ตอนที่ 7 ทั้งสองฝ่ายที่ไม่รู้จักกัน
ตอนที่ 7 ทั้งสองฝ่ายที่ไม่รู้จักกัน
เขาสารภาพออกมาอย่างไม่ปิดบัง ชวนหน้าแดงและใจเต้น ความรู้สึกที่กังวลและไม่สบายใจเมื่อกี้นี้ก็ค่อยๆ จางหายไปหมด
ชวนฟังเขา และก้มหน้าอย่างเขินอาย นีน่า แต่เราต้องคำ นึงถึงสถาณการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเป็นหลักนะ”
เธอพูดพลางเงยหน้า และมองเขาด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง “เทพ เพื่อเทพ ไม่ว่าอะไรนีก็ทนได้”
ธนเทพยิ้มอ่อน แล้วยื่นมือมาดึงจมูกชวน “ยัยโง่”
ตอนที่เข้าไปห้องวีไอพี จันทรชาเหลือบมองเศวยาที่ไม่ได้พูด อะไรออกมาเลย จันทรชาจึงลุกขึ้นเดินไปที่เครื่องเล่นเพลงโดย ไม่ถามอะไร แล้วเลือกเพลงที่ชื่อว่า love song จากนั้นก็ส่ง ไมโครโฟนให้กับเศวยา “เพลงนี้เหมาะกับเธอ”
เศวยานิ่งไปเล็กน้อย ทันใดนั้นก็เผลอยิ้มหัวเราะออกมาเสียง ดัง จันทรชาก็เป็นเพื่อนที่รู้ใจที่สุดเลยจริงๆ
เธอโยนความเศร้าที่มีทิ้งไป แล้วรับไมค์โครโฟนมาอย่างสุขกายสบายใจ ร้องไปตามเสียงคาราโอเกะ และถึงจะร้องแล้ว เสียงเพี้ยนยังไงก็ไม่แคร์
พอร้องเพลงอย่างได้อารมณ์แล้ว ทั้งสองก็สั่งเบียร์มาดื่ม
จันทรมาคอแข็งมาก แต่เศวยาคออ่อนมาก เมื่อดื่มไปสองขวด ใบหน้าที่เล็กดูสวยงามของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนราวกับสี ของมะเขือเทศ แล้วก็เริ่มมึนหัวหนักขึ้นเรื่อยๆ
เธอโบกมือไปมาไม่หยุด “ไม่ได้ๆๆ ไม่ไหวแล้ว…
จันทรชาดื่มหมดไปขวดหนึ่ง ก็นำขวดเปล่าวางไว้บนโต๊ะ เธอ ยิ้มแต่เหมือนไม่ยิ้มพลางพูดว่า “นึกไม่ถึงเลยว่า มาดอนน่า แห่งมหาวิทยาลัย D อย่างเธอจะดื่มเหล้าไม่ได้
รู้ว่าจันทรชากำลังแซะอยู่ แต่เศวยาก็ไม่โกรธ แล้วหลับตาลง พร้อมพูดออกมาอย่างงามหยาดเยิ้ม “ฉันก็ไม่คิดเหมือนกัน ว่า ผู้หญิงที่เป็นหัวกะทิชั้นยอดแห่งมหาวิทยาลัย D อย่างเธอจะดื่ม เก่งขนาดนี้”
จันทรชายิ้มเล็กน้อย ยกขวดขึ้นมาแล้วกระดกลงคอไปครึ่ง ขวด
เศวยาดื่มเก่งสู้จันทรชาไม่ได้ เธอลุกขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ “เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“ให้ฉันไปเป็นเพื่อนมั้ย
“ไม่เป็นไร”
เธอเปิดประตูแล้วเดินตามระเบียง ที่ระเบียงอากาศร้อนอบอ้าว จนทำให้สติของเศวยาเลอะเลือนมากกว่าเก่า เธอจึงพิงกำแพง เพื่อนำทางไปห้องน้ำ
เธอในหัวมาก ยิ่งก้าวเท้าก็ยิ่งเดินเซขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่เธอเพิ่ง จะเลี้ยวตรงทางโค้ง ก็ร่วงไปอยู่ในอ้อมกอดของคนแปลกหน้า เข้าอย่างจัง
“ขอโทษค่ะ…” เธอหลับตาและก้าวถอยหลัง
“เธอเมาละเหรอ”
ทันใดนั้นเศวยาก็เบิกตากว้าง เธอไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าคนที่ ยืนตรงหน้าคือธนเทพ
มองไปเหมือนเวลาผ่านไปสองปี ความรักที่ต่ำต้อยของเธอ นั้น ก็ได้กลับคืนมาอีกครั้ง
เธออยากจะหนีห่างไปจากเขา แต่ทำไมเธอถึงหนีเขาไปไม่ได้ หรือว่านี่สินะที่เรียกว่าพรมลิขิต
เธอทำท่าว่าจะร่วงอยู่หลายรอบ ธนเทพจึงยื่นมือออกมาพยุง เธอ เธอตระหนักได้จึงถอยหลังไป เธอหลบเหมือนกับว่าเขา เป็นสัตว์ร้าย
มือแกร่งของธนเทพค้างกลางอากาศ เขาพูดออกมาเบาๆ “ผม น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
วิสัยทัศน์ของเศวยาเริ่มเลือนลางราวกับมีหมอกคลุม เธอถอย หลังไปไม่หยุด “ได้โปรด ช่วยไปไกลๆ จากโลกของฉันได้ มั้ย…ครั้งนี้ ฉันไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก….
เธอระงับความเศร้าโศกที่อยู่ในดวงตาของเธอเอาไว้ไม่ได้
ธนเทพขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็ก้าวไปข้างหน้า เงาของร่างสูง ปกคลุมร่างของเธอ “เราเคยรู้จักกันเหรอ”
“ไม่!” เศวยาส่ายหน้าอย่างจริงจัง “ไม่เคยรู้จัก จากนี้ก็จะไม่รู้ จักกันด้วย’
ในตอนที่ธนเทพยังอยากจะพูดบางอย่าง ชวนก็เดินเข้ามา “เทพ ทำไมนานจัง”
ในตอนที่เห็นเศวยา สีหน้าของชวนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ ไม่ทันไรสีหน้าก็กลับเป็นเหมือนเก่าอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็น รอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเธอ “ยา เธอก็มาที่นี่ด้วยเห รอ”
เศวยาไม่หันไปมองแม้แต่น้อย จากนั้นก็เดินอ้อมธนเทพเพื่อ ตรงไปห้องน้า
ชวนีมองไปที่ธนเทพ เขายิ้มมุมปากอย่างคาดเดาความคิดได้ ยาก “ดูเหมือนว่าเธอจะเกลียดฉันมากนะนั่น
ชว ไม่อยากจะคาดเดาความหมายที่ซ่อนอยู่ในรอยยิ้มของเขา เธอก็พูดออกมาเบาๆ จะเข้าไปดูเธอสักหน่อย”
พอเศสยาม น้าเย็นล้างหน้าก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อ เธอนึกถึงคำพูดของธนเทพขึ้นมาได้ เธอก็สะบัดหัวไปมาอย่าง หงุดหงิดและรู้ล็กถูกขัดใจ
บ้าจริง เธอจําเป็นต้องหนีจากผู้ชายคนนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะ ทำได้ จะให้เขามีผลต่อความรู้สึกของเธออีกไม่ได้!
“ยา ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า” ชวนเดินเข้ามา
เศวยาใช้ทิชชู่เช็ดหยดน้ำบนหน้าของตน แล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ “ฉันไม่เป็นไร”
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” เธอเดินเข้ามาด้วยสายตาที่แปรเปลี่ยน แล้วถามอย่างหยั่งเชิง “เมื่อก่อนธนเทพเป็นเพื่อนบ้านกับพวก เรา เธอคงรู้จักกับเขามาก่อนแล้วแหละมั้ง ฮะๆ เมื่อกี้พวกเธอ คุยเรื่องอะไรกันหน่ะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ