รักคล้องใจ สามีตัวแทน

ตอนที่ 14 รับเธอกลับมา



ตอนที่ 14 รับเธอกลับมา

ธัชชัยกำลังขับรถในหัวคิดแต่เรื่องภาพที่พี่ชายต้องใส่ เครื่องช่วยหายใจ โรคของพี่ชายเขานั้นร้ายแรงมาก ทุก วันที่เข้าไปเยี่ยมพี่ชายเขาไม่ได้พบอะไรที่ผิดสังเกตเลย น้องชายคนนี้ทําอะไรเหมือนจะล้มเหลวไปหมด

ไม่ทันได้รู้ตัวเขาก็มาถึงบ้านเดิมขุนทดตอนค่ำ พระอาทิตย์ตก แสงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า

ครอบครัวเดิมขุนทดกับวัจสากำลังนั่งทานข้าวเย็น

ทันใดนั้นมีคนรับใช้มารายงานว่ามีแขกมา ถามว่าเป็นใคร แต่ไม่ตอบกลับมา

ปยุตเดิมทีไม่ต้องการจะรู้ว่าเป็นใคร บอกให้เขารอหลัง ทานอาหารเย็น

ธัชชัยยืนพิงตรงข้ามกำแพง เมื่อได้รับคําตอบแบบนี้ เขา เดินตรงเข้าไปที่ห้องอาหาร สายตาที่ชั่วร้ายได้กวาดตาดู คนบนโต๊ะอาหารทั้งหมดหกคน

การปรากฏตัวของเขา ทำให้ครอบครัวโกลาหลขึ้นมา

ในสายตาทั้งสามของลูกสาวบ้านเดิมขุนทด ไม่เคยเห็น ผู้ชายหล่อเหลากว่าดาราในทีวี

รูปร่างสูงเรียว ความสูงประมาณ190เซนติเมตร ใบหน้าที่ยอดเยี่ยม ดวงตาที่สวยงามเหมือนลูกพีช สันจมูกโด่ง ริม ฝีปากบางๆ ใบหน้าที่สมบูรณ์ปรากฏในสายตาของบ้านเดิม ขุนทด

แม้แต่คุณป้ายังสนใจอยากรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือใคร

รบกวนแล้ว ฉันคือธัชชัย จากตระกูลศรีทอง ” ธัชชัยพูด ด้วยเสียงต่ำที่เซ็กซี่เหมือนเครื่องดนตรีเชลโล่

ลูกสาวทั้งสามคนเดิมขุนทดหันหน้าไปทางเขา แต่สำหรับ วังสานั้นมันคือเสียงที่มาจากนรก

ผู้ชายคนนี้ต้องการทำอะไรกันแน่ เธอได้ยินเสียงของเขา ทําให้เธอกินข้าวไม่ลง

ยุตค่อนข้างตกใจ ธัชชัยคือลูกคนเล็กของตระกูลบ้านศรี ทอง เป็นตำนานของเศรษฐีใหม่แห่งเมืองS

วราลีตอบสนองคนแรกยืนแล้วยิ้ม “ ที่แท้คือชายน้อยนั้น เอง เป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับในขณะที่เธอพูดมือของเธอก็ สะกิด ปยุต ”

ปยตรีบพูด “ชายน้อยยังไม่ได้ทานข้าวมาใช่ไหม กินข้าว ก่อนเถอะ “สายตาที่ธัชชัยมองวัจสามันฝังอยู่ในหัวไม่รู้เธอ คิดอะไรอยู่ เขาพยักหัว “ ไม่เกรงใจ รบกวนด้วย ”

“ไม่รบกวนเลย ” วราลีรีบเรียกคนรับใช้

สําหรับชายน้อย

“เตรียมอาหาร
“เดี๋ยวก่อนไปห้องฉันหยิบขวด Lafite 82ปี ” ปยุตบอก คนรับใช้ให้เอามา เขารู้สึกถึงความสำคัญอันดีกับนายน้อย ตระกูลศรีทองเป็นอย่างไร ดังนั้นต้องทำให้เขาโปดปราน ถึงแม้เขาจะไม่ได้เห็นค่าขวดไวท์ แต่อย่างน้อยก็สามารถ เข้าใจความคิดเขา

“คุณปยุตคุณไม่ต้องสุภาพขนาดนี้” ธัชชัยดูแข็งแกร่ง ไม่ถ่อมตนหรือเกรงกลัวอะไร เหมือนมีเสน่ห์ชั่วร้ายครอบงำ อยู่อย่างเป็นธรรมชาติ

ปยุตอยากพูดในสิ่งที่เขาต้องการ ฝั่งรสรินที่ไม่ได้พูด อะไรก็เริ่มพูดขึ้นมา ดูเหมือนไร้เดียงสา “ คุณคือชายน้อย จริงๆหรอ คุณหล่อมากเลย ”

ธัชชัยฟังคำเหล่านี้ เสียงช่างคล้ายคลึงกับวัจสา คม ชัด เสียงหวาน เขามองเธอด้วยสายตาและดูเหมือนว่าจะเป็น น้องเล็กสุดในครอบครัว

“ พูดเกินไปแล้ว ” เสียงเย็นชาแต่กลับมีเสน่ห์

วัจสาทั้งกินข้าวและมองเขาที่เยี่ยงสัตว์ประหลาด

ปยุตเห็นรสรินพูดแล้วทำให้ธัชชัยไม่ได้รู้สึกแย่ เขาถอน หายใจด้วยความโล่งใจ ที่ทำให้ชายน้อยยิ้มได้

นี้คือน้องคนเล็ก รสริน นั้นคือพี่สาวคนโต ทยิดา

ทยิดาไม่คิดว่าธัชชัยจะหล่อมาก หล่อกว่าแฟนของเธอมาก แต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเธอมีแฟนของเธอ แล้ว

ลูกสาวคนที่สอง ภาวินี

เมื่อเทียบกับอีกสองคน เธอค่อนข้างสงบเสงี่ยม แม้ว่าใน ใจเธออยากได้ผู้ชายคนนี้มาก แต่ภายนอกต้องดูเรียบร้อย ยิ้มอย่างสุภาพและมีความยับยั้งช่างใจของผู้หญิงคนหนึ่ง

เธอพอใจกับการแสดงออกของเธอมาก

วรามองดูภาวินี ที่รู้สึกว่าไม่ได้มีความพยายามมากเท่า

ไหร่ ลูกสาวคนโตนั้นแต่งงานแล้ว ส่วนลูกสาวคนเล็กนั้น เด็กเกินไป

ลูกสาวคนที่สองมีแนวโน้มที่จะได้แต่งงานกับชายคนนี้

ธัชชัยไม่ได้มีความสนใจผู้หญิงเหล่านั้นที่ค่อนข้างเส แสร้ง เมื่อเปรียบเทียบกับวัจสาที่พูดอย่างตรงไปตรงมา เขา เกลียดที่เธอไม่ได้มองมาที่เขาเลย

ทว่าผู้หญิงที่เขากำลังนึกถึงนั้นมองกลับมา ทำให้ธัชชัยดู มีความสุขขึ้นมามีรอยยิ้มที่มุมปากของเขา

แต่ฉันก็ไม่ได้ต้องการให้ใครบางคนเข้าใจผิด

“ลุงคะ ฉันอิ่มแล้ว ” วัจสาพูดเสร็จรีบเดินออกจากโต๊ะกิน

ข้าวทันที
“เธอไม่มีความจําเป็นต้องขึ้นไปเก็บของอะไร แค่กลับไป กับฉัน” ผู้ชายพูดเสียงต่ำผ่านหลังเธอไป

วัจสาหันหลังกลับมาอย่างผ่อนคลาย “ฉันไม่ได้บอกว่า

จะกลับไปกับคุณ ”

หยุดก่อน ” ธัชชัยพูดอย่างแผ่วเบาแต่ข้างในเหมือนพายุ ฝนกระหน่ำครั้งแรกที่ได้ยินวัจสาพูด

เท้าของเธอหยุดชะงัก

“ พี่ของฉันอยู่ที่บ้านรอเธอ เธอรู้ไหม ”

เขาคิดว่าพูดเรื่องของวรพลออกมาจะทำให้เธอกลับไป กับเขา แต่เธอไม่ต้องการจะอยู่ร่วมชายคาบ้านกับสัตว์ ประหลาดตัวนี้ด้วยความเกลียดชัง

* สิ่งที่คุณทำลงไปตัวคุณเองน่าจะรู้ดี ฉันไม่ต้องการทำ อะไรที่มันน่าเกลียด ” น้ำเสียงของวัจสาเรียบๆคนในบ้าน ทั้งหมดแปลกใจ เธอเพิกเฉยต่อการกระทำของธัชชัยและ เดินหนีไป

ธัชชัยยืนมองเธอที่ตอนนี้ไม่มีเขาอยู่ในใจ ผู้หญิงคนนี้ ต้องการที่จะสู้กับเขาใช่ไหม

เห็นใบหน้าที่เศร้าของชายน้อย ปยุตรีบอธิบายทันที “ เด็ก คนนี้นิสัยเสียแล้ว ชายน้อยอย่าถือสาเลย ”
พี่ชายเขารอเธออยู่ที่บ้าน ธัชชัยคิดถึงพี่ชายเขาที่เป็น แบบนั้น พี่ต้องการให้นำเธอกลับไป เขาต้องนำเธอไปถึงแม้ จะต้องใช้กำลังก็ตาม

ภาวินีที่นั่งดูสถานการณ์แล้วยิ้ม “ ชายน้อย พ่อ ฉันจะไป คุยกับพี่เขาให้ผู้หญิงคุยกับผู้หญิงน่าจะรู้เรื่องกว่า ”

สำหรับธัชชัยเธอคือเทพธิดาที่อยู่เบื้องหน้าแล้วและเธอ ต้องการที่จะทําให้เขาประทับใจ

ธัชชัยดูเรียบเฉยไม่มีความคิดเห็นใดๆ ตราบใดที่เธอนำผู้ หญิงกลับไปได้ เขาก็ไม่สนว่าเป็นใครที่เป็นคนทำ

ปยุตพยักหน้า “ งั้นรบกวนหน่อย ภาวินี ”

* คุณพ่อจะเกรงใจทำไมคะ ” ภาวินียิ้ม

ทยิดาและรสรินที่อยู่ข้างๆภาวินีต่างล้อเลียนเธอ อะไรที่ ต้องใช้ความโอ้อวดออกมาจะต้องถูกภาวินีนั้นขโมยไป

วัจสากลับไปถึงห้องไม่นานมีคนมาเคาะประตูเธอคิดว่าคือ ธัชชัย เสียงประตูดังต่อเนื่อง การเคาะประตูแบบนี้คงไม่ใช่ ผู้ชายหยิ่งผยองคนนั้นแน่

หลังจากนั้นเธอลงจากเตียงไปเปิดประตูพบว่าเป็นภาวินี เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

* มีอะไรหรอ ” ในบรรดาลูกๆทั้งหมดของคุณลุง วัจสากับภาวินีนิสัยถือว่านิสัยเข้ากันได้ อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรเหมือ นกับทยิดา อย่างน้อยสามารถพูดคุยกันได้

ภาวินีเป็นคนที่ใจกว้างและสงบเสงี่ยม “ จะไม่ให้น้อง เข้าไปนั่งข้างในหน่อยหรอ ”

วังสาไม่สามารถให้เธอยืนอยู่ข้างนอกได้ “ เข้ามาเถอะ

ภาวินีเข้าไปนั่งในท่าทางที่เหมือนผู้หญิงที่ถูกอบรมมา อย่างดี

วัจสากำลังจะถามว่ามีอะไร แต่คิดไม่ถึงว่าภาวินีจะเอาบัตร เครดิตธนาคารออกมาและวางไว้ที่หน้าวัจสา “ นี่เป็นเงิน ส่วนตัวของฉัน ข้างในมีสองแสน พี่สามารถนำไปให้คุณดน ตาเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ

ฉันได้ยินแม่พูดเรื่องนั้น พี่ก็อย่าเอาคำพูดของคุณแม่ไป คิดมาก เขาเป็นคนแบบนั้น

วัจสามองของที่อยู่ตรงหน้าเธอแล้วคิดว่ามีเงินแล้ว

อย่างไรก็ตามเธอไม่ต้องการเงินของครอบครัวเดิมขุนทด นี้ แต่หลังจากที่เธอได้คุยก็รู้ถึงทัศนคติของวราลี ถ้ารับของ ทุกสิ่งในครอบครัวเดิมขุนทดมันคือการที่จะต้องรับมือกับทุก อย่างด้วยตัวของตัวเอง แต่ตอนนี้เธอจะปฏิเสธไม่ได้เพื่อ ช่วยชีวิตของด็ก

ในที่สุดวังสาก็รับบัตรนั้นมา “ภาวินีตอนนี้พี่ยืมเงินเธอ รอ พี่มีเงินพี่จะใช้คืนให้ ”
ภาวินีจับมือวัจสา “ คนบ้านเดียวกันทำไมถึงพูดเรื่องยืม เงินอีกละ อีกทั้งยังบริจาคให้เด็ก ถือว่าเป็นความรักจากฉัน พี่ไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธ”

วัจสาไม่คิดแบบนั้นเธอรับมาแต่เธอแสดงให้เห็นว่า “ นี้คือ เงินที่ต้องคืน ถึงเวลาจะใช้คืนเอง ”

ภาวินียิ้ม ถ้าพี่ยืนกรานที่จะต้องการแบบนั้น ฉันก็จะไม่พูด อะไร แต่ตอนนี้ชายน้อยกับพ่อเขารอพี่อยู่

ภายในใจของเธอคิดว่า แล้วเกี่ยวอะไรกับเธอละ แต่โชคดี ที่ปากไม่ได้ไวไปกว่าความคิด “ ฉันไม่ได้วางแผนที่จะกลับ ไปแล้ว ”

“ พี่กลัวหรอ ” ต้องการให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม ฉันแข็ง แรงและปกป้องพี่ได้ ภาวินีหัวเราะ

“ เธอจะไปที่บ้านหลังนั้น เป็นเพื่อนพี่ แต่พี่ไม่ได้บอกว่าจะ กลับปวจสาคิดเกี่ยวกับบ้านหลังนั้นที่ต้องกลับไปเจอคน แบบนั้นทำให้รู้สึกปวดหัวขึ้นมา

“ชายน้อยเขาขู่พ่อของฉันด้วยหวังว่าพี่จะไม่ทำให้พวก เราลำบาก ” บ้านนั้นเขารวยมาก พวกเราไม่สามารถทำอะไร ได้ อีกทั้งยังพี่ใหญ่บ้านนั้นเขาตามหาพี่ ได้ยินมาว่าอาการ ของเขาค่อนข้างหนัก “ภาสินีแกล้งทำเป็นเห็นอกเห็นใจ

วัจสาไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอพูด เธอรู้สึกแย่ที่ได้ยินว่าวรพ ลป่วยหนักอีกทั้งยังตามหาเธออีก ไม่แปลกใจที่ธัชชัยจะมาหาเธอ ที่จริงคือวรพลนั้นป่วยหนักเขาถึงได้มาหา พวกเขา ไม่ได้ทะเลาะกันเพราะเธอใช่ไหม

ในเมื่อเป็นแบบนี้เธอคงต้องกลับไป จุดอ่อนของเธอคือ เป็นคนใจอ่อน

“ พี่ พี่ ”ภาวินีเรียกวัจสา ในดวงตาประกายแวววาว

วัจสาตอบกลับ“ ถ้างั้นดีเลย เธอไปกับฉัน” แต่วัจสาไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของภาวินีคืออะไร

เพื่อที่จะได้มีเวลามากขึ้น ภาวินีรู้ว่าตัวเองอาจจะไปได้ดี กับธัชชัย ทำให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ