สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย

บทที่ 6 ช่วยเจ้าหนึ่งชีวิต



บทที่ 6 ช่วยเจ้าหนึ่งชีวิต

บทที 6 ช่วยเจ้าหนึ่งชีวิต

“ท่านหญิง!” พวกจูหยวนซานตกใจจนวิญญาณแทนนิน

หนีร้องออกมาด้วยสีหน้าแตกตื่น

ลูกธนูเย็นเยียบถูกปล่อยเสียงแหลมเสียด

เหยียนหลังจนที่ไร้กำลังจะต้านทานปิดเปลือกตาล

ขณะที่รอรับความตายอย่างสงบ พลันรู้สึกเป็นที่ระ

ผ่านหน้า ตามมาด้วยเสียงฟาดของสอน ตั้งต่อไป หยด วัดใส่

ลูกธนูมากมายจนปลิวกระเด็น ร่วงกราวด

อยู่ข้างป่าทุ่ง

ลืมตาข่ นมองอีกครั้ง…

สตรีหน้านิ่งผู้มีความไวตั้งสายฟ้า ตัวละ

เรียบร้อย ยืนขวางอยู่เบื้องหน้าเขาอย่างมั่นคง

แสงแดดสาดกระทบเรือนร่างบอบบางท า ยัดตรงแนว

แน่ บดบังเขาให้อยู่ได้เอาแผ่นหลังของนาง

“ยังไม่เข้าเรื่อง ! ชายหัวโล้นจนเป็น เหลืองอ้อย

กำลังจะสั่งให้ฆ่าไม่เป็น ของเล่นสะท้อนใส่ตา วัดเข้าที่คอเขา คล้ายกับงูตัวหนึ่ง ประโยคหลังที่ยังพูดไม่เบ

กระจุกอยู่ ค าสตรีนางนี้ มองดูแล้วน่าจะอายุเพียงสิบสามสิบสีเท่านั้น ชายหัวโล้นไม่ทันได้ระวังตัว เพราะคิดไม่ถึงว่านางจะลง

มือรุนแรง แม้แต่เจรจาพาที่สักนิดก็หามีไม่ “ฆ่าพวกมันให้หมด ห้ามให้รอดไปแม้แต่คนเดียว!” สวี นหยาง ก าคนแรก ตะโกนสั่งเสียงเทียม “ขอรับ!” ทันทีที่เห็นว่าสวินหยางเปลี่ยนแผน เพื่อดูแล ความปลอดภัยของนาง พวกจูหยวนซานก็พุ่งตัวตามมา ติดๆไม่ต้องคิดมากความซับซ้อน ต่างคนต่าง ก็ดึงอาวุธ กระโจนเข้าสู่วงล้อม ฟาดฟันสังหารอีกฝ่ายที่เหลืออยู่ สิบกว่าคนทันที

พวกเขาล้วนเป็นองครักษ์ข้างกายของ อัน หากจะพูด ให้ถูกต้องสักหน่อยก็ควรจะเรียกว่าหน่วยกล้าตาย ไม่ว่า จะเป็นทักษะด้านวรยุทธ์หรือว่าการสังหารคน ล้วนแต่ ยากจะหาคนทั่วไปมาเทียบชั้นได้

เห็นว่าพวกเขาเริ่มลงมือ ชายหัวโล้นผู้นั้นถึงได้ค้นพบว่า คนเหล่านี้ ไม่ใช่แค่ทหารธรรมดาทั่วไปของซีเยคอของเขาถูกแล้

อ่อนของสวนหยางพันรัดหายใจไม่ สะดวก เวลานี ยังได้รับความตระหนกตกใจ ใบหน้าจึง

กลายเป็นสีตับหมู ทางหนึ่งก็พยายามรังปลายแส้ไม่ให้

รัดคอเขาแน่นจนเกินไป อีกทางหนึ่งก็เต้นเสียงดอกแค่กในลำคอเอ่ยมาว่า “เข้า….ใจผิด….ลงมือ…ไว้ไมตรี มี

อะไร…อย…พูดจา! พวกข้าเป็น… “ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นผู้ใด แต่วัน

นี ต้องตายทั้งหมด!! ส

นหยางไม่รอให้เขาพูดจบก็ตัดบทเสียงเย็น ขณะที่พูด

สายตาก็เหลือบมองแวบหนึ่ง จากนั้นก็สั่งการพวก

หยวนซานอีกหนึ่งประโยค “ลงมือรวบรัดหน่อย อย่าให้

รอดไปได้!” “ข้าน้อยรับบัญชา!” จูหยวนซานเสียบดาบทะลุอกชายผู้ หนึ่ง หันศีรษะมารับค่าสั่งอย่างจริงจัง จากนั้นระเบิด

พลัง ลอยตัวข้ามไป เสียบคาบเข้ากลางกะโหลกของ

ชายหัวโล้นผู้หนึ่งจนทะลุ

ดาบนี รวดเร็วเป็นที่สุด ตอนที่ซักดาบออก ปากแผลบน

ศีรษะของชายผู้นั้นมีเพียงเลือดซึมออกมาเพียงเล็กน้อย

เท่านัน

“อีก…” เสียงประหลาดหลุดมาจากลำคอ ชายหัว

โล้นพลันเบิกตาโพลง ร่างบึกบึนล้มโครมกระแทก น

นันอย่างไม่น่าเชื่อ

เวลานี้ เหล่าองครักษ์ได้จัดการพวกคนที่เหลือตามคำสั่งจนสะอาด หมดจดแล้ว ทั้งยังตรวจสอบศพฝ่ายตรงข้าม

อีกรอบหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีผู้รอดชีวิต จากนั้นจึง

ถอยมารอรับคำสั่งอยู่ข้างกาย

หยวนซานสาวเข้ามาอยู่เบื้องหน้าคู่สวนหยางด้วยสีหน้าเป็นกังวล เหลือบมองไหล่ข้างซ้ายที่มีลูกธนูปักอยู่

ร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ ท่านหญิง ท่านบาดเจ็บ ข้าจะ

ส่งท่านกลับไปรักษา ค่ายเดียว ”

พูดไป ก็เรียกคนให้ตระเตรียมมา

“ไม่ได้! พรองทางนั้นอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย!” สวี

นหยางขมวดคิว ยกมือยังเขาพูดอยู่ก็ก้มตัวลงไปถึงกริชเล่มนี้ นอ

อกมาจากศพของ

ชายหัวโล้นที่อยู่ข้างเท้า ใช้เสือของเขาเช็ดคราบเลือด

จากนั้นมือก็ตวัดหมุนพลิก พันก้านธนูจนหัก

จูหยวนชานอ้าปากพะงาบๆ ยังไม่ทันได้พูดอะไร มือขวา

ของนางก็เดินกำลังภายในรอไว้กลางฝ่ามือแล้ว หมุนข้อ

มือเล็กน้อยแล้วตบเข้าใส่บาดแผลที่ไหล่ของตน

การเคลื่อนไหวทั้งหมดเกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว ไม่

มีช่องว่างให้ผู้ใดแทรกปากคัดค้าน

ฟิว…พร้อมกับเสียงนั้น ลูกธนูอีกครั้งดอกก็ถูกผลักทะลุออก

มาจากแผ่นหลังของนาง พร้อมกับเลือดสายหนึ่ง

“ยาจีนชวง[1] !” สวนหยางมั่นติ วเล็กน้อย ยืนมือออก

ไปอย่างไม่ทุกข์ร้อน

หน้าอกของจูหยวนชานบีบรัดแน่น รีบควักขวดยาที่ด้าน

ในมิยาจินขวงบรรจุอยู่ส่งให้ถอนหายใจเฮือก แล้วก็หมุนตัววิ่งไปหยุดที่ด้านข้างของม้า ค้นหาของที่พอจะ

มาใช้พันแผลได้

สวนหยางเทผงยาลงที่บาดแผลท์ ด้านหน้าและด้านหลัง จากน น หยิบกรชนมาจากพี นอีกรอบ เดินกลับไป

หยุดที่เบื้องหน้าของเหยียนหลังจน

เหยียนหลังจนนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาปิดอยู่ สม

หายใจรวยริน ขณะที่สติพร่าเลือนก็เห็นเค้าร่างเลือนราง

ของดรุณีน้อยปรากฏอยู่เบื้องหน้า

ชุดเกราะสีเงินบนร่างยิ่งรัดเอวน้อยให้ดูเล็กขนกว่าเก่า

อรชรจับตา

ไม่ว่าจะยิงธนูหรือฆ่าคน การเคลื่อนไหวก็ล้วนแต่คล่อง

แคล่วรวบรัด ไม่มากท่านเปลืองผมยาวที่รวบเป็นหางม้าเริงระบำ

อ่อนช้อยท่าม

กลางดอกอ้อ ราวกับเป็นพื้นที่อบอุ่นและยากจะจับต้อง

หากต้องตายไปเช่นนี้ ความจริงก็มิได้รู้สึกเจ็บปวดและ

เสียใจมากเท่าไรนัก

คิดได้เช่นนน เหยียนหลังจวินจึงเบาใจ สติที่ฝันประคอง ค่อยๆ ผ่อนคลายลงในที่สุด ก่อนจะหมดสติไม่รับรู้สิ่งใด

สายตาของสวนหยางหยุดนิ่งอยู่บนใบหน้าของเขาเป็น นาน ในสมองมีคลื่นลูกโตโหมกระหน่ำ ไม่อาจสงบลงได้แม้เพียงนาทีคาดไม่ถึงว่า จะเป็นเขา?!

เบนเขา…

จริงๆ ใช่ไหม?

เหยียนหลังจวนในชาติก่อน เบื้องหลังลึกลับ ชวนให้คน

ปวดหัวขบคิด

ครานัน ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ท่านพ่อรับราชโองการให้

นำทัพมาที่นี้ ท่านชายใหญ่เหยียนที่เกิดจากชายา

เอกในอ๋องหนานเหอเสด็จลงรองของนาง ได้พาพี่สาวฝาแฝดของ เขาหลังอานหรือก็คือท่านหญิงอันเล่อเดิน

ทางไปหลินฮุ่ย กลับไปเยี่ยมสกุลเจิงซึ่งเป็นบ้านเก่าของ

พระชายาเอก ในอ๋องหนานเธอนั่นเอง

หลังจากที่เกิดเรื่องกับเฟิง พวกนางก็รีบกลับเมือง

หลวงเพื่อหาหมอมารักษา แต่พวกเหยียนนั้นกลับมา

เมืองหลวงล่าช้าไปถึงครึ่งเดือน คราบนขบวนใหญ่ที่ร่วม

ทางไปก็ได้พาเหยียนหลังจนที่บาดเจ็บหนักและยังไม่

หาย กลับมาด้วย

ตอนนั้นพวกเขาอ้างว่าระหว่างทางได้ช่วยบัณฑิตตกอับ

ผู้นี้ เอาไว้บาดแผลเต็มตัว ครอบครัวตกต่า และไม่มี

ความสัมพันธ์ใดๆ กับตนหญิง อาศัยความโปรดปราณที่

องเขามีต่อนาง เข้า

วังไปอ้อนวอนหลายต่อหลายครั้ง ในที่สุดของเขาก็ประทานพระราชโองการเป็นการยกเว้น ให้เหยียนหลัง

จานแต่งเข้าสกุลมาเป็นราชบุตรเขย

เหยียนหลังจนไร้คนหนุนหลัง เป็นเพียงชาวบ้าน ธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่ในกลุ่มขุนนางถือว่าเป็นผู้มี ปฏิภาณฉลาดเฉลียว มีทั้งทรัพย์สินและอำนาจ ผ่านไป ไม่ถึงสามปี จากขุนนางเล็กๆ ไร้อำนาจในกรมอาญา ก็ ค่อยๆ ไต่เต้าจนได้ขึ้นมานั่งเก้าอี้ ที่สูงสุดของหนึ่งในหก กรม กลายเป็นเจ้ากรมอาญาผู้มีอำนาจตัดสินความเป็น

ตายสูงสุดของแคว้นซีเยาวตอนนสวนหยางก็เคยคิดสงสัย แซ่เหลี ยนหลิง หา

ยากยิ่งกว่าอะไรดี อย่างน้อยผู้คนมากมายที่นางเจอมา ทั้งหมดก็ไม่เคยพบคนที่สองอีก แต่พวกเหยียนพี่น้อง

กลับรู้ดีตั้งแต่แรกว่าเหยียนหลังจนไม่มีญาติพี่น้องทั้ง

เน้นว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกตน ดังนั้น นางถึง

ไม่เคยสืบต่อ

ดูท่าแล้ว คงมีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่จริงๆ

หลินสุ่ยอยู่ทางชายแดนตะวันออกเฉียงใต้ของเยว ส่วน

ที่นี่ดังอยู่เขตภูเขาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ สองแห่งห่าง

กันมากกว่าพัน เหยียนหลังจนบาดเจ็บปานนน จะใช้เวลาเพียง

ไม่มีวัน

เร่งเดินทางนับพัน จนไปเจอกับเหยียนพี่น้องได้อย่างไร

ดังนัม ความเป็นไปได้จึงมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ…

จริงๆ แล้วเหยียนก็ไม่ได้คุ้มครองพี่สาวกลับไปเยี่ยม

บ้านเก่า พวกเขาอยู่ที่นี่ ตอนนี้ พวกเขาต้องอยู่ที่ไหนสัก

แห่งบริเวณชายแดนของซีเยวกับหนานฮวา

มิน่าถึงได้บังเอิญขนาดนั้น พอพรองออกจากค่ายไปก็

ถูกคนของหนานฮวาเล่นงาน ก็ชัดเจนแล้วว่า….สวนหยางยิ่งคิดก็ ยิงเย็นวาบ ในใจยังตื่นตระหนก

เหยียน ฝีมือวางหมากของเขาเก่งกาจนัก เพียงอุบาย

เดียวของเขาก็เริ่มต้นมายาวนานตั้งแต่หกปีก่อน แอบซัก

ใยอยู่เบื้องหลัง ผลักดันแผนร้ายที่น่าตื่นกลัวฉากหนึ่ง

นัยน์ตา สวินหยางเกิดแสงเย็นเยือกแวบผ่าน ไอสังหาร

พลันพุ่งสูง น

ตอนนี้ จูหยวนซานถือผ้าพันแผลกลับมาแล้ว เอ่ยว่า “ยัง

ที่ออกมานอกค่ายคร้งแรก สิ่งของที่ใช้รักษาอาการ

อย่างยาจินวงกับผ้าพันแผลล้วนติดตัวมาทั้งสิ้น องค์

หญิง อภัยที่ขาน้อยล่วงเกิน ต้องช่วยท่านพันแผลไปก่อน” “เดียว ข้าทำเอง” สวนหยางรับผ้าพันแผลมา ทางหนึ่งก็

พันแผลไปอย่างง่ายๆ อีกทางหนึ่งก็หันไปสั่งการ “นาย กองไปดูว่าคนผู้นั้นยังเหลือลมหายใจอยู่หรือไม่ พวก

เจ้าสองสามคน ไปตรวจร่างของอันธพาลพวกนั้นด้วยว่าพบอะไรเพิ่มเติมไหม คนพวกนี้ ได้รับการฝึกมาอย่างดี

ดูแล้วน่าสงสัย” “ขอรับ!” ทุกคนรับคำสั่ง รีบแยกย้ายไปจัดการ

จูหยวนชวนลองฟังลมหายใจของเหยียนหญิงจนอยู่

หลายครั้ง ๆ ยังพลิกเปลือกตาตรวจดูสองสามรอบ ท่าทางสงสัย

ไม่เข้าใจอย่างที่สุด “คนยังไม่ตาย บาดแผล

บนร่างส่วนใหญ่เป็นแค่บาดแผลภายนอก แต่แผลใต้

โครงค่อนข้างลึก เสียเลือดมาก ฝันใช้พลังมากเกินไป

เวลาเดียวกัน องครักษ์ด้านหลังที่กำลังตรวจค้นชุด

อันธพาลสองสามคนก็ตะโกนบอกว่า “องค์หญิง เสื้อผ้า ด้านในที่คนพวกนี้ ใส่อยู่คือชุดทหารของชาวหนานฮวา”

ชาวหนานฮวา?

สวนหยางพยายามควบคุมอารมณ์ ควสวยขมวดหา

กันอย่างไม่รู้ตัว ย่อกายทรุดตัวลงข้างๆ เหยียนหลังจ

น จับจ้องที่ดวงหน้าเขาพลางเอ่ยเสียง “หมายความว่า เขาอาจจะ

เป็นชาวหนานฮวา”

จูหยวนซานได้ยินดังนั้นก็พลันคิดอะไรออก รีบลงมือค้น

ทั่วร่างของเหยียนหลังจวิน “บนตัวเขาไม่มีสิ่งของที่พอ

จะบ่งบอกตัวตนได้ คงยากจะสรุป แต่ถ้ามีความเกี่ยว

ข้องกับชาวหนานฮวา เรืองราวก็ยิ่งจะซับซ้อน จาก

สภาพของเขาตอนนี้ ถ้าทิ้งให้เขานอนอยู่ที่นี่ ก็คงอยู่ได้

เพียงหนึ่งถึงสองชั่วยามเท่านั้น” “หนึ่งถึงสองชั่วยาม?” สวนหยางเอ่ยเสียงเบา

หากเป็นเช่นนั้น นั่นก็หมายความว่ามากที่สุดไม่เกินหนึ่ง

ช่วยาม รถม้าของ หลิงอวี นจะต้องผ่านมาทางนี้ “ในเมื่อเจอแล้ว

นกช่วยเขาสักชีวิตเถอะ!” สวนหยาง

เอ่ย เพียงพริบตา สายตาเย็นเยือกพลันมีความเจ้าเล่ห์

เข้าผสมปะปน

เหยียน ในเมื่อเจ้ากล้าลงมือกับพี่รองของข้าอย่าง

โจ่งแจ้ง จะมาโทษว่าข้าใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันกับเจ้า

ไม่ได้!

หมากกระดานนี ของพวกเรา ถึงเวลาเริ่มเล่นอย่างจริงจัง

เสียที!

[1] ยาจีนซวง เป็นสูตรยาของแพทย์แผนจีนที่ใช้สำหรับ

บาดแผลภายนอก ซึ่งเกิดจากอาวุธมีคนจำพวกโลหะ

เช่น ธนูหรือดาบ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ