สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย

บทที่ 2 เลือดชโลมลาน



บทที่ 2 เลือดชโลมลาน

บทที 2 เลือด โลมลาน

ตอนทีฉู่ฉีฮุยล้มลงพื น ดวงตายังเบิกกว้างอย่างมิอาจทำ

ใจให้เชื่อได้…เป็นไปได้อย่างไร น้องสาวกับท่านพ่อ

ผูกพันลึกซึ้ง ทำไม? ทำไมนางถึงได้ฆ่าท่านพ่อด้วยมือของนางเอง

ได้ลง?

ในตอนนั้นเอง กองทหารที่ปิดล้อมอยู่รอบลานประหาร

พากันหยุดหายใจ ต่างคนต่างกระชับทวนที่อยู่ในมือ

แน่น สายตาท้งเตรียมพร้อม ทังขลาดกลัว…

ท่านหญิงสวนหยางคนนี้ ท่าจะบ้าไปแล้ว!

สวนหยางกลับไม่ได้ใส่ใจกับปฏิกิริยาของผู้คน หลัง

จากที่กระชากทวนกลับมา ก็พลันหรีตาเพ่งมอง ค่อยๆ

เงยหน้ามองย้อนแสงไปทางเรือนหลังน้อยซอมซ่อซึ่งตั้ง

อยู่เยี คงไปไม่ไกลจากแท่นประหารตรงนี้ มีแสงแดดเพียงพอที่จะ

มองเห็นเป็นบุรุษหนุ่มใน

ชุดผ้าไหมสีท้องฟ้ายืนซ่อนกายอยู่ใต้แสงตะวัน สายตา

บจ้องมาทีนาง

ชันบนกับบนล่าง ห่างกันเพียงไม่ก็งง เท่านั้น แต่คล้าย

จะไกลกันดังมีมหาสมุทรก้นขวางสายตาที่มักเยือกเย็นไร้อารมณ์ของคู่สวินหยางพลันมี

หมอกหนาปกคลุม ความสนใจทั้งหมดพุ่งไปที่ชายวัย

กลางคนข้างๆ เขา ซึ่งถูกมัดมือไพล่หลังและมีทหาร

หลวงสองนายคุมตัวเอาไว้อยู่

“ท่านพ่อ!” สวนหยางกระซิบแผ่ว น้ำตาหยดโตพลันร่วงลงมาจาก

กรอบตา

ในเวลาเดียวกัน ทหารเกราะทองร้อยกว่านายก็กรูกัน

ออกมาจากเรือนหลังเล็ก ล้อมสกัดนางเอาไว้ทั้งสาม

ด้าน

ยังไม่ทันจบค่า ทวนยาวพลันพุ่งออก แทงทะลอกทหาร

เกราะทองที่อยู่ใกล้นางที่สุด

บนระเบียง เหยียนหน้านิ่งดัง สองมือไพล่หลังหยุด

ตรง มองดูเงียบๆ ไร้วาจา

ฝีมือสังหารคนของ สวนหยางเรียบง่ายรวบรัด ไม่มากท่าฟรี พิไร นี

คือทักษะทีนางได้จากการเดียวกราควบม้า

อยู่กลางสนามรบเป็นเวลาหกปี…

ทันทีที่ทวนพุ่งออกไป ไม่มีใครหนีรอด

ผู้คนมักจะพูดว่าสิบก้าวสังหารหนึ่งคน ตอนนี นางก้าว

เท้ายากลำบาก แต่ทวนที่พุ่งออกไปล้วนแต่ได้เลือด ไร้

ข็งความปราณี

สายตาเฉยเมยและน่ากลัวของสตรีแกร่งผู้นี้ ทำให้ผู้คนที่ได้พบขยาดกลัว ในใจหนาวยะเยือก

ทหารเกราะทองจำนวนมากนอนเสือโชกเลือดอยู่แทบเท้านาง นาง

เหยียบลงบนศพของพวกเขา ก้าวคีบไปข้าง

หน้าอย่างยากลำบาก เข้าใกล้เรือนหลังน้อยทีละก้าว

อย่างไม่ละพยายาม

ด้านหลังยังมีทหารอีกมากทีเรียงแถวรอดาหน้าเข้าใส่

นางลงมือซ์อีกครั้ง ใช้กระดูกสีขาวของพวกเขาเป็น

ทางสําหรับก้าวต่อๆ ไป

เหยียนที่อยู่บนเรือนหลังน้อยหลับตาลง สดับฟังเสียง

ฆ่าฟันเบื่องล่างด้วยดวงหน้านิ่งเฉย ในใจก็กำลังนับเลข หนึ่ง สอง สาม… ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนับถึงสามร้อยหก สิบเจ็ด หว่างคิวกระตุก พลันเบิกตาขึ้นอย่างไม่มีสัญญาณ ขณะนั้นเอง เป็นครั้งแรกที่นายทหารซึ่งถูกทวนยาวของ สวนหยางแทงเข้าใส่ แล้วบาดเจ็บเพียงบริเวณท่อน

แขนเท่านัน

“หยุดมือ!” ชายหนุ่มส่งสายตาเย็นชา พลันตวาดเสียง

น่ากลัว “ทุกคนหยุดมือ!

เหล่าทหารเกราะทองตัวสั่นเทา แม้จะหยุดมือแล้ว แต่ก็

ยังไม่กล้าประมาท ดังป้องกันอย่างตึงเครียด

สวนหยางก็ลดทวนในมือลงเช่นกัน เงยหน้า นมองเขาอย่างเป็น

ชา ให้ข้าคุยกับท่านพ่อไม่กี่ประโยค คุยจบแล้ว ข้าให้เจ้าสำเร็จโทษตามใจ

เหยียนเม้มปากแน่น ไม่เอ่ยความ สวนหยางแหงนหน้ามองดวงหน้าที่นางแสนจะคุ้นเคย สุดท้ายเผยแค่รอยยิมเศร้าออกมา จู่ๆ ก็ยกมือขึ้นสูง ทวนในมือกระทบแสงวับวาว ทหารเกราะทองทีโอบ ล้อมอยู่พากันตกใจขวัญหนี สถานการณ์ตึงเครียด วินาทีต่อมา กลับเห็นนี้วมือของนางค่อยๆ คลายออกที่ ละนิว ทีละนิวเสียงโลหะกังวาน ทวนยาวร่วงลงพื้น ทุกคนต่างเบิก

คา มองด้วยสายตาเหลือเชื่อ สิ่งที่ตามมาคือ เสียงถอน หายใจของเหยียนจากด้านบนของเรือนหลังน้อย “พระราชโองการของฮ่องเต้ สั่งให้สังหารคนในวังบูรพา ทั้งหมดไม่มียกเว้น ข้าสามารถทำตามความปรารถนา สุดท้ายของเจ้าได้ แต่ว่า…” เขาเอ่ยไปได้ครึ่งเดียว ทันใด นนก็พลันเปลี่ยนเรื่อง ยกมือ นิ วสั่งด้วยเสียงเงียบ ขาดว่า “แทง กระดูกสะบัก [1] ของนาง ท่านหญิงสวนหยางฝีมือล เลิศ อาศัยแค่กำลังของนาง คนเดียวก็สามารถทะลวงออกจากวงล้อมนับหมื่นพัน

ของกองทหารได้ วันนี้ ถึงขนาดสังหารทหารหลวงนับร้อย ล้มลงแทบเท้า ท่ามกลางลานประหารที่สำคัญของเมืองหลวง หาก

ยังทําลายพลังการโจมตีของนางไม่ได้ ใครจะกล้าวางใจลง

นัยน์ตาของสวนหยางเย็นใส ไม่ปรากฏคลื่นอารมณ์แม้

ลักร ว

ดรุณียึดหลังตรงแน่ว ยืนอยู่ท่ามกลางซากศพที่เลือด นองเต็มพี นอย่างไม่หวั่นเกรง มองดูสหายที่ตายอนาถ อยู่แทบเท้า นัยน์ตาของเหล่าทหารเกราะทองเปลว เพลิงเผาไหม้ลุกโชน

ตอนทีตะขอเงินคมกริบแทงทะลุไหล่บางทว่าดี อานน น เอง ผิวเนื้อฉีกขาด เสียงสยดสยองกรีดแทงจนหนังศีรษะขาหนีบ ตอนทีตะขอเงินทะลุผ่านร่างเนีอออกไป เลือดสดๆ กระเซ็นซ่าน สัมผัสโดนผิวหน้าของสวนหยาง สิ่งที่ร่วง หล่นบนพินพร้อมๆ กัน คือหยดนาตาของรัชทายาทองค์ ปัจจุบันที่อยู่บนเรือนหลังน้อย

นางเป็นลูกสาวของเขา เขาเคยสาบานว่าจะปกป้องและ ดูแลนางไปชั่วชีวิต แต่วินาทีนี้ ไม่เพียงจะปกป้องนางไม่

ได้ ยังทำให้นางต้องมาเสียงอันตรายเพราะเขาเพียง

ลำพัง ผ่านข้ามเคราะห์กรรมความเป็นตายด้วยความ อัปยศและน่าเวทนา สวนหยางถูกตะขอเหล็กแทงทะลุแผ่นหลัง แม้

จะกัด

ฟันทนอย่างสุดชีวิต แต่ก็ยังอดจะครางออกมาไม่ได้เหงือเม็ดโตกลงลงมาจากหน้าผากอย่างไม่ขาดสาย ร่างบาง โอนเอน เข่าข้างหนึ่งกระแทกลงพื้นดังตับ นางก้มศีรษะ สองมือยันพื้น ไม่ขยับเขยื้อน โลหิตพรั่งพรู ออกจากบาดแผล ไหล่ทั้งสองข้าง ชะโลมย้อมหัวเกราะ อ่อนบนตัว เลือดอุ่นไหลตามแขนลงไปหาฝ่ามือ เมื่อเจอ กับพืนดินที่ผ่านการแผดเผาจนร้อนของดวงอาทิตย์ก็ เกิดเป็นรอยประทับที่ยากจะลบเลือน

นางผ่านสนามรบมานานถึงหกปีเต็ม ยังไม่เคยเสียเลือดมากขนาดนี

มาก่อน

ถึงแม้จะรู้ว่านี่เป็นกับดัก แต่สุดท้ายนางก็มิอาจทนมอง

บิดากับพี่ชายต้องเดินทางสู่แม่น้ำเหลืองสายนันอย่าง

โดดเดียวได้

เหยียนมองดูอยู่บนเรือนหลังน้อย นัยน์ตาเบื้องลึก

พลันดำมืด แล้วส่งสายตาให้ทหารข้างกาย เอ่ยว่า “เอา

ตัวลงไป!”

ทหารสองนายรับคำสั่ง คุมตัวรัชทายาทอี อันที่ไร้ซึ่ง

กำลังและถูกมัดมือไพล่หลัง เดินไต่บันไดด้านหลังลงไป สวนหยาง ฮ่องเต้ทรงรู้ว่าเจ้าจะต้องมา ถึงได้สั่งให้ข้า

วางกับดัก หวังจะถอนรากถอนโคน!” เหยียนเอ่ย ปาก น่าเสียงนิ่งสงบไร้คลื่นลม สิ่งที่ข้าทำได้ ก็มีเพียง

เท่านี้ เวลาที่ทำให้เจ้าได้มีจำกัด เจ้าอยากจะพูดอะไรก็บๆ เข้าเถอะ!”

กล่าวจบ ก็หมุนกายเข้าไปที่ด้านหลังของเรือนหลังน้อย

เก็บตัวไร้เงา

ไม่นาน อี อันก็ถูกนายทหารสองคนผลักออกมาจาก

เรือนน้อยหลังนัน

สติของสวนหยางค่อนข้างจะเลือนราง พอได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคย

ถึงได้เงยหน้าขน

ทหารสองนายนันไม่ให้นางสัมผัสถึงตัว อัน พวกเขา

หยุดเท้าลงตรงหน้าของนางห่างออกไปสองก้าว

สวนหยางคุกเข่าอยู่บนพื้น เพราะว่าเสียเลือดและเจ็บ

แปลบ ต่อให้แข็งแกร่งดังเหล็กเพียงใด ก็ยากจะยันตัว

ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาได้

นางเต้นแรงกำมือแน่นพลางเงยหน้า เห็นว่าหว่างคิวของ

อี อันมีรอย กระจุกตัวอยู่แน่นหนา ในใจก็พลัน กระจ่างแจ้งเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ พวกมันบังคับให้ท่านพ่อ

ดื่มยาพิษซึ่งจะกำเริบภายในเวลาที่กำหนดไว้เรียบร้อย

แล้ว

ดังนั้น หากวันนี้ นางไม่ยอมตายอยู่ที่นี่ แต่คิดจะมาซึ่งตัว

คนจริงๆ สุดท้ายสิ่งที่นำไปได้ก็มีเพียงศพๆ หนึ่งเท่านั้น “ท่านพ่อ ข้ามาช้าไป!” สวนหยาง หินเป็นครั้งแรก แต่เกิดมา ทรอยยิมของนางไม่องอาจ

ถึงผาย แต่เป็นความจนใจอย่างถึงที่สุด

อี อันมองนางผ่านม่าน ตา มองดูรอย มเจ็บปวดอันไม่คุ้นเคย ที่อยู่บนใบหน้า ในใจเหมือนถูกมีดกรีดแทง

ผ่านไปพักหนึ่ง ถึงได้หลุดค่าออกมาอย่างรวดร้าวว่า

“เด็กโง่!”

ได้ยินเสียงของบิดา รอยยิ้มในดวงตาของสวนหยางถึง

ได้ค่อยปรากฏ ก่อนจะกลายเป็นความเจิดจ้า ในเสียว ช่วยท่านออกไปไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องมาเจอท่านเป็นครั้ง

วินาที “ลูกไร้กำลัง ลูกทำผิดต่อท่านพ่อ! วันนี้ ต่อให้ข้า

สุดท้าย

อี อันตะลึงไปครู่หนึ่ง มองดูรอยยิ้มบนหน้านางอีกครั้ง

หัวใจก็ยังร้าวราน…แท้ที่จริงแล้ว นางมองออกว่ามีอะไรรออยู่ใน

นาฏกรรมฉากนี้ แต่ท้ายที่สุด นางก็ยังปรากฏตัวขึ้น

อย่างไม่สนใจสิงใด

ในสมองอัดแน่นไปด้วยความระทม ราวกับว่าอะไร บางอย่างกำลังจะแตกสลาย ๆ อี อันก็กระอักเลือด

ต่าคล่าออกมา

นายทหารสองคนไม่ทันตั้งตัว กำลังจะเข้าไปดึงตัวออก

มา แต่ร่างของเขากลับล้มตึง กระแทกกับเศษดินบนพื้นอย่างแรง นอนกองอยู่ข้างกายของคู่สวนหยาง

สวนหยางยื่นมือออกไปลูบใบหน้าเขา นัยน์ตามรอย มล้นปรี

หยาดน่ เตาชวงงกันในลงมาอย่างไม่ขาด

สาย ใช้เสียงแผ่วเบามันคงเอียหารือกับเขาอย่างไม่รีบ

ร้อนว่า “ท่านพ่อ! หากชาติหน้ามีจริง ข้าก็จะเป็นลูกสาว

ของท่านอีก หรือไม่

จมูกและปากของอี อันมีเลือดดำทะลักออกมาอีกครั้ง

แววตาเลือนรางเจ็บปวด มองนางเนิ่นนานอย่างเงียบๆ

ก่อนทีสติสุดท้ายจะดับสินไป สวนหยางได้ยินมีค่าที่

ท่านพ่อใช้พลังชีวิตสุดท้ายเอ่ยลอดริมฝีปากมาว่า “

นเป้า ! ต้องรอด!

[1] การแทงที่กระดูกสะบัก เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีในการ ควบคุมนักโทษ การใช้ตะขอแทงเข้าไปที่บริเวณนั้น จะ ไม่ทําให้เลือดออกมาก ไม่ส่งผลต่อการเดินเหิน เป็นการ ทําลายช่วงแขน ส่งผลให้ไม่อาจทำการขัดขืนหรือวิ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ