เทพนักรบสยบฟ้า

บทที่ 14 ฟางเหยียนเป็นพนักงานเสิร์ฟ



บทที่ 14 ฟางเหยียนเป็นพนักงานเสิร์ฟ

บทที่ 14 ฟางเหยียนเป็นพนักงานเสิร์ฟ

เมื่อเห็นสีหน้าที่ราวกับทานของจางไห่เฟิง เย่ชิงหยู่นึกขำ ใน ครึ่งปีมานี้ เธอถูกย่ำยีมาโดยตลอด ในที่สุดเธอก็รู้สึกได้ใจขึ้นมา บ้าง

แต่เธอตัดสินใจที่จะไม่แยแสจางไห่เฟิง

“น้องสาว ถือว่าพี่ขอร้องได้ไหม? คุณปู่อาใหญ่และอารองกำลัง รออยู่ ฉันสาบาน ขอเพียงแค่เธอไป ต่อจากนี้ฉันจะไปต่อปากต่อ คำกับเธออีก เธอสั่งให้ฉันหันซ้าย ฉันก็จะไม่มีทางหันขวา

เมื่อเย่ชิงหยู่ได้ยินอย่างนั้น ก็รู้สึกได้ใจ “ก็ได้ ถ้างั้นแกจะไสหัว ไปเลยตอนนี้!”

จางไห่เฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาเอ่ยอย่างขมขื่น “ถ้างั้นน้อง สาวของพี่ จะไปด้วยไหม?”

“ไสหัวออกไป!” เย่ชิงหยู่กล่าวด้วยความเย็นชา

จางไห่เฟิงหยักหน้าเดินออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตอนนี้เขา แทบอยากจะฆ่าเชิงหยู่ไปซะ
ถึงกับให้เขาไสหัวไปอย่างนั้นหรือ! นางเย่ชิงหยู่ เธอจะมากเกิน

ไปแล้วนะ

แต่เขาไม่ได้ออกไปเลยทันที หากเย่ชิงหยู่ไม่ไปประชุม คุณปู่จะ ต้องถลกหนังของเขาเป็นแน่

ไม่นาน เย่ชิงหยู่เดินออกมา กล่าวกับจางไห่เฟิง “บางทีเกิดเป็น คนก็อย่าได้ใจไปนัก เพราะวันหนึ่งตัวคุณเองก็อาจจะต้องขอร้อง คนอื่นเช่นกัน”

“ใดๆในโลกไม่ยั่งยืน จําวันนี้ที่แกตกต่ำเอาไว้ให้ดี

เธอกล่าวพลางมุ่งไปทางห้องประชุมของตระกูลจาง

จางไห่เฟิงทําตาขวางใส่เย่ชิงหยู่ เขาไม่มีทางปล่อยเย่ชิงหยู่ไป

แน่

การกระทำของตระกูลจาง ทำให้เย่ชิงหมองพวกเขาได้ชัดเจน ขึ้น ครอบครัวของคุณตาเธอทุกคนไม่ได้มองเธอเป็นครอบครัว เลยแม้แต่น้อย

เมื่อเธอเดินเข้าห้องประชุม ทุกคนจับจ้องเธอด้วยสายตาที่ ประหลาด แต่ละคนล้วนประดับไปด้วยรอยยิ้ม ทีท่ากันเอง
เป็นไปตามคาด เพิ่งจะได้นั่งลง คุณตาของเธอก็เข้าประเด็น ทันที “ชิงหยู่ การที่เรียกเธอมาในครั้งนี้ ก็เพื่อจะถามเธอว่าเธอ จะไปเซ็นสัญญากับท่านหวงเมื่อไหร่? ทำไมหลายวันมานี้ไม่เห็น เธอเลย?

“นั่นสิ ชิงหยู่ เรื่องนี้จัดการให้ลุล่วงแต่โดยเร็วจะดีกว่า ไม่แน่ พวกเขาอาจจะกลับคำก็ได้ หลายวันมานี้ข้างนอกลือกันว่าตระกูล จางถูกทำลายจนย่อยยับ” จางซื่อตงเองก็กล่าวสมทบ

เย่ชิงหยู่จ้องมองทั้งสอง ไม่ไว้หน้าทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย “คุณตา พวกท่านให้พี่ชายไปเซ็นแล้วไม่ใช่เหรอ?”

ประโยคนี้ทำให้ใบหน้าอันเหี่ยวย่นของจางฉี่เหาแดงแป๊ด ก่อนที่ จะแก้ตัวพัลวัน “มีเรื่องแบบนี้ซะที่ไหนกัน? ใครเป็นคนพูด

เย่ชิงหยู่จับจ้องจางไห่เฟิงอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ “ก็เขาไง เขาพูด กับหนูเอง”

“นี่มัน นี่นี่!” จางฉี่เหาทำตาขวางใส่จางไห่เพิ่ง

ก่อนที่จะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฉันแค่กลัวว่าหนูจะเหนื่อยเกินไป ไง? ก็เลยให้ไห่เฟิงช่วยแบ่งเบาภาระ ยังไงเขาก็เป็นพี่ของเธอ หากช่วยอะไรเธอได้ ก็ไม่มีทางที่จะให้เขานิ่งเฉยอยู่แล้ว
เย่ชิงหยู่นึกขำ ช่วยฉันแบ่งเบาภาระงั้นเหรอ ตอนนี้ฉันทำงานที่ บริษัท ไม่เห็นว่าเขาจะช่วยฉันแบ่งเบาภาระเลย กระทั่งฉันใกล้จะ เซ็นสัญญา เขากลัวโผล่มาแบ่งเบาภาระของฉัน เธอไม่มีพบเจอ คนที่ไร้ยางอายได้ถึงขนาดนี้มาก่อน

“ชิงหยู่ เธออย่าเอาแต่ใจเป็นคุณหนูไปหน่อยเลย ตอนนี้ไม่ใช่ เวลาที่จะมาใช้อารมณ์นะ ไปเซ็นสัญญาซะ สิ่งที่ต่างหากที่สำคัญ ที่สุด”

เย่ชิงหยู่กล่าว “ฉันไม่เซ็น พวกคงท่านเก่งมากไม่ใช่หรือไง อยากจะเซ็นพวกท่านก็ไปเซ็นกันเองสิ”

จางไห่เฟิงสุดทน มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น

จางซื่อตงขัดขึ้น “ชิงหยู่ ทั้งหมดเป็นความผิดของลุงเอง เห็น แก่ที่เราเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าถือสาพี่ชายของแกเลยนะ ได้ ไหม?”

จางซื่อตงดูถูกเย่ชิงหยู่ เขามักจะทำตัวสูงส่งออกคำสั่งต่อเย่ชิง หญ่ ตอนนี้ เขาเองก็ใช้น้ำเสียงเกรงอกเกรงใจได้แล้วหรือ

เย่ชิงหยู่จับจ้องที่จางเหานิ่ง “คุณตา หนูรู้ดีว่าตระกูลจางดีต่อ ตัวหนูและแม่มาก หนูไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้พวกท่านต้องลำบาก ใจ เราแค่อยากที่ความเคารพที่เราสมควรที่จะได้
จางซื่อตงเอ่ยขึ้นอย่างทันด่วน “ได้ได้ได้ ต่อจากนี้เราจะให้ความ เคารพแก่พวกเธอให้มากที่สุด ตอนนี้เธอจะเซ็นได้หรือไง?”

“ไม่ หนูต้องการดูพฤติกรรมของทุกคนก่อน” เชิงหยู่ทำตามคำ พูดของฟางเหยียน ต้องยกระดับตัวเองให้สูงขึ้น

เมื่อจางไห่เฟิงเห็นทีท่าของเชิงหยู่ เขาทนไม่ได้อีกต่อไป จึง เอ่ยขึ้นอย่างวู่วาม “เย่ชิงหยู่ แกหมายความว่ายังไง? ทุกคนใน ตระกูลต้องขอร้องแกแล้ว แกยังจะเอาอะไรอีก? หากไม่ใช่ว่าฉัน เซ็นไม่สําเร็จ แกคิดว่าเราจะมาขอร้องแกตรงนี้อย่างงั้นเหรอ? ที่ เราเรียกเธอมาก็ให้เกียรติเธอมากพอแล้ว แกกินฟรีอยู่ฟรีที่บ้าน เราตั้งนาน แกไม่คิดที่จะทำอะไรเพื่อบ้านนี้หน่อยเหรอ?”

“เหอะ น่าสนใจจริงๆ” เย่ชิงหยู่ทิ้งท้ายประโยค ก่อนที่จะลุกขึ้น เดินออกจากห้อง

สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกับการสาดน้ำเย็นใส่ทุกคนในห้อง

จางไห่เฟิงเอ่ยอย่างโมโห “คุณปู่ เห็นหรือยัง? เธอไม่ไว้หน้าใคร เลย ไม่วางท่านเอาไว้ในสายตาเลยสักนิด นี่ยังไม่เซ็นสัญญานะ หากเซ็นสัญญาขึ้นมา จะไม่มากไปกว่านี้เหรอ”
“นี่ คุณพ่อ ชิงหยู่ทำตัวแย่ขึ้นไปทุกที

“ดูสิ ดู พอรู้ว่าเราต้องการเธอ ก็พองขนขึ้นมาเลย

ภายในห้องประชุมของตระกูลจางส่งเสียงครหากล่าวโทษให้

แซด

“พอได้แล้ว!” จางฉี่เหาคำรามเสียงดังลั่น ก่อนที่จะถอนหายใจ ออกมาเฮือกใหญ่ “ตอนนี้พวกแกมีใครล่ะที่จะสามารถเซ็นสัญญา ได้?”

“มัวเอะอะโวยวาย ยังมีกฎระเบียบกันอยู่ไหม? ไม่ว่ายังไง หลาย วันนี้พวกแกต้องไปง้อชิงหยู่ให้เซ็นสัญญาให้ได้

จบประโยคจางฉี่เหาลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป

เมื่อออกมาจากห้องประชุม เย่ชิงหยู่ถอนหายใจออกมา เธอไม่ คิดเลยว่าจะมีวันที่เธอรู้สึกสะใจขนาดนี้

คนในตระกูลจางวางแผนทำร้ายเธอสารพัด ในที่สุดก็ได้โต้กลับ

ไปบ้างสักที

อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดของเธอแล้ว นี่เป็นวันเกิดแรกที่ไม่มีพ่อ เธออยู่ด้วย
บางทีอาจจะเงียบสงบมาก หรือบางทีอาจจะไม่มีใครเลยที่จำวัน เกิดเธอได้ แต่เธอก็ต้องมีความสุข เพื่อให้พ่อที่อยู่บนสวรรค์ได้ สบายใจ

หลายวันมานี้ ฟางเหยียนออกมาเพื่อทำธุระ เรื่องที่หนึ่งคืองาน วันเกิดของเชิงหยู่หลังสิบวันให้หลัง เธอจะเซอร์ไพรส์เชิงห ยู่ เรื่องที่สองก็เพื่อฟื้นฟูร่างกาย ตอนนี้ร่างกายของฟางเหยียนมี กําลังแค่สามส่วนเท่านั้น เบาได้รับบาดเจ็บเมื่อตอนทําการรบกับ ผู้นําของเจ็ดเทียน บวกกับความสะเทือนใจที่ได้รับรู้ข่าวการเสียชี วิตของเย่เทียน ทำให้ความเจ็บปวด กลายเป็นความเจ็บป่วย ซึ่งมี ผลกระทบต่อพลังของเขา

เพราะงั้นเขาจึงเลือกทำเลที่ดีที่สุดของเมืองจินโจวเพื่อทำการ ฟื้นฟูพลัง วันนี้เขามาที่นี่อีครั้ง ดีกว่านฉง

สาวบริการคนหนึ่งกำลังยกน้ำชามุ่งไปฟางเหยียน ทันใดนั้น ขา ของเธอสะดุดเข้ากับเก้าอี้กะทันหัน จนล้มทับตัวฟางเหยียน น้ำ ชาหกราดเนื้อตัวของเขา

“ขะ ขะ ขอโทษค่ะ ขอโทษมากค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” หญิงสาว น้าตาเอ่อพลางเช็ดตัวให้เขาพลางกล่าวขอโทษขอโพยไปด้วย
“ไม่เป็นไร” ฟางเหยียนเอ่ยเสียงเรียบ ด้วยปฏิกิริยาที่นิ่งเฉย

เขาแต่เสื้อผ้าของตัวเอง ก็ได้พบว่ามันเปียก นี่ไม่ส่งผลดีต่อการ ฟื้นฟูพลังในการขับเลือดเสียในร่างกายออก

เพราะงั้นเขาจึงหันไปทางสาวบริหาร “ไม่ทราบว่า ที่นี่มีเสื้อผ้า ให้เปลี่ยนไหม?”

สาวบริการเอ่ยขึ้น “มีค่ะ มี แต่เป็นแบบฟอร์มนะคะ”

“ไม่เป็นไร ยืมผมใส่ได้ไหม?” หากร่างกายเปียกน้ำ จะมีผลกระ

ทบต่อการถ่ายเทพลัง

“ได้ ได้เลย” สาวบริการรีบเดินเข้าไปหยิบแบบฟอร์มที่ห้องพัก

ให้กับฟางเหยียน

เขารับเสื้อผ้ามาไว้ ก่อนที่จะเดินเข้าไปเปลี่ยน

หลังจากที่สวมแบบฟอร์มเรียบร้อยแล้ว เขาจึงเริ่มการขับเลือด เสียอีกครั้ง

เย่ชิงหยู่ที่อยู่อีกด้านเดินเล่นได้สักพักหนึ่งแล้ว ทันใดนั้นก็มีคน ส่งข้อความมาให้กับเธอ
เธอเปิดโทรศัพท์ออกมาดู เป็นข้อความจากเพื่อนสนิทของเธอ เฉินหย่า เป็นรูปภาพใบหนึ่งกับข้อความท่อนหนึ่ง

ภาพถ่ายใบนั้นถือพนักงานเสิร์ฟ เมื่อสังเกตให้ดี ก็ได้พบว่าเป็น ฟางเหยียน เขาใส่แบบฟอร์มพนักงานอยู่ที่ดีกว่านฉง

เย่ชิงหยู่ตกอกตกใจ ฟางเหยียนทำงานอยู่อย่างนั้นหรือ? แถม ยังเป็นพนักงานเสิร์ฟซะด้วย

ไม่น่าหลายวันมานี้เขาถึงได้ออกจากบ้านแต่เช้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ