เล่ห์รักกลกาล

ตอนที่ 4



ตอนที่ 4

เหล่าทหารในที่แห่งนี้ต่างพากันสูดลมหายใจลึก รู้สึกถึง จากก้นบึ้งของหัวใจว่า ความกล้าหาญของสตรีเบื้องหน้านี้มาก จนน่ากลัว

เบี้ยเงินเสียเยี่ยนมุมปากยกยิ้ม ไม่โกรธเคืองคำพูดของ เยี่ยเมียสักน้อย ทว่ากลับแย้มยิ้มแช่มช้า น้ำเสียงอ่อนโยน “หากเจ้าจะไปให้ได้ บางทีเยี่ยนอาจทนไม่ไหวเก็บศพของเจ้า ไว้ข้างกายเยี่ยน อย่างไรการอยู่ร่วมกันก็เป็นคำพูดชั่วนิรันดร์ ไม่จำเป็นต้องให้คนเป็นๆ อยู่ข้างกายกันเสียหน่อย คนตายอยู่ เคียงข้าง เขียนยังรู้สึกพึงพอใจเหมือนเดิม

เยี่ยเม่ยจ้องอากัปกิริยาชดช้อยของเขา พิจารณาด้วย ความคาดไม่ถึงอยู่ชั่วครู่

ในที่สุดก็ถามคำถามที่นางอยากถามมานานด้วยน้ำเสียง เย็นชาไม่เปลี่ยน “ท่านสนใจตัวข้าเช่นนี้ ตั้งคำถามมากมาย ปานนั้น ยังไม่ยินยอมให้ข้าจากไป เวลานี้ยังพูดจาน่าขนลุก อย่างนี้อีก ท่านบอกมาตามตรงเถอะ ท่านรักข้าตั้งแต่แรกพบ ใช่หรือไม่

แค่ก…” อวี้เหว่ยสลัก เบือนหน้าหลบ ไอเสียจนหน้าแดง เหล่าทหารเอง ก็อึ้งไปชั่วขณะ มองเยี่ยเม่ย สตรีผู้มีหน้าตา งดงามก็จริง ท่าที่เย็นชา ทว่ามีแรงดึงดูดชวนให้คนอยากเอาชนะ สวมเสื้อผ้ารัดรูป เอวผูกสายรัดเอวสีดำเอาไว้ ถึงพวก เขาไม่เคยเห็นสิ่งทอเช่นนี้มาก่อน ทว่าวัสดุและเสื้อผ้าพวกนี้ไม่ แปลกประลาด ไม่แตกต่างกับยุคโบราณมากนัก

เพียงแต่คำพูดของนาง….เตียนเซียของพวกเขามีสตรีแบบ ไหนที่ไม่เคยพบบ้าง ยังจะชอบนางตั้งแต่แรกพบอีกหรือไง นาง เสียสติไปแล้วหรือเปล่า

เบี้ยเงินเสียเยี่ยนได้ฟัง นิ่งไปชั่วครู่

สายตาเปี่ยมเสน่ห์มองมาที่ร่างของเยี่ยเม่ย พลันยิ้มออก นั่นคือรอยยิ้มสูงสง่าชนิดหนึ่ง นัยน์ตาอัดแน่นด้วยอารมณ์ ความรู้สึก “หากเขียนบอกว่า ใช่เล่า

เยี่ยเม่ยเลิกคิ้ว หรือนี่เป็นเพราะเสน่ห์ของนางกัน ใน ความเป็นจริงชายตรงหน้านี้ งามล้ำเหนือกว่านางอีก

ถึงแม้นางเป็นคนมีความมั่นใจมาตลอด มั่นใจมากอีก ด้วย ชั่วขณะที่ผู้ชายคนนี้ยอมรับว่าชอบนางตั้งแต่แรกพบ นาง ยังไม่ค่อยเข้าใจบ้าง แต่ตัวนางก็ไม่มีอะไรให้เขาหาประโยชน์ ได้ ความคิดที่ว่าจะหลอกใช้นางดูเป็นไปได้น้อยทีเดียว

คิดเสียว่าเขาชอบนางตั้งแต่แรกพบแล้วกัน

นางประเมินเขาอยู่ชั่วครู่ เอ่ยเสียงเย็นแสดงจุดยืนของตน “ข้ารู้ว่าตัวเองเป็นคนสูงส่งชวนให้คนหวั่นไหว เย็นชาได้ที่ เปรียบ คล้ายกับดอกไม้บานบนยอดเขาสูงตระหง่านไม่อาจ เด็ดตอม ทั้งยังเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าสตรีที่เพียบพร้อมเช่นข้า คนทั่วไปไม่กล้าตามจีบ ท่านมีความกล้าเอ่ยออกมาเช่นนี้ ข้ารู้สึกซาบซึ้งมาก ซ้ำยังแปลกใจ แต่ขาในตอนนี้ยังไม่สนใจท่าน ท่านยังไม่ทำให้ขาลดตัวลงไปรับเสน่ห์ของท่านได้

คนทั้งหมด ..…..

คราวนี้เปียเงินเสียเยี่ยนชะงักไป นับเป็นครั้งแรกที่พบ สตรีมั่นใจในตัวเองเช่นนี้ ดูจากน้ำเสียงจริงจังของนาง ไม่ คล้ายกับล้อเล่นเลยสักน้อย มุมปากเขากดรอยยิ้มลึกขึ้นหลาย ส่วน

เขามีท่วงท่างดงาม น้ำเสียงอ่อนโยน ดวงตายิ่งไม่มี เจตนาร้ายเลย อย่างนั้น แม่นางสามารถมอบโอกาสให้ข้า ตามจีบเจ้าได้หรือไม่”

อวี้เหว่ยหันกลับไปมองใบหน้าของเตี้ยนเซียด้วยสายตา ไม่อยากเชื่อ นายท่านคิดทำอะไรกันแน่ คิดจะกลั่นแกล้งแม่ นางผู้นั้นหรือเปล่า

เยี่ยเม่ยประเมินเขาอีกครู่หนึ่ง “ท่านไม่ยอมปล่อยข้าไป

ง่าย ๆ ใช่ไหม

นางมองออกแล้ว ผู้ชายคนนี้คือปีศาจร้าย

นางเห็นจิตใจรักชาติของแม่ทัพหยวนผู้ถูกเขาฆ่าตาย อย่างง่ายดายเมื่อครู่ เขาทำเรื่องเช่นนั้นได้ลงคอ ฆ่าหัวหน้า ทหารที่รักชาติผู้หนึ่ง หากมิใช่มีความแค้นล้ำลึกกับประเทศ ชาติ ก็คงไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น มีนิสัยชั่วร้าย ทำเรื่องอะไรล้วน เอาแต่อารมณ์
ความเป็นไปได้ที่องค์ชายผู้หนึ่งจะเคียดแค้นบ้านเมืองตัว เองน้อยมาก อย่างนั้นก็เป็นไปได้มากที่เขานิสัยชั่วร้าย

เพียงชั่วครู่นี้เยี่ยเม่ยเข้าใจว่าคนตรงหน้าเป็นอย่างไร ดู ออกว่านางคิดจากไปไม่ใช่เรื่องง่าย ใช้ชีวิตของทหารเหล่านี้ ข่มขู่เขาสำเร็จก็เป็นไปได้ยากมาก

“ไม่ผิด ไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆ” เขาจัดแจ้งเสื้อผ้าของตัว เองช้าๆ ตอบคำถาม ลมก่อตัวขึ้น ยิ่งทำให้เขาดูงดงามมากขึ้น ไปอีก

ทันใดนั้น น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเอ่ยว่า “แม่นาง ลองเสนอเงื่อนไขออกมา ทำอย่างไรเจ้าถึงยอมให้โอกาสเยี่ยน เข้าใกล้ตามจีบเจ้าได้

อากัปกิริยาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึก ชายหนุ่มรูปงาม เช่นนี้ปรากฏเบื้องหน้า เอ่ยคำพูดเช่นนี้ แม่นางที่ไม่รู้จักเขา คงจะยินดีจนเป็นลมไปแต่แรก ส่วนแม่นางที่รู้จักเขากลับตกใจ จนตัวสั่นเพิ่ม พินิจว่าตนล่วงเกินเขาที่ใดแล้ว ยังเป็นห่วง อนาคตของตัวเอง

ส่วนเยี่ยเม่ยไม่มีรู้สึกใดๆ ต่อการแสดงออกของเขา

เป็นจริงหรือเท็จ ชอบหรือคิดทำร้ายนาง ล้วนเป็นเรื่อง ของเขา ไม่เกี่ยวข้องกับนาง

นางยังสงบดั้งเดิม มองใบหน้าหล่อเหลาราวปีศาจของ เขา มือล้วงพัดออกจากเอว พัดเล่มนั้นเงางามราวหยกขาว คล้ายน่าหยกหลายแผ่นมาติดกัน
พัดหยกหมุน ในมือนาง แผ่ไอเข่นฆ่าคมกริบ

นางยกมุมปากขึ้นน้อยๆ ทว่าดูไม่เหมือนรอยยิ้ม มีเพียง ความเย็นชาฉายออกมา “ภายในสามกระบวนท่า หากท่านไม่ บาดเจ็บใต้การจู่โจมของข้า ข้าจะยอมรั้งอยู่

ทุกคนมองนางอย่างไม่เชื่อสายตา รู้สึกว่าสตรีผู้กล้า หาญเกินไป เกรงว่าไม่อยากมีชีวิตแล้ว

ยอดฝีมือสิบอันดับแรกของยุทธภพ ไม่มีใครกล้าประลอง ฝีมือกับเตียนเซียตรง ๆ นางถึงกับ…ยังบอกว่าสามกระบวน ท่า เกรงว่ากระบวนท่าเดียวก็จบชีวิตแล้ว อย่างไรเสียใต้หล้านี้ คนที่รับมือกับเตียนเซียแล้วไม่ตายในกระบวนท่าเดียว มีไม่ถึง

สิบคน

เปียเงินเสียเยียนคิดไม่ถึงว่านางจะเสนอเงื่อนไขเช่นนี้

เขาพลันหัวเราะขึ้น เสียงหัวเราะเบา ๆ กลับไพเราะน่าฟัง อ่อนโยนชวนคนใจละลาย สายตาปีศาจทรงเสน่ห์มองที่นาง เอ่ยเสียงอ่อนลง “ดี สามกระบวนท่า แม่นาง เชิญ”

เยี่ยเม่ยเห็นว่าเหล่าทหารทั่วทั้งสี่ทิศต่างคิดว่านางไม่รู้จัก กำลังคน คิดว่านางในหาที่ตาย แต่นางไม่สนใจ

สามกระบวนท่าช่วยให้ทดสอบความสามารถของชาย ตรงหน้านี้ได้ นางมั่นใจ ต่อให้ไม่อาจทำให้เขาบาดเจ็บ ตัวเอง ก็ไม่จบชีวิต

สายตาเย็นชาของนาง ไม่มีความลังเล ฝีเท้าว่องไว รุกเข้าใสอย่างดุดัน

เวลาไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็พุ่งมาถึงเบื้องหน้าเขา

พัดในมือปรี่เข้าตรงที่คอเขา สะบัดออกไปอย่างแรง พัด เป็นเครื่องประดับ ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะมีแรงเข่นฆ่าได้ถึง ขั้นนี้ ทว่านางกลับทำได้

เขายืนอยู่ตำแหน่งเดิม เท้าไม่ขยับเลยสักน้อย

เมื่อเห็นพัดพุ่งเข้าใส่คอของตน เปียเงินเสียเยียนเพียง ขยับศีรษะไปด้านหลังเล็กน้อย นิ้วเรียวคล้ายหยกสลักกดที่ หลังคอเยี่ยเม่ย คนทั้งหมดเหงื่อแตกพลักแทนหญิงสาว ดูจาก มุมนี้ ขอเพียงเขาออกแรง นางก็ตกตายได้

จากนั้นเยี่ยเมียคล้ายล่วงรู้ก่อนแล้ว

ร่างพุ่งดุดันไปเบื้องหน้า เท้าหลังยกขึ้นชุดช้อยราวกับนัก ระบำ หลบฝ่ามือของเขา ใช้ความตัวอ่อนอย่างไม่น่าเชื่อ เตะ เท้าออกไปยังบ่าของเขา

ขณะเดียวกันอาวุธลับที่รองเท้านางก็ทำงาน ที่รองเท้า พลันปรากฏมีดยาวขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ เตะผ่านไปทางเขา

นางร้องเตือนเสียงเย็น “ระวัง เท้าข้ามมืด

หลังจากได้รับชัยชนะแล้ว นางไม่อยากถูกครหาว่าใช้ อาวุธลับ ชนะเพราะวิธีสกปรก

เขายิ้มยกมุมปากน้อย ๆ พลันจับขาที่เตะมา ความร้อน จากปลายนิ้วแผ่เข้าไปในฝ่าเท้า ทำให้เสียเมียหัวเราะเสียงเย็นนางรอจังหวะนี้อยู่

เสียงเย็นชาของเยี่ยมยร้องออกว่า “พันถึง ผลิบาน เสี้ยวเวลาถัดมา พัดในมือแยกออกครึ่งหนึ่ง เปลี่ยนเป็น

ชิ้นเล็กๆ ราวกลีบดอกไม้จํานวนนับไม่ถ้วน

นางยึดพัดอีกครึ่งที่สมบูรณ์เอาไว้ สะบัดชิ้นส่วนเล็กพวก นั้นออกอย่างแรง พวกกลีบดอกเล็กหมุนติ้วกลางฝ่ามือ พละ

กำลังแผ่ออก มุ่งจู่โจมเขา

[1] ดอกอิง คือดอกซากุระ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ