เล่ห์รักกลกาล

ตอนที่ 2



ตอนที่ 2

อวี้เหว่ยลอบถอนใจเบา ๆ รู้สึกเห็นใจแม่นางผู้น่าสงสาร

ตามปกติแล้ว แม่นางทั้งหลายเห็นเหตุการณ์ พบบุรุษหล่อ เหลาเอ่ยวาจาเช่นนี้ ต้องทำท่าเอียงอาย เอ่ยไม่ตรงกับใจว่าไม่ อยากมองเตี้ยนเซียถอดผ้า ทว่าสีหน้าแสดงความอยากชมต่อ อย่างที่สุด แทบอยากพุ่งเข้ามาช่วยเหี้ยนเซียถอดด้วยซ้ำไป

จากนั้นเตี้ยนเซียก็จะอาศัยเหตุผลว่าพวกนางปฏิบัติตนไม่ จริงใจ ปากไม่ตรงกับใจ หลอกลวงคนมีเมตตาอย่างเขาด้วย ความชั่วร้าย สังหารคนทิ้ง

แม่นางผู้เคราะห์ร้าย บังเอิญพบเตียนเซียที่เพิ่งกำจัดคน สองคนที่คล้ายแมลงวันน่ารำคาญ จิตสังหารยังไม่ทันสงบลง เข้าพอดี

อวี่เหว่ย ใคร่ครวญเช่นนี้ ใช้สายตาสงสารเวทนามองไปที่

เยี่ยเม่ย

เยี่ยเม่ยได้ยินคำพูดนี้ก็ชะงักไป

ยามนี้ร่างของเธอร่วงหล่นจากอากาศ หันมองด้านข้าง เป็นยอดเขา ด้านหน้ายังมีระยะอีกหกเมตรถึงตกพื้น หากร่วง ลงไปเช่นนี้ต้องตายแน่

สายตาทอประกาย รีบล้วงมีดสั้นออกจากแขนเสื้อ ปักลงที่หน้าผาด้านข้างอย่างแรง

ฉีก! เสียงดังออกมา นั่นคือมีดสั้นกระทบใน

มีดสั้นกรีดลงไปในเนื้อหินอย่างแรง ร่วงกรูลงมาพร้อมกับ ร่างคน ถึงแม้เธอยังตกลงมา ทว่าเช่นนี้ลดแรงกระแทกยามตก ถึงพื้นได้มาก

ห่างจากพื้นครึ่งเมตร เธอดีดตัว จากนั้นร่อนลงพื้นอย่าง มั่นคง นอกจากมือที่กุมมีดสั้นมีเลือดออก ปากแผลซาแล้ว ร่างกายไม่บาดเจ็บเลยสักน้อย

ตวัดมือเพียงครั้งเดียว มีดสั้นเก็บกลับไปที่เดิม สีหน้ายัง สงบนิ่งเหมือนเคย ไม่มีความประหวั่นหวาดกลัวหลังจากรอด ชีวิตเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าที่เกือบตกลงมาตายเมื่อครู่ ใน สายตาเธอไม่ใช่เรื่องอันตราย

คราวนี้เปียเงินเสียเยี่ยนยังซะงักงันชั่วครู่ ใบหน้าทรง เสน่ห์นั้นเปื้อนรอยยิ้มชวนมอง มองอีกฝ่ายอย่างสนใจ ดวงตา ที่ทั้งมีเสน่ห์และดูร้ายกาจคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกยากจับได้

น่าสนใจ การช่วยเหลือตัวเองเช่นนี้ ทั้งยังมีท่าทีไม่หวั่น กลัวต่ออันตรายคล้ายบุรุษ ในยุทธภพมีไม่น้อย ทว่าสตรีเช่นนี้ รับรองได้ว่าหาได้ไม่มาก

หลังจากลงพื้นอย่างปลอดภัย เยี่ยเม่ยมองเขาทันที ร้ายเธอยังมองเขาเป็นอย่างแรก ผู้ชายคนนี้โดดเด่นมากความหล่อเหลือร้ายนั้นทำให้คนไม่อาจคลาดสายตาจากไป

เขามีความงามราวกับเทพเทวดา ทว่ามีกลิ่นอายชั่วร้าย เฉกเช่นปีศาจ ทุกท่วงท่า ทุกสีหน้า ทุกมุมมอง ไม่มีส่วนไหนไม่ น่าชม คลับคล้ายกับปีศาจที่รอดชีวิตจากวิบากกรรมในนรก เหมือนยาพิษแรงรุกรานเข้าสู่หัวใจแม้กระทั่งลมหายยังมีกลิ่น อายล่อลวงใจคน เขาสวมชุดดำตลอดทั้งร่าง ชุดยาวไหวตาม สายลม ดูวิจิตรงามดั่งภาพวาด

เห็นเขากำลังคลายเสื้อออก ริมฝีปากบางดูเย็บเงียบแฝง รอยยิ้ม นิ้วเรียวยาวแกะสายคาดเอวออกด้วยท่วงท่างดงาม แช่มช้าให้ความรู้สึกราวกับแมวเปอร์เซียปลุกเร้าความ ปรารถนาจากเบื้องลึกในใจคน

เยี่ยเม่ยถอนใจให้ภาพงดงามเบื้องหน้านี้ เธออารมณ์ พลุกพล่านทาใบหน้ายังคงนิ่งสงบเช่นเดิม “สหาย! ฉันรู้ว่าตัว เองรูปงามทำให้คุณหลงใหล ฟ้ายังไม่ทันสว่างดี คุณก็ตั้งใจ แต่งองค์ทรงเครื่อง สวมชุดแปลกประหลาดแบบนี้มาเปลื้องผ้า ยั่วยวนฉัน แต่ว่าคุณผู้ชาย พวกเราไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน คุณทำตัวสนิทสนมเกินไปออกจะไม่ดีนัก ดังนั้น เอาอย่างนี้ดี หรือเปล่า คุณถอดกางเกงเสียก่อน

หลายปีมานี้พบชายหนุ่มรูปงามมาไม่น้อย แต่คนเบื้อง หน้านี้สามารถสอบบรรดาหนุ่มหล่อเธอพบมาตลอดครึ่งชีวิต ในวินาทีเดียว แต่ไรมาเธอไม่ค่อยสนใจรูปโฉมเกินไปนัก แต่ ว่าชมเสียหน่อยก็ไม่เลว
อวี้เหว่ย “…”

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน เขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม

เตียนเซีย โผล่มายั่วยวนนางแต่เช้าตรู่ ยังพูดว่าอะไร นะ…อะไรนะ…ให้เขาถอด…..

เบี้ยเงินเสียเยี่ยนได้ฟัง รอยยิ้มที่มุมปากพลันแข็งที่อ สายตาที่มองเยี่ยเมียพลันเปลี่ยนไปเป็นแปลกใจ นัยน์ตานั้น คล้ายกับระลอกคลื่นบนพื้นทะเลสาบที่หินตกลงไปเกิดเป็นวง น้ำ ภาพงดงามมีมนต์เสน่ห์ ยิ่งทำให้คนเคลิบเคลิ้ม

เห็นใบหน้าไร้วี่แววล้อเล่นของนาง ยิ่งทำให้เขาอยากเล่น สนุกมากขึ้น คล้ายพบของเล่นชิ้นใหม่ที่ร้อยปียากหาได้สักครั้ง หนึ่ง มือที่กำลังกลายเสื้อออกหยุดลง

ความเงียบสงบปกคลุมชั่วครู่ พลันจ้องนาง เหยียดยิ้ม งาม “แม่นางผู้นี้ เจ้ามีนามว่าอะไร

น้ำเสียงไพเราะน่าฟังประดุจเสียงฉินบรรเลงนุ่มลื่น ทำให้คนฟังคาดเดาความรู้สึกไม่ออก

อวี้เหว่ยตั้งใจใคร่ครวญคำพูดของเยี่ยเมียรู้สึกปวดหัว ขึ้นอย่างแรงในฉับพลัน ยิ่งเห็นใจแม่นางผู้นี้ขึ้นมาก เดี๋ยนเซีย เริ่มถามชื่อแล้ว ตามนิสัยโหด** ยมราวปีศาจของเตี้ยนเซี่ย เกรงว่าจะทำร้ายผู้อื่น สืบค้นตระกูลของแม่นางผู้นี้และกำจัดทิ้ง เสียให้สิ้นซาก

เยี่ยเมียใจกระตุก แม่นางหรือ นี่มันคำเรียกขานของยุคสมัยไหนกัน ทว่าเธอไม่ใส่ใจแล้ว

เมื่อเห็นผู้ชายรูปงามหยุดคลายเสื้อผ้า เธอค่อยทั้งสายตา สำรวจชายงามนี้กลับมา ทั้งได้กลิ่นคาวเลือดรุนแรง

ครั้นหันกลับไปดูถึงได้พบว่าในระยะห้าเมตร มีศพเกลื่อน พื้นไปหมด

สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ ศพส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกอาวุธ แหลมคมเสียบอยู่ แต่ว่าเป็นกิ่งไม้

วิธีการฆ่าคนเช่นนี้ เยี่ยเม่ยเองยังนึกชื่นชมอยู่ในใจ ชาย คนนี้ฆ่าคนมากมายภายในครั้งเดียว แปดส่วนแล้วต้องเป็นสุด ยอดนักฆ่า!

เยี่ยเมียหันหลับมามองเปียเงินเสียเยี่ยน ตกตะลึงใน ความงามของชายผู้นี้อีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว

แต่ว่าเธอยังไม่ตอบคำถามเขา เพียงใช้เสียงเย็นชาเอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นเพื่อนร่วมสายงาน ฝีมือฆ่าคนไม่เลว หมดจดมาก

เปียเงินเสียเยี่ยนได้ฟังก็มองใบหน้าสงบนิ่งของนาง ดวงตาทอประกายใสกระจ่างราวในฤดูใบไม้ผลิ “แม่นางก ลังชมเขียนอย่างนั้นหรือ

ไม่เพียงแต่เห็นศพแล้ว กลับไม่แตกตื่นตกใจ หรือหน้า

ด่าว่าเขาเป็นปีศาจฆ่าคน

ยังบอกว่าเป็นเพื่อนร่วมสายงาน

เยี่ยเมียพยักหน้า รักษาสีหน้าสงบไว้ “ไม่เลว แต่ว่าดูจากวิธีการฆ่าคนก็มองออกว่า คุณกับฉันไม่ใช่สายเดียวกัน ฉัน ถนัดฆ่าโหด ยังไงในหลายๆ ครั้ง ความโหด** ผมเป็นวิธีที่ดี ในการระงับปัญหา สรุปแล้วคุณจะถอดไม่ถอด ไม่ถอดฉัน ขอตัวไปล่ะนะ”

เธอตกลงทะเลพร้อมกับลูกพี่ ทั้งไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปไหนแล้ว ร่วงลงมาที่เดียวกับเธอหรือเปล่า ถึงรู้จักความสามารถของผู้ หญิงคนนั้นดีว่าไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นกับอีกฝ่ายแน่ ทว่าก็อด กังวลใจไม่ได้ หากมิใช่เพราะผู้ชายคนนี้หน้าตาดีเกินไป ทำ เธอเกิดความปรารถนาชื่นชมเรือนร่างงดงามนั้นเป็นครั้งแรก เธอไม่มีทางหยุดรั้งอยู่แน่

จริงสิ เดี๋ยวนะ ตอนนั้นพวกเธอตกน้ำไม่ใช่หรือ ทำไมพริบ ตาเดียวถึงเป็นยอดเขา เธออยู่ที่ไหนกันแน่ ความคิดเริ่มสับสน ขึ้นมา

ส่วนเปียเงินเสียเยี่ยนฟังคำพูดแปลกประหลาดของอีก ฝ่าย มุมปากกลับยกยิ้มจาง ความโหด* ผมเป็นวิธีที่ดีใน การกำจัดปัญหาจริงๆ

ริมฝีปากบางของเขายิ้ม หลังจากได้ฟังประโยคนั้นของ นาง พลันพุ่งกายเข้ามาประชิด ถามเสียงเนิบว่า “เยี่ยนกับแม่ นางมิใช่คนสายเดียวกันหรือ ที่ว่าสายเดียวกันนั้นเป็นอย่างไร

แรงกดดันจากกายเขาตามมาพร้อมกับฝีก้าวที่บีบคั้นเข้า มา คล้ายล่าแสงปีศาจชวนให้คนหวาดกลัว

เยี่ยเมียหน้าไม่เปลี่ยนสี ในใจกลับเครียดชัง
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอรับรู้ถึงแรงกดดัน ความรู้สึกเช่น นี้ทำให้คนไม่สบายตัว มือเคลื่อนไปจับมีดสั้นอย่างไม่รู้ตัว นี่ คือสัญชาตญาณนักฆ่า

เบี้ยเงินเสียเยียนยิ้มบาง ชุดไหวไปตามลม สายตา มองมือที่กุมมีดสั้นซ่อนในแขนเสื้อของเธอช้าๆ แต่ก็ไม่ใส่ใจ นัก

เขาเดินมาถึงด้านหน้าของอีกฝ่าย จนกระทั่งสองคนจ้อง หน้ากัน สายตาของเขาพลันอ่อนโยนคล้ายกับพบพานคนรัก น้ำเสียงไพเราะ “แม่นางรู้หรือไม่ว่าเขียนคือใคร

อวี้เหว่ยเห็นภาพเบื้องหน้า มองใบหน้าด้านข้างของเตี้ยน เซียอย่างไม่เชื่อสายตา เตียนเซียคิดทำอะไรกันแน่

ท่าทางสนิทชิดเชื้อเช่นนี้ กลับทำให้คนไม่สงบ เยี่ยเมียไม่ ค่อยพอใจ ชั่วเวลานั้นไม่อยากพูดคุยกับผู้ชายคนนี้อีก ส่วน เรื่องที่ว่าตอนนี้เธออยู่ไหนนั้น คงต้องไปถามจากคนอื่น

เมื่อคิดได้เธอก็ปรายตามองผู้ชายคนนั้น ดูไปแล้วก็ไม่ เหมือนกับกำลังจะถอดผ้าให้เธอชม ในที่สุดก็หมดความอดทน ถอยหลังไปสองก้าว เสียงนิ่งเอ่ยว่า “ขอตัวก่อน

เธอพูดจบก็หมุนกายจากไป

เขาพลันหัวเราะเสียงเบา มองเงาหลังเธอ นัยน์ตาเวลานี้ ปรากฏแววเย็นเยียบคล้ายมีโทสะเลือนราง ถึงจะไม่ยินดี น้ำ เสียงของเขาก็ยังคงน่าฟังเหมือนเดิม
กำลังภายในกดดันคนสายหนึ่งถูกผนึกไว้กลางฝ่ามือ ไอ สังหารแผ่ซ่านทั่วสารทิศ น้ำเสียงจากปากเขากลับเนิบมาก “คำถามสามข้อของเยี่ยน แม่นางยังไม่ตอบเลยก็คิดจากไป แล้วหรือ แม่นางทำเช่นนี้ เยี่ยนเสียใจเหลือเกิน เพราะว่าเขียน ช่างอ่อนไหว ดวงใจที่ทั้งอ่อนแอและอ่อนไหวเช่นนี้ ไม่อาจถูก ทําร้ายได้ กน้อย!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ