แม่ทัพหญิงของจวนหลง

บทที่ 14 มาถึงเมืองไม่



บทที่ 14 มาถึงเมืองไม่

“ทหารกองนี้เดิมทีเป็นกองทัพที่ชนะศึก เพียงแต่ ข้าคิดไม่ถึงมา ก่อนว่านางจะใช้เพียงแค่เวลาสั้นๆ ก็สามารถสยบคนทั้งหมดได้ จุดนี้ เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของข้าจริงๆ” จุนจื่อซิวไม่เคย ละสายตาไปจากกองทหารนับหมื่นคนที่อยู่ทางด้านหน้าเลย เพียงแต่ เป้าหมายหลักที่เขามองคือคนที่อยู่หน้าสุดของกองทัพ นั้นต่างหาก

หลายวันมานี้ คนลึกลับที่คอยตามหลงเส้าจิ้น จริงๆแล้วก็คือ จุนจื่อซิวและอู๋หมิงนี่เอง

“เจ้านาย หลงเส้าจิ้นจะสามารถนำทหารไปออกรบได้จริง

หรือ?” จนถึงตอนนี้ อู๋หมิงก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฮ่องเต้จึงมอบ

หมายเรื่องที่สำคัญเช่นนี้ให้แก่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง

เขายอมรับว่าวิทยายุทธของหลงเส้าจิ้นนั้นยอดเยี่ยม แต่ว่า นําทหารไปออกรบ ไม่ใช่เพียงแค่วิทยายุทธยอดเยี่ยมก็ถือว่า เพียงพอแล้ว หมิงสารภาพตามตรงว่า หากเป็นตัวเขาเองที่ต้อง นำทหารไปออกรบ แม้กระทั่งสิ่งพื้นฐานอย่างเช่นรูปแบบการ เดินทัพ ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เรื่องเลย

ดังนั้นตรงจุดนี้ อู๋หมิงจึงรู้สึกสงสัยอย่างมาก เขาถึงขนาดคิด ว่า หากเป็นเจ้านายของตนเองเป็นผู้นำทหารไปออกรบ ผลลัพธ์ จะออกมาเหมือนกันหรือไม่?

หมิงมองไปที่เจ้านายของตนเอง แล้วมองไปยังคนที่อยู่ด้านหน้าสุดของกองทัพ แล้วแอบก้มหัวลง

จุนจื่อซิวไม่ทันสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของอู๋หมิง เขา ไม่เคยละสายตาไปจากหลงเส้าถิ่นที่อยู่ด้านหน้าได้เลย เรื่องที่ เสด็จพี่มอบหมายให้ทำ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เหนือการควบคุม เล็กน้อย เขาต้องหาวิธีที่จะทำให้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย

เมื่อมีความคิดเช่นนี้ จุนจ่อซิวจึงตามกองทัพของหลงเส้าจีนอ ยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล และคอยหลบซ่อนอยู่เป็นระยะๆมาโดยตลอด แต่หลงเส้าจิ้นก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่ากองทัพของตนเองมีคนคอย จับตามองอยู่

หลงเส้าจิ๋นเดินอยู่ด้านหน้าสุดของกองทัพ สายตาของนางจับ จ้องไปที่ทางข้างหน้าตลอดเวลา ยิ่งเข้าใกล้เมืองโม่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากมีกองทัพของศัตรูแอบ ซุ่มโจมตีอยู่ระหว่างทาง นางจำเป็นจะต้องวางแผนการรบ ให้ ออกมาได้อย่างแม่นยำในทันที

เรื่องเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครในขบวนทัพอยากให้เกิดขึ้น แต่ ว่า บางครั้งสวรรค์ก็ไม่เป็นใจ ดังนั้น หลงเส้าจิ้นจึงต้องทำทุก เรื่องที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นมาพิจารณาทั้งหมด เพื่อหลีก เลี่ยงการตั้งรับไม่ทันถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ ฉุกเฉิน

ยิ่งเข้าใกล้เมืองโม่ สีหน้าของหลงเส้าจิ้นยิ่งดูเคร่งเครียด

ระยะทางระหว่างกองทัพของหลงเส้าจิ้นกับเมืองโม่ใกล้เข้ามา ทุกที คิ้วของหลงเส้าจิ๋นเริ่มขมวดเข้าหากัน ยิ่งแสดงว่าเข้าใกล้เข้าไปทีแล้ว บรรยากาศยิ่งคละคลุ้งเข้มข้นขึ้น จนนางแทบหายใจไม่ออก

นางพยายามสะกดกลั้นกลิ่นเลือดที่อยู่จมูกของตนเอง แล้ว ค่อยกองของตนเองเข้าใกล้เมืองโม่

ในช่วงบ่ายของการเดินทางวันเก้า หลงเส้าจิ้นสามารถพากองของตนเองเดินทางจนถึงเมืองไม่สำเร็จ ยืนที่ด้านล่างประตูเมืองโม่ บังคับบัญชาของหลงเส้าเดินไปข้างหน้าเพื่อจะเคาะประตู

ใครเสียงเมือง รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้เมืองโม่กำลังอยู่ระหว่าง การทำศึกสงคราม ผู้มาเคาะประตู หรือจะเป็นกองทัพศัตรูจะเข้ามาโจมตี

เสียงกล่าวถามของทหารคนทำให้ทหารนับร้อยที่ ป้องกันเมืองอยู่รู้สึกหวั่นใจ แต่ละตนเองขึ้นมาทันที และแต่ละคนก็มองไปเบื้องล่าง อาวุธที่อยู่ ในมือเตรียมจ่อไปยังคนด้านล่างนั้นทั้งหมด

“ทัพเสริมเมืองหลวง” เสียงดังนัก ทำให้ทหารที่ เฝ้าเมืองได้ยินอย่างชัดเจน ทหารหมื่นหลงเส้ายืน

ทัพเสริมทัพเสริม! พวกเจ้าเป็นทัพเสริมจริงเกรงตนเองฟังผิดทหารที่เฝ้าเมืองคนนั้นจึงพูดอยู่หลายอย่างไรตาม ยังไม่ทันคนของหลงเส้าจิ๋นตอบกลับทหารนับร้อยเมืองต่างรู้สึกตื่นเต้นดีใจมา

เร็ว เร็ว เร็ว เปิดประตูเมืองเร็ว

“เร็วสิเมืองของพวกเราคนมาช่วยแล้ว

ทรงส่งเสริมช่วยพวกเราแล้วรีบเปิดประตู เมืองเร็วเข้า!

เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีที่ดังก้องเหนือกำแพงเมืองไม่ ทหารคอยรักษาเมืองเหล่านั้น ได้ที่จะเปิดประตูเมืองเร็วขึ้น ขึ้นกว่านี้

แม่ทัพใหญ่ที่คอยปกป้องเมืองไม่นามสิ่งหูกาง เขา เติบโตที่แดนเมืองโม่ตั้งเล็กโต จึงอย่างเกี่ยวกับ เมืองโม่แห่งในแดนกับแคว้นหลิวเป็นอย่างดี

ครั้งแคว้นหานเย่นโจมตีเชิงรุก ต้องขอบคุณสิ่งหูกาง สามารถควบคุมสถานการณ์ในเมืองไม่ได้ สามารถใช้คน ที่เหลือเพียงแค่สองพันกว่าคน ช่วยกันปกป้องเมือง

ใช่แล้ว เดิมทหารปกป้องเมืองไม่อยู่หมื่นนาย แต่ครั้ง นี้แคว้นหานใช้โจมตีเชิงรุก ทำให้ทหารหมื่นนายที่ ปกป้องเมืองโม่ถูกทำลาย จนอยู่ปกป้องเมืองโม่เพียงแค่ สองพันกว่านายเท่านั้น

แม่ทัพลิ่งหูฝ่าบาทส่งทัพเสริมมาแล้วถึงหน้าประตูเมือง แล้วทหารคนนั้นรีบวิ่งไปห้องทำงานของสิ่งหูกางด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับตะโกนเสียงดังและคุกเข่าลงที่พื้น

ถ้าลองมองอย่างละเอียด ก็จะพบว่าในตาของทหารคนนั้นมี น้ำตาเอ่อล้นอยู่

เดินทีสิ่งหูกางยิ่งตั้งใจที่จะถามทหารว่าใช่กองทัพของศัตรู หรือไม่ แต่เมื่อได้ฟังข่าวนั้นอย่างรวดเร็วเสียก่อน เขากลับรู้สึก ตื่นเต้นกว่าทหารคนนั้นเสียอีก ขณะนั้นยังไม่ทันได้คิดว่าชุด ทหารของตนเองยังไม่ได้เปลี่ยนให้เรียบร้อย ก็รีบวิ่งออกไปทันที

เมื่อทหารคนนั้นเห็นว่าแม่ทัพของตนเองวิ่งผ่านตนเองออกไป จึงไม่รีรอที่จะวิ่งตามออกไปอย่างทุลักทุเล

ขณะที่สิ่งหูกางยี่เพิ่งจะไปถึงประตูเมือง หลงเส้าจีนก็ได้นำกอง ทหารหมิ่นนายของตนเองเข้ามาในเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ลิ่งหูกางมองดูหลงเส้าจิ้นที่เดินเข้ามา ก็รู้สึกแปลกใจเล็ก น้อย แต่เขาเองก็ไม่ได้ถามอะไรมาก แล้วจึงยึดคออย่างสุดความ สามารถเพื่อที่จะมองดูทางด้านหลังของหลงเส้าจิ้น เกรงว่า ตนเองจะสูงไม่พอ จึงได้เขย่งเท้าขึ้นด้วย

แต่มองดูอยู่สักพัก ก็ยังมองไม่เห็นคนที่ตนเองอยากจะพบ เขา จึงรู้สึกแปลกใจ ดังนั้นจึงหันกลับมามองหลงเส้าจิ๋นที่เพิ่งจะลง จากหลังม้า ดูแล้วรู้สึกว่ามีท่าทีการเดินที่อ่อนช้อยเล็กน้อย แต่ก็ ยังเดินเข้าไปหา

“น้องชาย ท่าน ท่านแม่ทัพล่ะ?” สิ่งหูกางลังเลอยู่สักพัก แล้ว จึงเอ่ยถามสิ่งที่ตนเองสงสัยออกมา ในเมื่อทัพเสริมมาถึงแล้ว แล้วทำไมจึงไม่มีแม่ทัพนำทัพมาล่ะ?
แม่ทัพ? เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่ทัพผู้ปกป้องเมืองเอ่ยถามออกมา หางตาของหลงเส้าจิ้นก็กระตุกแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นางมอง ดูทหารนับหมื่นที่นางพามา แล้วหันกลับไปดูแม่ทัพผู้ปกป้อง เมืองที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ผิวหนังดำคล้ำที่เต็มไป ด้วยบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ ชุดเกราะเปื้อนไปด้วยเลือดที่ยัง ไม่ทันแห้งสนิท นัยน์ตาสีดำเป็นประกายที่คอยมองซ้ายมองขวา เหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่

“ท่านแม่ทัพมีนามว่าอะไร?” เมื่อเห็นการแต่งตัวของคนผู้นั้น หลงเส้าจิ๋นก็คิดว่าคงจะต้องเป็นแม่ทัพที่คอยปกป้องเมืองผู้นั้น แน่นอน

“ข้ามีนามว่าสิ่งหูกาง ขอถามหน่อยน้องชาย ท่านแม่ทัพของ พวกเจ้าอยู่ที่ไหน? ทำไมจึงไม่เห็นเงาของท่านแม่ทัพเลย?” แต่ เขาไม่มีทางที่จะคิดได้เลยว่าน้องชายที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ คือ ท่านแม่ทัพที่เขาคิดถึงอยู่

จริงๆแล้วจะโทษที่ลิ่งหูกางถามเช่นนี้ก็ไม่ได้ เพราะหลงเส้า จิ่นเอง นอกจากเรื่องที่เดินนำหน้าขบวนทัพแล้ว ส่วนอื่นไม่มี อะไรที่ดูคล้ายแม่ทัพเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นการที่สิ่งหูกางถาม ออกมาเช่นนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ