แม่ทัพหญิงของจวนหลง

บทที่ 10 ให้ยอมรับก็ไม่ยอมรับหรอก (2)



บทที่ 10 ให้ยอมรับก็ไม่ยอมรับหรอก (2)

ดังนั้น พอคนพวกนั้นตั้งสติจากความตื่นตระหนกได้แล้ว มองดู หลงเส้าจิ้น แต่ละคนท่าทีเหมือนอันธพาล ก็แค่เด็กสาวคนหนึ่ง เท่านั้นเอง พวกเขาไม่เชื่อหรอกว่า พวกเขาที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่ ในค่ายทหารมาหลายปี จะเอาชนะเด็กสาวผู้นี้ไม่ได้

“หลงเส้าจิ่น เจ้าให้ท้ายสาวใช้ของเจ้าให้นำความอัปยศมาสู่ ใต้เท้า ในกองทัพ หมายความว่าอย่างไรกัน คงไม่ใช่ว่า เห็น เหล่านายพลขุนนางอย่างพวกข้าเป็นตัวประกอบที่ไร้ประโยชน์ หรอกนะ” ใต้เท้าที่กิริยาสุภาพแต่กายบอบบางผู้หนึ่งในกลุ่ม หน้าตาเต็มไปด้วยสัจธรรมในคำพูด ว่ากล่าวยัดเยียดให้หลง เส้าจิ่นดูไม่ดี

หลงเส้าจีนรู้จักเขา เขาคือ รองแม่ทัพ ในกองทัพนามหลว โยวฉาย เจ้าแผนการพอสมควร แต่กลับเป็นคนที่กระหายใน ความสําเร็จและผลประโยชน์เฉพาะหน้า ภายใต้การบังคับ บัญชาของท่านพ่อของตน ก็ใช้กลอุบายลวงอยู่หลายครา น่า เสียดาย ทุกครั้งแม้ท่านพ่อของตนจะโกรธไม่น้อย แต่กลับไม่ เกิดความเปลี่ยนแปลงใหญ่โตอันใดขึ้นเลย

ช่างมีความสามารถจริง ๆ มองดูหลิ่วโยวฉายที่กระโจนออก มา หลงเส้าจิ้นก็ยิ้มเยาะเห็นได้ชัดว่าตัวเขามีความสามารถไม่สู้ ผู้อื่น เพียงแค่หมุนตัวมา ก็ว่ากล่าวพูดยัดเยียดให้นางดูไม่ดี ไร้ ยางอายเป็นที่สุด
ทว่า เขานึกว่าทำเช่นนี้ ก็สามารถทำให้หลงเส้าจิ้นกลัวได้แล้ว หรือ นี่ชักจะดูแคลนนางเกินไปแล้วจริง ๆ หลงเส้าจิ้นจึงทิ้งกระบี่ ในมือในทันใด ก่อนคว้าทวนฟูแดงมาจากทหารที่อยู่ข้าง ๆ

ฉวะ เพียงแค่ชั่วพริบตา ล่าคอของหลิ่ว โยวฉายก็ปรากฏแนว รอยเลือดเล็ก ๆ ถึงขนาดที่ หลิ่วโยวฉายไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด แม้แต่น้อย เพียงรู้สึกร้อนที่ลำคอ ยื่นมือคลำดู จึงรู้ว่าตนได้รับ บาดเจ็บแล้ว

การเคลื่อนไหวของหลงเส้าจิ้นว่องไวกระฉับกระเฉง ถึงขนาด ที่คนมากมายที่อยู่ในที่นั้น ยังไม่เห็นว่านางลงมือเช่นไร หากบน ทวนพี่แดงของนางไม่มีคราบเลือดติดอยู่ คนที่อยู่ในที่นั้นคงต่าง พากันสงสัยว่านางได้ลงมือไปแล้วหรือยัง

“ใต้เท้าหลิ่ว การพูดจายั่วนิ่ม ใส่ร้ายป้ายสี เป็นความถนัดของ สตรีชนินทาที่ออกเรือนแล้ว หากว่าในกองทัพมีคนเช่นนี้ ข้ามอง เขาเป็นได้แค่เพียงดั่งสตรีเหล่านั้นที่ไม่รู้จักปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ อย่ามาตำหนิแม่ทัพอย่างข้าว่าไม่รู้จักเกรงใจ ในการจัดการดูแล ค่ายทหารให้เรียบร้อยเลย

หลงเส้าจิ๋นเพิ่งจะลงมือก็พูดสั่งสอนหลิ่วโยวฉายแล้ว ทำให้ หลิ่วโยวฉายเสียหน้าจนหมดคำจะพูด ทำได้เพียงแอบกำมือเป็น กำปั้นแน่นกับตัวเอง ถอยไปอยู่ด้านข้าง

“หลงเส้าจิ่น เจ้าอย่ารังแกคนอื่นให้มันมากนัก ในค่ายทหาร ไม่มีใครเชื่อฟังคำเจ้าหรอก!” เห็นหลิ่วโยวฉายเสียเปรียบ หลี่ ต้า สหายคนสนิทของหลิ่วโยวฉายก็ยอมไม่ได้แล้ว เขากับหลิ่วโยวฉายเข้ามาในค่ายทหารพร้อมกัน จะสามารถฝืนทนกล้ำกลืน

ดูเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร ดังนั้น พอคว้าตัวหลิ่วโยวฉายมาอยู่ข้างกายตนแล้ว ก็ก้าว ออกมายืนตัวตรงขวางอยู่ที่เบื้องหน้าหลงเส้าจิ้น

หลี่ต้าเป็นนักต่อสู้ที่กายล่ำสัน เขาสามารถมีตำแหน่งอย่าง ในวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยความดีความชอบทางทหารค่อย ๆ ไม่ เลื่อนชั้นขึ้นไป ดังนั้น พอก้าวออกมาแล้ว ท่าทีที่ดุร้ายของเขาก็ ทําให้บรรยากาศรอบข้างหนาวเย็นสุดขีด

“ใครไม่ยินยอมก็ก้าวออกมาได้เลย เข้ามาพร้อมกัน ข้าไม่มี เวลามาพูดพร่ำกับพวกเจ้าที่นี่ อย่าบอกว่าข้าไม่ให้โอกาสพวก เจ้าล่ะ คืนนี้ หากไม่ออกมาเอาชนะข้า ก็ซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ ไปซะ ไม่ว่าจะเป็นมังกรเป็นเสือก็กลั้นเอาไว้เถอะ!”

ไม่สนใจความดุร้ายของหลต้า หลงเส้าจีนปราดตามองดูคน ที่อยู่ในที่นั้นรอบหนึ่ง เสียงของนางเย็นชาห่างเหิน กระแทกใจ ของคนทุกผู้ชวนให้คนรู้สึกยอมรับจากใจจริง

“เจ้า เจ้า! พวกเจ้ายังจะยืนนิ่งอยู่ทำไม เข้าไปพร้อมกันเลย! ข้าไม่เชื่อหรอก ข้าอยู่ในค่ายทหารมาตั้งหลายปี หรือจะบอกว่า นั่นเป็นการอยู่อย่างเปล่าประโยชน์เล่า เหล่าเพื่อนพ้อง ลุย!” หลี่ ต้าปูทนคำยั่วยุของหลงเส้าจีนไม่ไหว จึงสะบัดมือในทันใด เรียก ให้นายพลที่ถูกเรียกชื่อบุกเข้าไปพร้อมกันกับเขา

เดิมที คนพวกนั้นเห็นว่าหลงเส้าจิ้นเป็นสตรี จึงไม่อยากรม เข้าไปพร้อมกัน ทว่า ไร้ซึ่งหนทาง หลงเส้าจิ่นแสดงความสามารถที่แท้จริงอันทระนงองอาจของตนออกมาแล้ว พวกเขา ยอมรับว่า ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรกับหลงเส้าจีนด้วยตัวคนเดียว ได้ ดังนั้น พอหลีต้าสะบัดมือ พวกเขาก็กลุ้มรุมกันเข้าไป

ใช้จำนวนคนเข้าสู้ ช่างน่าอับอายเสียจริง ทว่า หากพวกเขา แต่ละคนพ่ายแพ้กันหมด นั่นจึงจะเป็นการขายหน้าอย่างแท้จริง ขายหน้าไปถึงชาติตระกูลของตน ขอเพียงแค่เอาชนะได้ ถึงคน จะเยอะไปสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร ศึกไม่หน่ายเล่ห์ นางหลงเส้า จิ้น หากว่าล้มลงแล้ว ก็ทำได้แต่โทษตัวนางเองที่โอหังเกินไป

พอคิดได้ดังนั้น คนพวกนั้นก็ทุ่มเทกันสุดตัวยิ่งกว่าเดิม การ ล้มหลงเส้าจิ๋นคือเป้าหมายเดียวของพวกเขา ไม่อาจให้หลงเส้า จีนมาทำลายความน่าเกรงขามที่สะสมมาหลายสิบปี ในค่าย ทหารของพวกเขาได้เป็นอันขาด!

มองภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ใจของผู้หญิงกลับมีความคิดว่าอาจ จะคุมไว้ไม่อยู่ แม้ว่าคุณหนูของตนจะมีฝีมือร้ายกาจ ทว่า ถูกคน จํานวนมาก โอบ เกรงว่าจะไม่เป็นผลดีต่อคุณหนู

ไม่ได้การแล้ว ตนไม่อาจให้คุณหนูเสียเปรียบได้ ดังนั้น สอง มือของผู้หญิง ข้างหนึ่งกำหมัดคารวะ เท้าข้างหนึ่งอยู่หน้าอีกข้าง อยู่หลัง เตรียมพร้อมรบเคียงบ่าเคียงไหลไปกับคุณหนูในทันใด

“หยุดนะ!” หลงเส้าจิ๋นร้องตะโกนอย่างมีโทสะ ทว่า นางกลับ ไม่ได้ตะโกนใส่นักต่อสู้เหล่านั้น คนที่นางตะโกนใส่ คือ สาวใช้ที่ เตรียมเข้าร่วมการต่อสู้ ฟูหลิง

ฝูหลิงขมวดคิ้วเป็นปมแน่น นางมองนักต่อสู้พวกนั้นอย่างเกลียดชัง เบะปาก ในแววตาเริ่มมีน้ำคลอ “ท่านแม่ทัพ

“บอกแล้วอย่างไรว่าข้าจะลงมือเอง หากเจ้าไม่เชื่อฟัง ก็เชิญ เจ้ากลับจวนหลงไปในยามนี้เลย” หลงเส้าจิ้นไม่ไว้เยื่อใย ใน ค่ายทหารนี้ ไม่อาจเห็นแก่ความสัมพันธ์ส่วนตัวได้

ฝูหลิงตกใจกับคำพูดของหลงเส้าจิ้น นิ่งอยู่กับที่ในทันใด สองมือจับกันแน่น กัดฟันมองคุณหนูของตน แต่กลับไม่อาจทำ อันใดกับคําสั่งของคุณหนูได้ ใจของผู้หญิงแหลกสลายเพียงใด นั้น อย่าได้พูดถึงเลย

ท้ายที่สุด นางก็ทำได้เพียงมองดูคุณหนูของตนกับชาย แข็งแกร่งกายก่าย่าพวกนั้นรบประมือกันอย่างเงียบ ๆ หมัดแล้ว หมัดเล่า

ตะโกนหยุดยั้งความคิดที่จะก่อแผนการร้ายของผู้หญิงแล้ว ความสนใจของหลงเส้าจิ้น เพียงครู่เดียวก็มาตกอยู่ที่ผู้ที่เข้ามา ประลองกับนางพวกนั้น คิดจะเอาชนะนาง คนพวกนี้ เหมือนว่าจะ ยังไม่ผ่านเกณฑ์

ในชั่วพริบตาหลังหลงเส้าจิ๋นตะโกนเสร็จ นางก็เริ่มลงมือ การ เคลื่อนไหวว่องไวจนทำให้เห็นเป็นภาพติดตาชั่วขณะ ในตอนที่ ร่างของนางกลับมายืนหยุดนิ่งอีกครั้ง ในอุ้งมือของนางมีดาบสั้น เล่มหนึ่งแผ่อยู่ และดาบสั้นที่ถูกดึงออกมาจากฝักนั้น กลับชุ่มไป ด้วยคราบเลือด

หลงเส้าจิ่นเก็บดาบสั้นไว้ ปัดแขนเสื้อของตน ถอยหลังห่าง จากนักต่อสู้พวกนั้นออกมาราวหนึ่งจัง
เห็นเคลื่อนไหวของหลงเส้าจีน นักต่อสู้นั้นก็ดีหลงเส้านี่เพิ่งใช้ไปแค่กระบวนท่าแค่นี้ถอยแล้วหรือ ท่าแล้ว หลงเส้าจิ้นคงไม่อาจสร้างบารมีในกองทัพได้หรอก

คิดได้เพียงเท่านั้น นักต่อสู้นั้นยิ้มกัน ของชัยชนะบนหน้าของพวกพ้อง หากใจกล้ากว่าสัก หน่อย ลงมือกับหลงเส้าให้ปางตาย เช่นนั้น ตำแหน่งแม่ทัพน ก็ใช่ว่าจะตกเป็นของพวกเขาแล้วหรอกหรือ

ความทะเยอทะยานจะคิดปลิดชีวิตคนหนึ่งได้ ดังนั้น ในยามที่ความคิดอาจหาญนี้ปรากฏมามีการพูดๆ กันอย่างเงียบ ๆ ใน กลุ่มคน

เห็นเส้าขยับ หลีต้าฟูพากลุ่มคนไปขวางหน้า หลงจิ้นในที่สุด เตรียมพร้อมลงมือปลิดชีพหลงเส้าจิ้น

การเคลื่อนไหวของพวกเขาพร้อมเพรียงเป็นอันหนึ่งเดียวกัน เป็นพิเศษ พอ

พวกเจ้าเล่นใหญ่เช่นข้ากลัวว่า ไม่เข้าใกล้ข้า พวก ร่างแหลกสลายกันไปก่อน จากนั้น หลงเส้าไม่เกรง กลัวพวกเขาแม้แต่น้อย น้ำเสียงของนางราบเรียบนิ่งสงบ ราวกับ กำลังพูดเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องกับนางอย่างไรอย่างนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ