เล่ห์รักกลกาล

ตอนที่ 1



ตอนที่ 1

“เทพแห่งสงครามคุ้มครอง แม่น้ำหมิงไม่เหือดแห้ง เถ้ากระดูก กองสูงตระหง่านยาวพัน

“เทพแห่งสงครามคุ้มครอง ปกป้องราษฎรให้พ้น

เภทภัย!”

“เทพแห่งสงครามคุ้มครอง หากข้ามตาย หนี้เลือดนี้ต้อง

ให้ตระกูลเบี้ยเงินชำระด้วยเลือด!

เลือดสดสาดกระเซ็น

หญิงสาวนั่งหลับพักสายตาอยู่บนเฮลิคอปเตอร์พลันสะดุ้ง โหยงตื่นขึ้น…

ผู้หญิงผมสั้นด้านข้างเห็นเธอสีหน้าแปลกพิกลจึงถามขึ้น

“ฝันประหลาด นอีกแล้วเหรอ

เยี่ยเมียพยักหน้าพลางนวดหว่างคิ้ว ทว่าไม่เก็บไปใส่ใจ ใบหน้าเย็นชาของเธอคล้ายกับลายเส้นจากทวยเทพ วิจิตร งดงามราวกับตุ๊กตาเคลือบ ยามสงบเงียบคล้ายกับเทพธิดา บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่สุด ทว่าในดวงตาเข้ายั่วใจคนคู่นั้นเต็ม ไปด้วยความสนใจ ไม่รู้ว่าความสนใจนั้นมีเจตนาร้ายหรือ เจตนาดี ชวนให้คนรู้สึกหนังศีรษะชาวบ
เฮลิคอปเตอร์บินอยู่กลางอากาศ พวกเธอเพิ่งทำภารกิจ จบ อยู่ในระหว่างนั่งเครื่องกลับ

เมื่อฝันแปลกประหลาดนั้นอีกครั้ง เขี่ยเมียหนักใจ มองไป ที่ผู้หญิงผมสั้น สีหน้าเรียบเฉย “ลูกพี่ ยังไม่ถึงบ้านอีกหรือไง”

หญิงสาวผมสั้นที่ถูกเรียกเป็นลูกพี่ปรายตามองเธอ คลี่ยิ้ม “คุณผู้หญิงเยี่ยเมียคนสวย พวกเรายังต้องใช้เวลาอีกสามสิบ นาทีเพื่อบินออกจากน่านน้ำ ตอนนี้เครื่องของเรากำลังบินผ่าน สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาในเวลานี้ พื้นน้ำทะเลสงบไร้คลื่น เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบนอยู่บนฟ้า นั่นก็คือเครื่องของลูกพี่กับ เยี่ยเม่ย

เยี่ยเม่ยปรายตามองช้า ๆ “ระวังคำพูดของเธอไว้ให้ดี

ลูกพี่ยกยิ้ม เอ่ยเสียงสูงรับกับเจตนาร้ายของอีกฝ่าย “คุณ ผู้หญิงเยี่ยเมียผู้สวยงามเพริศพริ้งเกินใคร อย่ารีบร้อนเกินไป

สายตาเยี่ยเมียฉายแววพึงพอใจ น้ำเสียงยังคงเย็นชาดัง เดิม “เธอเข้าใจความงามของฉันดีขนาดนี้ ไม่เสียดายที่เป็น เพื่อนซี้

***
ในขณะที่สองคนพูดคุยกับ ท้องมหาสมุทรพลันเกิดลม กรรโชกแรง หมุนเป็นวงใหญ่ ก่อเป็นพายุแรงดึงเฮลิคอปเตอร์ เข้าไป เยี่ยเมียลุกขึ้นยืนหน้าประตูเฮลิคอปเตอร์ ขมวดคิ้วก้ม หน้ามอง “เกิดอะไรขึ้น

ลูกพี่หน้าคล้ำลง “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน!

ท้องทะเลเกิดคลื่นพายุถึงเฮลิคอปเตอร์กลางอากาศม้วน ตลบลงกลางทะเล นี่ถือเป็นภาพเหตุการณ์พิสดารฉากหนึ่ง เครื่องบินเสียสมดุล ถูกฉุดเข้าสู่ช่องว่างนั้น ไม่ว่าจะควบคุม อย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้น คล้ายกับแม่เหล็กต้องการดูดพวกเธอ เข้าไป

กำลังคนหรือจะขัดขืนลิขิตฟ้า เฮลิคอปเตอร์ถูกดูดเข้าสู่ ทะเล ต่อให้เยี่ยเมียกับลูกพี่พยายามโดดหนีออกมาก็ยังคงถูก พายุนั้นดูดกลับเข้าไปอยู่ดี

ทั้งสองถูกคลื่นซัดจนแยกไปคนละทิศ น้ำทะเลสูงขึ้นจน

มิดหัว

“เยี่ยเม่ย!”

“ลูกพี่!”
บนหน้าผาตอนเหนือสุดของราชสำนักเบี้ยเงิน

ลำแสงสีแดงลุกโชติไปทั่วสารทิศ คนหลายคนเผชิญหน้า

กันอยู่กลางเขา

แสงที่คล้ายกับอสรพิษคลั่งนั้นเปล่งออกมาจากบุรุษสวม ชุดดำสนิทที่อยู่ตรงกลาง ริมฝีปากบางเฉียบของเขายิ้มอย่าง งดงาม ดวงตาเย้ายวนราวปีศาจค่อยๆ กวาดมองบรรดาคนที่ ล้อมเขาไว้ ท่วงท่าสูงสง่าเช่นนี้ ไม่คล้ายคนถูกล้อมสังหารเลย สักกระลึกขึ้น กลับดูคล้ายจอมปีศาจสูบเลือด เฝ้าสังเกตเหยื่อ

ของตน

ดวงหน้าเขางดงามเกินเปรียบ มีแรงดึงดูดเหนือใคร

คล้ายกับปีศาจกลับชาติมาเกิด ทว่ากลับมีรูปลักษณ์น่า ชมดุจเทพเทวดา โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ขอเพียงกวาดตามอง มา ต่อให้เกิดเภทภัย ประชาชนทุกข์ยากก็ยังชวนให้คน ยินยอมเข้าสู่วิถีมารเพื่อเขา

ส่วนคนชุดดำกลุ่มนี้ มีคนสองคนเป็นผู้นำ คนทั้งสอง

หน้าตาเหมือนกันเป็นพิมพ์เดียว

พวกเขาเผชิญหน้ากับบุรุษชุด ตวาดเสียงก้อง “เบี้ย เฉินเสียเยี่ยน วันนี้เป็นวันตายของเจ้า
เปียเงินเสียเยี่ยน องค์ชายสี่แห่งราชสำนักเบี้ยเงิน ที่น่ากลัวที่สุดในใต้หล้า ไม่สิ เขาไม่ใช่คน แต่เป็นปีศาจ บุคคล

เปียเงินเสียเยี่ยนได้ยินดังนั้นก็ค่อย ๆ ยกมุมปากขึ้น จัดแจงเสื้อผ้าของตน ท่วงท่าสง่างามคล้ายแมวเปอร์เซียตัว หนึ่ง น้ำเสียงยิ่งเนิบช้า “เผชิญหน้าศัตรู พวกเจ้าไฉนถึงได้ขาด ความสร้างสรรค์เช่นนี้ หรือไม่รู้จักพูดจาเอาอย่างข้าบ้าง ยินดี ที่ได้พบท่านทั้งสอง รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ประชันฝีมือ อืม ขายินดีเหลือเกินที่ได้พบท่านทั้งสอง

ในขณะเอ่ยคำพูดนี้ เขายังพยักหน้าเล็กน้อย แสดงความ เคารพเช่นคนมีฐานะสูง

อวี้เหว่ยผู้ติดตามประจำตัวของเปียเงินเสียเยี่ยนเงยหน้า มองฟ้า ไม่รู้ว่าสมควรเห็นใจคนทั้งสองนั้นดีหรือไม่

คนทั้งสอง “เปียเงินเสียเยี่ยน เจ้าอย่าเสแสร้ง วันนี้พวก เราสองคนต้องสยบเจ้าลงภายใต้ดาบนี้ให้จงได้

เปียเงินเสียเยี่ยนฟังคำแล้ว หันมามองพวกเขาตรงๆ น้ำ เสียงยิ่งอ่อนโยนมากขึ้น “จ้านเทียนถึง ร้านเทียนเวีย สอง ยอดฝีมืออันดับสามในยุทธภพ ทั้งยังเป็นพี่น้องฝาแฝด ที่พวกเจ้ามาฆ่าข้าเพื่อผดุง คุณธรรมขจัดเภทภัยก็เพราะได้รับคำสั่งมาจากเสด็จพี่ใหญ่ ของข้าใช่หรือไม่”

สองพี่น้องตระกูลจ้าน “…”

คำถามนี้ยากจะตอบได้ หากบอกว่าได้รับคำสั่งจากคน

ไฉนถึงบอกว่าผดุงคุณธรรมขจัดเภทภัยเล่า ถึงการฆ่าปีศาจ เบื้องหน้านี้จะเป็นการขจัดเภทภัยให้คนทั่วหล้าไม่ผิดอย่าง แน่นนอนก็ตามที

จ้านเทียนเจลี่ยเอ่ยปาก “พี่ใหญ่ องค์ชายใหญ่สั่งไว้ว่าไม่ ต้องพูดจาไร้สาระกับเขา! ฆ่าคนก็พอแล้ว!” องค์ชายใหญ่กับ องค์ชายสีไม่ลงรอยกัน หาใช่เรื่องต้องเก็บอันใด เขาไม่กลัว ที่จะเอ่ยออกไป ไม่พูดคุยเหลวไหล หากยังทนสนทนาต่อไป พวกเขาคงเริ่มสงสัยในตัวเองแล้ว

“ฆ่า!”

คนชุดดำกลุ่มหนึ่งติดตามสองพี่น้องตระกูลด้านพุ่งเข้า จู่โจมโดยพร้อมเพรียง

เบี้ยเงินเสียเยี่ยนถอนใจเบาๆ สะบัดแขนเสื้อ กิ่งไม้กิ่ง หนึ่งบนต้นไม้ข้างทางพลันถูกกำลังภายในสะบั้นหักลง อาศัย ความปราดเปรียวดุจสายลม คมกรีบดุจใบกระบี่ พุ่งใส่เหล่า คน ต า กิ่งไม้บางเล็กภายใต้การควบคุมของกำลังภายใน ทะลวงอย่าง ตุดันทะลุผ่านทรวงอกคนชุดต่อย่างไม่น่าเชื่อ เลือดสาด กระเซ็นราวกับห่าฝน คนพวกนี้แต่ละคนจบชีวิตลงในที่แห่งนี้ โดยไม่ทันได้ขัดขืนเลยสักน้อย

ส่วนปีศาจที่ฆ่าคนมองศพเกลื่อนพื้น น้ำเสียงกลับยิ่งอ่อน โยนขึ้นอีก “เสด็จพี่ใหญ่รู้ทั้งรู้ว่าข้ามีเมตตา มือยังถือกระบี่ สังหารคนไม่ได้กลับยังส่งคนมาลอบสังหารข้า จิตใจเขาช่าง โหด** ยมอำมหิตนัก

อวี้เหว่ยผู้ติดตาม..….

นั่นสิเตียนเซีย [1] มือท่านถือกระบี่ฆ่าคนไม่ได้ เพราะว่าไม่ ต้องถือ ใช้กิ่งไม้กิ่งเดียวก็จัดการได้เรียบแล้ว

จ้านเทียนเฉลี่ยและจ้านเทียนลงดาบในมือแน่น รู้ว่าคน เบื้องหน้าไม่อาจรับมือได้โดยง่าย

ทั้งสองมองหน้ากัน ควงดาบออกไปเป็นทางเดียว

ยอดฝีมืออันดับสามของยุทธภพ เมื่ออยู่ต่อหน้าของปีศาจ ตนนี้กลับคล้ายมุสิกรนหาที่ตาย ริมฝีปากบางของเขายกยิ้ม โบกมือเบาๆ ครั้งหนึ่ง ลำแสงสีแดงพุ่งออกไปยังคนทั้งสอง

ปัง! เกิดเสียงดังขึ้น
คนทั้งสองยกดาบขึ้นกำบังกำลังภายในสายนั้น ทว่าถูก ระเบิดกระแทกออกไปไกล ร่วงตกลงพื้น ตามหลุดออกจากมือ กระเด็นห่างออกกว่าร้อยหม

จ้านเทียนเฉลี่ยและด้านเทียนถึงนัยน์ตาฉายแวว หวาดหวั่นวูบหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะร้ายกาจถึงขั้นนี้ แค่ กระบวนท่าเดียวก็ทำให้พวกเขาหมดแรงโต้กลับได้ ซ้ำยังบาด เจ็บสาหัสอีกด้วย

เบี้ยเงินเสียเยี่ยนยิ้มน้อยๆ ก้าวเท้าด้วยท่าทางสง่างาม ชายชุดลากพื้นส่งเสียงเล็ก

เมื่อมาถึงเบื้องหน้าคนทั้งสอง เขายกมือขึ้น ดาบของบ้าน เทียนถึงที่อยู่ห่างออกไปร้อยกว่าหมี่พุ่งกลับมาตกที่เบื้องหน้า พวกเขา

เขากะพริบดวงตาเย้ายวนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกน่าสนใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงพวกเจ้ามาสังหารข้าเป็นเรื่องโหดเ ยมอำมหิต ทว่าเขาเป็นคนมีเมตตา จัดการคนอย่างใจกว้างและ มีคุณธรรมอย่างที่สุด ดังนั้นตัดสินใจไว้ชีวิตพวกเจ้าหนึ่งคน กลับไปรายงานผลกับเสด็จพี่ใหญ่ข้า บอกเขาว่าหากจะอาศัย ความสามารถของเขานั้นยังฆ่าข้าไม่ได้ พวกเจ้าได้ยินชัดหรือ ยัง ระหว่างพวกเจ้ารอดไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น!
คนทั้งสองสั่นสะท้าน

เห็นปีศาจร้ายเอ่ยต่อด้วยรอยยิ้มว่า “พี่น้องฝาแฝดร่วม เป็นร่วมตายกันมาหลายปี ทว่าวันนี้พวกเจ้ามีชีวิตรอดได้เพียง คนเดียว ฆ่าอีกฝ่ายก็มีชีวิตรอดต่อไป! เป็นอย่างไรข้ามเมตตา กับพวกเจ้าใช่หรือไม่

จ้านเทียนเจลี่ยตวาดด้วยโทสะ “เป้ยเงินเสียเยี่ยน! เจ้า มันปีศาจร้าย ฝันไปเถอะ! พวกเราไม่มีทาง ไม่ทางฆ่าฟันกันเอง

แน่

ทว่าเขายังไม่ทันพูดจบ

จ้านเทียนถึงถือดาบขึ้นมาเสียบเข้าที่ทรวงอกของตนเอง ทั้งมองด้านเทียนเวียด้วยสายตาล้ำลึก “น้องชาย มีชีวิตต่อไป

ให้ดี!”

เลือดพุ่งกระฉูดเป็นสาย บ้านเทียนถึงจบชีวิตลง เขารู้อยู่ แก่ใจว่าหาใช่คู่ต่อสู้คนตรงหน้าไม่ จึงสละชีวิตเพื่อปกป้องน้อง

ชาย

ภาพเหตุการณ์นี้เป็นดั่งดาบแหลมฟาดฟันหัวใจจ้านเทียน เวีย เขากระอักเลือดออกมาคำหนึ่งในทันที

“เปียเงินเสียเยี่ยม! เจ้ามันปีศาจร้าย ข้าจะสับเจ้าเป็น หมื่นขึ้น!” จ้านเทียนเวียตะเบ็งเสียงใส่เบี้ยเงินเสียเยี่ยน
เป่ยเฉินเสียเยี่ยนหาได้ใส่ใจความเกรี้ยวกราดของฝ่าย ตรงข้ามสักน้อย หัวเราะเบา ๆ มองด้านเทียนเจย ยิ้มเอ่ยว่า “เห็นพี่ชายเสียสละชีวิตเพื่อเจ้าแล้ว เขาเป็นคนมีคุณธรรมคน หนึ่ง แต่ว่าเจ้าเล่า น่ารังเกียจแค่ไหน รู้ทั้งรู้ว่าตนเองตายพี่ชาย ถึงมีชีวิตรอดได้ ทว่ารั้งรอไม่ลงมือปลิดชีวิตตัวเอง รอให้พี่ชาย เจ้าตายก่อน ข้าเป็นปีศาจร้าย หรือว่าเจ้าไม่ใช่กัน เจ้าต่างหาก คือตัวการที่ทำให้พี่ชายเจ้าตาย!

จ้านเทียนเจยได้ฟังประโยคนี้ก็คิดโต้แย้ง

ทว่า ใบหน้ากลับซีดเผือดลง ไม่รู้ตอบกลับอย่างไรดี เขารู้ ดีว่าหากตนเองตาย พี่ชายถึงอยู่รอด ทว่าเขากลับคิดไม่ถึง เรื่องจบชีวิตตัวเองที่นี่ อย่างนี้ไม่เท่ากับว่าที่เขาชักช้าไม่จบชีวิต ตัวเองเป็นการทำร้ายพี่ชายหรอกหรือ

คำพูดของเป่ยเฉินเสียเงี่ยนไม่ผิด เขาไม่จบชีวิตตัวเอง พี่ ชายถึงได้…

เมื่อคิดเช่นนี้จิตใจเริ่มสับสน พี่ชายตายต่อหน้า ตนเองก็ ไม่อาจสู้กับคนเบื้องหน้าเพื่อแก้แค้นได้ การตายของพี่ชาย เกี่ยวข้องกับตนเพราะเขาไม่ฆ่าตัวตาย การจู่โจมหลายอย่างนี้ ทำให้สติสัมปชัญญะสับสน สายตาว้าวุ่น “ข้าหรือ เป็นข้าทำร้ายพี่ชาย ขา เป็นข้าเอง ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ใช่ข้า… เป็นช้า…ข้า…”

อวี้เหว่ยชมดูอยู่ด้านข้าง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ในฐานะผู้ ติดตามองค์ชายสี่ เห็นเตี้ยนเซียกลั่นแกล้งคน บีบคั้นให้คน เป็นบ้ามามิใช่วันสองวันนี้ ยามเตี้ยนเซียอารมณ์ดีหรืออารมณ์ ไม่ดีก็ตาม ชมชอบหาคนมากลั่นแกล้ง ตัวเขาไม่เป็นฝ่ายออก ไปกลั่นแกล้งคน คนกลุ่มนั้นสมควรขอบคุณฟ้าดินแล้ว ถึงกลับ กล้าเสนอตัวมาถึงที่อีก

เห็นร้านเทียนเจลี่ยคล้ายเป็นบ้าไปแล้ว เบี้ยเงินเสียเยี่ยน ยกมือขึ้น กระแสปราณสายหนึ่งเข้าสู่ร่างกายฝ่ายตรงข้าม บ้าน เทียนเจยพลันมีกำลังเพิ่มขึ้นมา ลุกขึ้นมาวิ่งไปยังทิศทางเมือง หลวง แต่คนกลับเสียสติ พูดพร่ำเหลวไหลไม่หยุด

อวี้เหว่ยเอ่ย “เขาเป็นเช่นนี้แล้ว ดูท่าคงไม่อาจฝากคำพูด ของท่านไปถึงองค์ชายใหญ่ได้แน่ แต่ว่าเตียนเซีย ท่านบีบให้ คนคลุ้มคลั่งไปอีกคนแล้ว….

เบี้ยเงินเสียเยี่ยนกระดกยิ้มมุมปาก เอ่ยเสียงเบาว่า “ข้า ทำให้เขาคลุ้มคลั่งหรือ ข้าก็แค่ทำให้เขาเห็นความจริงที่ว่า ตนเองไม่ยินยอมสละชีวิตเพื่อพี่ชาย ทำให้เขาเข้าใจความเห็นแก่ตัวของตนเอง ช่วยเขารู้จักธาตุแท้ของตนชัดๆ ไฉนเรียกว่าบีบให้คลุ้มคลั่ง เล่า”

อวี่เหว่ยหมดคําพูด “…”

ท่านหน้าตาหล่อเหลาพูดอะไรก็ถูกต้อง

ทันใดนั้นได้ยินเสียงไพเราะของเปียเงินเสียเยี่ยนดัง ขึ้นมาอีกว่า “อวี้เหว่ย เจ้าว่าหลังจากกลับถึงเมืองหลวง ข้า สมควรบีบคอพี่ใหญ่ให้ตายดีหรือไม่ ถึงข้าเป็นคนเปี่ยมเมตตา มาก ไม่อาจทนฆ่าคนได้ ทว่าจากการที่พี่ใหญ่ส่งคนมาลอบ สังหาร ข้าก็ดูออกแล้วว่ามีเพียงการแก้แค้นอย่างโหดร้าย เท่านั้น ถึงสอนให้บรรดาพี่น้องคนอื่นของข้ารู้ว่าการมีน้ำมือชั่ว ร้ายอำมหิตนั้นเป็นเรื่องผิด รักพี่น้องถึงเป็นสิ่งที่คนเราสมควร กระทำ สั่งสอนให้พวกเขาอยู่ในครรลองคลองธรรม ภายหน้า จะได้ใจกว้างกับน้องชายที่เปี่ยมด้วยเมตตาและอ่อนแอเป็นข้า คิดเรื่องชั่วร้ายให้น้อยลงหน่อย

อวี้เหว่ย ” ขอแค่ท่านยินดีก็พอ” ความจริงเขาอยากบอก เจ้านายว่า เปี่ยมด้วยเมตตาและอ่อนแอ ไม่เข้ากับท่านเลย ส่วนค่าพูดเหลวไหลพวกนั้นของท่าน รวมถึงกระทั่งเรื่องที่ท่าน คิดฆ่าองค์ชายใหญ่ ท่านทำแล้วยินดีก็พอแล้ว…
คำพูดเขาเพิ่งสิ้นสุดลง ภูเขาพลันสั่นสะเทือน กลาง ท้องฟ้าเกิดพายุหมุน มีคนผู้หนึ่งร่วงลงมา ภายใต้เหตุการณ์ เช่นนี้ เปียเงินเสียเยียนยังคงสงบนิ่งอยู่ได้

คนตกลงมาจากฟ้าหรือ ตาฝาดไปหรือเปล่า

เขาเลิกคิ้ว กวาดตามองคนกลางอากาศนั่นครู่หนึ่ง จาก นั้นก็เห็นดวงตาคู่งาม เป็นสตรีนางหนึ่ง อีกทั้งยามนี้เขี่ยเม่ยลืม ตาขึ้นสบสายตากับเขาพอดี เมื่อเห็นใบหน้าเขา ดวงตาของ เธอก็ซ่อนความตกใจเอาไว้ไม่อยู่

เสี้ยวเวลาถัดมา เป่ยเฉินเสียเยี่ยนพลันฉีกยิ้ม

ทันใดนั้นเขายื่นออกมาช้าๆ แก้สายรัดเอวออกอย่าง สง่างาม “มีคนงามตกจากฟ้า ข้าย่อมต้องถอดผ้ารอ

[1] เตี้ยนเซีย คำเรียกแทนตัวผู้มากศักดิ์ เช่นองค์ชายหรือ

ท่านอ๋อง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ