สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย

บทที่ 3 ทะเลเพลิงฝังศพ



บทที่ 3 ทะเลเพลิงฝังศพ

บทที่ 3 ทะเลเพลิงฝังศพ

ห้องลับใต้ดินมืดสลัวถูกจัดการใหม่ เตียงแกะสลักมีผ้า

ห่มไหม เทียนแดงสว่างจ้า ของประดับทุกชนมีแต่ความ

หรูหราประณีตสวนหยางพิงอยู่ที่มุมหนึ่งของกำแพง เข่าข้างหนึ่ง

ขึ้น นั่งอย่างสงบด้วยท่วงท่าสบายๆ ไร้กิริยา แสงเทียน

บนโต๊ะด้านข้างแต้มสีแดงแปลกๆ ลงบนดวงหน้าซีด

เผือดของนาง

นัยน์ตาของนางสุกใส ทว่าว่างเปล่า หน้าแหงนขึ้นเล็ก

น้อย เหม่อมองใยแมงมุมกระจกหนึ่งบนคานที่ไม่ได้รับ

การเช็ดถู

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ก็มีเสียงฝีเท้าที่มันคงเป็น

จังหวะลอยมา ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรง

บันไดปากทางเข้าเขาก้าวเท้าเดินลงมา โบกมือให้สาวใช้สองคนที่

เฝ้าอยู่

หน้าประตูออกไปก่อน

สวนหยาง ใช้หางตาเหลือบมองเขาที่หนึ่ง แต่ยังพิงตัว

กับผนังไม่ขยับเขยือนต่างจากท่าทีเขาเด็ดขาดบนเรือนหลังน้อยในวันก่อน

เหยียนกลับมีท่าที่เคร่งขรึม เดินตรงมาหยุดที่เมือง

หน้านางอย่างไม่ลังเล ทรุดตัวนังบนส้นเท้า เอ้อมมาคว้า

มือข้างหนึ่งของนางไปกุมไว้

*สวนหยาง อย่าโทษข้าเลย เพื่อปกป้องเจ้า ข้าก็ทำได้เพียงเท่านี้ ฉู่ฉีเหยียนกล่าว “ฮ่องเต้มราชโองการ ให้

ประหารคนของวังบูรพาไม่ให้เหลือ ต่อให้ข้าไม่ทำ ก็ต้อง

มีคนอื่นทำอยู่ดี” “พรองล่ะ?” สวนหยางไม่เคลื่อนไหว แม้แต่

อารมณ์บน

หน้าก็ไม่เปลี่ยนสักนิด เพียงโพล่งถามออกไปอย่างตรง

ประเด็น “เมื่อวานที่ลานประหาร ข้าไม่เห็นเขา” “สวนหยาง… เห

ยียมถอนหายใจเฮือก แสดงท่าทาง

จนปัญญาและรักใคร่เหลือแสน ลุกขึ้นไปนั่งที่ข้างกาย

ออกแรงกุมมือนาง แล้วถึงเปิดปากด้วยความกลัดกลุ้ม

ว่า “กลางดึกวานซืน ที่ห้องลับวังบูรพา ก่อนที่คนในวัง

เจ้าจะถูกคุมตัวไปลานประหาร เขา… ฮ่องเต้ พระราช

ทานสุราพิษให้เขาดื่มแล้ว” “เหอะ…” สวนหยางได้ยินดังนั้น ก็สบา

ออกมาหนึ่งคํา

อย่างไม่ยี่หระ หลับตาลงพร้อมเหยียดยมเย้ยหยัน

“สวนหยาง!” เหยียนกำมือนางแน่น น้ำเสียงยิงฟังดู หมดหนทาง “นิสัยของฮ่องเต้เจ้าก็รู้ดี ถึงแม้จะทรงโปรดปราณ เฟิงมาโดยตลอด แต่ยังรักมากย่อมต้องแค้น

มาก ทรงรู้แล้วว่า เฟิงเป็นบุตรกำพร้าที่ราชวงศ์ก่อนที่ง

เอาไว้ เจ้าก็รู้ดีว่าจุดจบมันจะต้องออกมาเป็นเช่นนี้ ” เรื่องราวมาถึง ช่นนี้ เจ้าก็ยังจะหลอกข้า?” สวนหยาง

ลืมตาอีกครั้ง คลื่นอารมณ์ในดวงตาซัดโถมเป็นเงาวูบ

วาบ เจือความรู้สึกโศกเศร้าอาดูร นางจ้องมองดวงหน้า

หล่อเหลาที่อยู่เบื้องหน้า เอ่ยแต่ละคำ ออกมาด้วยความชัดเจนแช่ม ช้า “ข้ากับพีรองเติบโตด้วยกันมาแต่เด็ก ตัว

ติดกันเงาไม่เคยห่าง เขาจะใช่หรือไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของท่าน

พ่อ ไม่มีใครรู้ดีมากไปกว่าข้าหรอก”

นัยน์ตาของเหยียนมีรอยวูบผ่านรวดเร็ว แม้บนใบ หน้าจะไม่ได้เผยพิรุธ แต่ในใจเหมือนมีเชือกเส้นหนึ่ง

กำลังบีบรัดอยู่

“เจ้ารู้หรือ?” ฉู่ฉีเหยียนถาม คิวเข้มขมวด สีหน้าซับซ้อน

“พวกเขาล้วนเป็นครอบครัวข้า สวินหยางมองตรงเข้า ไปในดวงตาเขา เผยมให้อย่างช้าๆ รอยยมที่สุดแสนจะ

เปล่าเปลี่ยวและวังเวง “ในบุตรธิดาของท่านพ่อ หากจะมีใครสัก คนที่เป็นกากเดน ในราชวงศ์ก่อน เช่น ค่า

ตอบก็มีเพียงอย่างเดียว คนๆ นั้น คงต้องเป็นข้า

ความหนักแน่นของนาง ไม่เหลือให้ใครได้สงสัยแย้ง

ความทังสินแววตาของเหยียนวาบไหว สายตาจ้องเขม็งอยู่ที่ใบ

หน้าของนาง แต่ผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่ได้เปิดปากพูดสัก

ประโยค

ผู้หญิงคนนี้ ทั้งกล้าและทะนงตน ที่หาได้ยากยิ่งกว่านั้น

คือความว่องไวในการสังเกตและความเฉียบขาดในการ

ตัดสินใจที่อยู่สูงเหนือคนปกติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทหารหรือ

ราชการต่างๆ ก็ตามที่

มันเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน เพราะนับแต่นางไป

บัญชาการทัพอยู่ที่ชายแดนแคว้นหนานฮวาด้วยตนเอง

นานถึง ปี นางไม่เคยปราชัยในศึกครั้งใด

เขาชอบความงดงามและความเฉลียวฉลาดของนาง น

ชมความเด็ดขาด ห้าวหาญของนาง ลุ่มหลงนางจนถอน สิ่งที่มากกว่านั้น มันคือความหวาดกลัว ไม่มีสักนาที ที

ตัวไม่มี น ราวกับ โดนมนต์ตรายใส่ แต่ขณะเดียวกัน…

เขาจะหยุดเตรียมพร้อมไม่ป้องกันตัวเพราะมักจะมีความรู้สึกเกาะกุม อยู่เสมอๆ สตรีผู้นี้ หญิง

ผยอง ไม่ใช่คนที่เขาจะสามารถควบคุมเอาไว้ในฝ่ามือได้

ตอนนี้ ก็ประเสริฐยิ่งแล้ว นางสูญเสียคนหนุนหลัง ไร้ที่พึ่ง

พ แม้แรงจะพลิกฝ่ามือโจมตีก็ไม่มีเหลือ ในที่สุดเขาก็

สามารถครอบครองบางได้โดยไร้ความกังวล

“สวนหยาง มันผ่านไปหมดแล้ว” ในใจสอบถอนหายใจ

ข้ออย่างผ่อนคลาย เหยียน โอบนางไว้ในอ้อมแขนอย่าง

แผ่วเบา “เมื่อวานนี้ ข้าจัดการส่งนักโทษหญิงที่รูปร่าง

คล้ายเจ้าไปรับโทษกับฮ่องเต้แทนแล้ว ไม่ว่าความจริง

ของเรื่องนี้ จะเป็นเช่นไร จะไม่มีใครบนโลกนี้ ได้ล่วงรู้ ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รงอยู่ข้างกายข้าอย่างสบาย

ใจเถอะ รอจนถึงเวลาที่ข้ามแดนออกไปได้แล้ว ข้าจะให้ฐานะใหม่ แก่เจ้า ส่วนเรื่องราวในอดีตพวกนั้น ลืมมันไป

ให้หมดเสีย

อู่สวินหยางปิดตาลง สายศีรษะอย่างไร้เยื่อใย “ผ่านมา ขนาดนี้ แล้ว เจ้าก็ยังไม่เข้าใจ เจ้าคิดว่า หลังจากที่รู้ว่า

พวกเขาต้องมาตายเพราะข้าแล้ว ข้าจะยังใช้ชีวิตต่อไป อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรได้อีกหรือ” “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะเป็นเช่นนี้

และก็กลัวที่สุดว่าเจ้าจะ

เป็นเช่นนี้ ” เหยียนมันคิว สองมือกุมไหล่ของนาง ใช้

แววตาเจ็บปวดจ้องมอง “สวนหยาง ความคิดของเสด็จ

อาเจ้าน่าจะเข้าใจดีกว่าใครๆ เพื่อที่จะปกป้องเจ้า แม้แต่

ชีวิตเขาก็พร้อมจะสละให้ได้ ตอนนี้ ไม่ง่ายกว่าจะได้ทาง

รอดสุดท้ายมา หากเจ้าไม่รักษาชีวิตไว้ จะไม่ละอายใจต่อหลายร้อย

ชีวิตของวังบูรพาที่ต้องเสียไปหรือไง?” “ซ้ายังควรจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหรือ

มุมปากของสวนหยาง

มีรอยยิมเจิดจ้าติดอยู่ตลอด แม้ดวงหน้าจะซีดเผือด แต่ก็ยากจะปกปิดความสง่าบนใบหน้า ยิ่งขับให้ดู

สะคราญ ยูโดดเด่น

หัวใจของเหยียนคล้ายจะหยุดเต้นไปขณะหนึ่ง

สวนหยางผลักเขาออกแล้วหยุดกายลุกข์น ปลายนิ้ว

เรียวคลากผ่านรอยแตกของอิฐบนผนังด้านข้าง จาก

นั้นเดินไปหยุดที่โต๊ะกลางห้อง มือหยิบการยก แล้วริน

เหล้าใส่สองจอก เหยียนลุกเดินตามไป มอง วงามที่สะท้อนเป็น

สีสวย

อยู่บนกาหยก คล้ายตกอยู่ในพะวังความคิด

สวนหยางหยิบจอกเหล้าที่รินเสร็จแล้วส่งไปให้ด้าน

หน้าเขา “มาส่งท่านพ่อเป็นเพื่อนข้า

เหยียนซะงักงุนงง แต่สุดท้ายก็ยื่นมือออกไปรับ ส

นหยางหัวเราะ แหงนหน้ากระดกเหล้าหมดจอก จากนั้น

ก็หยิบกาย นมา เทเหล้าที่เหลืออยู่ด้านในลงบนพื้น

เหยียนไม่อาจเลี้ยง จึงได้แต่ลืมลงไปเท่าน นมุมปากยกข์ นหัว

เราะเบาๆ สวนหยางพลันกวาดสาย

ตาไปรอบๆ ห้องเอ่ยว่า “นี่เป็นห้องลับด้านหลังห้อง

หนังสือของท่านพ่อข้า เจ้าสามารถจัดการให้ข้ามาอยู่ที่

นี้ได้ แสดงว่าตอนนี เสด็จลุงรองน่าจะนั่งเป็นประมุขของ

วังบูรพาแล้ว ยินดีกับเจ้าด้วย ท่านห่วงจ้างซุน…คน

ใหม่!ตอนจบประโยคน เสียงของนางคล้ายเจือเสียงหัวเราะ

ถูกใจ

สีหน้าของฉู่ฉีเหยียมบิดเบี้ยวตั้งแต่ได้ยินประโยคแรก ของนาง คงประหลาดใจมากสินะว่าข้ารู้จักห้องลับนี้ได้ยังไง? สวนหยางเพียงแค่มบางๆ “ท่านพ่อไม่เคยมีความลับ กับข้า เช่นเดียวกัน ในวังบูรพาแห่งนี้ ก็ไม่มีความลับใดที่ ข้าจะไม่รู้” “สวนหยาง…เจ้า… หัวสมองราวกับมีเลือดตีกลับขึ้น ฉับพลัน ฝีเท้าของเหยียนซวนเซ ถอยหลังไปสองก้าว อย่างระวังภัย

“ข้ารู้ว่าเจ้ามัน ระแวง ก่อนที่จะส่งข้ามาที่นี่ก็คงจะเอา สิ่งของทีติดตัวข้ามาออกไปหมดแล้ว แต่ว่าในห้องลับ เล่า?” สวนหยางหัวเราะ สายตามองไปทางรอยแตก

บนผนังที่นี่ วมือเคยได้ผ่านอย่างบอกเป็นนัย เจ้าคิดว่าแทงกระดูก สะบักแล้ว ทำลายวรยุทธ์ข้าแล้ว

ข้าก็ทำอะไรต่อมิอะไรไม่ได้แล้วหรอ? ถ้าข้าจะฆ่าคน จะ

เวลาไหน จะสถานที่ใด ก็ย่อมทําได้ทั้งนี้ น” “ทำไม… อวัยวะ

ภายในแปรปรวน ราวกับว่ากำลังถูก

ฉีกออกจากกัน ใบหน้าของเหยียนเปลี่ยนไปเป็นอีกสี

“เพื่อเจ้า ข้ายอมถอยให้จนถึงที่สุดแล้ว เพื่อที่จะช่วย

ชีวิตเจ้าให้ได้ แม้แต่ราชโองการของฮ่องเต้ก็ยอมชัด แต่

เจ้ากลับตอบแทนช้าแบบนี้ ?” “ฮุยตาขาวขนาดไหน ฝีมือมีเท่าไรข้าย่อมรู้ดี ถ้าไม่มี

คนเบีองบนคอยกระตุ้นเขาลับหลัง เขาท่าเรื่องเช่นนี้ ออก

มาไม่ได้หรอก ทีนี้ เจ้าก็เลิกแสดงละครเสียทีเถอะ!” สีหน้าของสวน

หยางเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก ในพริบตา

เอ่ยเสียงกร้าวว่า

“พิษนี้ ไม่มียาถอน! เจ้าซุ่มวางแผนให้ร้ายคนของวัง

บูรพาสามร้อยหกสิบแปดคน ข้าสังหารทหารเกราะทอง

ของเจ้าสามร้อยหกสิบเจ็ดคน ชีวิตต่อชีวิต พอดีเลย เจ้า

จะได้เป็นศพสุดท้าย!” “เจ้า…” พิษพลันออกฤทธิ์ บวกกับแรง

อารมณ์ที่กระตุ้น

พิษให้เข้าสู่หัวใจเร็วขึ้น ดวงหน้าทั้งใบของเหยียนก

ลายเป็นค่ากล่า

“ถูกต้อง ในเหล้ามีพิษ ข้าก็ดื่มเช่นกัน ไม่อย่างงัน เจ้าก็คงไม่ยอม ติดกับขาไม่ใช่หรือไง” ดวงตาของสวินหยาง

โค้งขน หัวเราะเสียงนุ่ม มุมปากมีเลือดไหลออกมาช้าๆ

ขณะที่พูด นางก็ใช้แขนกวาดเชิงเทียนจนร่วงกราวลงพื้น

เหล้าที่ถูกราดลงบนพื้น ติดไฟในทันใด เปลวเพลิงม้วน

โหม ลามไปถึงผ้าม่านเตียงที่ห้อยอยู่ด้านข้างอย่างรวด

เร็วไม่เสียดายที่จะใช้ชีวิตตนเองเป็นเหยื่อล่อ ทีแท้ นาง

คำนวณทุกก้าวอย่างระมัดระวัง ก็เพราะต้องการชีวิต

ของเขาในหัวสมองเจ็บแปลบ เหยียนรีบกดทับกำลังภายใน

ให้สงบ ควาดเสียงเรี ยม “ทหารตะโกนจบ ก็กระอักเลือดสีดำ

ออกมาทันที

“ท่านชาย!” องครักษ์จำนวนมากที่ถูกสั่งให้เฝ้าอยู่หน้า

ประตูตั้งแต่ต้นพากันกรูเข้ามา เห็นหน้าตาเขากล่า

พากันตกใจแตกดิน “ท่านชายถูกพิษ เร็ว รีบไปเชิญหมอ

หลวงมา

เหยียนไม่ยอมตัดใจ ตอนที่จะถูกคนพยุงออกไปก็ยัง

ขึ้นกัดฟัน พุ่งไปหนึ่งก้าว ใช้กำลังบังคับซ้อนตัวส

นหยางไว้ในอ้อมแขน จากนั้นสาวเท้าออกไปด้าน วันนี้ เจ้าจะต้องตายให้ได้ เจ้าก็ต้องตายอยู่ข้างกายขาเท่านั้น” ยนยังสามารถใช้กำลังภายในกดทับพิษไว้ได้ชั่วคราว แต่ เหยียนอุ้มนางรีบร้อนเดิน นบันได ด้านหน้าอีกเพียง เอาปืนปักผมเขาออกมา แทงเข้าที่ท้ายทอยของเขา ท่านชาย

นอกอย่างรวดเร็ว เค้นเสียงลอดฟันออกมาทีละค่า “ถ้า

สวนหยางบาดเจ็บอยู่ เดิมทีก็อ่อนแรงเต็มทน เหยี

นางกลับลมหายใจรวยริน ไม่มีแม้เรียวแรงขัดขืน

ไม่กี่ก้าวก็จะสามารถออกไปได้แล้ว ทันใดนน ริมฝีปากของคู่สวนหยางพลันกระตุกข์ ม

ประหลาดขน มือขวาที่โยบคอเขาไว้ด้านหลังยกขึ้นสูง

ระวัง! องครักษ์ที่ติดตามมาด้วยพลันร้องตกใจ เมียพุ่งออกไปยังสายฟ้า กระแทกใส่สตรีที่คิด

ลอบสังหารจนกระเด็นออกไป

ห้องลับเบื้องหลังถูกไฟกลืนกินจนไม่เห็นเงา ร่างน้อย อ่อนแรงของสตรีเหมือนกับผีเสื้อปีกหัก เชิดหน้าสูงก่อน

จะจมหายไป ท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกโหม รอยยิ้มของหญิงผู้นั้นก็ยัง งดงามดังเก่า ทุกถ้อยทุกคำดังชัด ลอยออกมาจากทะเลเพลิง “แม้เลือกไม่ได้จะต้องตายวันเดียวกัน แต่ข้ากับเจ้า จะ ไม่มีวันได้นอนร่วมโลง

เหยียบเบิกตาโพลง มือปืนออกไปคว้าตามสัญชาติ ญาณ แต่คว้าได้เพียงควันว่างเปล่ากลุ่มหนึ่งเท่านั้น

ลมสารทหวีดหวิว ด้านหนึ่งของวังบูรพาไฟโหมเสียดฟ้า บุรุษหล่อเหลาที่หยุดมาอยู่มุมถนนกำลังฟัง ผู้ใต้บัญชา รายงานสารลับ หว่างคิวสวยคล้ายถูกลมราตรีแต่งแต้ม

ให้ดูเฉยเมย

“กลับเถอะ”

ยินร้าย

กระตุกมากลับไป

ไม่ยินดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ