แม่ทัพหญิงของจวนหลง

บทที่ 2 ความอ่อนโยน



บทที่ 2 ความอ่อนโยน

ที่หน้าประตูห้องฝึก หลงลุยมองลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตน อย่างโกรธเคือง

“เจ้า!” หลงลุ่ยฉีชี้นิ้วใส่หลงเส้าจิ้น โมโหจนพูดติด ๆ ขัด ๆ แล้ว มือที่ยื่นออกมาก็ฟาดไปที่หน้าของหลงเส้าจิ้น

“นี่นี่ ท่านพ่อ ท่านกำลังทำอะไรน่ะ น้องสาวยอมฝึกวรยุทธ์ แล้วไม่ใช่หรือ ท่านก็ปล่อยนางไปเถิด” หลงเส้าปรากฏตัวขึ้นที่ หน้าห้องฝึกได้ทันเวลา ยังมือของหลงลุยไว้ พูดไกล่เกลี่ยพลาง ยิ้มร่อ

“วันนี้เจ้ามาสายแล้ว” หลงเส้าจิ้นเบ้ปาก ก่อนเดินอ้อมหลง ลุ่ยและหลงเส้าชีที่อยู่ตรงประตู ตรงไปยังห้องของตน นางใช้ ชีวิตมาได้สามวันแล้ว ในช่วงเวลาสามวันนี้ นางนับว่ามั่นใจแล้ว ว่าตนกลับมาเกิดใหม่จริง ๆ

“ท่านนาย คุณชาย ข้าน้อยขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” ฝูหลิงรีบเร่ง ฝีเท้าตามหลงเส้าจิ้นที่เดินหายไปอย่างไร้ร่องรอยในบริเวณนี้

หลงลุยโกรธจนตัวสั่น น่าเสียดาย คนที่ทำให้เขาโกรธ คือ ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่เขารักและเอ็นดูเป็นที่สุด ไม่ว่าอย่างไร ท้ายที่สุดแล้วก็ตีนางไม่ลง เหมือนในวันนี้ พอหงายมือขึ้นก็ถูก ขวางไว้ตลอด

“ท่านพ่ออย่าได้โกรธไปเลย น้องสาวยังเล็กนัก ไม่รู้ความเคือง รีบพูดใจเย็น

“เส้าเจ้าพูดเข้าข้างนางเกินไป ยังเด็กนั้น ยังไม่ความ บุตรสาวบ้านอื่น เป็นแม่คนกันแล้ว มีใครๆ เอาแต่รำกระบี่ กระบองเหมือนนางบ้างพอหลงออกมาพูดฉีก็เริ่มพูดบ่นพึมพำไม่หยุด

หลงเส้าคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นแล้ว ยิ้มแย้มหลง ลุ่ย พร่ำบ่น

หลายปีมานี้ ทำให้เจ้าน้อยเนื้อต่ำใจแล้ว ท่านพ่อของเจ้าจาก โลกไปไม่เช่นนั้น ได้เห็นเจ้าฉลาดเฉลียวรู้ความเช่นจะดีใจ ถึงเพียงไหน

“ท่านพ่อ ท่านเลี้ยงดูข้าจนโชคของหลงเส้าพ่ออยู่ในโลกยมบาลคงวางใจ แล้วล่ะหลงเส้าตอบอย่างจริงใจ ในสายตาเขา หลงลุ่ย เป็นดั่งพ่อแท้ ๆ ของเขา

ความโกรธในใจของหลงลุ่ยเบาบางลงมากแล้ว ให้ หลงเส้าติดตามไปทานอาหารโถงหน้าเรือนด้วยกัน คิดว่า ยามนี้ สาวนี้ ไม่จะจัดการกับนางอย่างไรเลยจริง ๆ
หลงเส้านล้างมือผ่าน ๆ นั่งลงข้างโต๊ะอาหารตั้งแต่เนิ่น ๆ รอ ให้ผู้ชายสองคนในบ้านมาถึง

กินข้าวพร้อมหน้ากัน นี่เป็นความเคยชินที่ไม่เปลี่ยนแปลงมา หลายปีของจวนหลง ในยามปกติ แม้ว่าหลงเส้าจิ้นจะเป็นคนเย็น ชาไม่ใส่ใจอันใด แต่กลับเห็นดีเห็นงามกับการปฏิบัติเช่นนี้มาก ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน จึงจะเหมือนเป็นครอบครัว เดียวกันไม่ใช่หรืออย่างไร

“คุณหนู วันนี้ท่านนายดูโมโหยิ่งนัก จะไม่เป็นไรจริง ๆ หรือ ผู้หญิงมองไปที่ประตูอย่างเป็นกังวล ท่านนายกับคุณชายไม่ยอม มาปรากฏตัวเสียที หรือว่าจะกำลังหารือกันอยู่ว่าควรลงโทษคุณ หนูอย่างไรดี

หลงเส้าจิ้นไม่ได้ตอบคำถาม นางมองออกไปที่นอกประตู รอ คอยต่อไปอย่างเงียบเชียบ ที่ท่านพ่อให้นางไปที่ห้องฝึก ท่าน หมายถึงห้องฝึกงานเย็บปักถักร้อย ของเหล่าแม่นม ทว่า ทุกครั้ง นางจะไปยังห้องฝึกวิทยายุทธ์ของท่านพ่อ เป็นเวลาหลายปีแล้ว ท่านพ่อควรจะรู้นิสัยของนางมาตั้งนานแล้ว ที่โมโหก็เป็นเพียง แค่การแสดงออกเท่านั้น

ดังนั้น หลงเส้าจิ้นไม่กังวลสักนิดที่หลงลุยจะนำความ วุ่นวายมาให้ตน พ่อของนางเลี้ยงดูนางมาเหมือนบุตรชายคน หนึ่ง ไม่อย่างนั้น จะสอนตำรายุทธพิชัยสงครามกับวิทยายุทธ์ให้ นาง จะพานางไปในค่ายทหารอยู่บ่อย ๆ ได้อย่างไร แม้ว่าทุก ครั้งจะปลอมตัวเป็นชายเข้าไปก็ตาม
ลักษณะนิสัยของหลงลุย หลงเสาจีนมองอย่างทะลุปรุโปร่ง

แล้ว นางถึงได้กำแหงเช่นนี้ ดังนั้น ความกังวลของผู้หญิงล้วนไม่ จําเป็นเลย หลงเส้าจิ้นนั่งอยู่ข้าง ๆ โต๊ะอาหารที่คุ้นเคย หางคิ้วยกขึ้นเล็ก น้อยอย่างไม่รู้ตัว ในชาตินี้ นางจะต้องทำตัวดี ๆ กับพ่อของนาง

ส่วนพระราชวัง นางจะไม่ก้าวเข้าไปเหยียบอีกเป็นอันขาด

“ฮะแฮ่ม!” หลงลุ่ย พอเข้าประตูมาก็มองเห็นหลงเส้าจิ้นที่ นั่งตัวตรงอยู่ สองมือวางพาดประสานไว้บนเขา เขายกมือมา ปิดปากกระแอมไอทีหนึ่งอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง สีหน้าไม่ ยินดี

“กินข้าว” หลงเส้าจิ้นก็ไม่พูดอันใดให้มากความ ลุกขึ้นตัก ข้าวทีละจาน

“ฝูหลิง เจ้าจะมองดูคุณหนูตักข้าวเช่นนี้หรือ” หลงลุ่ยไม่ สบอารมณ์ หมุนตัวไปสั่งสอนผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง โทสะในน้ำ เสียงปรากฏให้ได้ยินชัดเจน

ฝูหลิงตื่นตกใจ รีบแย่งถ้วยจากมือของหลงเส้าจิ้นในทันใด “คุณหนู ให้ข้าทำเถิด”

“เจ้าถอยไปเลยนะ” หลงเส้าจิ่นปราดตามองผู้หญิงอย่างยิ่ง ๆ ก่อนตักข้าวต่อ นางเงยหน้ามองหลงลุย วางถ้วยข้าวลง ไม่ สนใจเขา

หมุนตัวไป ตักข้าวให้หลงเส้าต่อ ในสายตาของนาง หลง เส้าชีพี่ชายคนนี้ทําตัวเหมาะสมกับตำแหน่งดี
เห็นหลงเส้าก็ถูกนางปฏิบัติเช่นนี้ หลงลุ่ยฉีที่เดิมทีหายโกรธ

ไปบ้างแล้ว ก็โมโหขึ้นมาอีกหน ลูกสาวคนนี้ น่าจะรีบให้นางออก เรือนไปตั้งนานแล้ว มาอยู่ในบ้านทั้งวันอย่างนี้ขัดหูขัดตาจริง ๆ หลงลุ่ยอยู่ที่นี่ยิ่งคิดยิ่งไม่สบอารมณ์ไร้ซึ่งหนทาง หลงเส้า จีนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกลับทำเฉยเมย กินข้าว คีบอาหารเงียบ ๆ ไม่คิดจะมาปลอบเขาเลยสักนิด

หลงลุ่ยฉีหงุดหงิดใจ รีบคับข้าวคีบอาหารเข้าปากไปไม่กี่คำ ก็กลับไปที่ห้องหนังสือ เขาเกรงว่าถ้าเขาอยู่ที่นี่ต่อไปจะถูก ลูกสาวตัวดียั่วโมโหตาย

บนโต๊ะอาหารเหลือเพียงหลงเส้าจิ้นกับหลงเส้า หลงเส้า มองสายตาอันอ่อนโยนของหลงเส้าจีน คีบอาหารขึ้นมา “จีนเอ๋อ นี่ให้เจ้าของที่เจ้าชอบกิน

หลงเส้าจิ้นพยักศีรษะ ก้มหน้ากินอาหารในชาม ครู่เดียว ก็ วางชามกับตะเกียบลง “พี่ชาย ค่อย ๆ ทานนะ”

จากนั้น ก็ลุกจากโต๊ะอาหารไป

หลงเส้าชีมองอาหารที่เหลืออยู่เต็มโต๊ะ กำชับคนให้มาเก็บ ทําความสะอาดอย่างอารมณ์ดี จากนั้นต่างก็แยกย้ายกันกลับ ห้องไป

จวนหลงมีคนใช้ไม่มาก ดังนั้น ช่วงหลังเที่ยงจึงเงียบสงบมาก บรรยากาศแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาหลายสิบปี ได้สูด อากาศที่คุ้นเคย หลงเส้าจิ๋นก็มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง เพราะเคย สูญเสียไป จึงรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้มีค่ามากมายเพียงใด
ทว่า ห้องหนังสือในยามนี้ กลับไม่ได้เงียบสงบถึงเพียงนั้น

หลงลุยมองจดหมายที่อยู่บนโต๊ะ คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น เดินไปเดินมา เขาเดินกลับไปกลับมาอยู่ข้างโต๊ะแกะลายอยู่ หลายหน ลมหายใจติดขัดอยู่ในอก ทั้งร่างไม่มีสีของเลือดดัง ตอนกินข้าวเหลืออยู่เลย

“ท่านพ่อ?” หลงเส้าชีทุกวันหลังช่วงเที่ยงจะมาที่ห้องหนังสือ เพื่อคารวะหลงลุยเป็นประจำ เขาลงกลอนประตู ทว่า ในห้อง หนังสือไม่มีซุ่มเสียงใด ๆ เป็นเวลานาน จึงอดขมวดคิ้วไม่ได้ ใน ใจรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี ไม่มีเวลาให้คิดมาก ถอยหลังไปใน ทันใด เล็งประตูของห้องหนังสือไว้แม่น

โครม!

หลงเส้าชีกระแทกประตูห้องหนังสือจนเปิดออก เพียงแต่ภาพ ที่ปรากฏท่ามกลางห้องหนังสือนั้น กลับทำให้เขาใจคอไม่ดี “ท่านพ่อ!”

หลงลุ่ยจีนอนตะแคงอยู่บนพื้น เนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อย มือทั้ง สองข้างกุมหน้าอกไว้ สีหน้าซีดเผือด เหงื่อตกไม่หยุด ข้าง ๆ มี น้ำชาที่ถูกปัดตกแตก และจดหมายที่ร่วงหล่นลงมาจากบนโต๊ะ แกะลาย

หลงเส้าชีรีบประคองเขามานั่งบนเก้าอี้ ยื่นมือกดจุดแก้เป็น ลม จากนั้นก็จับชีพจรของเขา

หลงเส้าจิ่นมาถึงข้างกายของท่านพ่อในจังหวะแรก แต่พอเห็น สภาพของท่านพ่อแล้ว หลงเส้าจิ้นก็ขมวดคิ้วแน่น เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ราวกับเป็นชะตาที่ถูกกำหนดไว้นานแล้ว เหตุใด นาง จึงรู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าคุ้นเคยถึงเพียงนี้เล่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ