาก็ไม่ปาน เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ก็ ถูกจับยัดเข้าไปในรถคันใหญ่ ซึ่งดอนริคคาร์โด้นั่งรอเธอ อยู่ในเบาะหลังแล้ว

“คุณสวยมากนารา” ดอนริคคาร์โด้เอ่ยออกมาจากใจ จริง ดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยความชื่นชมว่าที่เจ้าสาวของ ตนเอง

“ขอบคุณที่ชม”

นาราภัทรเอ่ยตอบเสียงราบเรียบ ไม่ได้เป็นปลื้มไปกับคำ ชมของอีกฝ่าย พอเข้ามานั่งในรถยนต์แล้ว ก็พยายามนั่งชดประตูให้มากที่สุด ไม่อยากให้เรือนกายของ ตนเองไปสัมผัสโดนกายล่ำสัน ที่มักทำให้หัวใจของเธอ น รัวได้ในทุกวินาที

ในขณะนาราภัทรพยายามขยับกายถอยหนี ดอนริคคาร์ โด้หาได้ยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ มือใหญ่เอื้อมไปจับข้อมือ เล็กแล้วกระชากเต็มแรงจนร่างบางถลาเข้ามานั่งแนบชิด กับเรือนกายของเขา พร้อมกันนั้นก็เน้นเสียงถามอย่างเยาะ หยันให้นาราภัทรต้องเจ็บปวดใจ

“ตื่นเต้นไหมนารา ที่จะได้เป็นเจ้าสาวของดอนริคคาร์โด้

นาราภัทรเหลือบสายตามองเจ้าพ่อหนุ่ม ยอมรับว่าอีก ฝ่ายดูหล่อเหลา น่าเกรงขามในชุดทักซิโดสีดำสนิท และ ด้วยเกรงว่าจะเผลอใจตกเป็นทาสของเขาไปมากกว่านี้ จึง รีบเบือนหน้าหนีอีกฝ่ายในทันที

“ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ที่ต้องแต่งงานเพราะถูกบังคับ แถมยัง มีญาติพี่น้องมาร่วมแสดงความยินดีเต็มโบสถ์ไปหมดเลย ค่ะ”

เพราะยังอารมณ์ดีอยู่ และวันนี้เป็นวันมงคลของตนเอง เจ้าพ่อหนุ่มจึงหัวเราะร่วนกับคำประชดประชันของ นาราภัทร

“ดีแล้วที่คุณตื่นเต้นที่จะได้เป็นเจ้าสาวของผม เพราะไม่มี ผู้หญิงคนไหนที่โชคดีเท่ากับคุณแล้ว”

“ฮึ! โชคร้ายล่ะไม่ว่า ที่ต้องถูกบังคับให้แต่งงานโดยไม่

เต็มใจแม้แต่นิดเดียว”

“ถึงไม่เต็มใจ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธความต้องการของ ผม”

ดอนริคคาร์โด้เอ่ยตอบอย่างทะนงตน แล้วก็ต้องหน้าชา ตะลึงไปชั่วขณะ เมื่อถูกนาราภัทรตะคอกกลับเสียงดังลั่น

รถ

“ถ้าคิดจะเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ ก็ไม่ต้องมาถามความ เห็นจากฉันอีก”

ไม่ใช่แค่ริคคาร์โด้เท่านั้นที่นิ่งงันไปชั่วขณะ โรมันและคน ขับรถถึงกับสําลักน้ำลาย ไม่นึกว่าจะมีผู้หญิงคนไหนกล้า หาญตอกกลับเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ซะหน้าหงาย
และผลตอบแทนจากการบังอาจทำให้ดอนริคคาร์โด้ขาย ขี้หน้าลูกน้อง ร่างบางก็ถูกกระชากตัวปลิวมานั่งอยู่บน ตักกว้าง ริมฝีปากร้อนผะผ่าวฉกวูบกระแทกจุมพิตดุดัน เป็นการสั่งสอนคนปากจัด ขณะเดียวกัน มือใหญ่ก็สอด เข้าไปในชุดเจ้าสาวซึ่งเป็นกระโปรงบานเหนือเข่าเข้าไป สัมผัสกับกลีบดอกไม้หวานที่ชุ่มฉ่ำตอบสนองรสมือของ เขาอย่างรวดเร็ว

“ปล่อย…

นาราภัทรครางประท้วง พยายามกักเก็บเสียงครวญคราง เพราะความเสียวซ่านอันเกิดจากรสมือของดอนริคคาโด้ ไว้ ไม่ให้เล็ดลอดออกมาให้เธอต้องขายหน้า

เจ้าพ่อหนุ่มบดขยี้จุมพิตเร่าร้อน ดูดกลืนปลายลิ้นหวาน อย่างหนักหน่วง ส่วนปลายนิ้วแข็งแกร่งก็ทำหน้าที่โรมรัน ทั่วปุ่มของความหฤหรรษ์หรรษา ทำเอานาราภัทรสั่นสะ เท็มไปทั้งตัว

“ปากจัดแบบนี้คุณต้องถูกสั่งสอนซะบ้าง

ขณะกระซิบชิดเรียวปากอิ่มแดง ดวงตาคมกริบ เหลือบมองออกไปยังนอกตัวรถ นึกขัดใจลูกน้องของตนเองที่ขับรถค่อนข้างเร็ว มาถึงโบสถ์ที่ใช้เป็นสถานที่จัด งานแต่งงานภายในไม่กี่สิบนาที

“เสียดายที่ลูกน้องของผมขับรถมาถึงโบสถ์แล้ว ไม่เช่น นั้นผมจะลงโทษคุณให้หนักกว่านี้”

นาราภัทรหน้าแดงซ่าน เมื่อดอนริคคาร์โด้ยกสะโพกตัว เองให้สูงขึ้นจากเบาะรถ ส่งให้กายแข็งขึงใหญ่โตดุนดัน กับดอกไม้หวานอย่างเต็มที่จนเธอหลุดเสียงออกมาเบาๆ

“ดอน…”

“เอาไว้ต่อที่เหลือ หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วนะยาหยี”

ริคคาร์โด้กระซิบบอกเสียงกระเส่า พร้อมกับขบเม้มหนักๆ ลงไปบนเรียวปากอิ่มอีกครั้ง จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามา เช็คคราบลิปสติกออกจากริมฝีปากของตนเอง แล้วบ่นอุบ ด้วยความไม่ชอบใจสักเท่าไร

“ต่อไปไม่ต้องใช้ลิปสติกแล้ว ผมไม่ชอบเวลาจูบคุณแล้ว ลิปสติกมาติดปากของผม
“แล้วใครใช้ให้คุณมาจูบฉันล่ะ” นาราภัทร วาดกลับด้วย ความโมโห ที่เธอกลายเป็นคนผิดในสายตาของเจ้าพ่อ หนุ่มเสมอ

“ก็ปากคุณมันน่าจูบ เห็นทีไรผมอดใจไม่ได้ทุกที

มาเฟียร้ายตอบหน้าตาย รู้ว่าลูกน้องจอดรถหน้าโบสถ์ได้ สักพักแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถลงจากรถได้ เพราะเรือน กายยังคงผงาดดุนดันกางเกงให้เห็นความใหญ่โตได้อย่าง ชัดเจน

“บ้าชะมัด! ดูผลงานของคุณสินาราว่าคุณทำอะไรกับผม ไว้”

นาราภัทรไม่อยากมองตามสายตาของริคคาร์โด้ ที่หลบ มองเรือนกายแข็งขึงของเขา แต่ทว่าดวงตาเจ้ากรรมกลับ ไม่เชื่อฟังคําสั่ง มันหลุบมองตามสายตาคมกริบ แล้วก็ต้อง หน้าแดงซ่านไปกับความใหญ่โตที่ปรากฏอยู่ต่อสายตา ของเธอในขณะนี้

ดอนริคคาร์โด้กัดฟันกรอด พยายามตั้งสมาธิมกายให้ สงบนิ่งเหมือนเดิม แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่าย เมื่อมีเรือนร่าง อรชรหอมละมุนนั่งชิดอยู่กับเขาเช่นนี้
เจ้าพ่อหนุ่มก้าวลงจากรถได้ในที่สุด หลังจากใช้เวลา นานหลายนา กว่าจะข่มกายให้สงบลงได้ นาราภัทรก้าว งจากรถตามหลังโคคาร์โด้ และเมื่อเห็นลูกน้องของเขา ซึ่งล้วนแต่สวมสูทสีดำสนิทเป็นแบบเดียวกัน ยืนเรียงเป็น แถวจากบริเวณที่รถจอดอยู่ ไปถึงทางเข้าประตูโบสถ์ก็เบิก ตากว้าง พอดอนเดินผ่านคนเหล่านี้ต่างก็พากันโค้งศีรษะ ให้อย่างเคารพในตัวเขา ซึ่งนั่นทำให้เธอตกใจอยู่ไม่น้อย แม้พอจะรู้ว่าริคคาร์โด้เป็นมาเฟีย แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมี อิทธิพลและทรงอำนาจมากถึงเพียงนี้

“นารา เดินเร็วๆ สิ

เจ้าพ่อหนุ่มหันมาเอ็ดว่าที่เจ้าสาว ที่มัวแต่จ้องมองลูก น้องของเขาที่ยืนเรียงแถวเป็นตับ และเขาไม่รู้ว่านาราภัทร ได้สังเกตหรือเปล่าว่าขณะเธอเดินตามเขามานั้น ลูกน้อง ของเขาได้โค้งศีรษะให้กับเธอเช่นนั้นเดียวกัน นั่นก็หมาย

ความว่าพวกเขาพร้อมให้เธอเป็นเจ้านายของพวกเขาอีก

คน

ถูกเอ็ดเสียงดังต่อหน้าคนเกินครึ่งร้อย นาราภัทรก็หน้าบึง ขึงตาใส่เจ้าพ่อหนุ่ม แต่ก็ยอมก้าวเท้ายาวๆ ให้ทันอีกฝ่าย ที่เดินนำหน้าเธอไปหลายก้าวแล้ว

เมื่อไม่มีญาติของเจ้าสาว ทำหน้าที่ส่งเจ้าสาวเข้าโบสถ์ ดอนริคคาร์โด้ก็ทำหน้าที่จูงมือเจ้าสาวเข้าโบสถ์ด้วยตนเอง ทว่าหาได้จับจูงด้วยกริยาอ่อนโยนไม่ มือใหญ่กระชาก ร่างบางให้เดินเร็วๆ มาคู่กัน จากนั้นก็นําอ้าวตรงไปหา บาทหลวงอย่างรวดเร็ว

เป็นการเดินเข้าโบสถ์ที่น่าปลาบปลื้มมากเลยค่ะ ดอนริค คาร์โด้” นาราภัทรแขวะโดยไม่ได้หันไปมองหน้าว่าที่เจ้า บ่าว

และเมื่อเดินมาหยุดยืนต่อหน้าบาทหลวง มาคอสซึ่งทำ หน้าที่ถือแหวนให้กับพี่ชาย ก็เอ่ยถามเสียงเครียด ก่อนจะ เริ่มพิธีแต่งงานอันศักดิ์สิทธิ์

“ริคโค้ พี่แน่ใจแล้วหรือ

ริคคาร์โด้รู้ว่าน้องชายหมายถึงอะไร เขาหันไปหน้านารา ภัทรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเป็น ภาษาอิตาลี เพราะไม่ต้องการให้นาราภัทรรู้ความลับของ เขา
“แน่ใจสมาคอส ถ้าไม่แน่ใจ พี่คงไม่ให้แกจัดเตรียมงาน แต่งงานอย่างรีบเร่ง

เรื่องการจัดงานแต่งงาน ความรู้สึกอยากแต่งงาน อยาก ผูกมัดให้นาราภัทรอยู่กับเขาตลอดไป เพิ่งเกิดขึ้นในหัว สมองของ หลังจากทะเลาะกับนาราภัทร เมื่อเธอประกาศ ป่าวๆ ว่าต้องการกลับประเทศไทยในทันทีที่เขาถอนหมั้น ให้กับพี่สาวของเธอแล้ว

มาคอสพยักหน้ายอมรับในการตัดสินใจของพี่ชาย แม้ ออกจะแปลกใจอยู่มากที่ตัดสินใจแต่งงานแบบกะทันหัน ทันด่วน ทั้งๆ ที่เคยประกาศป่าวๆ ว่าชาตินี้จะไม่ยอมเอา ห่วงมาผูกคอเด็ดขาด แต่เมื่อพี่ชายตัดสินใจแต่งงานและ เลือกให้นาราภัทรเป็นเจ้าสาว พวกเขาก็ต้องยอมรับในการ ดัดสินใจของดอนริคคาร์โด้เช่นเดียวกัน

“ถ้าพี่ตัดสินใจดีแล้ว ผมก็ไม่ขัดข้อง ดีใจที่พี่ยอมหาห่วง มาผูกคอสักที” มาคอสสัพยอกพี่ชาย พลางสวมกอดไว้ แน่น พอผละออกแล้ว ก็เข้าไปกอดนาราภัทรไว้บ้าง

“ยินดีต้อบรับเข้าสู่ครอบครัวอัลซาโคร์ ผมดีใจที่ริคโค้ เลือกคณให้เป็นเจ้าสาวของเขา
นา ตามเงื่อนๆ ให้กับนาคอส หันไปจ้องมองเจ้าบ่าว ของตนเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบให้เจ้าพ่อหนุ่มต้อง ดฟันกรอดๆ

“แต่ฉันไม่ดีใจเลยค่ะที่ถูกเลือกให้เป็นเจ้าสาวของคอนโด คารโด้ ฉันไม่อยากตกนรกทั้งเป็น

เจ้าพ่อหนุ่ม หมอแน่น กลึงตาแข็งกร้าวของหญิงสาว กัดฟันดังกรอดๆ ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าตนเองกำลังปวดใจกับ ค่าพูดของนาราภัทร

“หุบปากได้แล้วนารา บาทหลวงกำลังจะทำพิธีแต่งงาน แล้ว”

ตอนริคคาร์โด้สั่งเสียงเข้ม ไม่อยากให้นาราภัทรพนาจา ไปมากกว่านี้ ด้วยกลัวว่าคำพูดของเธอจะเปิดบาดแผลเขา ให้เจ็บหนักว่าที่เป็นอยู่

“สั่ง สั่ง แต่ ง เคยฟังคนอื่นบ้างไหม

นาราภัทรเหน็บแนมเสียงลอดไรฟัน ตั้งใจให้ได้ยินกันแค่ เพียงสองคน แต่กระนั้นมาคอสก็อุตส่าห์ได้ยินเข้าจนได้ ชายหนุ่มหัวเราะด้วยความขบขำอยู่ในลำคอขณะหันไปมองหน้าของพี่ชายที่มีหน้าตึง เพราะนาราภัทร ไม่ยอมเชื่อฟังคําสั่งของเจ้าพ่อ

การปะทะคารมระหว่างว่าที่เจ้าบ่าวกับว่าที่เจ้าสาวคงไม่มี ทางสงบลง หากบาทหลวงไม่เอ่ยทักให้ทั้งสองเตรียม ประกอบพิธี

พิธีแต่งงานอันศักดิ์สิทธิ์เริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีต่อมา นารา ภัทรฟังภาษาอิตาลีไม่ออก หญิงสาวคอยทำตามที่ดอนริค คาร์โด้กระซิบเธออีกที ตลอดเวลาของการทำพิธีแต่งงาน หญิงสาวรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังตกอยู่ในความฝัน ที่ ต้องมาแต่งงานโดยไม่เต็มใจทั้งของเธอและเขา

รอบๆ ตัวไม่มีเพื่อนเจ้าสาว ไม่มีญาติแม้แต่คนเดียว คงมี แค่เพียงลูกน้องในชุดสูทสีดำสนิท ซึ่งแต่ละคนยิ้มไม่เป็น คอยเป็นสักขีพยานในการแต่งงานในครั้งนี้

หลังจากเสร็จพิธีแต่งงานในโบสถ์แล้ว ดอนริคคาร์โด้จับ มือเจ้าสาวให้เดินออกมาด้านนอก นาราภัทรเบิกตากว้าง ด้วยความแปลกใจเล็กน้อย อีกทั้งงุนงงว่าลูกน้องของดอน ถือกรงนกพิราบขาวไว้ทำไม
ดอนริคคาร์โด้เห็นสีหน้าและแววตาอันเต็มไปด้วยความ สงสัยของนาราภัทร จึงไขข้อสงสัยให้เจ้าสาวของเขาได้ เข้าใจ

“เราจะปล่อยนกพิราบขาวให้เป็นอิสระ เพื่อถือเป็นฤกษ์ดี ในการร่วมหอลงโรงของเราทั้งสองคน

“ร่วมหอลงโลงต่างหาก” นาราภัทรเหน็บแนม จนดอนริค คาร์โด้ต้องกำราบเสียงดัง

“อย่าชักใบให้เรือเสียสินารา

“ก็มันเรื่องจริงนี่คะ” นาราภัทรเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ง่ายๆ “เจ้าบ่าว เจ้าสาวคู่อื่นๆ เขาปล่อยนกพิราบเพื่อเป็นสิริ มงคล แต่สำหรับฉันแล้ว ไม่มีความรู้สึกนี้อยู่ในหัวสมอง เลยค่ะ”

“ไม่ว่าคุณจะเต็มใจแต่งงานกับผมหรือไม่ ยังไงๆ คุณก็ ต้องยอมรับมัน เพราะตอนนี้เราสองคนเป็นผัวเมียที่ถูกต้อง ตามประเพณีแล้ว

“ฟังแล้วน่าปลาบปลื้มนะคะดอนริคคาร์โด้
นาราภัทรประชดอีกครั้ง ไม่ได้ตื่นเต้นกับการเริ่มต้นใช้ ชีวิตคู่ตามที่เจ้าพ่อหนุ่มบอกมา แต่พอหันไปมองนกพิราบ สีขาวเป็นสิบๆ คู่ที่ลูกน้องของเขากำลังถือกรงรอ ก็อดที่จะ เอ่ยถามออกมาไม่ได้

“เราต้องปล่อยนกพิราบที่คู่คะ”

“ปกติก็แค่คู่เดียว แต่เจ้าพ่อแห่งเกาะซิซิลี แต่งงานทั้งที จะให้ปล่อยแค่คู่เดียวก็ดูธรรมดาไป เราจะปล่อยนกพิราบ ทั้งหมด 24 คู่”

จะให้ปล่อยนกพิราบแค่คู่เดียวก็ดูไม่สมศักดิ์ศรีของเจ้า พ่อสักเท่าไร และจำนวนนกพิราบขาวที่จะถูกปล่อยในวันนี้ ก็สร้างความสงสัยให้กับนาราภัทรอีกครา

“แล้วทำไมเจ้าพ่ออย่างดอนริคคาร์โด้ต้องปล่อยนกพิราบ ขาวแค่เพียง 24 คู่ อย่างคุณฉันคิดว่าต้องปล่อยสักหนึ่งพัน คู่ถึงจะสมศักดิ์ศรีของเจ้าพ่อ”

แม้จะกังขาในจำนวนนกพิราบขาว ที่ต้องปล่อยมากเพียง ใด นาราภัทรก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแขวะเจ้าบ่าวมาดๆ ของ เธอด้วย
เจ้าพ่อหนุ่มหัวเราะเบาๆ กับคำแขวะของเจ้าสาว ก่อนจะ เอ่ยตอบให้นาราภัทรต้องอึ้งพูดไม่ออกอีกนานหลายนาที

“ที่ผมปล่อยนกพิราบขาว 24 คู่ เพราะมันเป็นจำนวนเท่า กันกับอายุของคุณ

นาราภัทรถึงกับพูดไม่ออก ไม่นึกว่าคนห่ามๆ เอาแต่ใจ ฟังคำสั่งของใครไม่เป็นอย่างริคคาร์โด้ จะมาใส่ใจในราย ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกี่ยวกับตัวเธอด้วย และเมื่ออีกฝ่าย ใส่ใจในตัวเธอมากถึงเพียงนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขอบคุณ เจ้าพ่อหนุ่ม

“ขอบคุณมากค่ะ”

“ไม่ได้อยากได้ยินคำขอบคุณ” ดอนริคคาร์โด้เอ่ยขัดเสียง แข็ง

แล้วนาราภัทรก็ถลึงตาจ้องมองถามเสียงแข็ง “เอะ ก็ ขอบคุณไปแล้วจะเอาอะไรอีก”

“อยากได้คำขอบคุณแบบพิเศษๆ ที่ไม่เหมือนใคร
คราวนี้นาราภัทรรู้ว่าเขาต้องการคำขอบคุณแบบไหน เพราะดวงตาคมกริบจ้องมองเขม็งมายังเรียวปากอิ่มแดง ระเรื่อ และไม่ทันได้ปฏิเสธ ร่างบางระหงก็ถูกมือใหญ่คว้า หมับตรงเอวบางดึงเข้าไปกอดแนบชิด ก่อนจะสาธิตให้เห็น ว่าต้องขอบคุณอย่างไรถึงจะทำให้เขาพอใจที่สุด

นาราภัทรตัวอ่อนระทวยแทบยืนไม่อยู่ ขณะถูกริคคาร์ ได้มอบจุมพิตเร่าร้อนเป็นเวลาเนิ่นนาน และหากไม่ได้ร่าง ใหญ่ประคองกอดไว้ เธอคงร่วงไปกองอยู่กับพื้นให้ต้อง อายบรรดาลูกน้องของเขา

“ปล่อยนกพิราบกันเถอะนารา ก่อนที่ผมจะทนไม่ได้ พา คุณเข้าหอก่อนจะถึงอัลซาโค้

เจ้าพ่อหนุ่มต้องรีบผละริมฝีปากออก เพราะรู้สึกได้ว่า กายแข็งขึงของตนเองกำลังเต้นตุบๆ หิวกระหายการจมดิ่ง เข้าไปในดอกไม้หวานฉ่ำในทุกนาที

นาราภัทรรีบขยับถอยห่าง เมื่อมาเฟียร้ายปล่อยให้เธอ เป็นอิสระ พอหันไปมองบรรดาลูกน้องของเจ้าพ่อหนุ่ม รวม ทั้งมาคอส ที่ต่างก็พากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้เห็น ก็อายหน้า แดงซ่านจนไม่กล้ามองสบตากับทุกคน
นกพิราบขาวสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นการใช้ชีวิต คู่ จำนวน 24 คู่ ถูกปล่อยในเวลาต่อมา ท่ามกลางเสียง ตะโกนร้องแสดงความยินดีจากบรรดาลูกน้องของดอนริค คาร์โด้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ