เจ้าหนี้ซาตาน

2



2

น้ำเสียงของคุณนวลแขเข้มงวดพอๆ กับใบหน้า แถมท่านยังมี ลูกน้องหน้าตาโหดๆ ดุๆ มาอีกเป็นโขยง เวลาไปไหนมาไหน ผู้คนมักจะมองกันด้วยความยำเกรง เพราะเรียกว่าไปกันเป็น ขบวน คุณนวลแขกจึงเป็นทั้งเจ้าแม่เงินกู้และเจ้าแม่ผู้ทรงอิทธิพล ในตัวจังหวัด ขนาดข้าราชการระดับสูงๆ ยังไปยืมเงินท่าน ดังนั้น ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนจึงมีคนเกรงอกเกรงใจ ไปติดต่องานอะไร มีคนรีบเข้ามาบริการก่อนใคร โดยไม่ต้องนั่งรอคิวให้เสียเวล่ำ เวลา แค่ท่านเอ่ยปากก็มีคนเต็มใจช่วยกันแทบทั้งสิ้น แบบนี้ แหละ เค้าเรียกว่าคนมีเงินและมีอำนาจบารมี

“จริงด้วยค่ะคุณนาย ช่วงนี้เงินทองหายามาก ข้าวของก็แพง แสนแพง” รัตนาเริ่มเออออ แต่คุณนวลแขมีวิธีการที่ดีกว่านั้น จึง ยังใจเย็นอยู่

“ก็จริงอย่างที่เธอว่า ดังนั้นดูท่าว่าเธอคงไม่มีเงินมาใช้หนี้ฉัน หรอกกระมัง” คุณนวลแขพูดดักคอ รู้ดีว่าเหตุใดรัตนาถึงเป็นหนี้ แถมยังรู้ไปจนถึงว่าเงินทองที่ใช้จ่ายอยู่ในครอบครัวนั้นมาจาก ไหน ใครเป็นคนหาเลี้ยง

“ค่ะ ดิฉันก็จะขอผัดผ่อนไปก่อนได้ไหมคะ คุณนายเป็นคน ใจบุญ คงจะกรุณาดิฉันซึ่งเป็นแม่ม่าย ต้องเลี้ยงลูกถึงสองคน รัตนาแกล้งบีบน้ำตา คุณนวลแขถอนใจเฮือกใหญ่ เพราะเท่าที่รู้ คนที่หาเลี้ยงครอบครัวหรือจะเรียกให้ถูกว่าเป็นผู้นำครอบครัวคือปิ่นปัทมา หญิงสาวที่นางหมายตาเอาไว้นานแล้ว ทั้งกิริยา มารยาทก็งดงามใจเย็น พูดจาไพเราะเสนาะหูไม่ใช่เล่ห์เหลี่ยม แพรวพราวเหมือนคนที่แกล้งนั่งบีบน้ำตาอยู่ตรงหน้าของท่าน ขณะนี้

“ผัดผ่อนคงไม่ได้หรอกนะแม่รัต เงินทองไม่ใช่ของที่จะให้ยืม กันฟรีๆ แม่รัตเองก็มีเงินเข้าบ่อน แต่ไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ย แบบนี้ ฉันจะได้เงินคืนเมื่อไหร่กันล่ะ” คุณนวลแขพูดเนิบนาบไม่ด่าว่า แต่คนฟังถึงกับสะอึก เพราะเรื่องที่อีกฝ่ายพูดเป็นเรื่องจริงทุกคำ

“เอ่อ…. คุณนายจะยึดบ้านของรัดเหรอนี่ ฮือๆๆ แล้วรัตกับลูก จะไปอยู่ที่ไหนคะ” รัตนาเข้าโหมดดราม่าน้ำตาแตกทันที แต่คน ทันเกมมองด้วยสายตาเฉยเมย เอือมระอากับบทบาทเจ้าน้ำตา ของลูกหนี้เต็มที่ ไม่ว่าจะแกล้งร้องห่มร้องไห้หรือตีหน้าเศร้าเล่า ความเท็จ ท่านก็จับได้หมดว่าใครพูดจริง ใครโกหก บางคนถึง กับเอาเรื่องความเป็นความตายมาล้อเล่น เพื่อหลบเลี่ยงหนี้สินที่ ต้องจ่าย ตอนยืมน่ะก็น่าสงสารกันทุกคน พอได้เงินไปแล้วกลับ ทำตัวน่าสงสารยิ่งกว่าเก่า

“ฉันจะไม่อ้อมค้อมนะแม่รัตนา ฉันจะยกหนี้สินให้เธอก็ได้ แต่ มันมีข้อแม้ ” รัตนาหูฝั่งทันทีเมื่อได้ยินว่าเจ้าหนี้รายใหญ่จะยก หนี้ให้เธอ แต่ยังแกล้งทำเป็นสะอึกสะอื้นเพื่อรอฟังว่าข้อแม้นั้น คืออะไร

“เธอก็หยุดร้องห่มร้องไห้ได้แล้ว ฟังแล้วรำคาญ” รัตนาหยุด กึกเหมือนถูกกดปุ่ม เพราะจริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะร้องห่มร้องไห้ เลยสักนิด เธอค่อยๆ ปาดน้ำตาทิ้ง เงยหน้ามองเจ้าหนี้รายใหญ่อย่างมีความหวังเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย มันเป็นไปอย่างเหรอ คนหน้ายกหนี้ให้เธอง่ายหนี้สินมากมายเสียด้วย

ฉันประเด็นไม่อ้อมค้อม ท่านรอคอยมานานแล้ว ตั้งแต่เห็น หน้าปิ่นปัทมาครั้งแรกก็รู้สึกชะตา ท่านน่ะไม่ปัญหาแต่ หลานชายคนเดียวน่ะถึงกระนั้นท่านคิดว่าทำให้เขมชาติ ยอมรับปิ่นปัทมาเป็นอย่างแน่นอน จะเมียชั่วคราวหรือเมีย ถาวรก็ต้องดูต่อไปอีกหนึ่ง ขอให้ทายาทสืบสกุลเพียง พอแล้ว จะอยู่กันนานแค่ไหนท่านเกี่ยง

“หมายถึงปิ่นปัทมานะเหรอรัตนากลับเสียงหลง ปิ่น ปัทมาคือเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ไม่ลูกเลี้ยงเธอลูก มือดตายเหรอ ปลายรุ้งเพิ่งเรียนจบ ยังมีการอะไรทำ

“ใช่ ปิ่นปัทมานั่นแหละ ฉันจะขอไปขัดดอก” คุณนวลแขย้ำอีก

ครั้ง

เอาไปดอก หมายถึงเห คะ” รัตนาถามอย่างสงสัย ค่าแรงของปิ่นปัทมาจะสักเท่าไหร่ กัน ทำงานกันอีกชาติล่ะหนี้สินก้อนโตถึงจะหลุด มทำงานกัน จนแก่ลง โลง

“มันของเธอดูคุณนวลแขขยับกรอบแว่น ท่าทีบ่งบอกว่าเรื่อง สำคัญต้องเจรจาอีกเพื่อเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย เวลาทำอะไรนั้นท่านจะรอบคอบและรัดกุมเสมอ ไม่หละหลวมให้ปัญหาตาม มาทีหลังได้

“เงื่อนไขอะไรเหรอคะ” รัตนาเลิกคิ้วขึ้นอย่างครุ่นคิด การที่จะ เสียสละลูกเลี้ยงไปนั้นทำให้เธอคิดหนักเอาการ เพราะในปัทมา คือตัวเงินตัวทอง หาเงินเก่ง งานบ้านทุกอย่าง ลูกเลี้ยงสาวก็เป็น คนทําทั้งสิ้น ถ้าไม่มีในปัทมาเธอจะลำบากแค่ไหนกันเพราะ ปลายรุ้งไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่

“ฉันมีหลานชายอยู่คนเดียว ก็อยากให้มีทายาทสืบสกุล ฉัน พูดแบบนี้เธอคงเข้าใจนะ” คุณนวลแขเข้าเรื่อง ไม่อ้อมค้อมให้ มากความ

“หมายความว่าจะให้ยายนไปเป็นเมียหลานชายคุณนายเห รอคะ” คราวนี้คนฟังตาโต ถ้าปิ่นปัทมาไปเป็นหลานสะใภ้ของ คุณนวลแข เธอเองก็จะสบายไปด้วย คุณนวลแขมีเงินทอง มากมาย เธอจะให้ในปัทมาขอมาให้เยอะๆ เธอจะได้มีเงินใช้ จ่ายไม่ขาดมือ

“อย่าเรียกว่าเมียเลย เรียกว่าไปผลิตลูกให้ดีกว่า ฉันจะร่าง

สัญญาขึ้นมา เมื่อมีลูกให้ตามที่ฉันต้องการแล้ว ฉันก็จะปล่อยลูก

เลี้ยงของเธอไป แม่รัตคิดว่าพอจะคุยกับแม่บทให้ฉันได้ไหม แต่

อันนี้ฉันก็แค่เสนอหรอกนะ หากแม่ปัทไม่ยินยอม ฉันก็จะไม่

บังคับ แต่เธอก็คงรู้นะว่าบ้านหลังนี้มันหลุดจำนองไปแล้ว เธอกับ

ลูกๆ ต้องย้ายออกไปภายในอาทิตย์นี้ นี่ก็ถือว่าใจดีแล้วนะ

ความจริงฉันจะให้ย้ายออกไปวันนี้ยังได้เลย”
คุณนวลแขพูดเสียงนิ่มนวลแต่เชือดเฉือนคนฟังจนแทบกระอัก รัตนาขบคิดด้วยความเคร่งเครียด การมีบ้านอยู่และปลดหนี้มัน ก็ดีกว่าต้องระเหเร่ร่อน ส่วนในปัทมาก็ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ จะไป เป็นเมียเป็นนางบำเรอใคร เธอไม่สนอยู่แล้ว อย่างน้อยเธอก็มี บุญคุณกับปิ่นปัทมา แต่การจะเอ่ยปากตรงๆ นั้น คงไม่ใช่เรื่องที่ เหมาะอีกฝ่ายคงไม่ยอมเป็นแน่ แต่คนฉลาดอย่างเธอ รู้ดีว่าควร จะพูดอะไรยังไง และเวลาพูดเรื่องสำคัญแบบนี้ ต้องไม่ให้ปลาย ร่วมรับรู้ด้วย ไม่อย่างนั้นคนที่รักพี่สาวและเทิดทูนบูชาจะขัด ขวางจนแผนการของเธอเสียหมด

“ได้สิคะ ถ้าคุณนายต้องการแบบนั้น เดี๋ยวรัตจะคุยกับยายปัท ให้ ยังไงยาย ทต้องตอบตกลงแน่นอนค่ะ”

“เธอมั่นใจได้ยังไง” แม้จะแปลกใจที่รัตนาพูดแบบนั้น แต่ก็ นึกยินดีเพราะนึกชอบปิ่นปัทมาเหลือเกิน เด็กสาว ใบหน้า หมดจด แถมยังกิริยามารยาทเรียบร้อย เหมาะจะเป็นแม่ของลูก แม้เขมชาติจะไม่ปรารถนาอยากจะมีภรรยาอีก แต่แค่ผลิตลูก หลานชายคนเดียวที่เธอเลี้ยงมาแต่เล็กแต่น้อยคงไม่ขัดใจ เมื่อมี ลูกแล้วก็จะไม่บังคับอะไรกันอีก จะเลิกรากันไปในอนาคตค่อย ให้เงินปิ่นปัทมาไปตั้งตัวสักก้อน เพราะรู้ดีว่าเขมชาติไม่ต้องการ ใช้ชีวิตครอบครัวกับผู้หญิงคนไหน เพราะมีความหลังฝังใจ

“ยายปัทรักน้องรักรัตจะตายไปค่ะ คงไม่ปล่อยให้พวกเราไป นอนข้างถนนหรอกค่ะ แล้วรัตจะให้คำตอบคุณนายไปนะคะ คุณนวลแขมองหน้ารัตนาอย่างรู้ทันเมื่อได้ยินประโยคนั้น แล้ว ยังสีหน้าเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายอีก แต่ท่านก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ว่ารัตนาจะใช้แผนการแบบไหนที่จะให้ในปัทมาตกลง ท่านก็ไม่ได้ เป็นคนชี้โพรงให้กระรอก หรือบอกให้รัตนาทำไม่ดีแม้แต่น้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ